ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
15-01-2025, 06:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ความเห็นของ อ.จอน อึ้งภากร ในสถานการณ์ปัจจุบัน (1) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ความเห็นของ อ.จอน อึ้งภากร ในสถานการณ์ปัจจุบัน (1)  (อ่าน 1646 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 22-09-2006, 15:48 »

ความเห็นของจอนในสถานการณ์ปัจจุบัน (1)

ในสถานการณ์นี้เราต้อง

รักษาแนวร่วมภาคประชาชนโดยแสวงจุดร่วมแต่ไม่ปิดบังจุดต่าง

 
            ผมเขียนบทความนี้อย่างเร่งด่วนฉุกเฉินด้วยความเป็นห่วงยิ่งต่อผลกระทบของสถานการณ์ปัจจุบันที่มีต่อขบวนการภาคประชาชน เพราะขณะนี้ความคิดเห็นและมุมมองต่อสถานการณ์ในหมู่นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนมีความแตกต่างกันเสมือนดอกไม้ที่มีสีสันหลากหลาย ซึ่งถ้าเป็นดอกไม้จริงก็คงจะงดงามมาก แต่เมื่อเป็นความเห็นที่ขัดแย้งกัน ถ้าไม่มองหน้ากันอย่างเข้าใจกันแล้ว จะกลายเป็นการแตกแยกและการประกาศเป็นศัตรูกันที่จะทำลายศักยภาพและความเข้มแข็งของขบวนการภาคประชาชน ยิ่งไปกว่าที่ถูกทำลายไปแล้วในยุครัฐบาลทักษิณ

            สถานการณ์ปัจจุบันเป็นสถานการณ์ที่ทดสอบพวกเราในภาคประชาชนทุกคนมากกว่าทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา มากยิ่งกว่าสมัยการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

 นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนและนักวิชาการรักประชาธิปไตยฝ่ายหนึ่ง (ขอเรียกว่า “ฝ่าย ก.”)  กำลังมีอารมณ์โกรธและมีความเสียใจอย่างยิ่งกับรัฐประหาร ไม่มีความเชื่อใจไว้ใจต่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐประหารครั้งนี้ว่าจะนำระบอบประชาธิปไตยมาสถาปนาโดยเร็ว เพราะมองว่าผู้สนับสนุนการรัฐประหารนั้นรวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่น่าจะแสวงหาอำนาจไม่ต่างกับการแสวงอำนาจของกลุ่มทักษิณ (รวมไปถึง “กลุ่มอำนาจเก่า” ที่สูญเสียอำนาจในยุครัฐบาลทักษิณและตอนนี้มีโอกาศฟื้นคืนชีพ)  ทั้งยืนหยัดในด้านหลักการที่จะคัดค้านการรัฐประหาร การฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญ และการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ไม่ว่าในกรณีใด แม้พวกตนจะไม่ชอบรัฐบาลทักษิณและเคยต่อต้านการกระทำของรัฐบาลทักษิณที่ละเมิดประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรมมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถสนับสนุนการแก้ปัญหาทั้งปวงที่ก่อโดยรัฐบาลทักษิณด้วยวิธีการนอกระบอบประชาธิปไตย

นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนและนักวิชาการรักประชาธิปไตยอีกฝ่ายหนึ่ง (ขอเรียกว่า “ฝ่าย ข.”) กำลังมีอารมณ์ดีใจโล่งใจเพราะดูเหมือนว่าระบอบทักษิณที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม สามารถถูกโค่นล้มไปได้ในที่สุด แม้พวกตนจะไม่ชอบการรัฐประหารและเคยต่อต้านการรัฐประหารมาตลอด แต่ในครั้งนี้มองไม่เห็นทางออกที่เป็นทางอื่น เพราะการออกมาชุมนุมต่อต้านตามระบอบประชาธิปไตยมากเท่าไรก็ไม่ได้ผล ความจริงต้องมองว่ารัฐบาลทักษิณเองก็ได้ก่อรัฐประหารมาก่อนหน้านี้แล้ว รัฐประหารครั้งนี้จึงเป็นรัฐประหารซ้อนเพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชน แน่นอนไม่ใช่ทางออกที่พึงปรารถนา แต่เราควรให้โอกาสผู้นำรัฐประหารแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขาในเจตนาที่เขาประกาศ และเราควรจะร่วมมือกับเขาในส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นระบอบประชาธิปไตยและการส่งเสริมบทบาทภาคประชาชน

ขณะนี้ดูเหมือนว่าในวงการนักกิจกรรมภาคประชาชน “ฝ่ายข.” เป็นข้างมาก  “ฝ่าย ก.” เป็นส่วนข้างน้อย -แต่ก็ไม่น้อยเท่าไรในแง่จำนวน ถ้าดูจากความคิดเห็นและแถลงการณ์ใน  http://prachatai.com  หรือ http://prachatai.wordpress.com

สิ่งที่เกิดขณะนี้คือ “ฝ่าย ก.” ประณาม “ฝ่ายข.” ว่าทิ้งหลักการหรือไร้หลักการ  ทั้งยังสงสัยว่า “ฝ่ายข.” บางส่วนรู้เห็นและมีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหารตั้งแต่ต้น ส่วน “ฝ่ายข.” จะโต้ตอบว่า “ฝ่าย ก.” มีแต่เก่งในด้านหลักการ แต่ไม่เห็นเคยออกมาร่วมประท้วงรัฐบาลทักษิณ   ถ้าได้ร่วมผนึกกำลังกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อขับไล่รัฐบาลทักษิณตั้งแต่ตอนนั้น ก็อาจไม่ต้องเกิดรัฐประหารในตอนนี้

“ฝ่าย ก.” มีความเสียใจอย่างยิ่งที่เห็นคนอย่าง อาจารย์เสน่ห์ จามริกออกมาปกป้องรัฐประหารหรืออาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ให้สัมภาษณ์ว่าการรัฐประหารเป็นไปโดยสันติวิธี   “ฝ่ายข.” มองว่าการแสดงออกของ “ฝ่าย ก.” เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายทักษิณในสถานการหน้าสิ่วหน้าขวาน

ความจริงขณะนี้ไม่ใช่ว่าคนในแวดวงภาคประชาชนจะยืนอยู่ที่ขั้วของ “ฝ่าย ก.” หรือ “ฝ่ายข.” ทั้งหมด เพราะยังมีจุดยืนอีกจำนวนมากที่กระจายอยู่ระหว่างสองขั้วนี้ รวมทั้งจุดยืนของตัวผมเองซึ่งจะพยายามเสนออย่างตรงไปตรงมาในตอนต่อไป

แต่สิ่งที่กำลังจะยิ่งท้าทายและเสี่ยงต่อการขยายรอยร้าวในเร็วๆ นี้ คือการไม่พยายามทำความเข้าใจและเคารพในเหตุผลการตัดสินใจซึ่งกันและกันในกรณี

“ฝ่าย ก.” จะร่วมกันแต่งไว้ทุกข์และชุมนุมประท้วงรัฐประหารหน้าสยามพารากอนหกโมงเย็นวันนี้

คนใน “ฝ่ายข.” อาจรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในบางด้าน หรือร่วมร่างธรรมนูญชั่งคราว หรือรับเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชั่วคราว หรือรับหน้าที่อื่นตามคำเชิญของคนที่ใกล้ชิดกับคณะรัฐประหาร

ข้อเสนอของผมในขณะนี้คือคนในภาคประชาชนทุกส่วนควรต้องพยายามระงับอารมณ์ และมองกันในแง่ของความเข้าใจและความเคารพต่อกันโดยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกัน ส่วนในด้านจุดยืนและการแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิแสดงออกตามหลักประชาธิปไตย แต่ควรหลีกเลี่ยงการโจมตีกันหรือตอบโต้กันโดยตรงด้วยภาษารุนแรงเท่าที่จะเป็นไปได้

ในขณะเดียวกันเราควรพยายามหาจุดร่วมที่จะรณรงค์เรียกร้องร่วมกัน เช่นเรื่องการเลิกจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชนและเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ หรือขอให้คืนรัฐธรรมนูญเดิมโดยมีบทเฉพาะการที่เหมาะสม เป็นต้น

ผมยังมองคนส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในภาคประชาชนในแง่ดี แน่นอนเราต้องช่วยกันตรวจสอบซึ่งกันและกัน แต่เราต้องหลีกเลี่ยงการสร้างรอยร้าวถาวรในขบวนการภาคประชาชนที่ไม่เป็นผลดีต่อการต่อสู้ร่วมกันต่อไปในระยะยาว


จอน อึ๊งภากรณ์

22 กันยายน 2549


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5076&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

อ. จอน มาแล้วครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2006, 15:50 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #1 เมื่อ: 22-09-2006, 15:59 »

'เสน่ห์'แนะประชาชนตรวจสอบคณะปฏิรูปฯหวั่นเผด็จการฟื้น

‘เสน่ห์’ ระบุประชาชน ต้องตั้งคำถาม และคอยตรวจสอบคปค. เพราะผู้อยู่ในอำนาจอาจเปลี่ยนเป็นเผด็จการได้ แจงไม่แปลกใจทหารฉีกรธน. ย้ำระบอบทักษิณ รัฐประหารรธน.เรียบร้อยไปนานแล้ว

 
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายเสน่ห์ จามริก อดีตประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขว่า โดยหลักการแล้วถือเป็นเรื่องผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนก็พูดเสมอว่าการทำรัฐประหารครั้งนี้สถานการณ์การเมืองทั้งหมดก่อนหน้านี้บีบบังคับ จนทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก ที่พูดเช่นนี้อย่าคิดว่าเชียร์คณะปฏิรูปฯ เพราะเป็นเพียงคนที่ติดตามการทำงานของคณะปฏิรูป ดังนั้นสื่อมวลชนและประชาชนก็ต้องทำหน้าที่นี้เช่นกัน

       

“อย่าปล่อยให้คณะปฏิรูปฯ ใช้อำนาจตามอำเภอใจ การเมืองทุกระบบในโลกนี้หากไม่รู้เท่าทันเกมหรือไม่มีการควบคุมตรวจสอบ ผู้อยู่ในอำนาจก็เป็นเผด็จการได้ทั้งนั้น ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันควบคุมรัฐบาล เพราะหากไม่มีคนคอยติดตามการทำงานไม่ว่าผู้ปกครองจะอยู่ในระบอบไหนก็จะเป็นเผด็จการได้”อดีตประธานคณะกรรมการสิทธิ์ฯ กล่าว

           

นายเสน่ห์ กล่าวอีกว่า ความจริงรัฐธรรมนูญ 2540 ถูกรัฐประหารและถูกฉีกมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาบริหารประเทศ เห็นได้จากการปล่อยให้ชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาต่อต้านท่อก๊าซไทย-มาเลเซียถูกทำร้าย แต่รัฐบาลปล่อยให้ผู้กระทำลอยนวล นั่นเป็นการกระทำละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ซึ่งตามวัฒนธรรมการเมืองผู้นำไทยไม่เคยให้ความเคารพรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลชุดที่แล้วเลวร้ายกว่าชุดอื่น ๆ เพราะแม้จะบอกว่าได้ทำตามกติกาทุกอย่าง แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซ้ำร้ายกลับทำลายกติกาเพื่อตักตวงผลประโยชน์เข้าหาตัวเองจนไม่เหลือกติกาดี ๆ ให้ใช้ ทำให้ประชาชนตกอยู่ในหลุมพรางของประชาธิปไตยมาเป็นเวลายาวนาน

           

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เห็นว่าธรรมนูญชั่วคราวที่กำลังจะออกในเร็วๆ นี้ควรเปิดเวทีให้มีการปฏิรูปการเมือง แล้วเน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะอำนาจในส่วนกลางไม่มีแล้ว โดยวิธีนี้จะทำให้ลดทอนการยึดเสียงข้างมากในสภา ถือเป็นภารกิจหนึ่งที่ทำให้ท้องถิ่นควบคุมส่วนกลาง ป้องกันการใช้เสียงข้างมากเสวยสุข หรือหาความชอบธรรมให้กับตัวเอง เพราะต่อไปนี้เราจะหวังพึ่งอำนาจจากสภานิติบัญญัติ อำนาจตุลาการ หรืออำนาจบริหารไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว จากนี้ไปประชาชนจะต้องเข้มแข็ง

           

เมื่อถามว่า จะสามารถไว้ใจในการทำหน้าที่ของนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะร่างธรรมนูญชั่วคราวได้หรือไม่ เพราะในอดีตเคยร่างกฎหมายหลายฉบับที่ไม่ได้รับการยอมรับ เช่น พรบ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ นายเสน่ห์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดว่าจะเชื่อหรือไว้ใจใครได้หรือไม่ เพราะทุกอย่างมีสองด้านเสมอ หากเอาคนดีมาก็ไม่เชื่อว่าใครจะเป็นคนดีได้ตลอด เพราะอำนาจมักทำให้คนเปลี่ยนเสมอ ขึ้นอยู่กับการเฝ้าระวังและการถ่วงดุลของของประชาชนว่าจะทำหน้าที่ท้วงติงได้มากน้อยแค่ไหน
http://www.bangkokbiznews.com/2006/09/22/w001_139859_report.php?news_id=139859
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #2 เมื่อ: 22-09-2006, 16:07 »

เพื่อป้องกันการเหลิงอำนาจน่าจะห้ามเป็นนายกเกิน 2 สมัยติดต่อกัน
บันทึกการเข้า
อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 620



« ตอบ #3 เมื่อ: 22-09-2006, 16:15 »

ไม่อยากดูถูกใคร

แต่อยากรู้ว่า ถ้าไม่มีพ่อที่เป็นปูชนียบุคคล ที่อุทิศตัว เพื่อประเทศชาติ อย่างอ.ป๋วย

ทั้ง อ. ใจ และ อ.จอน พูดไร แล้วคนจะให้น้ำหนักอย่างนี้หรือเปล่า

อ.ป๋วย ไม่ได้ออกมาเย้วๆ ท่านปฏิบัติ ลงมือทำ วางโครงสร้างองค์กร สร้างคน จนแบงค์ชาติเป็นหน่วยงานที่

 มีความน่าเชื่อถือที่สุด


แต่ลูกท่าน กลับจมอยู่ใรโลกแห่งความฝัน อุดมคติ

ตื่นและฟังเสียงประชาชน บ้างเถิด
บันทึกการเข้า

p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #4 เมื่อ: 22-09-2006, 16:22 »

ผมยังมองคนส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในภาคประชาชนในแง่ดี แน่นอนเราต้องช่วยกันตรวจสอบซึ่งกันและกัน แต่เราต้องหลีกเลี่ยงการสร้างรอยร้าวถาวรในขบวนการภาคประชาชนที่ไม่เป็นผลดีต่อการต่อสู้ร่วมกันต่อไปในระยะยาว
จอน อึ๊งภากรณ์
22 กันยายน 2549
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5076&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

จะทำอย่างไรดีครับที่จะทำให้ทั้งฝ่าย ก และฝ่าย ข เข้าใจกันได้
ทั้งฝ่าย ก และฝ่าย ข อยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข
และหันหน้าเข้าหากันเพื่อพัฒนาชาติไทยของเราในที่สุด

HARMONY BUT DIFFERENCE!
จะมีทางเป็นไปได้ไหมครับ


 Very Happy
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 22-09-2006, 16:28 »

นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ สาขาบริการภาครัฐ ปี ๒๕๔๘

วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๘ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศฟิลิปปินส์ เมืองมะนิลา

http://www.vetoactor.org/webboard/view.php?id=10311



ส่วน อ.ใจ ออกแนวทฏษฏีนิยมมาก (จนอาจทำให้ขาดมุมมองทางสังคมวิทยา)

จนบางครั้งไม่สามารถสงวนจุดต่างในการดำเนินงานกับกลุ่มอื่นๆ


ทั้ง 2 ท่าน นี้ต่างกัน ค่อนข้างมากครับ

 Cool
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 22-09-2006, 16:35 »

ความเห็นของจอนในสถานการณ์ปัจจุบัน (1)
 
ข้อเสนอของผมในขณะนี้คือคนในภาคประชาชนทุกส่วนควรต้องพยายามระงับอารมณ์ และมองกันในแง่ของความเข้าใจและความเคารพต่อกันโดยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกัน ส่วนในด้านจุดยืนและการแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิแสดงออกตามหลักประชาธิปไตย แต่ควรหลีกเลี่ยงการโจมตีกันหรือตอบโต้กันโดยตรงด้วยภาษารุนแรงเท่าที่จะเป็นไปได้
 
จอน อึ๊งภากรณ์

22 กันยายน 2549
 
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5076&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai
 


ด้วยความสงสัย...
 
สงสัยที่ว่า...ไอ้การที่ว่าให้ระงับอารมณ์น่ะ..

แล้วไอ้การที่พวก ก ยังจักดื้อเพิ่งพากันเฮละโลกันไปแต่งชุดดำ..


ผมถามว่า...

แบบนี้มันเป็นการระงับอารมณ์ตรงไหน...


เพราะว่า...

ถ้าคุณเขียนบทความแบบนี้ออกมาคุณต้องกระทำให้อีกฝ่ายเขาเชื่อใจคุณด้วยสิ..นอกจากที่สักจักพูด..เพียงอย่างเดียว...
 
ว่า..

"เออตอนนี้เราก็งดการเเต่งดำเเล้วน่ะ...แล้วเรามาค่อยๆพูดกันดีกว่าไหม.."
 

เออแบบนี้ผมยอมรับได้น่ะ..เพราะย่อมถอยคนล่ะก้าว.. เพื่อมาแสวงจุดร่วมแต่ไม่ปิดบังจุดต่าง..แบบที่คุณว่า...
 
   
แต่นี้คุณพูดมาแบบนี้..แต่พวก ก ก็ยังดื้อเพ่งแต่งดำกันอีก...แบบนี้หมายความว่าไง..ผมมิเข้าใจครับ...
 

และผมถามต่อไปว่า...
 
ในขนาดทีสังคมเขากำลังเดินไปด้วยดี...ในความคิดของคนแบบมผม....ใครมันมีไอ้เเถลงการและปฏิกิริยาบ้าๆออกมาก่อน...
 
พวกใครครับ...

พวกใครคิดกันเอาเองดีๆล่ะกัน..


และมาวันนี้จักมาพูดโน่นพูดนี้อีก..

ทั้งๆที่ใครกันแน่..ที่มันเป็นพวกเริ่มมาก่อน
 

สุดท้าย...

ผมก็ย้ำมาหลายกระทู้แล้ว...แต่ครานี้ก็จักย้ำอีกครั้งว่า..
 

คุณจักแถลงการจักทำอะไรก็ได้เพื่อเเสดงจุดยื่นของกลุ่ม..

แต่อย่าให้มันมากเกินไป..แบบที่ว่าเช่นการชักชวนคนให้ออกไปประท้วงเเต่งตัวชุดดำผมว่ามันเกินไป..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2006, 16:39 โดย mkii » บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #7 เมื่อ: 22-09-2006, 16:38 »

เห็นด้วยกับคุณจอน
"เคารพต่อกันโดยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกัน"

สำหรับประชาไท คงอยากได้ ตำราธิปไตย มากกว่า 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #8 เมื่อ: 22-09-2006, 16:57 »

แกคงเจ๋งจริง web ถึงอยู่ได้
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #9 เมื่อ: 22-09-2006, 17:01 »

เครือข่าย 19 กันยาฯ ยัน คปค.ต้องเปิดพื้นที่ ปชต.ให้เสรีภาพสื่อ ระบุไม่เชื่อคำสัญญาคืนอำนาจใน 2 สัปดาห์

นายใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร   กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มฯว่า อยากให้มีความชัดเจนว่าเครือข่ายฯเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทักษิณ  การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้ออกมาสนับสนุนทักษิณ การเกิดรัฐประหารในครั้งนี้ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกช็อคกับเหตุการที่เกิดขึ้น ความรู้สึกของกลุ่มคนซับซ้อนมีทั้งเชียร์รัฐประหารเต็มที่ กลุ่มที่มีความรู้สึกกลางๆ กลุ่มที่ไม่ชอบรัฐบาลและกลุ่มที่ไม่สนับสนุนให้มีการฉีกรัฐรรมนูญแต่ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร

 

นายใจ กล่าวว่าจุดยืนของกลุ่มต้องการให้มีการคืนอำนาจให้ประชาชนอย่างเร่งด่วนและแก้ปัญหาความเลวร้ายของรัฐบาลทักษิณ ด้วยระบบประชาธิปไตย ปัญหาวิกฤตการเมืองไทยในปัจจุบันคือรัฐบาลทักษิณ ได้เสียงประชาชน 16 ล้านเสียง ส่วนอีก 10 ล้านเสียงคัดค้าไม่เลือกพรรคไทยรักไทยแม้มีคนบอกว่า 16 ล้านเสียงมาจากการซื้อเสียง แต่ต้องเคารพเสียงประชาชนจำนวนนี้ อย่ามองว่าไม่มีความหมายหรือประชาชนถูกหลอกให้ไปลงคะแนนเสียง ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าไม่มีพรรคการเมืองที่เสนอประโยชน์ต่อคนจนและดีกว่าพรรคไทยรักไทย

 

“ปัญหาคือไม่มีการแข่งในระบอบประชาธิปไตย ตรงนี้ทำให้เกิดวิกฤติการเมือง ผมเคยผ่านการปฎิวัติรัฐประหารมาตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษฎิ์ ธนะรัชต์ จองพลป.พิบูลย์สงคราม จอมพลถนอม กิตติขจร จนถึงยุค รสช.ที่มีพล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ ทุกครั้งที่มีการปฎิวัติทหารทีเข้ามายึดอำนาจต่างให้สัญญาในลักษณะนี้ว่า พร้อมจะคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว ผมไม่ไว้ใจคำสัญญาของทหาร และผมอยากพิสูจน์ว่าผมผิด”นายใจสส์ กล่าว

 

นายใจ กล่าวต่อว่าในรัฐบาลทักษิณมีการควบคุมสื่อ แค่ขณะนี้ คปค.มีการเซ็นเซอร์สื่ออย่างเข้มงวดยิ่งกว่ารัฐบาลทักษิณ ทั้งที่ควรเปิดพื้นที่ทางประชาธิปไตยให้กว้าง การปฏิรูปการเมือง คปค.ต้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมไม่ใช่ให้นักวิชาการหน้าเดิมๆเข้ามาอีก รวมทั้งมีการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คลี่คลายคดี ทนายสมชาย และคงไว้ซึ่งนโยบายที่ดีของพรรคไทยรักไทย เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค  พรรคไทยรักไทยแปลกมีทั้งดีและเลว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวในเย็นวันนี้ นายใจ กล่าวว่าตนไม่ได้เป็นต้นคิด และไม่ได้ร่วมประชุมและไม่ได้ร่างแถลงการณ์ดังกล่าว แต่มีกลุ่มนิสิต นักศึกษา และเอ็นจีโอ ที่รับไม่ได้กับวิธีการของ คปค.จึงขอให้ตนเป็นผู้ประสานงานรู้สึกปลื้มที่มีคนอื่นมากำหนดบทบาทให้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการขอให้ยุติการชุมนุมจะทำอย่างไร นายใจสส์กล่าวว่า คงขัดขืนไม่ได้ เพราะการประท้วงเชิงสัญลักษณ์สันติวิธี และหวังว่าพื้นที่ประชาธิปไตยจะเปิดกว้างขึ้น นี่คือจุดหมายและหวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์นองเลือดใด ทั้งสิ้น ทั้งนี้ในช่วงเช้ามีหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงโดยเฉพาะตำรวจโทรมาสอบถามและตือนให้ระวังตัวซึ่งรู้สึกกลัวๆอยู่เหมือนกัน
http://www.naewna.com/news.asp?ID=27273
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #10 เมื่อ: 22-09-2006, 17:07 »

ซุนวูบอกว่า ขวัญหมายถึง สิ่งที่ทำให้ประชาชนมีความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้นำ
ประชาชนย่อมร่วมทางกับผู้นำ แม้จะต้องไปก็ไม่กลัวอันตราย ไม่เสียดายแม้แต่ชีวิต

เปิด web ขวัญก็ตก ปิด web ขวัญก็ตก น่าปวดหัวแทน สมัยซุนวูไม่มีอินเทอร์เน็ต
บันทึกการเข้า
คนเดินดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #11 เมื่อ: 23-09-2006, 00:51 »

คุณใจ ต้องบอกมาก่อน คุณสนับสนุนระบอบทักษิณ หรือไม่?

ถ้าไม่ ก่อนหน้านี้คุณได้ทำอะไรให้แก่สังคมในภาพกว้างบ้าง

แล้วลองบอกมาซิว่าถ้าไม่ปฏิรูป ต้องให้มีเหตุวิกฤต แบบ ตุลา พฤษภา ก่อนหรือ?
บันทึกการเข้า
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 23-09-2006, 01:40 »

นั่นสิแล้วช่วงตอนทีทักษิณอยู่ อ.ใจ ผมว่าไม่เคยเห็นเลยนะ   หรือผมไม่ได้ติดตาม

ผมเปรียบเหมือนการชกมวยสากล  ฝ่ายนึ่งใช้ได้แต่หมัดตามกติกา  แต่ปรากฏว่าอีกฝ่าย มันเล่น มวยไทยทั้งหมัดทั้งศอกทั้งเท้า สารพัด  เรียกว่าผิดกติกาชัดเจน   แต่กรรมการก็ไม่จับแพ้ฟาล์ว กลับให้ต่อยกันต่อไป    ทำแบบนี้เมื่อไรก็แพ้เค้าเพราะมัวแต่ยึดกติกาแต่ไม่ได้ดูว่าอีกฝ่ายเค้าเล่นกติกาเดียวกันหรือเปล่า   
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
mini
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407


« ตอบ #13 เมื่อ: 23-09-2006, 04:30 »

อ่านหลายๆความเห็น
ได้อารมณ์เหมือนสมัยทักษิณเป็นนายกใหม่ๆ
ใครไม่เห็นด้วย กลายเป็นฝ่ายตรงข้าม ไม่พอใจไปเสียหมด

ถ้าครบ 2 อาทิตย์ ยังไม่ได้รัฐบาลใหม่
คนที่สนับสนุน จะทำอย่างไรกันครับ

แทนที่จะรอให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น
ช่วยกันตั้งคำถามกันบ้าง ร่วมกันตรวจสอบบ้าง
จะได้ไม่มีฝ่ายใด รู้สึกว่า ตัวเองคือความถูกต้อง
และละเลยสิ่งที่ควรจะทำ

อำนาจน่ะ ตอนไม่มี อาจจะเฉยๆ
แต่พอมีเมื่อไหร่ เสียคนมานักต่อนักแล้วนะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: