ลำดับเหตุการณ์ยึดอำนาจ กันยายน 2549 รวบรวมจากข้อมูลในเว็บครับ
หลายเรื่องยังลำดับไม่ลงตัวแต่ในเบื้องต้นก็คงทำให้พอมองเห็นภาพรวม
แล้วจะปรับปรุงแก้ไขอีกเมื่อตรวจสอบได้ข้อมูลใหม่ๆ อีกนะครับ
---
วันที่ 19 กันยายน พศ.2549
18.00 น. ทหารเริ่มเคลื่อนกำลังพล มีรายงานว่าหน่วยรบพิเศษจากลพบุรี ราว 1 กองพัน
เคลื่อนกำลังเข้ามากรุงเทพฯ
19.00 น. ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ให้ข้อมูลยืนยันว่า
ไม่มีการเคลื่อนไหวกำลังพลแต่อย่างใด
19.30 น. แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ข้อมูลยืนยันเช่นเดียวกันว่าไม่มีการเคลื่อนกำลังพล
20.00 น. นายทหารคนสนิทประธานองคมนตรี ยืนยันว่า มีการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่พระตำหนักสวนจิตรฯ เมื่อช่วงเย็น แต่เป็นเรื่องงานทำบุญ มล.บัว กิตติยากร
20.30 น. หน่วยสงครามพิเศษ 1 กองพัน เคลื่อนเข้ากองบัญชาการทหารบก ไปอยู่ในหอประชุมกิตติขจร
21.10 น. มีรายงานว่ามีการวางกำลังทหารเฝ้ารักษาประตูวังสุโขทัย กว่า 20 นาย
21.20 น. ทักษิณสั่งการทางโทรศัพท์ ให้ช่อง 11 เตรียมถ่ายทอดแถลงการณ์จากนิวยอร์ค
21.30 น. กำลังทหารประมาณ 300 นาย ได้เคลื่อนออกจากกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
ไปยังสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) จากนั้นได้กระจายกำลังบริเวณโดยรอบ
ทั้งด้านหน้าประตูทางเข้าและเกาะกลางถนน โดยมีรถติดอาวุธจอดบริเวณเกาะกลางถนน
ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าว รวมทั้งห้ามสื่อมวลชนบันทึกภาพ
21.35 น. นพ.พรหมินทร์ เลขาธิการนายกฯ เดินทางเข้าในทำเนียบรัฐบาล
21.40 น. มีรถถ่ายทอดสัญญาณของ ททบ.5 ขับเข้าไปใน บก.กองทัพบก
ขณะเดียวกันทักษิณสั่งการช่อง 9 เตรียมถ่ายทอดสดจากนิวยอร์ค
21.45 น. เลขาธิการนายกฯ หอบเอกสารออกจากทำเนียบรัฐบาล มาขึ้นรถยนต์
ของ รองนายกฯ ชิดชัย ขับออกจากทำเนียบรัฐบาล แต่ต่อมาถูกทหาร
เข้าสกัดควบคุมตัวไว้ได้ขณะผ่านกองบัญชาการทหารสูงสุด
22.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาลสั่งปิดประตูทำเนียบรัฐบาล
มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือประจำการ
22.10 น. ทหารสั่งเคลื่อนกำลังออกจาก ม.พัน 4 มียานยนต์หุ้มเกราะรวม 20 คัน-
เคลื่อนจากเกียกกายมายังลานพระรูปฯ ขณะเดียวกันมีรถถัง 4 คัน
เคลื่อนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล
22.14 น. ทหารเคลื่อนพลเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล รถถัง 3 คันเข้าประจำการที่-
แยกเกียกกาย บ้านสี่เสาเทเวศน์ รถถัง 2 คันพร้อมรถบรรทุกกำลังพล
อีก 5 คันเคลื่อนออกจาก กองพันทหารปืนใหญ่
22.15 น. ทักษิณเริ่มออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ
ผ่านดาวเทียมจากประเทศสหรัฐอเมริกา ออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
22.20 น. วิทยุและโทรทัศน์ทหารเปิดเพลงมาร์ช ทหารเข้าควบคุมบริเวณ อสมท.
22.24 น. ทหารเคลื่อนกำลังพลปิดล้อม บ้านจันทร์ส่องหล้า และซอยจรัลฯ 69
ทักษิณ ออกแถลงการณ์สั่งปลด พล.อ.สนธิ ผบ.ทบ.และให้ไปเข้ารายงานตัว
กับ รองนายกฯ ชิดชัย พร้อมประกาศแต่งตั้ง ผบ.สส. เป็นผู้สั่งการในการแก้ไข
สถานการณ์ฉุกเฉิน
22.26 น. ขณะทักษิณกำลังแถลงการณ์ถึงฉบับที่ 3 ก็ถูกตัดสัญญาณลงกลางคัน
เนื่องจากกำลังทหารพร้อมอาวุธ บุกเข้าถึงภายในสถานีช่อง 9 อสมท.
พร้อมตะโกนสั่งให้หยุดออกอากาศทันที เจ้าหน้าที่ช่อง 9 จึงตัดสัญญาณ
และต่อมามีคำสั่งให้รับสัญญาณจากแม่ข่าย ททบ.5 แทน
22.40 น. มีการสั่งตัดสัญญาณ ฟรีทีวี เปลี่ยนเป็นรายการเพลงเทิดพระเกียรติทุกสถานี
22.41 น. สำนักข่าว CNN รายงานว่าสถานีวิทยุและโทรทัศน์ไทย ถูกปิดทั้งหมด
และมีรายงานการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ของทักษิณ
22.44 น. ทหารสั่งกักบริเวณ ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล
22.55 น. ทหารปล่อยให้สื่อมวลชนออกจากทำเนียบรัฐบาล
23.00 น. ทหารเข้าควบคุมตัว พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
23.05 น. มีประกาศจากคณะปฏิรูปการเมืองฯ ประกอบด้วย 4 เหล่าทัพ
ขอความร่วมมือจากประชาชนหลัง โดยแจ้งว่าสามารถควบคุม
สถานการณ์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลได้โดยไม่มีการต่อต้าน
23.10 น. เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร สั่งการสถานีวิทยุ ในเครือกองทัพ
เตรียมรับสัญญาณถ่ายทอดสดจากสถานีวิทยุ 99.5
23.27 น. พลตรี ประพาส สกุนตนารถ ที่ปรึกษา ททบ.5 ออกประกาศแถลงการณ์คณะปฏิรูปฯ
ทางโทรทัศน์อย่างเป็นทางการ
23.30 น. มีการส่ง message แพร่ทางมือถืออ้าง พล.อ.เปรมปฏิวัติแต่ในหลวงไม่เอาด้วย
23.31 น. ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศเป็นศัตรูกับรัฐบาลที่ทำการยึดอำนาจรัฐบาล
ที่มาจากการเลือกตั้ง
23.35 น. ขบวนรถของ พล.อ.เรืองโรจน์ เดินทางออกจากกองบัญชาการทหารสูงสุด
ไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เพื่อสบทบกับ พล.อ.สนธิ
ที่เดินทางล่วงหน้าไปแล้ว
23.40 น. มีการสั่งปลดอาวุธ ตำรวจหน่วยอรินทราช และหน่วยคอมมานโดทั้งหมด
23.50 น. มีประกาศจากคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 2 ว่าก่อการเพราะมีการบริหารราชการแผ่นดิน
ส่อไปในทางทุจริตอย่างกว้างขวาง องค์กรอิสระถูกครอบงำไม่เป็นไปตาม
เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมีอุปสรรค
และมีการกระทำหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์หลายครั้ง
โดยที่คณะปฏิรูปไม่ประสงค์จะยึดอำนาจเพื่อบริหารเอง แต่จะคืนอำนาจการบริหาร-
ราชการแผ่นดิน อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก่ปวงชนชาวไทยโดยเร็วที่สุด
23.55 น. มีการตัดสัญญาณ โทรทัศน์ UBC ช่อง 53 ของสำนักข่าว CNN
---
วันที่ 20 กันยายน พศ.2549
00.10 น. ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่มาเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้เดินทางออกจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานตรงไปยัง บก.กองทัพบก และเมื่อเดินทางถึง
ทหารบริเวณประตูทางเข้าได้ปิดประตูทันที ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีบัตรผ่านเข้าออกเด็ดขาด
00.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยผ่าน ASTV
ว่า ตามที่คณะปฏิรูปการปกครอง ได้ยืนยันว่า การเข้ามายึดอำนาจครั้งนี้เป็นการชั่วคราว
เพื่อสร้างความสามัคคีและความรักของคนในชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่หายไปในยุคของ ทักษิณ
ให้กลับคืนสู่ชาวไทยอีกครั้ง ดังนั้นขอกราบเรียนประชาชนที่เตรียมเดินทางมาชุมนุมใหญ่
ในวันที่ 20 ก.ย.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ว่าขอยกเลิกกำหนดการดังกล่าว ตามที่คณะปฏิรูปฯ
มีการประกาศกฎอัยการศึก และถือว่าพวกเราได้ทำหน้าที่ของภาคประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว
ขอให้ทุกคนร่วมกันขอบคุณ พล.อ.สนธิ ผบ.ทบ.ที่ออกมาแก้ปัญหาของชาติในครั้งนี้
00.24 น.
มีรายงานการปะทะกันเล็กน้อยที่บริเวณกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์บางเขน
00.28 น. พลตรี ประพาส สกุนตนารถ ที่ปรึกษา ททบ.5 อ่านแถลงการประกาศกฎอัยการศึกบังคบใช้-
ทั่วประเทศตั้งแต่ 21.05 น.ของวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยมี พล.อ. สนธิ บุญรัตนกลิน
เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ
00.30 น. มีประกาศคณะปฎิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 2 สั่งห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหารโดยไม่ได้รับคำสั่ง
จากคณะปฏิรูปฯ
02.20 น. นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เดินทางเข้าไปใน บก.กองทัพบกและออกมาเมื่อเวลา 02.39 น. ต่อมากลับเข้าไปใหม่ในเวลา 02.52 น.
03.00 น. บริเวณด้านหน้า บก.กองทัพบก กลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่ง นำโดยนายสมาน ศรีงาม เลขาธิการ-
ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ FM.92.25 และ ASTV ได้มาขอมอบช่อดอกไม้ให้กับคณะปฏิรูปฯ
พร้อมกล่าวสนับสนุนการยึดอำนาจครั้งนี้ โดยมี พล.ต.วีรัญ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก
เป็นตัวแทนรับช่อดอกไม้ จากนั้นกลุ่มประชาชนดังกล่าวได้ส่งเสียงไชโย พร้อมปรบมือและร้องเพลง
สดุดีมหาราชา เพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนแยกย้ายเดินทางกลับ
04.26 น. พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เดินทางออกจาก บก.กองทัพบก
04.41 น. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นั่งรถยนต์ออกจาก บก.กองทัพบก
และให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในการมาครั้งนี้ได้ แต่ทุกอย่างเรียบร้อย
ส่วนกรณีที่นายกล้านรงค์เดินทางมา คณะปฏิรูปฯ น่าจะให้มาช่วยดูเรื่องกรอบกฎหมายกว้างๆ
05.30 น. น.ส.ทวินันท์ คงคราญ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์สถานีโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5)
แถลงคำสั่งคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 3/2549 แต่งตั้งให้แม่ทัพภาค 1, แม่ทัพภาค 2, แม่ทัพภาค 3
และแม่ทัพภาค 4 เป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่แต่ละกองทัพภาค
มีอำนาจในการระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อยเขตพื้นที่แต่ละกองทัพภาค
โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนปฏิบัติตามการสั่งการของแม่ทัพภาค
09.20 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ พร้อมทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปรากฏตัวร่วมกันแถลงการณ์
มีใจความว่า..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การปฏิรูปการปกครองของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มีผลให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ 2540 วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ
มีอันสิ้นสุดลง ทั้งนี้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขซึ่งประกอบด้วย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นร่วมกันว่า การบริหาร-
ราชการแผ่นดิน โดยรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยอย่างรุนแรงอย่างไม่เคย
ปรากฎมาก่อนในสังคมไทย การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบและเอื้อประโยชน์
ต่อพวกพ้องอย่างกว้างขวาง
อีกทั้งมีพฤติกรรมแทรกแซงอำนาจขององค์กรอิสระจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ
ให้ลุล่วงไปได้ หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจ
ของประเทศโดยรวม รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองบางโอกาสยังหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชนชาวไทย
ดังนั้น คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีความจำเป็นต้อง
เข้ายึดอำนาจจากการปกครองแผ่นดิน เพื่อควบคุมและแก้ไขสถานการณ์ของประเทศให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ
และสร้างความรู้รักสามัคคีในหมู่ประชาชนให้ฟื้นคืนมาโดยเร็ว
ทั้งนี้ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนา
จะเข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเสียเองและจะคืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์-
ทรงเป็นประมุขกลับคืนสู่ปวงชนชาวไทยโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะธำรงค์รักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและความมั่นคงของชาติ
เทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย จึงใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน
ให้ตั้งมั่นอยู่ในความสงบและสนับสนุนให้การดำเนินการบรรลุเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ต่อไป
ขอขอบคุณครับ
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------