ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
31-01-2025, 05:35
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เอากติกา มาบังหน้า กติกูก็บังไม่ไหว กุหลาบแก้วก็ถูกฟื้น -----ลือปฏิวัติซะเลย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เอากติกา มาบังหน้า กติกูก็บังไม่ไหว กุหลาบแก้วก็ถูกฟื้น -----ลือปฏิวัติซะเลย  (อ่าน 1191 ครั้ง)
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« เมื่อ: 12-09-2006, 11:13 »



  ---  ก่อนหน้านี้  ก็อ้างแต่  กติกาต้องเลือกตั้งเท่านั้น   แหมหายใจเข้าออก
อ้างกติกา  ต้องเลือกตั้งอย่างเดียวเพื่อความเป็น  ประชาธิปไตย


----  ทั้งๆที่  ประชาธิปไตย  สไตล์ที่พรรคนี้ทำกัน  ก็คือเลือกตั้งเป็นอย่างเดียว
นอกนั้น  กติกูหมด


  แทรกแซงองค์กรอิสระ  เช่น  กกต เห็นได้ชัดมาก  ผลกรรมติดคุกไปแล้ว
ก็ยังมีอีกหลายล่ะ  ที่ยังนิยม  ยกนิ้วให้ว่าเป็น  พรรคที่เก่ง  เอาไปเหอะ

เมื่อเร็วๆนี้  ก็บลอกโหวต เห็นชัดๆ  คนคิดได้เหมือนกันเปี๊ยบ  หกสิบกว่าคน
ที่เลือก  กกต ชุดใหม่  ห้าคน  ทำทุกอย่างเพื่อกีดกันท่าน  แก้วสรร
อนาถใจ  ทำทุกอย่างเพื่อ  กติกู  แต่ยังมีคนยกย่อง


 มาวันนี้  กุหลาบแก้ว  ก็ถูกเผยออกมาอีก  ก็พยายามบอกมาอีกล่ะ
ว่า  ไม่ผิดกฏหมาย 

  และเรื่องที่ขำที่สุด  ก็คือ  หนังน้ำเน่าเรื่องลอบสังหาร  มาเป็นขั้น
เป็นตอน  จนคนที่นั่งดูข่าว  นั่งหัวเราะ  นั่งขำๆๆกัน  จนท้ายที่สุด
ไม่รู้จะว่าไงอีกแล้ว  ลือว่า  ปฏิวัติเป็นไปได้อีก 


  เอาไงก็เอากัน  กติกู ชัดเจนมาก  แต่ยังมีอีกหลายคน  ชอบ
กติกู   ----ก็ว่าๆๆกันไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2006, 11:33 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ » บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #1 เมื่อ: 12-09-2006, 11:16 »




ผลสอบกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าตรวจสอบเส้นทางเงินซื้อชินคอร์ป ระบุชัด "กุหลาบแก้ว"
ใช้เงินเทมาเส็กตั้งบริษัท พบแหล่งที่มาของเงินจ่ายค่าหุ้นจากบริษัทในกลุ่มเทมาเส็ก

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เข้าตรวจ
สอบการถือหุ้นในบริษัทชินคอร์ป ว่า มีการถือหุ้นแทนหรือนอมินี โดยคนต่างด้าวหรือไม่ ซึ่งเป็น
ความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งได้สรุปผลสอบ
ดังกล่าวส่งไปให้สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ก่อนที่นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวง
พาณิชย์ ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง


กรมเริ่มเข้าตรวจสอบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยตรวจสอบทะเบียนบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) และบริษัทที่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว ในสัดส่วนผู้ถือหุ้นของคนไทยและคนต่างด้าว

จากการตรวจสอบ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท
 แอสเพน โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อหุ้นเมื่อ 23 มกราคม 2549 โดยผู้ถือหุ้นที่เข้าถือหุ้นในบริษัทมีผู้ถือหุ้นที่เกี่ยว
โยงกันหลายทอด ผู้ถือหุ้นชั้นแรกในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย บริษัท ซีดาร์
 โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด

ผู้ถือหุ้นที่สองซึ่งถือหุ้นในบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ประกอบด้วย บริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด ธนาคาร
ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งได้มีการร้องเรียนว่า ผู้ถือหุ้นในชั้นที่สอง
 คือบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด อาจมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวทำให้บริษัท มีสถานะเป็นนิติบุคคลไทย
 ผลทำให้บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชั้นแรก และบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
 เป็นนิติบุคคลไทยด้วย

การตรวจสอบหลักฐานทางทะเบียน พบจดทะเบียนตั้งบริษัทโดยครั้งแรก มีทุนจดทะเบียน 100,000 บาท
10,000 หุ้น บริษัทเพิ่มทุนครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549เป็น 164,400,000 บาท (แบ่งเป็น
 16,440,000 หุ้น) โดยมีผู้ถือหุ้น 7 คน โดยนายพงส์ สารสิน ถือหุ้น 5,096,396 หุ้น นายศุภเดช พูนพิพัฒน์
ถือหุ้น 3,288,000 หุ้น บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 8,050,700 หุ้น

บริษัทเพิ่มทุนครั้งสองเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2549 เพิ่มทุนอีก 5,600,000 บาท รวมเป็น 4,000,000,000 บาท
 แบ่งเป็น 400,000,000 หุ้น โดยมีผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย นายพงส์ สารสิน ถือหุ้น 5,096,396 หุ้น นายศุภเดช
พูนพิพัฒน์ ถือหุ้น 8,288,000 หุ้น บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้น 119,615,800 หุ้น นายสุรินทร์
 อุปพัทธกุล ถือหุ้น 272,000,001 หุ้น


ใช้บัญชีผ่านไทยพาณิชย์เข้าซื้อหุ้น



การตรวจสอบหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้น ที่มาของเงินค่าหุ้นและอำนาจเบิกจ่ายเงินในบัญชีธนาคารของบริษัท
 ที่บริษัทส่งให้ ทำให้ทราบว่า บริษัทได้เปิดบัญชีกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 บัญชี คือ
 บัญชีเดินสะพัด และบัญชีออมทรัพย์ ชำระค่าหุ้น จากนายพงส์ สารสิน เป็นเงินสด ได้รับชำระค่าหุ้นจากบริษัท
ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นเงินโอน ซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับชำระค่าหุ้น ตามหลักฐานใบรับชำระเงินค่าหุ้น
สอดคล้องกับใบแจ้งรายการบัญชีเดินสะพัดของธนาคาร (Bank Statements) ที่บริษัทส่งมาพร้อมกัน ปรากฏว่า
การรับชำระเงินค่าหุ้นทั้งหมดเป็นเงินโอนเข้าบัญชีบริษัทในยอดเดียวกันจำนวน 131,540,000 บาท

ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่และหลักฐานชี้แจง เกี่ยวกับบัญชีของบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด บริษัท ซีดาร์
โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ปรากฏว่าได้มีเงินโอนเข้าบัญชีบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด จำนวน
131,540,000 (ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เท่ากับจำนวนเงินค่าหุ้นที่ผู้ถือหุ้นในขณะตั้งบริษัท นายพงส์ และบริษัท ไซเพรส
 โฮลดิ้งส์ จำกัด ต้องชำระค่าหุ้นให้กับบริษัท) เป็นเงินที่โอนมาจากบัญชีเดินสะพัดเลขที่ 111-3-06044-0 ธนาคาร
ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักงานรัชโยธิน ของบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด

นอกจากนี้ใบแจ้งรายการบัญชีเดินสะพัดเลขที่ 111-3-06044-0 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักงาน
รัชโยธิน ของบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด มียอดเงินจำนวน 32,860,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินที่นายศุภเดช
 พูนพิพัฒน์ กู้ไปจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อไปชำระค่าหุ้นในบริษัท กุหลาบแก้ว (จำกัด) โอนไปเข้าบัญชี
ออมทรัพย์เลขที่ 1-2-74724-3 ธนาคารสาขาเดียวกันของบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด

โอนเงินจากแหล่งเดียวกันเข้าซื้อหุ้น

ผลสอบระบุว่า แหล่งที่มาของเงิน ที่เข้ามาในบัญชีของบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัทโอนไปเข้าบัญชีของบริษัท
 กุหลาบแก้ว ที่บริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ใช้ค้ำประกันเงินกู้ของนายศุภเดช รวมถึงวงเงินที่บริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด
จ่ายชำระค่าหุ้นในบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นเงินโอนมาแหล่งเดียวกันคือ FULLERTON PRIVATE LIMITED ซึ่งเป็น
บริษัทในกลุ่มเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์

นอกจากนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ให้นายศุภเดช กู้เงินวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมาจำนวน 32,860,000 บาท อัตราดอกเบี้ย
 MRR+3.5 ต่อปี ประกันเงินกู้โดยบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด

ส่วนเงินค่าหุ้นของนายสุรินทร์ อุปพัทธกุล จำนวน 2,720,000,100 บาท โอน BAHTNET จากธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้
แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น โดยธนาคารได้รับคำสั่งโอนเงิน จากบัญชีบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งที่ หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์
โดยมีบริษัท กรีนแลนด์ จำกัด มอบอำนาจให้นายสุรินทร์ อุปพัทธกุล เป็นผู้ดำเนินการลงทุนของบริษัท ก่อนนายสุรินทร์ สั่ง
โอนเงินเข้าบัญชีบริษัท กุหลาบแก้ว

ผู้สั่งจ่ายเงินกุหลาบแก้วล้วนเป็นสิงคโปร์

นอกจากนี้ ตั้งแต่เปิดบัญชีเป็นต้นมา ผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินในบัญชีธนาคารของบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์
จำกัด และบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน คือ บุคคล 2 ใน 3 ประกอบด้วย 1.Mr S.Isawaran 2.Ms.
Tan Ai Ching 3.Ms.Chia Yue Joo ซึ่งผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินของบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด และบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด
แตกต่างไปจากผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทตามที่จดทะเบียนบริษัทไว้ คือ บริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด มีกรรมการ 3 คน คือ
 นายพงส์ สารสิน นายเอส ไอสวาราน และนางสาวไช ยู จู และกรรมการผู้มีอำนาจกระทำแทนบริษัท คือ กรรมการสองคนลง
ลายมือชื่อร่วมกัน

ระบุ 3- 4บริษัทตั้งที่เดียวกัน

จากการตรวจสอบบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสเพน
 โฮลดิ้งส์ จำกัด ทั้ง 4 บริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องในการเข้าถือหุ้นในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้ง
อยู่ในที่เดียวกันเลขที่ 31/125-128 อาคารไทยวาทาวเวอร์ 2 ชั้น 17 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

พงส์แจงไซเพรสสำรองเงินซื้อหุ้นให้ก่อน

อย่างไรก็ดีคณะทำงานได้เชิญนายพงส์เข้าชี้แจง ระบุว่า การลงทุนในบริษัท กุหลาบแก้ว ทางกลุ่มบริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด
โดยนายเอส ไอสวาราน ตัวแทนของกลุ่ม เทมาเส็ก เป็นผู้ชักชวน โดยซื้อหุ้นมาจากนายสมยศ สุธีรพรชัย ทนายความของบริษัท ไซเพรส
โฮลดิ้งส์ จำกัด จำนวน 3,000 หุ้น และชำระค่าหุ้นเป็นเงินสด ให้นายสมยศ สุธีรพรชัย ประมาณ 30,000 บาท ต่อมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกกว่า
 50 ล้านบาท และชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน โดยจ่ายเป็นเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนวิทยุ จำนวน 50,933,000 บาท
 คืนให้แก่บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ในวันเดียวกันที่ บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้ทดรองจ่ายค่าหุ้นให้ไปก่อน

จากการตรวจสอบใบแจ้งรายการบัญชีเดินสะพัดของนายพงส์ สารสิน เช็คฉบับดังกล่าวได้คัดจ่ายจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด
(มหาชน) วันที่ 29 พฤษภาคม 2549)

ส่วนเหตุผลที่ถือหุ้นบุริมสิทธิที่ด้อยกว่าสิทธิของหุ้นสามัญ เนื่องจากเป็นหุ้นประเภทที่ได้รับเงินปันผลแน่นอนร้อยละ 3 ต่อปี และเป็นประเภท
ปันผลสะสม ซึ่งคุ้มค่าทางธุรกิจและใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในขณะนั้น

ศุภเดชแจงใช้เงินตัวเองรับไซเพรสค้ำประกัน

ขณะที่ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ชี้แจงว่า การลงทุนในบริษัท กุหลาบแก้ว ได้มีการเจรจาระหว่างกลุ่มต่างประเทศ คือ บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์
จำกัด และกลุ่มคนไทย คือ นายพงส์ และนายศุภเดช โดยใช้เวลาในการตัดสินใจร่วมลงทุนประมาณ 2-3 สัปดาห์ ต่อมาได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ
บริษัท และชำระค่าหุ้นเป็นเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสยามสแควร์ สั่งจ่ายให้บริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด

เงินค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงินส่วนตัวของนายศุภเดช โดยกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ อัตราดอกเบี้ย MRR+3.5 ต่อปี
โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และต้องชำระเงินกู้คืนทั้งหมดภายใน 5 ปี

จากการตรวจสอบหลักฐานหนังสือชี้แจงของธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงว่า ธนาคารได้ให้นายศุภเดช กู้เงินตามสัญญาเงินกู้เลขที่ 111-3-14434-9
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549 จำนวน 32,860,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR+3.5 ต่อปี อัตราดอกเบี้ย MRR ในขณะทำสัญญาเท่ากับร้อยละ 7.25
ต่อปี โดยจำนำสิทธิบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ของบริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด และค้ำประกันเงินกู้โดยบริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด

ภายหลังการตรวจสอบนายศุภเดช ได้มีหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมว่าเงินกู้จำนวน 32,860,000 บาท ที่กู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ นั้น บริษัท ไซเพรส
ได้เข้าค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว และนายศุภเดชได้ชำระเงินกู้คืนธนาคารไปหมดแล้ว

สุรินทร์โอนเงินจากบริติชเวอร์จินซื้อหุ้นแทน

ขณะที่นายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ชี้แจงว่า การลงทุนในบริษัท กุหลาบแก้วได้รับการชักชวนจาก โกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่ประเทศ
สิงคโปร์ และก่อนที่จะร่วมลงทุนได้มาพบและเจรจาการเข้าร่วมลงทุนกับนายพงส์ ซึ่งยินดีที่นายสุรินทร์ ร่วมลงทุนด้วย โดยเข้าถือหุ้นสามัญ จำนวน
 272 ล้านหุ้น และจ่ายเงินค่าหุ้นด้วยเงินของนายสุรินทร์เอง

จากการตรวจสอบหลักฐานบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรากฏว่า เงินค่าหุ้นจำนวน 2,720,000,100 บาท เป็นเงินโอน BAHTNET
 TRN, LP BKHQ 45764 จากธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ตามคำสั่งของนายสุรินทร์ และเงินดังกล่าวเป็นเงินโอนตามคำสั่งมาจากบัญชี
Fairmont Investments Group Inc. ธนาคาร Credit Suisse, Singapore อีกทอด

ทั้งนี้ หลักฐานการจดทะเบียนบริษัท แฟร์มอนท์ อินเวสท์เมนท์ส กรุ๊ป จำกัด ปรากฏว่า บริษัทจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่อาณาเขตหมู่เกาะบริติช เวอร์จิน
ไอส์แลนด์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ ปณ.905 โรด ทาวน์ ทอร์โตลา หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ ทุนจดทะเบียน 50,000
 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีบริษัทกรีนแลนด์ จำกัด มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท และมอบอำนาจให้นายสุรินทร์เป็นผู้ดำเนินการลงทุน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2006, 11:39 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ » บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #2 เมื่อ: 12-09-2006, 11:18 »

มาตรา 36 ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือ
ร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับ
อนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว
หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีก
เลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่
คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึง
หนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งให้เลิกการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือสั่งให้เลิกการร่วมประ
กอบธุรกิจ หรือสั่งให้เลิกการถือหุ้น หรือการเป็นหุ้นส่วนนั้นเสีย แล้วแต่กรณี หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลต้องระวาง
โทษปรับวันละหนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่


มาตรา 41 ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้กระทำความผิดตามมาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 36 หรือมาตรา 37 กรรมการ
หุ้นส่วน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น หรือมิได้จัดการตามสมควร
เพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ

หน้า 16
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0111150849&day=2006/08/15
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2006, 11:41 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ » บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #3 เมื่อ: 12-09-2006, 11:19 »




 นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า---มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปฏิวัติรัฐประหาร

 เพราะเมื่อมีความพยายามถึงขั้นลอบสังหารผู้นำ ก็พอจะคาดเดาได้ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรต่อไป แต่จะเป็น
กลุ่มเดียวกันหรือไม่นั้น ไม่ขอแสดงความคิดเห็น นอกจากขอร้องให้ช่วยกันรักษาประชาธิปไตย และร่วมกันประ
ณามการกระทำที่ได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ยาก หากประชาชนไม่ยอมรับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2006, 11:31 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ » บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #4 เมื่อ: 12-09-2006, 11:22 »




สงสาร  คุณพระราม  ในราชดำเนินนะคะ  เข้าไปตั้งกระทู้  กุหลาบแก้ว
ในราชดำเนิน  ขอเอาใจช่วยค่ะ  ทั้งๆที่รู้ว่า  ห้องนั้นเอียงสุดๆ  แต่คุณพระราม
เขาก็สู้  ลองอ่านดูนะคะ




ผลสอบกรมพัฒนาธุรกิจการค้า "กุหลาบแก้ว" ชี้ชัดนอนิมีเทมาเส็กซื้อชินคอร์ป

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4703343/P4703343.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2006, 11:28 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ » บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #5 เมื่อ: 12-09-2006, 11:25 »



นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ------

การที่นายสมชาย สุนทรวัฒน์ ประธาน ส.ส.พรรคไทยรักไทย ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเว้นวรรคของรักษาการนายกรัฐมนตรี
เป็นความเห็นส่วนตัว ในส่วนของพรรคยังไม่ได้ข้อสรุป และยังไม่ได้เตรียมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
 ประกาศเว้นวรรคตามที่เป็นข่าว เพราะโดยจุดยืนของพรรคขณะนี้ยังมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค และมีชื่อในระบบบัญชีรายชื่อ
 ที่สำคัญขอให้การเลือกตั้งมีความชัดเจน อีกทั้งการตัดสินใจของรักษาการนายกรัฐมนตรีเอง ซึ่งคงอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
 และคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก



        นายแพทย์พรหมินทร์ ยังกล่าวถึงข่าวที่มีรายชื่อ 3 รัฐมนตรี คือ นายสมคิด นายสุรเกียรติ์ และ พล.ต.อ.ชิดชัย จะเป็นแคนดิเดต
นายกรัฐมนตรีคนต่อไปหากรักษาการนายกรัฐมนตรีประกาศเว้นวรรคว่า มีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามพรรคไทยรักไทยยังมีผู้ที่มีความ
สามารถอีกมาก และเมื่อถึงเวลาจะเป็นไปตามกระบวนการเอง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2006, 11:30 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ » บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
แสวง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 593



« ตอบ #6 เมื่อ: 12-09-2006, 11:39 »

สงสารลูกเมียหน้าเหลี่ยมเขานะ ...
ไปไหนในที่สาธรณะก็ไม่ได้แล้ว ..
..
ส่วนลิ่วล้อและข้าราชการสอพลอทั้งหลาย
ก็ต้องรับผลกรรมแห่งการกระทำที่ใกล้จะมาถึงแล้ว ..
 Tongue out Tongue out Tongue out
บันทึกการเข้า

เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #7 เมื่อ: 12-09-2006, 11:47 »

ผมว่าข่าวในทางที่ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนมันมาจาก ฝั่งรัฐบาลหมดเลยนะเนี่ย


 Cool
บันทึกการเข้า
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #8 เมื่อ: 12-09-2006, 11:51 »

สงสารลูกเมียหน้าเหลี่ยมเขานะ ...
ไปไหนในที่สาธรณะก็ไม่ได้แล้ว ..
..
ส่วนลิ่วล้อและข้าราชการสอพลอทั้งหลาย
ก็ต้องรับผลกรรมแห่งการกระทำที่ใกล้จะมาถึงแล้ว ..
 Tongue out Tongue out Tongue out



------ยุคนี้  หลายคนชอบพูดคำว่า  ประชาธิปไตย
แต่ไหง  กลับนิยม  กติกู  อย่างชัดเจน  สับสน
ในความคิดของตนเองหรือเปล่าก็ไม่รู้


--- ไม่ต้องไปหาคำนิยามของคำว่า  ระบอบทักษิณ
ให้เสียเวลาหรอกค่ะ


- ที่แทรกแซงเข้าไปในวุฒิสภา  นั่นล่ะอะไรล่ะ

- ที่แทรกแซงเข้าไปใน กกต  นั่นล่ะอะไรล่ะ

- ที่ชอบซุกหุ้น  นั่นล่ะ  อะไรล่ะ

- ตอนนี้ เริ่มลามเข้ามาแทรกในเยาวชนอีก
  ไปสืบหาเอาเองว่าคืออะไร  ขี้เกียจบอก



***  จะยอมให้เขายึด ให้เขาแทรกแซง
ให้เขาครอบงำ  ให้เขาใช้กฏกติกู  ได้ตามชอบใจ
ก็เอา  อย่ามัวนั่งท่องคำว่า  ประชาธิปไตยคือ
การเลือกตั้งอยู่เลย  เสียเวลาเปล่าล่ะ


  ----ดูผลระยะยาวก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-09-2006, 11:52 »

แม้ว มีคุณสมบัติพิเศษ

เป็น

นักสร้างข่าวกลบข่าว

สร้างเรื่องกลบเรื่อง

ตั้งแต่เป็นรัฐบาลมาแล้วครับ


ดังนั้นเรื่องอะไรที่ออกมา ประหลาดๆ

คนก็คิดไว้ก่อนว่าไอ้นี่ มันเอาอีกแล้ว
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #10 เมื่อ: 12-09-2006, 12:02 »

เมื่อไหร่  เราจะพร้อมใจกันหยุดระบอบทัก๋ษิณให้ได้จริงๆซะที
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #11 เมื่อ: 12-09-2006, 12:32 »

เมื่อไหร่  เราจะพร้อมใจกันหยุดระบอบทัก๋ษิณให้ได้จริงๆซะที

ซือเจ๊คงต้องช่วยหยุดสอนด้วยอะครับ

ส่วนผมจะช่วยหยุดจ่ายภาษี   Mr. Green Laughing Mr. Green
บันทึกการเข้า
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #12 เมื่อ: 12-09-2006, 12:44 »



ป้ายผ้าขนาดใหญ่สลับเล็กจำนวนหลายผืน เขียนให้กำลังใจคุณทักษิณมากมายหลายเหตุผล เพื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
บริหารประเทศต่อไป แต่มีแผ่นหนึ่งที่สะดุดตามากที่สุด คือ

 

“คนเชียงใหม่รักนายกทักษิณ เพราะเป็นนายกของคนเมือง”

 

จากข้อความดังกล่าวนี้ อาจพอคิดเอาเองได้ว่า ที่คนเชียงใหม่ส่วนหนึ่งยังไม่ออกมาตะโกนให้ “ทักษิณ..ออกไป” แต่กลับเป็นตะโกนว่า
“ทักษิณ…สู้ๆ” นั้น คงจะเป็นเพราะ “ทักษิณเป็นคนเมือง” ซึ่งสามารถบอกต่อๆ กับพี่น้องเชียงใหม่ได้ว่า คุณทักษิณเป็นคนเชียงใหม่ ดังนั้น
 อย่าให้พรรคการเมืองหรือคนอื่นเป็นนายกแทนคนเมืองอย่างเขา

 

ด้วยเหตุนี้ เมื่อคนเชียงใหม่ส่วนหนึ่งที่เห็นว่า คุณทักษิณคือนายกของคนเมือง แม้จะมีคนมากมายออกมาชี้ให้เห็นว่าคุณทักษิณไม่มีจริยธรรม
และยังขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี รวมถึงการพยายามไม่ตอบคำถาม ข้อสงสัยของสังคมต่อกรณีต่างๆ ที่
เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ เช่น กรณีการขายหุ้นชินคอร์ป กรณีการแทรกแซงสื่อและองค์กรอิสระต่างๆ เป็นต้น แต่สำหรับคนเชียงใหม่แล้วยังไง
ก็ต้องออกมาปกป้อง โดยไม่สนว่าคุณทักษิณจะบกพร่องอย่างไร 

 

ผมไม่ได้ตัดสินว่าคนที่เชียร์คุณทักษิณเป็นคนไม่ดี แต่ผมอยากจะชวนคนที่ยังชื่นชม รัก และเคารพคุณทักษิณ ให้เข้าใจว่าบุคคลคนนี้นั้นได้มี
 “ความเป็นคนเมืองเชียงใหม่” มากน้อยขนาดไหน และอะไรบ้างบ่งบอกว่า คุณทักษิณเป็นนายกของคนเมือง

 

เท่าที่ผมพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคนเมืองอย่างคุณทักษิณนั้น แน่นอนว่า คุณทักษิณอู้กำเมืองได้ มีบ้าน มีภูมิลำเนาอยู่ อ.สันกำแพง และยังเรียนจบ
จากโรงเรียนในเมืองเชียงใหม่ด้วย และคิดว่าคงจะมีอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้เท่านั้นหรือที่คนเชียงใหม่ส่วนมาก (คนที่ขึ้นป้ายผ้าติด
เต็มเมืองเชียงใหม่) จึงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่สนข้อมูลอีกด้านที่บอกว่าคุณทักษิณบกพร่องทางจริยธรรม แต่กลับออกมาปกป้อง อย่างล้นหลาม

 

ผมไม่แน่ใจว่าคุณทักษิณเป็นคนเมืองที่มี “ความเป็นคนเมือง” อยู่ในตัวมากน้อยเพียงใด หลายเรื่องที่คุณทักษิณทำต่อบ้านเมืองเชียงใหม่ โดย
คนเชียงใหม่เองก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตอนนี้มีสารพัดโครงการและนโยบายที่คุณทักษิณนำมากระทำต่อเมืองเชียงใหม่

 

คนเชียงใหม่เคารพบูชาพระธาตุดอยสุเทพและครูบาเจ้าศรีวิชัยมาตลอด แต่คุณทักษิณกลับมีบัญชาโครงการให้มีการทุบลานครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อ
ทำคอมเพล็กซ์รับสถานีรถไฟฟ้า รองรับการจัดทำอภิมหาโครงการเชียงใหม่เวิร์ล ที่เชื่อมกับการจัดทำโครงการสวนสัตว์กลางคืน – อุทยานช้าง –
 ธีมปาร์ค – สปา – พืชสวนโลก  โดยจะจัดทำโครงการในบริเวณผืนป่าดอยสุเทพ ซ้ำยังจะทุบฝายพญาคำ ซึ้งเป็นฝายโบราณทิ้งเพื่อสร้างพนังกั้น
น้ำปิง และส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าที่ดอยหลวงเชียงดาวที่เคยถูกต้านจากคนเชียงใหม่ส่วนหนึ่งเมื่อปีกลาย

 

จากสารพัดโครงการที่คุณทักษิณประกาศเป็นนโยบายในพื้นที่สำคัญต่างๆ นั้น คุณทักษิณจะรู้บ้างหรือไม่ว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักษ์รักษาอยู่
 กล่าวคือ ทิศเหนือมีเจ้าหลวงคำแดง เจ้าแห่งเทวาอารักษ์อยู่ที่อ่างสลุง ดอยหลวงเชียงดาว ดอยสุเทพมีสุเทวะฤกษ์ฤาษี เทวาอารักษ์ ปู่แสะดู
แลดอยลูกเหนือ (ดอยสุเทพ) ย่าแสะดูแลดอยลูกใต้ (ดอยคำ) ส่วนฝายพญาคำนั้นมีเจ้าพ่อผญาคำดูแล เป็นต้น

 

รุ่นพี่คนหนึ่งได้เขียนระบุในเอกสารชิ้นหนึ่งว่า “ความขึด” ที่เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ในช่วงที่คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินถล่ม
 ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทางคติชนวิทยาให้เหตุผลทางวัฒนธรรมอธิบายว่า เป็นการเตือนและการลงโทษจากสิ่งเหนือธรรมชาติที่ถูกล่วงเกินไม่ให้ปุ
ถุชนก้าวล้ำเส้น หรือให้หยุดความทะเยอทะยานที่มนุษย์อยากเอาชนะธรรมชาติ โดยเฉพาะอภิมหาโครงการขนาดใหญ่ดังที่กล่าวข้างต้น

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่นั้น คุณทักษิณได้ให้ความเคารพบูชาเพียงใด คนเชียงใหม่ที่รักคุณทักษิณ ต้องหาคำตอบด้วยตัวเองว่า
 คุณทักษิณมี “ความเป็นคนเมือง” อยู่ในใจบ้างหรือไม่ ก่อนที่เราจะชื่นชม เคารพยกย่องให้เกียรติคนที่บอกว่าตัวเป็นคนเมือง เป็นนายกของคนเมือง

 

ผมมองว่า คนเชียงใหม่ที่ชื่นชมหรือเชียร์คุณทักษิณนั้น ไม่ควรใช้เหตุผลเพื่อให้ความชอบธรรมกับคุณทักษิณว่าเป็นนายกคนเมืองอีกต่อไป เพราะคน
เมืองจริงๆ เขาไม่ทำร้าย รุกรานธรรมชาติหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองเชียงใหม่หรอก แต่สิ่งที่คุณทักษิณทำกลับตรงกันข้าม

 

ขณะเดียวกันคนเชียงใหม่ที่บอกว่าคุณทักษิณเป็นนายกของคนเมืองนั้น ส่วนหนึ่งอาจถูก แต่ความเป็นจริงแล้วคุณทักษิณเป็นนายกของประเทศไทย
ที่ต้องดูแลทุกพื้นที่จังหวัด ทุกกลุ่มประชากร สิ่งที่คุณทักษิณได้ทำลงไป ไม่ว่าจะเป็น การจัดทำ FTA กับต่างประเทศ  การแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆ
เช่น ปตท. กฟผ. รวมไปถึงนโยบายขนาดใหญ่อื่นๆ  ที่เน้นเงินเป็นส่วนใหญ่นั้น ย่อมสงผลกระทบต่อประเทศไทยระยะยาว มิหนำซ้ำยังกระทำการอัน
เป็นการทุจริตเชิงนโยบายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแทรกแซงองค์กรอิสระ เพื่อหนีการถูกตรวจสอบ การแทรกแซงสื่อมวลชน รวมทั้งการละเมิดสิท
ธิมนุษยชนจากกรณีภาคใต้และการประกาศสงครามกับยาเสพติด

 

คนเชียงใหม่ควรจะปกป้องคนที่ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากนโยบายของเขา ด้วยเหตุผลเพียงว่าคุณทักษิณเป็นคนเมืองอย่างนั้นหรือ
 และเรายังภาคภูมิใจให้คนที่เราบอกว่าเขาเป็นคนเมืองเชียงใหม่ แล้วทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าเขาไม่ดี เขาขาดจริยธรรม
 เขาขาดความชอบธรรม และหนีการตรวจสอบของสังคมอยู่อีกหรือ

 

ในไม่ช้า คนเชียงใหม่จะรู้ว่าคำกล่าวที่ว่า “เผื่อฮู้คิง น้ำปิงปอแห้ง” หมายความว่าอย่างไร หากยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่อย่างนี้ !

 

http://www.prachatai.com/05web/th/columnist/view.php?SystemModuleKey=Column&ContentID=1392&ColumnistID=7&ID=7
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คนเดินดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #13 เมื่อ: 12-09-2006, 14:17 »

ขอให้กำลังใจ คุณอรจิต สิงคาลวณิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลุกขึ้นสู้ เป็นตัวอย่างของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บันทึกการเข้า
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #14 เมื่อ: 21-09-2006, 12:36 »

ลือปฏิวัติ ก็ได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ไปแล้ว

ตอนนี้ขอดูกุหลาบแก้วหน่อยครับ
เรื่องจะจบลงยังไง ลุ้นๆ
เอาใจช่วยข้าราชการที่ยังทำงาน ลากไส้ระบอบเหลี่ยม ออกมาให้หมดครับ
 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: