ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
14-01-2025, 19:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เมื่อ ทรราชย์ โค่นทักษิณ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เมื่อ ทรราชย์ โค่นทักษิณ  (อ่าน 977 ครั้ง)
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« เมื่อ: 17-09-2006, 12:57 »

 ปรากฏการณ์สำคัญอย่างหนึ่งของการเคลื่อนไหวขับไล่ผู้นำรัฐบาลไทยรักไทยตั้งแต่ต้นปีนี้คือ
การเข้าร่วมอย่างแข็งขันทั้งในระดับแกนนำและมวลชนของกลุ่ม ที่เรียกว่า "คนเดือนตุลา"
ซึ่งหมายถึงอดีตนิสิตนักศึกษาและประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการ
เรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงปี 2511-2519 และปัจจุบันกระจายอยู่ทั่วทุกวงการทั้ง
ในสถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน หน่วยงานราชการ ธุรกิจเอกชน พรรคการเมือง
กระทั่งในรัฐบาลไทยรักไทย

คนเดือนตุลาจำนวนมากปฏิเสธผู้นำรัฐบาลไทยรักไทยด้วยข้อสงสัยเรื่อง "ทุจริตคอร์รัปชัน"
และ "ไม่เป็นประชาธิปไตย" แต่ส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนี้ซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัยและ
องค์กรพัฒนาเอกชน ถึงขั้นไปเข้าร่วมกับขบวนการ "ล้างแค้น" ที่เป็นแนวร่วมอำนาจ
นิยมของกลุ่มนายทุนและอำนาจเก่ากับนักการเมืองไดโนเสาร์และสมาชิกวุฒิสภาที่กระหายอำนาจ
(กลายเป็นสุนัขรับใช้พวกมันไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ)

ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ คนเดือนตุลากลุ่มนี้ยังยอมรับทั้งยุทธวิธีและท่วงทำนองการเคลื่อนไหวของ
แนวร่วมอำนาจนิยมมาทั้งชุด สร้างเรื่องเท็จใช้สถาบันเบื้องสูงเป็นเครื่องมือใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้าม
ใช้ทั้งศาสนาและไสยศาสตร์ ด่าทอกันอย่างหยาบคาย ปลุกปั่นอารมณ์เกลียดชัง อาฆาตพยาบาท
กระหายความรุนแรง กระทั่งเรียกร้องให้มีรัฐประหาร
ซึ่งล้วนเป็นวิธีการของพวกขวาจัด 6 ตุลาคม 2519 ทั้งสิ้น
(มันกล้าก๊อปปี้เอาวิธีการของทรราชย์ในอดีตที่พวกมันเกลียดนักเกลียดหนา มาใช้หน้าตาเฉย)

"การล้มละลายทางการเมือง" อย่างถึงที่สุดของคนเดือนตุลากลุ่มนี้ เกิดขึ้นเมื่อพวกเขายอมรับ
เป้าหมายของแนวร่วมอำนาจนิยม คือ ปฏิเสธการเลือกตั้ง ร้องขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน
ซึ่งเท่ากับฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วเอาอำนาจนอกระบบเข้ามากุมอำนาจรัฐ เหตุใดคนเดือนตุลาส่วน
หนึ่งซึ่งเคยต่อสู้เผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ มาวันนี้ กลับกลายเป็นทั้ง
แกนนำและผู้สนับสนุนของแนวร่วมอำนาจนิยมขวาจัดไปได้?
(เพราะในจิตวิญญานพวกมัน ก็เป็นเพียงแค่เศษสวะอำนาจนิยม ขี้ข้าศักดินาฐานันดรเส็งเคร็ง)

คนเดือนตุลาเติบโตพัฒนาความคิดขึ้นในกระบวนทัศน์ของ "การปฏิเสธและต่อต้าน"
เป็นด้านหลักจากการปฏิเสธระบบการศึกษาและค่านิยมของสังคมในขณะนั้น
ไปสู่การต่อต้านการปกครองเผด็จการ พัฒนาเป็นการปฏิเสธการเมืองแบบเลือกตั้งว่าเป็น
"ประชาธิปไตยจอมปลอม" ปฏิเสธทุนนิยมว่าเป็น "ลัทธิเมืองขึ้นใหม่"
(นี่ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าพวกมันโดยเนื้อแท้แล้ว ไร้สติปัญญาความคิด ไร้จุดยืนทางอุดมการณ์)

แม้คนกลุ่มนี้จะเข้มแข็งใน "การปฏิเสธและต่อต้าน" แต่กลับอ่อนแอในด้านความคิดความ
เข้าใจเพื่อสร้างสรรค์เชิงเหตุผล เมื่อปฏิเสธทุนนิยมและการเมืองแบบเลือกตั้ง
ก็หันมาทุ่มเทให้กับแนวคิดสังคมนิยม และ "ประชาธิปไตยของประชาชน"
ที่เป็นอารมณ์นามธรรมและเลื่อนลอย ความคิดด้านสร้างสรรค์จึงเปราะบางและอ่อนแออย่างยิ่ง
ตลอดเวลาทีผ่านมาพวกมันไม่เคยเคลื่อนไหว ปลูกฝัง อะไรที่เป็นรูปธรรมในการให้ความรู้
ความเข้าใจแก่ประชาชนคนรากหญ้า ให้ได้เข้าใจและรู้เท่าทัน ระบบทุนนิยมว่ามันคืออะไร


คนเดือนตุลาถูกหล่อหลอมให้เป็น "นักรบ" ด้วยวิธีการต่อสู้แบบทหาร แยกมิตรแยกศัตรูเด็ดขาด
ทุ่มเทภักดีต่อฝ่ายตนอย่างสมบูรณ์ และเคียดแค้นชิงชังต่อศัตรูอย่างลึกซึ้ง
ใช้วิธีการสะสมกำลังเป็นขั้นตอน จนได้มวลขั้นวิกฤติ เคลื่อนไหวเป็น "ฝ่ายรุก"
อย่างต่อเนื่อง แล้วจู่โจมเข้าตีศูนย์บัญชาการของฝ่ายตรงข้ามเพื่อเผด็จศึก
การต่อสู้ในเมืองของพวกเขาจึงเป็นการรวมกลุ่ม ออกแถลงการณ์ประณาม
ชุมนุมประท้วงสะสมกำลังมวลชน เดินขบวนทำการ "รุก" ยกระดับข้อเรียกร้อง
ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง "ยื่นคำขาด" ให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนข้อยอมจำนนในที่สุด
(ขนาดเทคนิคในการเคลื่อนไหวทำกิจกรรม ของพวกมัน ยังย่ำต๊อกอยู่เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน
แสดงว่าสติปัญญาความคิดพวกมันไม่ได้พัฒนาก้าวทันโลกแต่ประการใด)


แม้แนวคิดสังคมนิยมจะล่มสลายไปแล้ว แต่กระบวนทัศน์ วิธีคิด ท่วงทำนองแบบ "กบฏนักรบ"
กลับถูก "แช่เย็น" ไว้ในหมู่คนเดือนตุลาส่วนหนึ่ง กลายเป็นพวก "ต่อต้านระบบ" แบบถาวร
ปฏิเสธทุนนิยม ปฏิเสธการเมืองแบบเลือกตั้งและกระบวนการทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ
โดยไม่มีการพัฒนาความคิดด้านสร้างสรรค์เชิงเหตุผลที่เป็นรูปธรรมอื่นใด
(พวกมันไม่ได้ซึมซับเลยว่า "สังคมนิยม" นั้นคือเป็นอีกหนึ่งในลัทธิที่ตะวันตกคิดค้น
กันขึ้นมา มอมเมาไอ้พวกหน้าเหลือง S.E.A. ให้กัดกันเองมาหลายทศวรรษแล้ว
ทฤษฎีของเราคือ "ธรรมศาสตร์" แบบที่นายปรีดี วางรากฐานเอาไว้ต่างหากไอ้พวกงั่ง...)


เหตุการณ์แสดงให้เห็นได้ว่า คนเดือนตุลาส่วนนี้ยังคงหายใจอยู่ในวาทกรรมดั้งเดิม
ของตนโดยไม่เข้าใจว่า โลกและสังคมเศรษฐกิจการเมืองไทยได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
อย่างมีนัยสำคัญ พวกเขาสรุปว่า ผู้นำรัฐบาลปัจจุบันเป็น "เผด็จการทรราช"
ที่เลวร้ายยิ่งกว่าทรราช 14 ตุลาคม 2516 เสียอีก ส่วนการเมืองก็เป็น "ระบอบเลือกตั้งจอมปลอม"
ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นแค่ "เครื่องมือเผด็จการเบ็ดเสร็จ" รวมกันเรียกว่า "ระบอบทักษิณ"

ฉะนั้น พวกเขาย่อมจะใช้วิธีการอะไรก็ได้ ทั้งในและนอกรัฐธรรมนูญเพื่อทำลายตัวบุคคลและ
โค่นล้มระบอบในทันที ซึ่งก็คือเชื่อว่า บริบทการเมืองไทยวันนี้โดยเนื้อแท้แล้วยังคงเหมือน
เมื่อเดือนตุลาคม 2516 ไม่เปลี่ยนแปลง พวกเขาจึงใช้วิธีการเก่าๆ ที่ถนัดคือ "รุกแบบทหาร"
ด้วยการเคลื่อนไหวมวลชนครั้งใหญ่เป็นระลอก สร้างกระแสประท้วงที่สูงขึ้นๆ
เพื่อเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว อันเป็นรูปแบบเดียวกันกับการเคลื่อนไหวตุลาคม 2516

พวกเขาไม่เข้าใจว่า จากวันนั้น การเมืองไทยได้พัฒนามาอีกระดับหนึ่งสู่ระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งแม้จะยังมีข้อบกพร่องและห่างไกลอุดมคติ แต่ผู้นำรัฐบาลก็มิใช่เผด็จการ
หากมาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ได้คะแนนเสียงข้างมากและมีความชอบธรรมใน
สายตาของผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศ

อีกทั้งไม่เข้าใจว่า การ "รุกแบบทหาร" แม้จะเป็นวิธีการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังและ
ได้ผลในระบอบเผด็จการที่ไม่มีวิถีทางเลือกอื่น ไม่มีการเลือกตั้ง
ไม่มีการปกครองด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ

แต่ปัจจุบันไม่ใช่ระบอบเผด็จการ หากเป็นประชาธิปไตยที่ยึดรัฐธรรมนูญและ
กฎหมายเป็นสูงสุด ผู้นำอาศัยความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง ผู้นำมีเวลาและ
อำนาจจำกัดในกรอบของกฎหมาย ตลอดจนมีกลไกทางเลือกภายในระบบ
เพื่อตรวจสอบและอาจนำไปสู่การเปลี่ยนตัวผู้นำได้ซึ่งแม้จะเชื่องช้าไม่ทันใจ
แต่ก็เป็นระบบที่ยึดหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและสันติ ซึ่งเป็นวิถีที่คนส่วนใหญ่ต้องการ

ยิ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ท้าทาย ยั่วยุ หยาบคาย กระหายความรุนแรง
โดยมีเป้าหมายที่ล้มการเลือกตั้ง ฉีกรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องนายกฯ
แต่งตั้งจากนอกระบบ ก็ยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวขาดความชอบธรรมและ
เป็นปฏิกิริยาถอยหลังเข้าคลอง ซึ่งในที่สุด ก็ตกอยู่ในสถานะโดดเดี่ยวและ
ถูกปฏิเสธจากประชาชนส่วนข้างมากโดยสิ้นเชิง

(พวกมันก็เป็นได้เพียงแค่ ฟันเฟืองฝุ่นเมืองในเกมส์ แย่งชิงอำนาจครั้งสำคัญ
โดยที่บางตัวในพวกมันก็เริ่มรับรู้แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร และพวกมันอยู่ในส่วนใดของเกมส์นี้
แต่มันก็ยังคงหน้าด้านด้วยมิจฉาทิฐิถ่*** เพียงเพื่ออยากเอาชนะ หวังเหลือที่ยืนในสังคม
โดยไม่แยแส ความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น....พวกมันต้องรับผิดชอบทั้งหมด)
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 17-09-2006, 13:02 »

20 กันยายน 2549

ผูกผ้าพันคอสีฟ้า ไล่ทรราชย์กันนะคะ

ขอให้พร้อมเพรียงกันนะคะทุกๆท่าน
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #2 เมื่อ: 17-09-2006, 13:05 »

20 กันยายน 2549

ผูกผ้าพันคอสีฟ้า ไล่ทรราชย์กันนะคะ

ขอให้พร้อมเพรียงกันนะคะทุกๆท่าน



ย้ายข้างได้แล้ว.....อย่ามัวหน้ามืดตามัวอยู่เลยน้องหนู
บันทึกการเข้า
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #3 เมื่อ: 17-09-2006, 13:45 »

20 กันยายน 2549

ผูกผ้าพันคอสีฟ้า ไล่ทรราชย์กันนะคะ

ขอให้พร้อมเพรียงกันนะคะทุกๆท่าน



ย้ายข้างได้แล้ว.....อย่ามัวหน้ามืดตามัวอยู่เลยน้องหนู


ย้ายข้างได้แล้ว.....อย่ามัวหน้ามืดตามัวอยู่เลยคุณคิล
บันทึกการเข้า
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #4 เมื่อ: 17-09-2006, 16:19 »

ผมไม่มีสีฟ้าครับ จะใช้สีเหลืองแทน
แต่ไปแน่ครับ หนุกหนาน หนุกหนาน
รอมานานได้มันส์กันล่ะ
บันทึกการเข้า
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #5 เมื่อ: 17-09-2006, 17:57 »

พิชิต ไม่ได้มองมิติของประชาชนที่เบื่อหน่ายต่อการคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในปัจจุบันเลย

ไล่มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ จนมาถึงพืชสวนโลก

ตรงนี้ก็มีส่วนสร้างความเบื่อหน่าย และรังเกียจ ต่อรัฐบาลที่อ้างตัวเองว่ามาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้ิอง

ประชาชนจึงพยายามเรียกหา "ตัวช่วย" ที่มั่นใจว่า อย่างน้ิอยก็ไม่โกงกินอย่างมโหฬารขนาดนี้
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 17-09-2006, 19:36 »

ไม่เป็นไรครับ คิลเชียร์เหลี่ยมไปตลอดชาติเลยก็ได้ ผมจะได้มีคนด่าไปตลอดแบบว่าโรคจิตครับ ชอบ สะใจ ฮิฮิ  Laughing
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #7 เมื่อ: 17-09-2006, 21:40 »

หุ หุ.. เตรียมครีมกันแดด พร้อมรองเท้าผ้าใบ เรียบร้อย
ยอมผิวคล้ำสักเล็กน้อย สวยลดลงเล็กน้อย
เพราะไม่ได้ใส่ส้นสูงไม่ได้ใส่สายเดี่ยว..

ตั้งใจหลังหม่ำข้าวเที่ยง โดดช่วงบ่ายจะไปโต๋เต๋แถวบางลำพู ช๊อบปิ้งก่อนเล็กน้อย อิอิ!!!

โอกาสได้เดินบนถนนราชดำเนินซึมซับบรรยากาศการเมืองแบบนี้ มีไม่บ่อยนัก..เจอกันค่ะ..!!
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
หน้า: [1]
    กระโดดไป: