ช่วยหยุดประชาธิปไตยหน่อย..ผมจะลง -- พี่..พี่..รู้จักเวสป้ามั๊ย...พี่

มีนิทานบันเทิงที่เล่าขานกันในหมู่ชาวสองล้อ ว่าด้วยเรื่องหนุ่มนายหนึ่งกำลังขี่รถเครื่องกินลมชมวิวอยู่เพลินๆ พลันก็มีรถเวสป้าวิ่งฉวัดเฉวียนเบียดเข้ามาใกล้ และเด็กหนุ่มหน้าตากวนอวัยวะเบื้องต่ำ ก็ยื่นหน้ามาสำรากวาจาใส่ "เพ่ เพ่ รูจักเวสป้ามั๊ย เพ่" ด้วยไม่อยากมีเรื่องมีราวหนุ่มนายนั้นก็บิดคันเร่งหนีนักเลงวัยรุ่นนั้นไป ไม่ต่อปากต่อคำด้วย เมื่อเห็นว่าไปพ้นแล้วหนุ่มนายนั้นก็ขี่รถกินลมชมวิวต่อไป เหมือนกรรมเวรจะยังไม่หมดสิ้น เวสป้าคันเดิมเร่งตามมาติดๆ พร้อมทั้งหน้ายียวนของจิ๊กโก๋วัยกระเตาะ ทียื่นมาหาราวกับจะล้อเลียน "เพ่ เพ่ รูจักเวสป้ามั๊ย เพ่" ตบะแตกดังโพล๊ะ มันจะมากไปเสียแล้วไอ้หนู ว่าแล้วหนุ่มรายนั้นก็ยกเท้าถีบรถเวสป้าที่ร่อนส่ายอยู่ใกล้ๆสุดแรง ยังผลให้รถคันนั้นคว่ำคะมำไม่เป็นท่า และจิ๊กโก๋วัยรุ่นนั้นก็กลิ้งไปนอนถลอกปอกเปิกอยู่ที่ข้างถนน
ด้วยเมตตา ถึงจะเป็นคนถีบรถเวสป้าเวรตะไลนั้นคว่ำไป แต่ชายหนุ่มก็นึกสงสารเด็กรุ่นน้อง ที่ลงไปนอนแอ้งแม้งหมดสภาพอยู่ จึงจอดรถลงไปช่วย และบ่นพึมพัมว่า "ไอ้น้องเอ๋ยไม่น่ามากวนตีนพี่เลยนี่นา" จิ๊กโก๋วัยรุ่นครางหงิงๆ "ผมเปล่ากวนตีนพี่" ชายหนุ่มจึงถามด้วยสงสัย "อ้าว แล้วน้องมาถามอยู่ทำไมว่า รู้จักเวสป้ามั๊ย ๆ" จิ๊กโก๋วัยรุ่นจึงตอบว่า "ผมขโมยรถพ่อมาขี่ เวสป้าเนี่ย เบรคมันอยู่ตรงไหนผมไม่รู้ ผมถึงได้ถามพี่ ผมเปล่ากวนตีนน๊า"

นับตั้งแต่วาทะ "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ถูกเอ่ยออกมาจากปากที่ไม่มีงาช้างงอกของนายทักษิณ ประชาชนทุกระดับชั้นต่างก็สงสัยว่า นายทักษิณมีจุดประสงค์อันใดหรือ ยิ่งนานวันเมื่อเรื่องราวลามไปถึงสถาบันเบื้องสูง แทนที่นายทักษิณจะออกมาชี้แจงว่า มิได้ตั้งใจจะกล่าวพาดพิงถึงสถาบัน กลับมีแต่ความเงียบเฉยในเรื่องนี้ และวาจา วาทะ ต่างๆก็สำรากออกมาเป็นชุดๆ จากทั้งลิ่วล้อหรือสมาชิกพรรคของนายทักษิณ
เหตุการณ์ในบ้านเมือง เลวร้ายลงเป็นลำดับ ประชาชนต่างลุกขึ้นมาขับไล่นายทักษิณให้ออกจากตำแหน่ง ให้วางมือทางการเมือง และให้มีการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น แต่นายทักษิณก็สวนกลับด้วยวาจาท้ารบ อีกทั้งพฤติกรรมในการระดมจ้างคนเข้ามาก่อความวุ่นวาย ในการชุมนุมโดยสงบของประชาชนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ อีกทั้งมีการระดมแรงงานต่างชาติมาติดอาวุธ โดยอาศัยอาวุธของหน่วยป่าไม้ จนทำให้กองทัพหวั่นวิตกถึงความปลอดภัยและความมั่นคง จึงมีการเรียกอาวุธเหล่านั้นคืน ดังเป็นที่ทราบกันอยู่
อีกทั้งการวางแผนสร้างเรื่องคาร์บอมบ์เพื่อลอบสังหารนายทักษิณ จนเป็นเรื่องตลกระดับโลก และน่าอับอายที่ผู้นำประเทศประชาธิปไตย กลับสร้างเรื่องลอบสังหารตนเอง เหมือนที่ใต้หวันเคยประสบ และกำลังขับไล่นายกรัฐมนตรีที่สร้างเรื่องลอบสังหารตนเองออกจากตำแหน่ง อีกทั้งยังพยายามโยงเรื่องไปปั่นป่วนให้กองทัพเกิดการแตกแยก และตามติดมาด้วยการปล่อยข่าวปฎิวัติ โดยนายทักษิณเอง สร้างเรื่องขึ้นเอง พูดเอง เออเอง

จึงเกิดคำถามว่า นายทักษิณต้องการอะไร หากมาไล่เรียงทางออกของนายทักษิณดู นับตั้งแต่วาจา "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ถูกเผยแพร่ออกมา จะเห็นได้ว่า มีเพียงสามทางด้วยกันคือ

1. ชนะเลือกตั้งและกลับมาเป็นรัฐบาล เพื่อใช้อำนาจกลบเกลื่อนเรื่องทุจริตต่างๆ
2. เว้นวรรคทางการเมือง และตั้งนอมินีขึ้นมาแทนเพื่อใช้อำนาจกลบเกลื่อนเรื่องทุจริตต่างๆ
3. ยุติบทบาททางการเมือง โดยมีการรับประกันว่าจะไม่ขุดคุ้ยเรื่องทุจริตต่างๆ
4. ลี้ภัยทางการเมือง เพื่อใช้เงื่อนไขการลี้ภัยในการยับยั้งคดีความที่จะมาถึงตน หรือการยึดทรัพย์ที่โยกย้ายไปต่างประเทศ

ข้อ 1. ถึง 3. นั้น ได้มีความพยายามมาเป็นลำดับขั้น แต่ปรากฎว่าหมดหวังทั้งสิ้นแล้ว เนื่องด้วยมรการเลือกตั้ง กกต.ชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อเสียงอย่างที่แล้วๆมาใช้ไม่ได้ อีกทั้งการจะขายนโยบายสัญญาว่าจะให้ก็ทำมิได้ ดังนั้นการเลือกตั้งให้ชนะกลับมาเป็นรัฐบาล เป็นเรื่องที่สุดฝัน อีกทั้งเรื่องการยุบพรรคที่ยังค้างคาอยู่บนศาลรัฐธรรมนูญ ก็ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะเอาตัวรอดไปได้ ความหวังในข้อ 1. และ 2. จึงไม่สามารถเสี่ยงได้ ส่วนในข้อที่ 3. นั้น ได้มีความพยายามเจรจากับผู้ใหญ่คนหนึ่งในบ้านเมือง ซึ่งท่านก็ไม่สามารถรับปากได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและไม่สมควรจะทำ จึงปิดหนทางออกสามทางของนายทักษิณจนสิ้น ทางออกสุดท้ายจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้

การลี้ภัยทางการเมืองนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อมีภัยคุกคามนอกระบอบประชาธิปไตย เช่นเกิดการปฎิวัติรัฐประหาร และผู้ที่จะลี้ภัยนั้น อ้างได้ว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม ในการดำเนินคดี หรืออาจจะอ้างว่าถูกกล่าวหาโดยไม่มีความผิด แต่หากประเทศนั้นยังคงปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยปกติ และผู้ที่อ้างจะขอลี้ภัยทางการเมืองเป็นเพียงผู้กระทำผิดทางอาญาแผ่นดินธรรมดา สถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ นี่เอง เป็นเหตุผลสำคัญที่นายทักษิณ ได้เพียรพยายามสร้างเรื่องราวลอบสังหาร ให้ใหญ่โตและลากเรื่องให้ยืดเยื้อลุกลามไปถึงกองทัพ อีกทั้งความพยายามป่วนการโยกย้ายทหาร ก็เพื่อทำให้กองทัพทนการถูกทำลายไม่ได้ และลุกขึ้นมาทำการรัฐประหารเพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมอันชั่วร้าย และนั่นคือเป้าหมาย ที่นายทักษิณต้องการ

เพ่ เพ่ รู้จักเวสป้า มั๊ย เพ่ เบรคมันอยู่ตรงไหน ผมไม่รู้ ผมเบรคไม่ได้

เพ่ เพ่ ช่วยหยุดประชาธิปไตยได้ไหม เพ่ ผมจะลงแต่ลงไม่ได้ ถ้าเพ่ปฎิวัติหยุดประชาธิปไตยไว้ ผมจะได้ไม่ต้องล้มคว่ำเหมือนไอ้จิ๊กโก๋หน้าโง่คนนั้น ที่ทะลึ่งเอารถพ่อมาขี่แล้วเบรคไม่เป็น และผมจะได้ไม่ต้องถูกเย้ยหยันให้อับอายว่า ขับขี่ประชาธิปไตยแล้วเบรคไม่เป็น หาทางจอดไม่ได้ เลยไม่ได้ลง และต้องโดนถีบตกรถประชาธิปไตยตาย