สุทธิชัย หยุ่น
ถึงคราวทักษิณ 'เลือกคนละข้าง' วลีที่ว่า 'ถึงเวลาที่คนไทยต้องเลือกข้าง' ของอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุนนั้น ไม่ได้หมายความว่าคนไทยต้องการจะแตกเป็นฝักเป็นฝ่ายมากขึ้น
แต่เป็นการยืนยันว่า คนไทยจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว กับเรื่องเลวร้ายที่กำลังทำลายความชอบธรรมของสังคมเพราะมีคนเรียกร้องให้คนไทย 'เป็นกลาง' ประหนึ่งว่าปัญหาของบ้านเมืองจะแก้ไขได้ถ้าหากคนส่วนใหญ่เลิกมีความคิดเห็นไปทางใดทางหนึ่งต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
คุณอานันท์ประกาศว่าจะต้องเลือกข้าง เพราะ..."ขอประกาศตัวเลยว่าผมไม่เป็นกลาง ในชีวิตผมไม่เคยเป็นกลาง ไม่เคยเป็นกลางระหว่างความถูกต้องและความผิด, ไม่เป็นกลางระหว่างความถูกกับความชั่ว, ระหว่างประชาธิปไตยกับไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคยเป็นกลางระหว่างวิชากับอวิชชา, หรือระหว่างกติการัฐธรรมนูญที่ถูกต้องกับกติกาที่จัดตั้ง ไม่เคยเป็นกลางระหว่างอิสรภาพของสื่อกับการกีดกันอิสรภาพ ไม่เคยเป็นกลางระหว่างหลักนิติธรรมกับการใช้ความอยุติธรรม ไม่เคยเป็นกลางระหว่างความดีกับความไม่ดี ผมอยู่ฝ่ายหนึ่งเสมอ..."
คุณหมอประเวศ วะสี ก็ 'เลือกข้าง' เมื่อออกมาเรียกร้องให้ทักษิณ ชินวัตรเว้นวรรค และทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างบิล เกตส์ ของสหรัฐหมอประเวศแนะนำทักษิณให้ออกจากโครงสร้างมรณะด้วยสันติวิธี คือ 1.พูดว่า "ผมพอแล้ว" และวางมือทางการเมืองทั้งหมดเด็ดขาดทันที 2.ขอร้องให้ประชาชนผู้สนับสนุนตน ร่วมมือสมัครสมานในการแก้ปัญหาประเทศด้วยสันติวิธี และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม 3.ออกไปทำงานทางด้านมนุษยธรรมแบบบิล เกตส์
เป็นการ 'เลือกข้าง' เพื่อให้ประชาชนมีทางออกจากวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นเพราะคนคนเดียวแท้ๆ
ประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็ 'เลือกข้าง' แล้วเมื่อท่านประกาศว่า"ชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครก็ตามแม้เพียงแต่คิดจะยึดถือเป็นของตนเอง หรือของพรรคพวกของตนเอง เพื่อประโยชน์อันไม่ชอบธรรมต่อตนเอง หรือต่อพรรคพวกของตนเอง จะพบกับความหายนะในที่สุด พระสยามเทวาธิราชจะปกป้องคุ้มครองคนดีของชาติบ้านเมืองเสมอ และจะสาปแช่งคนไม่ดี ให้มีอันต้องตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัสตลอดชีวิต ผมเชื่อในสิ่งเหล่านี้..."
คือ เลือกยืนคนละข้างกับคนที่ยึดถือเอาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นของตนและพรรคพวก
คนดีของบ้านเมืองทั้งสามคนออกมา 'เลือกข้าง' อย่างชัดเจนเช่นนี้แล้ว,
ถึงเวลาที่ทักษิณต้อง 'เลือกข้าง' บ้าง
เลือกอยู่คนละข้างกับเปรม, อานันท์ และประเวศ กระนั้นหรือ และเลือกยืนอยู่คนละข้างกับคนที่เรียกร้องให้ปราบคอร์รัปชัน, จัดการกับ 'ผลประโยชน์ทับซ้อน' และจริยธรรมหรือ ผู้นำประเทศเลือกข้างอย่างนี้เป็นเวรเป็นกรรมของประเทศชาติเหลือเกิน เรื่องของเวรกรรมไม่มีอายุความเสียด้วย http://www.nationweekend.com/2006/09/08/NW11_113.php?SecId=NW11&news_id=21539241