อยากจะเชิญชวน_พ่อยุคใหม่ให้เอา--อุ่นไอรัก -ต้มให้ลูกกินตั้งแต่อยู่ในท้องแม่นะคะ

[คำตัดพ้อของใบไม้]

  -----   จั่วหัวกระทู้ดูเพ้อฝันไปสักนิด  ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ
แค่อึดอัดใจ  กับความเปลี่ยนแปลงของโลก  และสังคมยุคใหม่  ซึ่งมีแต่
คำว่า  ทุนนิยม  มากกว่า  สุขนิยม - จนเกินความพอดี

--------------------------------------------------------------


---  ทารก  คือ บุคคลที่มีชีวิตรอดตั้งแต่  ศูนย์เดือน ถึง  สิบสองเดือน  ตาม

ภาษากฎหมายเขาว่างั้น  ส่วนความพร้อมของความเป็นพ่อเป็นแม่มีมากน้อย
แค่ไหนเรามิอาจทราบได้  เด็กบางคนเกิดมาโดยความบังเอิญของพ่อแม่จริงๆ
พ่อและแม่ยังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อแม่คนเลย  แต่บังเอิญแค่รักสนุกดันไปมีเพศสัมพันธ์
ก่อนวัยอันควร  เด็กจึงถูกให้ลืมตามาดูโลกโดยความบังเอิญ  การเติมเต็มในด้าน
ความรัก  ความอบอุ่นจึงแทบจะไม่มี  เพราะตัวพ่อแม่เองบางทีก็มาจากขาดรักนี่ล่ะ
จึงได้มาทำให้ได้ลูกโดยบังเอิญ   มันเลยกลายเป็นวงจร จุดชนวนต้นปัญหา
ของสังคมเสื่อม  เริ่ม  ณ  จุดนี้  จนทำให้ปัญหาด้านอื่นๆก็ตามมาด้วย



----  กระทู้นี้จึงอยากเชิญชวน  ให้คนเป็นพ่อ  เป็นแม่  คนทั้งหลาย  หรือคนที่
จะเริ่มต้นเป็นพ่อเป็นแม่คน   ขอให้ท่านตระหนักสักนิดนะคะ ท่านพร้อมมแล้วหรือยัง
ที่จะเติม  รัก  เติม สุข  ให้กับผู้อื่น  ความอบอุ่นทางใจ  ความสุขที่ผู้หญิงที่ตั้งท้อง
ได้รับจากคนที่เป็นสามีต้องถือว่าเป็นอาหารทิพย์  เป็นยาวิเศษชะโลมหัวใจยิ่งกว่าสิ่งใด
  เมื่อเขาอิ่มสุขจากสามีความอิ่มอันนี้ล่ะ  จะส่งผลให้ลูกที่อยู่ในท้องเขา  อิ่มสุข  อบอุ่นไปด้วย  เมื่อ
เด็กเกิดมาท่ามกลางพ่อแม่ที่มีสุขภาพจิตดี  อารมณ์ดี  เด็กก็จะกลายเป็นคนอารมณ์
ดี  สุขภาพจิตดีไปด้วย----โดยอัตโนมัติ


----  เมื่อเด็กเกิดมาท่ามกลางสิ่งที่ดีๆ    ก็จะมีสิ่งที่ดีๆ  ตามมาอีกมากมาย

[คำตัดพ้อของใบไม้]

ทำไม  ---วัยรุ่นยุคใหม่หลายคนจึงรักมือถือมากๆๆๆจนน่าคิด  เคยคิดจุดนี้หรือไม่

---  ขอระบายสักนิดนะคะ  เนื่องจากชีวิตประจำวัน  ชีวิตการทำงานต้องปะทะ
สัมพันธ์กับวัยรุ่นทั้งชายและหญิงเป็นร้อย  เป็นพัน  บางครั้งก็เผลออินไปกับเรื่อง
ราวที่เขาเล่าให้ฟัง  จนห่อเหี่ยวใจ  อย่างนึกไม่ถึงทีเดียว--------



----  มีตัวอย่าง  เด็กคนหนึ่ง  ถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ยังแบเบาะ  ได้รับการเลี้ยงดูจาก  พ่อ  อา
และเมียใหม่ของพ่อ   ท่านลองคิดดูสิคะ  ว่าระหว่าง  ลูกที่เกิดจากเมียเก่า
กับเมียใหม่กับลูกที่เกิดจากเมียใหม่  พ่อจะรักใคร  ใส่ใจใครมากกว่ากัน  เพราะ
ฉะนั้น  เวลาเด็กใช้ชีวตนอกบ้าน  เมื่อเขาขาดคำว่า  รัก  ขาดคำว่าอบอุ่นในบ้าน
แล้วชีวิตข้างนอก  เขาจะร่ำหารักหรือไม่  ท่านลองคิดดูนะคะ  นี่แค่ตัวอย่างหนึ่ง
เท่านั้นเอง   ยังมีอีกหลายกรณีที่เป็นปัจจัยให้เด็ก  ขาดรักได้อีกมากมาย


----เมื่อสังคม  เมื่อค่านิยม  ของสังคมยุคใหม่  เห่อเหิมไปทางวัตถุนิยม  ทุนนิยม
โดยเฉพาะ  ค่านิยมเกี่ยวกับการใช้มือถือ  ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายมากในยุคนี้
เดินไปไหนมาไหนเราจะเห็นเด็กวัยรุ่นใช้-----เวลา  แทบทุกวินาทีให้กับมือถือ

---ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะคะ  เพราะในมือถือ  เขาได้มีโอกาสฟังเพลง  มีโอกาสคุย
กับเพื่อน  ซึ่งเขาคิดว่า---เขาได้  รัก  เขาได้มี--ความสุข  มีความอบอุ่น  แม้จะเป็นเพียง
ตัววัตถุ  แต่มันสามารถโต้ตอบหัวใจของเขาได้  พูดคุยกับเขาได้  ให้ความชุ่มชื้น
หัวใจของเขาได้  แล้วทำไมเขาจะไม่รักล่ะคะ


----  ความรัก  อุ่นไอรัก  มิใช่ของที่จะเติมเต็มกันได้ง่ายๆ  มันต้องแทรกซึมตั้งแต่
อยู่ในท้อง  แทรกซึมตั้งแต่เขาลืมตาดูโลก  ตั้งแต่ใช้สายตาบ่งบอกว่ารักเขา
มือที่สัมผัสบ่งบอกว่ารักเขา   ภาษาที่ใช้กับเขาบ่งบอกถึงภาษารัก  ภาษาที่
เข้าใจ  ภาษาที่นุ่ม  ตั้งแต่เขาจำความได้  เมื่อซึมเข้าไปเรื่อยๆ  อย่างเสมอต้น
เสมอปลาย  และใจจริง  ไม่ต้องสอนให้เขารัก  พ่อ  รักแม่  หรอกค่ะ


--- คำว่า  รัก  พ่อและรักแม่  มันจะเป็นตะกอนหัวใจที่ฝังรากลึกในหัวใจของเขา
เองล่ะคะ


  ถึงแม้บางเด็ก  จะเป็นเด็กลักษณะ  อภิชาติบุตร  คือ  ดีโดยสันดานของเขาเอง
มิว่าเขาจะถูกเลี้ยงอย่างไร  เขาก็เป็นเด็กดีอยู่วันยังค่ำ  เด็กประเภทนี้จะพบได้
จำนวนน้อยมากค่ะ

[ThailandReport]

ประเด็นมือถือ....

มิใช่แค่วัยรุ่นครับ ที่ติดมือถือ.....วัยไม้ใกล้ฝั่งก็ติดได้ครับ
เพราะมันคือ การสื่อสารที่สะดวก

ผมไมได้มองว่ามันไม่ดี ...เพราะเนื้อแท้ แล้ว....มันดี ครับ!!
การที่เราสามารถสื่อสารกันได้ ไว ทันใจ สะดวก ถูก.....มัน = ดีครับ

แต่เรามองเรื่องค่านิยม ความฟุ้งเฟ้อ มันแล้วไปโทษ ตรง รูปแบบ มัน
 แล้วเหมาเอาไปหมดแบบคุณคนชอบตัดพ้อ
ผมคิดว่า กำลังหลงประเด็น ครับ ผมจำต้องขอแย้ง ...


---------------------------------------------------------------------------

[size=105pt]ประเด็น เรื่อง อุ่นไอรัก ตั้งแต่ในท้อง[/size]

ผมเห็นด้วย 1000 % เรื่องการหาเพลง ซิมโฟนี มาเปิดให้ฟังตั้งแต่ ประสาทหูเด็กในครรภ์รับรู้ได้
เพื่อกระตุ้นภาวะการเรียนรู้และปรับรากฐานจิตใจ ผมเห็นด้วยหมดเลย

แต่....คนที่ออกมาแล้วละคับ
ปัญหาสังคมที่เราพบเจอในทุกวันนี้ ความรุนแรงทางเพศที่ มากขึ้น
 มากมีจนแทบเป็นเรื่องปกติวิสัยในแต่ละวัน

คนที่เดินอยู่ในโรงเรียน
คนที่อยู่ในรั้ว มัธยม ที่กำลังบ้า คลิปวิดีโอโป๊และอยากทำตาม
คนที่เรียนปี 1 ปี 2 Freshy ที่กำลังเห่อ รุ่นพี่หล่อๆ
เห่อค่านิยม ล่าผู้ชาย ตามใบสั่งละ !!


จะเอาอะไรให้พวกเขาเหล่านั้น....กินแล้วหายจากโรคนั้น ...ได้ไออุ่นในชีวิต ดีคับ?
คุณคนชอบตัดพ้อ ?

[คำตัดพ้อของใบไม้]

----  ก่อนที่เราจะวิพากษ์ไปยัง  ความเสื่อมของสังคม  การเมืองที่ขาดความ
ชอบธรรม  เราลองตรองจุดนี้กันก่อนดีมั๊ยคะ  ว่า  ชีวิตที่เริ่มต้นกันที่บ้าน
บทบาทของความเป็นครอบครัวของแต่ละคน  สมบูรณ์กันแล้วหรือยัง



----  แม้แต่การปฏิรูปการศึกษา   ----  ตัวปัจจัยสำคัญมากทีเดียวคือ  ความสมบูรณ์
ความพอดีของครอบครัว  ถ้าพูดให้ชัดไปอีกก็คือแนวการใช้เศรษฐกิจพอเพียง
ตามแนวพระราชดำรัสนั่นล่ะ  ประเสริฐที่สุด


----เด็กที่มีปัญหามากๆในยุคปัจจุบัน  คือ  เด็ก  สองประเภท


ประเภทที่หนึ่ง  คือเด็ก ขาดรัก  จะร่ำหารักในสังคมด้วยวิธีการแปลก
ๆ  เช่น  การขายวิวที่กำลังฮือฮาอยู่ในตอนนี้นี่ล่ะ   การเรียกร้องความ
สนใจจากเพศตรงกันข้าม  ด้วยกิริยามารยาทแปลก ๆ  โดยเฉพาะที่
ขัดต่อวัฒนธรรมไทย  เช่น แต่งกายโป๊  โชว์อวัยวะที่สงวน  ส่ง
เสียงหัวเราะดัง  กรี๊กกร๊าด  จะนั่งจะเดิน  จะยืน  ให้มันแหกวัฒน
ธรรมไว้ก่อน  ฯลฯ  เด็กเหล่านี้  ส่วนมากสาเหตุที่แท้จริงเพราะ
ขาดรักจากครอบครัวทั้งนั้น


ประเภทที่สอง  คือเด็กที่ได้รับความรักมากเกินพอดี  คือเด็กที่ได้รับการเอาใจ
ได้รับการทนุถนอม  มากเกินพอดี  เด็กพวกนี้ก็จะเป็นประเภทคุณหนู  มองโลก
สวยงามทุกเรื่อง  อะไรที่ผิดแปลกไปจากครอบครัวของตนเอง  ก็จะปรับ
ตัวกับเพื่อนฝูง  สังคมไม่ได้เลย  ประเภทนี้ก็ค่อนข้างอยู่ในสังคมยากเช่นกัน
ที่สำคัญคือ  การเอาแต่ใจตนเอง  ใครขัดใจอะไรไม่ได้เลย

----  การปฏิรูปการศึกษา  ในยุคปัจจุบัน  จึงเน้น คำว่า  ดี---นำหน้า
เด็กจะต้องเป็นคนดีให้ได้ในสังคมก่อน  เรื่อง---เก่ง---ค่อยตามมา  แล้วเด็กจะได้
อยู่ในสังคม  ปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข



----  ชีวิตที่ดี  การจะเป็นคนดีได้  จริงๆ  แล้วต้องเริ่มต้นที่บ้านนะคะ
ถ้าแต่ละครอบครัว  ตระหนักถึงความสำคัญจุดนี้  สังคมก็จะดีไปเอง
ล่ะค่ะ   เมื่อครอบครัวแข็งแรง    สังคมก็แข็งแรง  เมื่อสังคมแข็งแรง
การเมือง  ก็จะพัฒนาไปในทางที่ถูกต้องเองล่ะจ๊ะ   จริงมั๊ย  หรือท่าน
คิดไง   ลองว่ากันมานะคะ


  

[ประกายดาว]

สวัสดีค่ะ พี่คำตัดพ้อ ฯ


ประกายดาวสนใจ กระทู้ ปัญหาพื้นฐานสังคมมากๆ ...เคยได้มีโอกาสช่วยงานทางด้านเด็กๆ เล็กน้อย
ทั้ง ในด้านเด็กยากไร้ เด็กมีปํญหา และ เด็กกับ การเรียนรู้แบบ ชาวพุทธ

เด็กๆ ....หลายคน เป็นเพียงเมล็ดพันธ์ ที่ถูกทอดทิ้งค่ะ

มีอาหาร ก็หวังเพียงให้ โต ชีวิตอยู่รอด
ไม่มี น้ำเลี้ยง ที่สร้างให้หัวใจ อ่อนโยน มีพลัง และ ที่สำคัญที่สุด แข็งแรง จนสามารถ
เก็บพลังเหล่านั้น ไว้สู้ หรือเป็น แรงต้าน กิเลส ต่างๆ ในโลกบริโภคนิยม และ แรงจูงใจทางการตลาด
ที่ โถมทับเข้ามา

จะ มี แม่หรือ พ่อสักกี่คน ที่ มีหัวใจ แข็งแรง สู้กับปํญหา ปากท้อง จนมีเวลานำพา ประคับประคอง
" หัวใจ ลูก " เมล็ดพันธิ์ ที่ เกิดขึ้น ให้ มี ภูมิต้านทานสิ่งเหล่านี้

ประกายดาวเชื่อ ในสันดาน ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ ......
หนูเชื่อใน มือ และ อ้อมกอดวิเศษ จาก ความรักของพ่อแม่มากกว่า
แต่จะ มีพ่อ แม่กี่เปอร์เซนต์ ที่รู้จัก  หน้าที่ ของตัวเอง
และ ตระหนักว่า ....เมล็ดพันธิ์ เหล่านั้น แม้ เงินกองท่วมฟ้า ก็ ไม่อาจ ทำให้ เมล็ดพันธิ์ งอกงามได้
ถ้า ไม่มี ปุ๋ย ไม่มี น้ำ และ ไม่มี ความรัก.....

สำหรับ เรื่อง มือถือ

ประกายดาวมองเหมือน เรา ติด อินเตอร์เน็ต นั่นแหละค่ะ .....
เราคงต้องยอมรับ ในกระแสของโลก แต่ ในแบบ ในเรา คอนโทรล มัน ไม่ใช่ มันคอนโทรลเรา
แต่เผอิญ สำหรับเด็กวัยรุ่น ที่ไร้ผู้ชี้ทาง และ ยังหาสตางค์ มาจ่ายตรงนี้ไม่ได้ ...
แถมยังจมลึก ลงใน การติดสิ่งเหล่านี้ ...หรือ ไม่ก็ ยังไม่ พบวิธี ดุแล ตัวเองอย่างสมดุลย์

มันก็ อันตราย ....

ประกายดาวเชื่อ เรื่องการปรับสมดุลย์ มากกว่า การ ห้ามขาด แบบ ก่อให้เกิดแรงต้าน ค่ะ

ประกายดาว ก็ ติด มือถือ ...มันทำให้ โลกเล็กลง และ ทำให้ ความห่างไกล ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

หนู คอนเฟอรเรนซ์ คอล กับ ลูกค้า ได้ แม้อยู่ต่างประเทศ ...กับ ซัพพลายเออร์
หนูส่งรูป ไปให้ แม่ดู ได้ ทุกเเวลาที่คิดถึง ....หนู ได้ บอกรัก  แม่ เวลาไม่ได้อยู่บ้าน

การ ดำรงชีวิต ในโลก แห่ง วัตถุนิยม และ บริโภคนิยม นี้ เราจะประคับประคองตัวเอง
และคนที่เรารัก ได้ โดยการหาสมดุลย์ได้อย่างไร

[ThailandReport]

สวัสดีค่ะ พี่คำตัดพ้อ ฯ


ประกายดาวสนใจ กระทู้ ปัญหาพื้นฐานสังคมมากๆ ...เคยได้มีโอกาสช่วยงานทางด้านเด็กๆ เล็กน้อย
ทั้ง ในด้านเด็กยากไร้ เด็กมีปํญหา และ เด็กกับ การเรียนรู้แบบ ชาวพุทธ

เด็กๆ ....หลายคน เป็นเพียงเมล็ดพันธ์ ที่ถูกทอดทิ้งค่ะ

มีอาหาร ก็หวังเพียงให้ โต ชีวิตอยู่รอด
ไม่มี น้ำเลี้ยง ที่สร้างให้หัวใจ อ่อนโยน มีพลัง และ ที่สำคัญที่สุด แข็งแรง จนสามารถ
เก็บพลังเหล่านั้น ไว้สู้ หรือเป็น แรงต้าน กิเลส ต่างๆ ในโลกบริโภคนิยม และ แรงจูงใจทางการตลาด
ที่ โถมทับเข้ามา

จะ มี แม่หรือ พ่อสักกี่คน ที่ มีหัวใจ แข็งแรง สู้กับปํญหา ปากท้อง จนมีเวลานำพา ประคับประคอง
" หัวใจ ลูก " เมล็ดพันธิ์ ที่ เกิดขึ้น ให้ มี ภูมิต้านทานสิ่งเหล่านี้

ประกายดาวเชื่อ ในสันดาน ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ ......
หนูเชื่อใน มือ และ อ้อมกอดวิเศษ จาก ความรักของพ่อแม่มากกว่า
แต่จะ มีพ่อ แม่กี่เปอร์เซนต์ ที่รู้จัก  หน้าที่ ของตัวเอง
และ ตระหนักว่า ....เมล็ดพันธิ์ เหล่านั้น แม้ เงินกองท่วมฟ้า ก็ ไม่อาจ ทำให้ เมล็ดพันธิ์ งอกงามได้
ถ้า ไม่มี ปุ๋ย ไม่มี น้ำ และ ไม่มี ความรัก.....

เรื่อง สิ่งแวดล้อม กับ กรรมพันธุ์

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (อีกแล้ว)
ได้ทำการทดลองร่วมกับ กลูลิโกะ ฟรายด์ (รสดั้งเดิม ไม่ใช่รสลาบ)

ได้ผลออกมาว่า.... กินแกล้มเบียร์สด อร่อยสุด ครับ !!


ผิดๆๆๆๆ... ขออภัย 

ได้ผลออกมาว่า สิ่งแวดล้อม มีผลมากกว่า กรรมพันธุ์ครับ

นั่นแปลว่า น้อง A Rai Ja ยังมีโอกาสเสมอที่จะ ปรับสภาพสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์ครับ !!

*** น้องจ้ะ เอ้ย คุณพี่จ้ะ ถ้าพี่โกรธ ก็มาลงกะผมคนเดียวนะคับ ผมแค่ Quote ข้อความคุณประกายดาว มาเพื่อเกริ่นนำ
ทฤษฎีบท ทางกรรมพันธุ์ กะ สันดาน เท่านั้น ...หวังว่าคงเข้าใจนะคับ พี่จ้ะ...อย่าด่ามั่ว 

[คำตัดพ้อของใบไม้]

สำหรับ เรื่อง มือถือ

ประกายดาวมองเหมือน เรา ติด อินเตอร์เน็ต นั่นแหละค่ะ .....
เราคงต้องยอมรับ ในกระแสของโลก แต่ ในแบบ ในเรา คอนโทรล มัน ไม่ใช่ มันคอนโทรลเรา
แต่เผอิญ สำหรับเด็กวัยรุ่น ที่ไร้ผู้ชี้ทาง และ ยังหาสตางค์ มาจ่ายตรงนี้ไม่ได้ ...
แถมยังจมลึก ลงใน การติดสิ่งเหล่านี้ ...หรือ ไม่ก็ ยังไม่ พบวิธี ดุแล ตัวเองอย่างสมดุลย์

มันก็ อันตราย ....

ประกายดาวเชื่อ เรื่องการปรับสมดุลย์ มากกว่า การ ห้ามขาด แบบ ก่อให้เกิดแรงต้าน ค่ะ

ประกายดาว ก็ ติด มือถือ ...มันทำให้ โลกเล็กลง และ ทำให้ ความห่างไกล ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

หนู คอนเฟอรเรนซ์ คอล กับ ลูกค้า ได้ แม้อยู่ต่างประเทศ ...กับ ซัพพลายเออร์
หนูส่งรูป ไปให้ แม่ดู ได้ ทุกเเวลาที่คิดถึง ....หนู ได้ บอกรัก  แม่ เวลาไม่ได้อยู่บ้าน

การ ดำรงชีวิต ในโลก แห่ง วัตถุนิยม และ บริโภคนิยม นี้ เราจะประคับประคองตัวเอง
และคนที่เรารัก ได้ โดยการหาสมดุลย์ได้อย่างไร

-------------------------------------------------------------------------------------------


  ประเด็นที่คุณนักข่าว และน้องดาวเอ่ยมา  นี้เข้าใจนะคะ  น้อมรับในเหตุ
ผลของทั้งสองคน  แต่ประเด็นของคุณทั้งสอง  ใช่มีจุดยืนตรงที่ใช้ให้เป็น
ประโยชน์  และคุ้มค่า  แต่อย่างไรก็ตาม  คำว่า  พอดี------


  ก็ต้องเอามาใช้อยู่ดีล่ะค่ะ  เพราะ  คนเราโดยธรรมชาติ  พี่คิดอย่างนี้
นะคะน้องดาวว่า----  ชีวิตของคนเราในหนึ่งวัน  มิว่าคนนั้นจะเป็นโสดหรือไม่
ย่อมต้องการชีวิตที่เป็นสองโลก  คือโลกของการปะทะกับผู้อื่นและโลก
ส่วนตัว

  โลกของการปะทะกับผู้อื่น  ก็คือ  เพื่อนร่วมงาน  ลูกค้า  คนรัก  ญาติพี่น้อง
ฯลฯ  อันนี้แน่นอนในหนึ่งวันต้องเจอ  อีกโลกหนึ่ง  โลกส่วนตัวของตัวเรา
โลกที่ไม่ต้องการพบปะใคร  โลกที่ไม่ต้องการสมาคมสังสรรค์กับใคร
เช่น  การอยู่คนเดียวในห้องนอน  เพื่อ บำรุงผิว  เพื่อนอนฟังเพลงเบาๆ
เพื่ออยู่กับความเงียบๆ  นั่งคิด  นั่งทบทวนอะไรเล่นๆคนเดียวว่า  พรุ่งนี้
เราจะทำอะไรบ้างน้า----  วันนี้วันที่ผ่านมา  เราทำอะไรพลาดไปบ้าง
ผิดไปบ้าง   หรือมีอะไรที่เราทำได้ดีบ้าง  ทำได้อย่างน่าประทับใจบ้าง
หรือบางคนก็ใช้เวลาในการบันทึกประจำวันส่วนตัวเงียบๆคนเดียว
หรือบางคนใช้เวลา  อ่านหนังสือที่ให้ข้อคิดบำรุงสมอง  อย่างน้อย
หนึ่งชั่วโมง   หรือบางคนใช้เวลาในการดูสารคดีที่ให้แง่คิดกับชีวิต
อยู่คนเดียว  หรือบางคนแม้กระทั่งคนมีครอบครัว  ก็อย่างน้อยต้อง
มีเวลาสัก  หนึ่งหรือสองชั่วโมงล่ะ  ที่ใช้ชีวิตที่เป็นโลกส่วนตัวของตนเอง
โดยการลดการปะทะสัมพันธ์กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว  แม้จะเป็น
สามีหรือลูก  ก็ไม่เอา  

  พี่คิดว่า  แม้กระทั่ง  คนที่อยู่กับเรา  เช่น สามี  ก็แน่นอนค่ะ  ในหนึ่งวัน
เขาก็ย่อมต้องการโลกของเขา  ตามลำพังจริงๆ  อย่างน้อย  หนึ่งถึง
สองชั่วโมงล่ะน้อง



----  ทีนี้ประเด็นวัยรุ่น  มันเป็นอย่างนี้นะคะ  คือเท่าที่สังเกตุพฤติกรรม
ที่เราเห็นเขา  อย่างน้อย  แปดถึงเก้าชั่วโมง  มิว่าจะเจอเขาเวลาไหน
มือถือต้องแนบหูตลอดเวลา   นี่ล่ะที่แปลกใจค่ะ  พอฟังเขาเล่าชีวิตที่
อยู่ที่บ้าน  ก็มีมือถือแนบหูตลอดอีก  ก็เลยยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่
ว่า   ครอบครัวเขาไม่มีการปะทะสัมพันธ์กันในครอบครัวเลยเหรอ
หรือ  ชีวิตเขาไม่ได้มีสมาธิใคร่ครวญอะไรด้วยตนเองเงียบๆ  สักชั่ว
โมงเดียวเลยเหรอในหนึ่งวัน

[so what?]

ไม่ใช่แต่วัยรุ่นหรอกครับ เด็กเจ็ดแปดขวบติดมือถือก็เยอะแยะ

เขาคงคิดว่ามันเป็นโลกส่วนตัวใบเล็กๆอีกใบนึงของเค้านะ

แต่ถ้าติดมากไปก็เดือดร้อนกระเป๋าพ่อแม่ และเสียการเรียน

ผมว่างั้นครับ  

[so what?]

อ้าว เล่นตั้งกระทู้  two in one แบบนี้เลยเหรอครับซือเจ๊

แยกกันดีกว่ามั้งครับ ไม่สับสน ไม่เปลืองทรัพยากรบอร์ดเท่าไหร่หรอก 

[คำตัดพ้อของใบไม้]

อ้าว เล่นตั้งกระทู้  two in one แบบนี้เลยเหรอครับซือเจ๊

แยกกันดีกว่ามั้งครับ ไม่สับสน ไม่เปลืองทรัพยากรบอร์ดเท่าไหร่หรอก 

-----  เป็นเรื่องที่คุยไปพร้อมกันได้นี่จ๊ะ  -------หน่า  คุยไปพร้อมๆกันนั่นล่ะ
ได้แง่คิดอะไรหลากหลายดี   

[แสวง]

ผมคิดว่า.. มันก็เนื่องด้วยหลายสาเหตุ
ท้งสังคมและครอบครัว .... ส่วนกรรมพันธุ์นั้นไม่น่าจะเกี่ยว
แต่เพราะพ่อแม่หรือครอบครัว มีความคิดในลักษณะวัตถุนิยม
ก็เลยปลูกฝังค่านิยมให้ลูกไปด้วย ...
..
และที่สำคัญก็เพราะโลกวัตถุนิยมเข้ามาครอบงำ
ปล่อยให้ไหลไปตามกระแส .. อีกทั้งสื่อบางส่วนเองก็ช่วยซ้ำเติม
อย่างเช่น นสพ.ไทยรัฐ ยิ่งวันหวยออก ก็จะมีข่าวหวย..
แม้แต่สื่อทีวีบางช่องและหนังสือบางเล่มก็ชอบเรื่องวงการไฮโซ
ยิ่งรัฐบาลทุนนิยมสุดๆ ก็ยิ่งและแทะ ...
คิดไปคิดมา .. ก็เซ็ง ...เฮ้อ ...

[ประกายดาว]

 

ประกายดาว ว่า ปัจจัยพื้นฐาน และ โครงสร้าง การดำเนินชีวิต แต่ละบ้านต่างกัน ...
ขอ เรียกว่า นี่คือ ปัจจัยนำส่ง ....

เหตุ ปัจจัย เกิดตรงนี้
หลายๆ ครั้งเราเลือกไม่ได้ดังใจปรารถนา ...เราได้แค่ ประคับประคอง ....
คำว่า เรา ไม่ใช่ประกายดาวนะคะ เราในที่นี้คือ โครงสร้าง และความจำเป็น ของแต่ละบ้าน

อย่างบ้าน ประกายดาว ....วันไหนๆ ทำอะไรก้ได้ แต่วันอาทิตย์ ต้องเป็น วันรวมญาติ
ถ้าแม่อยู่ เช้าวันอาทิตย์ตื่นสายได้ แต่ต้องกิน brunch ด้วยกัน สารพัดชนิด บนโต๊ะ ที่แม่เตรียมไว้
ไถ่ถามทุกข์สุข ...แต่ถึงบางบ้าน ทำไม่ได้ หนูก็ ว่า มันมีวิธีการส่งผ่านความรัก ความห่วงใย
การ get in touch กันมากมาย ....เหมือนเราอยู่ใกล้ๆ กัน ....

แถม ยังได้ ใช้มือถือ ส่งตัวหนังสือ ดีๆ ส่งความคิดถึง ถึงกัน ...ให้ชื่นใจ...ให้ ยิ้มหวานก่อนนอน

ก็ประกายดาว ยังไม่ได้ มี หวานใจคนรู้ใจ( แถมยัง คุยภาษา นก)  เคียงหมอน
 แบบพี่คำตัดพ้อนี่คะ  

[ThailandReport]

ผิดกะผมนะคับ คุณประกายดารา

ผมติดมือถือคับ คุณคนชอบตัดพ้อ

วันๆ ผมใช้โทรศัพท์เป็นชีวิต จิตใจ
ทำงานก็คือโทร
ซื้ออะไรก็ต้องโทร
จีบสาว ก็โทรอีก

เช้าต้องโทรไปปลุก "เจ้านาย"
สายต้องโทร รายงานข่าว
เที่ยงต้องโทร สั่งข้าว
บ่ายต้องโทร ...สั่งงาน
เย็นต้องโทร ..(เพราะคิดถึง ...ในบางครั้ง แต่ชักถี่..)
ค่ำต้อง โทรหา ใครต่อใคร (จะมีกินเลี้ยงที่ไหนไหมคืนนี้ ฮ่าๆ)
ดึกต้องโทร......หาใครคนนึง(หรือ 2-3 คน) .....ถ้าสวรรค์เป็นใจ 



ชีวิตผมผูกพันกะ มือถือ มากกว่า ไอ้เหลี่ยม อีกนะขอบอก 

[คำตัดพ้อของใบไม้]

แถม ยังได้ ใช้มือถือ ส่งตัวหนังสือ ดีๆ ส่งความคิดถึง ถึงกัน ...ให้ชื่นใจ...ให้ ยิ้มหวานก่อนนอน

ก็ประกายดาว ยังไม่ได้ มี หวานใจคนรู้ใจ( แถมยัง คุยภาษา นก)  เคียงหมอน
 แบบพี่คำตัดพ้อนี่คะ  
 
-----------------------------------------------------------------------------------------



---- แหมน้องดาวจ๊ะ----  ถ้าสักวันวันหนึ่งน้องดาวมี
พี่ว่า  คงเป็นประเภทนี้เลยล่ะ   ชี้นกเป็นนก  ชี้ไม้เป็นไม้
-----ด้วยความน่ารักของย้องดาวไงคะ--

[คำตัดพ้อของใบไม้]

ผิดกะผมนะคับ คุณประกายดารา

ผมติดมือถือคับ คุณคนชอบตัดพ้อ

วันๆ ผมใช้โทรศัพท์เป็นชีวิต จิตใจ
ทำงานก็คือโทร
ซื้ออะไรก็ต้องโทร
จีบสาว ก็โทรอีก

เช้าต้องโทรไปปลุก "เจ้านาย"
สายต้องโทร รายงานข่าว
เที่ยงต้องโทร สั่งข้าว
บ่ายต้องโทร ...สั่งงาน
เย็นต้องโทร ..(เพราะคิดถึง ...ในบางครั้ง แต่ชักถี่..)
ค่ำต้อง โทรหา ใครต่อใคร (จะมีกินเลี้ยงที่ไหนไหมคืนนี้ ฮ่าๆ)
ดึกต้องโทร......หาใครคนนึง(หรือ 2-3 คน) .....ถ้าสวรรค์เป็นใจ 



ชีวิตผมผูกพันกะ มือถือ มากกว่า ไอ้เหลี่ยม อีกนะขอบอก 

------------------------------------------------------------

    แล้วจะเอาเวลาไหนมาทบทวน  -----สำนวนที่จีบสาวล่ะค่ะ

๕๕๕๕

[ThailandReport]

เวลานี้ ไงคับ 

[คำตัดพ้อของใบไม้]

              แค่มี


อาจจะมีพร้อม แต่ชีวิตก็ยังวุ่นวาย
ยังไม่พอดี ยังไม่พอใจ ถึงไม่หนาวกายแต่หนาวใจอยู่ดี

อาจจะมีน้อย แต่ไม่ขอให้มีมากมาย
มีแค่พอดี มีแค่พอใจ ถึงต้องหนาวกายแต่หัวใจอุ่นดี

อุ่นใจแล้ว แค่มีเธอกับฉัน
รักกันตลอดไปด้วยใจ ใจที่หวังดี
อุ่นใจแล้ว หนาวเย็นสักแค่ไหน
เมื่อมีรักเข้าใจ จะมีอะไรอุ่นกว่านี้

อยู่ในความรัก อาจจะเหมือนว่าไม่มีใคร
แต่รู้ว่ามีเธอ เธอที่เข้าใจ
ถึงต้องหนาวกายแต่หัวใจอุ่นดี

อุ่นใจแล้ว แค่มีเธอกับฉัน
รักกันตลอดไปด้วยใจ ใจที่หวังดี
อุ่นใจแล้ว หนาวเย็นสักแค่ไหน
เมื่อมีรักเข้าใจ จะมีอะไรอุ่นกว่านี้

อุ่นใจแล้ว แค่มีเธอกับฉัน
รักกันตลอดไปด้วยใจ ใจที่หวังดี
อุ่นใจแล้ว หนาวเย็นสักแค่ไหน
เมื่อมีรักเข้าใจ จะมีอะไรอุ่นกว่านี้

อยู่ในความรัก อาจจะเหมือนว่าไม่มีใคร
แต่รู้ว่ามีเธอ เธอที่เข้าใจ
ถึงต้องหนาวกายแต่หัวใจอุ่นดี

รู้ว่ามีเธอ เธอที่เข้าใจ ถึงต้องหนาวกายแต่หัวใจอุ่นดี

http://www.thaihealth.net/music/modules.php?name=News&file=article&sid=111

[คำตัดพ้อของใบไม้]

Maybe I'll be ready, but life is still endlessly confusing
It's still not enough, and I'm still unsatisfied
Although i don't feel cold on the outside
I am cold and lonely on the inside
I might only have a little, but I don't ask for a lot
I want just enough so that I can be content
Even if it's cold on the outside, at least my heart will be warm
And now my heart is warm, and I have only you with me
We will love eachother forever with hearts filled with wishes of hope
None of the cold in the world matters because my heart is already warm
When your heart is filled with love can there be anything warmer than this?
To be in love, might be the same as having no-one
But I know that I have you, you that understand me, even when everything is cold on the outside my heart is still warm
And now my heart is warm and I have only you with me
We will love eachother forever with hearts filled with wishes of hope
None of the cold in the world matters because my heart is already warm
When your heart is filled with love, can there be anything warmer than this?
And now my heart is warm, and I have only you with me
We will love eachother forever with hearts, filled with wishes of hope
None of the cold in the world matters because my heart is already warm
When your heart is filled with love can there be anything warmer than this?
To be in love might be the same as having no-one
But I know that I have you, you that understand me, even when everything is cold on the outside my heart is still warm
I know that I have you, you that understand me, even when everything is cold on the outside my heart is still warm

http://www.educatepark.com/english/t_song_pages/request_music/select_music.php?request_id=446

[แอ่นแอ๊น]

ก่อนนอน คืนนี้ จงจำให้ดี นะ
เธอพร้อม จะพบปะ กับนางฟ้า หรือยัง
นางฟ้า จะมาหา ถาม เธอทุกอย่าง
ว่าเธอ ทำสิ่งใด ไว้บ้าง

ใครใจร้าย ใครโกง รังควาน
แกล้ง ทรมาน เตรียมพบพาน นางฟ้าให้ดี
ใครคนไหน ใจปราณี
เมตตา ดังน้องพี่
หลับให้ดี พบนางฟ้าเอย

เพลงนี้จำไม่ได้ว่าใครแต่ง ได้ยินมาจากตอนเด็กๆ หน่ะค่ะ คิดเองเองว่าชื่อเพลง นางฟ้า

[คำตัดพ้อของใบไม้]

ก่อนนอน คืนนี้ จงจำให้ดี นะ
เธอพร้อม จะพบปะ กับนางฟ้า หรือยัง
นางฟ้า จะมาหา ถาม เธอทุกอย่าง
ว่าเธอ ทำสิ่งใด ไว้บ้าง

ใครใจร้าย ใครโกง รังควาน
แกล้ง ทรมาน เตรียมพบพาน นางฟ้าให้ดี
ใครคนไหน ใจปราณี
เมตตา ดังน้องพี่
หลับให้ดี พบนางฟ้าเอย

เพลงนี้จำไม่ได้ว่าใครแต่ง ได้ยินมาจากตอนเด็กๆ หน่ะค่ะ คิดเองเองว่าชื่อเพลง นางฟ้า

    ถึงแม้พ่อแม่ยุคใหม่บางคน  ร้องเพลงกล่อมเด็กไม่เป็น
แค่ไม่ทะเลาะกัน  ปิดเพลงไทยๆ  ช้าๆๆ  คลาสสิคเนื้อเพลงมีคุณค่า
มีความหมาย  ให้ลูกน้อยฟังทุกคืน  ก็ถือว่ามีคุณค่ามากพอแล้วล่ะค่ะ

[THE THIRD WAY]

มารอเพลงกล่อมเด็ก
จนหิวนมแล้วกั๊บ

[THE THIRD WAY]

เพลงกล่อมเด็กภาคใต้
เพลงเดือนขึ้น


เดือนขึ้นเหอ ขึ้นมาเทียมปลายไม้ไผ
รักกันแต่ในใจ ไม่เท่ให้ไคไปขอให้
ตัวพี่เป็นแมงโภ่ สวนนางโรปโอเป็นดอกไม้
ไม่เท่ให้ใครไปขอให้ รักกันแต่ใน....เอ้อเหอ...ใจ

ศัพท์ ไค = ใคร , แมงโภ่ = แมลงภู่ , โรปโอ = มีรูปงาม

เพลงบทนี้กล่าวเปรียบกับความรักที่บริสุทธิ์
แต่มีอุปสรรคที่ไม่มีสื่อ ว่าความรักอันงามชวนฝันเหมือนแสงจันทร์เริ่มขึ้นสู่ฟ้างามและสดชื่นเหมือนฝัน
 แต่อนิจจาแม้พี่กับน้องจะเป็นคู่ปองกันเหมือนแมงภู่กับดอกไม้ก็ตาม
พี่ได้แต่รักและคำนึงอยู่ในใจเท่านั้น พี่ยังไม่เห็นทางว่าจะไหว้วานใครไปช่วยสู่ขอน้อง
 รักของพี่จึงดูเลือนลางเต็มที คล้ายแสงจันทร์ที่อ่อนงามแต่ทว่ามียอดไผ่มาบดบังไว้ให้เห็นได้เพียงวับๆแวมๆ เท่านั้น
เพลงบทนี้ สามารถนำธรรมชาติมาเปรียบกับความรักได้ดีและยังทิ้งความหวังไว้ด้วยคือให้รอต่อไป
 รอจนกว่าแสงจันทร์ขึ้นพ้นทิวไผ่แล้วก็ได้เห็นแสงจันทร์นั้นเต็มที่ คือรอให้ฝ่ายหญิงแสดงความรักอันบริสุทธิ์ให้
ปรากฎชัดนั้นเอง นอกจากนี้ เพลงบทนี้ยังแสดงให้เห็นว่าชาวบ้านนั้นนิยมปลูกไม้ใหญ่เช่นต้นไผ่เป็นรั้วบ้าน

จาก : คติชาวบ้านปักษ์ใต้
โดย : สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์


เพิ่มเติม... โดยผมเอง
เดือนขึ้นเหอ ขึ้นมาเทียมปลายไม้ไผ่---จันทร์เจ้าเอ๋ยโผล่ขึ้นมาเพียงยอดไผ่
รักันแต่ในใจไม่เท่ให้ใครไปขอให้---รักกันแต่ในใจไม่ทราบจะพึ่งพาใครไปสู่ขอให้
ตัวพี่เป็นแมงโภ่ส่วนนางรูปโอเป็นดอกไม้---ตัวพี่เป็นแมลงภู่ส่วนแม่นางเหมือนดอกไม้
ไม่เท่ให้ใครไปสู่ขอให้ รักกันแต่..เอ้อเหอ...ในใจ---ไมทราบจะพึ่งใครไปสู่ขอให้ รักกันไว้แต่เพียงในใจ