ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-11-2024, 12:32
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ร้อยรักษ์กวีวรรณ  |  อาหารทิพย์ อาหารสำหรับคนพิเศษ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อาหารทิพย์ อาหารสำหรับคนพิเศษ  (อ่าน 3360 ครั้ง)
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« เมื่อ: 30-08-2006, 15:11 »



ในสายลมเบาหวิวผ่านสัมผัส

เงียบสงัดหยุดนิ่งยิ่งกว่าฝัน

สายรุ้งเรืองทอทาบวูบวาบครัน

คราเมื่อนั้นบังเกิดรักในใจคน

ซึมสอดแทรกชำแรกเหมือนแยกร่าง

ทั่วสรรพางค์บางเบาเกินตาเห็น

จิตและกายผสานเดียวไร้ร้อนเย็น

เรื่อเรืองเช่นโชติชัชวาลย์ในม่านเมฆ

ผะผ่าวแผ่วไออุ่นปกคลุมอยู่

ระลึกรู้ลางเลือนแต่แจ่มใส

คะคลับคล้ายประทับกลางดวงใจ

เหมือนดั่งไฟดังน้ำแข็งไปพร้อมกัน

พลันปรากฎประกายยิ่งเจิดจ้า

กว่าดวงตาใดใดจ้องมองได้

สุกสว่างเจิดจรัสอยู่พราวพราย

หิวกระหายมลายสิ้นปราศนาการ

ดื่มกินได้ไม่สิ้นไร้ขอบเขต

ทั่วทิศเทศแคว้นคามไร้ความหมาย

อาหารทิพย์อันเจาะจงจักกำจาย

แสนสบายเพื่อเธอจะรู้เอง....
Cool


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2006, 15:17 โดย 999 » บันทึกการเข้า

la rosa
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15


« ตอบ #1 เมื่อ: 30-08-2006, 19:03 »

เจ้าบรรจงมอบวางไว้กลางใจพี่
คนเขลานี้หลงลมคารมฝัน
หว่านคำรักโปรยคำซึ้งถึงดวงมาลย์
จะกี่วานกี่วันเดือนมิเคลื่อนคลาย

แม้ตัวจากหัวใจพี่ไม่เคยเปลี่ยน
ยังเสถียรรอนางจนร่างสลาย
อยากให้รู้ว่าสุดรักไม่กลับกลาย
เป็นดาวรายเฝ้ามองน้องเรื่อยไป

หากกายเจ้าอิงแอบแนบชายอื่น
ขอรักคืนจากเจ้าได้หรือไม่
แม้เคยเป็นอาหารทิพย์หยิบถึงใจ
คงกลับกลายเป็นน้ำกรดรดราดริน

หากคลอนแคลนใจน้องไม่คงมั่น
ไม่คาดคั้นคำสัญญาให้ถวิล
ขอเพียงเจ้าบอกลาให้ได้ยิน
จะไม่เป็นเหลือบไรริ้นมลทินนวล...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2006, 19:25 โดย la rosa » บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #2 เมื่อ: 31-08-2006, 06:03 »




ภักษาหาร ทิพยพิมาน ลำธารใส
เสมอใน สะท้านทรวง สนั่นเสียง
ก้องกระแส สาดสะพัด สะบัดเคียง
กระเซ็นเยี่ยง ระยับย้าย มิพ่ายแพ้

จะเป็นพิษ ฤทธิ์ละร้าย เมื่อพ่ายรัก
จงตระหนัก รักมิขัด รักมิสม
อาจจะเป็น รักหะห่าม รักมิตรม
รักเชยชม รักในรัก จักเป็นคุณ


The Supremes   A Lover's Concerto
Richard Marx   Can't Help Falling In Love
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 06:07 โดย 999 » บันทึกการเข้า

ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #3 เมื่อ: 31-08-2006, 07:04 »

สวัสดีครับ จขกท

ในสายลมเบาหวิวผ่านสัมผัส
เงียบสงัดหยุดนิ่งยิ่งกว่าฝัน
สายรุ้งเรืองทอทาบวูบวาบครัน
คราเมื่อนั้นบังเกิดรักในใจ...คน

ซึมสอดแทรกชำแรกเหมือนแยกร่าง
ทั่วสรรพางค์บางเบาเกินตา...เห็น
จิตและกายผสานเดียวไร้ร้อนเย็น
เรื่อเรืองเช่นโชติชัชวาลย์ในม่านเมฆ....ไม่นิยมลงคำท้ายบทด้วยคำตายเสียงยาว
หากจะใช้คำตาย..นิยมใช้คำตายเสียงสั้นเสียงตรีเท่านั้น..ภพ..ซบ..ครบ..รัก..พักตร์ ฯ


ไม่แน่ใจว่าตั้งใจเขียนกลอนแปดหรือเปล่า
แต่เห็นว่าขาดสัมผัสระหว่างบท
คำสุดท้ายบทแรก คือ คน
คำสุดท้ายวรรค ๒ ของบทต่อมา คือ เห็น ซึ่งไม่รับสัมผัส
ต้องเป็น แม่กน เหมือน คน คือ หน..ผล..ด้น..ข้น..หม่น...
จึงจะร้อยกลอนระหว่างบทต่อกันไปได้



ผะผ่าวแผ่วไออุ่นปกคลุมอยู่
ระลึกรู้ลางเลือนแต่แจ่มใส
คะคลับคล้ายประทับกลางดวงใจ....คะคลับคล้าย..ก็คลับคล้าย..จะดีกว่า
เหมือนดั่งไฟดังน้ำแข็งไปพร้อมกัน

พลันปรากฎประกายยิ่งเจิดจ้า
กว่าดวงตาใดใดจ้องมองได้
สุกสว่างเจิดจรัสอยู่พราวพราย....สระอาย..ไม่ใช้รับ...สระไอ
หิวกระหายมลายสิ้นปราศนาการ

ดื่มกินได้ไม่สิ้นไร้ขอบเขต
ทั่วทิศเทศแคว้นคามไร้ความหมาย
อาหารทิพย์อันเจาะจงจักกำจาย
แสนสบายเพื่อเธอจะรู้เอง....

กลอนแต่ละบทที่เขียนถูกต้องในตัวอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่รับส่งระหว่างบทเท่านั้น
บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #4 เมื่อ: 31-08-2006, 07:10 »

๐ เพลงยาว ๐

๐ บรรจงจารอักษรเว้าวอนถึง
ว่าท่วมอกลึกล้ำรอยคำนึง
แต่ผู้ซึ่งไกลห่างอยู่ต่างแดน

๐ จากกระท่อมหลังเก่าใต้เงาพฤกษ์
ฝากรำลึกถึงใครผู้ไกลแสน
เรียงบุปผาดังถ้อยเอาร้อยแทน
ให้หอมแม้นเสน่หาที่อาวรณ์

๐ สู่เคหาสน์ยศถาบรรดาศักดิ์
ถวิลนักก็แต่ทอดฤทัยถอน
หวังย่อมหวังสายตาเหลือบอาทร
รับรู้ร้อนรอยเลศในเจตนา

๐ เหมือนสืบชาติปางหลังแต่ครั้งเก่า
พอเห็นเข้าเฝ้าคอยละห้อยหา
เสมอรูปพิมพ์ร่างท่านสร้างมา
ให้หลอนตาลอบเร้นไม่เว้นวาย

๐ พี่เหมือนไม้ลอยแช่กระแสสินธ์
จะดับดิ้นก็ย่อมแต่กระแสสาย
ลำธารเล่ห์เสน่หาไหลท้าทาย
อาจดับหมายอันถวิลจนสิ้นลม

๐ รอคอยความปรานีใครมีให้
ต่ออาลัยเป็นพลังพลอยสั่งสม
แนบช่วงกาลชุ่มชื่นมอบรื่นรมย์
ให้หอมห่มกรุ่นมนต์สุคนธา

๐ เหนี่ยวพุ่มพวงบุปผาบรรดาสี
แทนใจที่มุ่งมาดด้วยปรารถนา
วางกำลังสุจริตเป็นฤทธา
เพื่อคุณค่าเผยในน้ำใจเดียว

๐ บำบวงทิพสังคีตให้กรีดกล่อม
ใจหนึ่งน้อมเผื่อแผ่ช่วยแลเหลียว
ค่ำคืนจักแขวนขวัญกับจันทร์เรียว
ทั้งลอบเหนี่ยวอีกขวัญผูกกันไป

๐ ร้อยวาจาแทนใจมอบให้เจ้า
อยู่กับเหย้ารอหน้าได้อาศัย
ค่ำคืนนี้จะแทรกฝ่านิทราใคร
เตรียมเถิดใจ...รอรับ...ทุกหลับตา
บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #5 เมื่อ: 31-08-2006, 07:27 »

สวัสดีครับ จขกท

ในสายลมเบาหวิวผ่านสัมผัส
เงียบสงัดหยุดนิ่งยิ่งกว่าฝัน
สายรุ้งเรืองทอทาบวูบวาบครัน
คราเมื่อนั้นบังเกิดรักในใจ...คน

ซึมสอดแทรกชำแรกเหมือนแยกร่าง
ทั่วสรรพางค์บางเบาเกินตา...เห็น
จิตและกายผสานเดียวไร้ร้อนเย็น
เรื่อเรืองเช่นโชติชัชวาลย์ในม่านเมฆ....ไม่นิยมลงคำท้ายบทด้วยคำตายเสียงยาว
หากจะใช้คำตาย..นิยมใช้คำตายเสียงสั้นเสียงตรีเท่านั้น..ภพ..ซบ..ครบ..รัก..พักตร์ ฯ


ไม่แน่ใจว่าตั้งใจเขียนกลอนแปดหรือเปล่า
แต่เห็นว่าขาดสัมผัสระหว่างบท
คำสุดท้ายบทแรก คือ คน
คำสุดท้ายวรรค ๒ ของบทต่อมา คือ เห็น ซึ่งไม่รับสัมผัส
ต้องเป็น แม่กน เหมือน คน คือ หน..ผล..ด้น..ข้น..หม่น...
จึงจะร้อยกลอนระหว่างบทต่อกันไปได้



ผะผ่าวแผ่วไออุ่นปกคลุมอยู่
ระลึกรู้ลางเลือนแต่แจ่มใส
คะคลับคล้ายประทับกลางดวงใจ....คะคลับคล้าย..ก็คลับคล้าย..จะดีกว่า
เหมือนดั่งไฟดังน้ำแข็งไปพร้อมกัน

พลันปรากฎประกายยิ่งเจิดจ้า
กว่าดวงตาใดใดจ้องมองได้
สุกสว่างเจิดจรัสอยู่พราวพราย....สระอาย..ไม่ใช้รับ...สระไอ
หิวกระหายมลายสิ้นปราศนาการ

ดื่มกินได้ไม่สิ้นไร้ขอบเขต
ทั่วทิศเทศแคว้นคามไร้ความหมาย
อาหารทิพย์อันเจาะจงจักกำจาย
แสนสบายเพื่อเธอจะรู้เอง....

กลอนแต่ละบทที่เขียนถูกต้องในตัวอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่รับส่งระหว่างบทเท่านั้น


โอวิจารณ์ตรงๆ ดีครับ เพราะผมแต่งกลอนตามแบบธรรมชาติ ไม่เคยศึกษาเรื่องฉันทลักษณ์จริงจังเลยครับ เข้าใจว่าคงมีประโยชน์ในแง่แบบแผน เพื่อไม่ให้เพี้ยนไปมาก ส่วนรับระหว่างบทก็คงเพื่อให้สามารถมีเสียงเชื่อมโยงเป็นสักวาอะไรไป ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #6 เมื่อ: 31-08-2006, 07:41 »



แต่งเพลงยาวเรียงร้อยเรียกร้อยกรอง
ท่วงทำนองโบราณว่าเกี้ยวสาว
หากจะแต่งต่อถ้อยสร้อยเรื่องราว
คงถึงดาวที่พราวพรายประกายรัก
หรือจะแต่งกาพย์กลอนท่องโคลงฉันท์
คำประพันธ์บอกใจผูกสมัคร
ก็ยาวได้จนจบประสบพักตร์
เขาคึกคักข้าก็ว่าน่าจะดี..
บันทึกการเข้า

999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #7 เมื่อ: 31-08-2006, 07:53 »


กลับมา เรื่องรัก บทพัน
กำนัล จากฟ้า ฤาไฉน
จะแต่ง ก็ แต่งไป
สุขใจ ได้ แต่งเอย

เอยแล้วก็ไม่จบได้
ร้องไห้ให้แกล้งเฉลย
เรียกว่ากลอนยั่วก็เคย
กลอนเกยไร้รูปจะจูบดม อิอิ จนครบพัน
บันทึกการเข้า

ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #8 เมื่อ: 31-08-2006, 08:15 »

ครับ
ยินดีที่ได้พูดคุยกัน

๐ งานบุญ ๐

๐ จะเอื้อมคว้าดอกไม้..........เด็ดประดับ
เกรงภู่ภมรขยับ..................แย่งยื้อ
ไรเกศระริกรับ....................รอมาศ ฤๅแม่
มาลย์กลิ่นเกรงอับอื้อ..........เมื่อกลั้วเกศศรี

๐ แต่งานบุญจุลกฐินได้ยินเสียง
กลองกรับฉิ่งฉาบเคียงสำเนียงก้อง
มวลดอกไม้โกสุมพานพุ่มทอง
เคลื่อนสู่ท้องโรงทานข้างลานวัด

๐ ชั่วเพียงลมโบกปลิวผ่านริ้วหน้า
ก็สบตาอกต้อง...จนข้องขัด
เจ้า..ชดช้อยค่อยย่างอยู่กลางชัฏ
เดินเลาะลัดผ่านเห็นใจเต้นรัว

๐ ปอยเส้นผมปัดปลิวคลอริ้วแก้ม
แต่เมื่อแย้มชำเลืองก็เรืองทั่ว
ห้องหัวใจโลมรดจนหมดมัว
เริ่มกาลกลั้วอกกล้ำสู่ลำเค็ญ

๐ นิ้วเรียวนั้นหยิบจับสำรับส่ง
ธำมรงค์วงไหนก็ไม่เห็น
กิริยาจับเลือกล้วนเยือกเย็น
นั่น.!..เหมือนยิ้มลอบเร้นพอเห็นนัย

๐ หรือ..มีบุญหนุนสร้างแต่ปางเก่า
พอเห็นเข้าตรึงจิตพิสมัย
ยากแต่ละสายตาจากหน้าไป
ง่ายก็ใจรุ่มร้อนเกินผ่อนลง

๐ แม่เอย..ดั่งหยาดฝนที่หล่นต้อง
ให้อกนองชื่นชุ่มด้วยลุ่มหลง
ประทับล่วงสู่จิตเกินปลิดปลง
คือรูปทรงเจ้าประทับอยู่นับนาน

๐ ถึงกาลเพลเกณฑ์แรงช่วยแบ่งจ่าย
ร่วมถวายข้าวปลาภัตาหาร
มือต่อมือแตะซ้ำเริ่มตำนาน
สร้างยิ้มหนึ่งแสนหวานให้ผ่านตา

๐ สุรโลกชะลอลงก็คงใช่
แต่เมื่อใจผูกกันปลายพรรษา
แม่เอย..ที่พร่างแพร้วในแววตา
ย่อมรูปหน้าแม่หยั่ง...เสียทั้งนั้น

๐ แต่ละก้าวยกย่างแม่วางไว้
คอยเหยียบย่ำอกใจจนไหวสั่น
แต่ละท่วงทีเคลื่อนก็เหมือนทัณฑ์
ที่กระทั้นเข้าแทรกชำแรกทรวง

๐ พอเสียงใจเต้นรัวร่ำทั่วอก
ก็เหมือนยกอาลัยเป็นไห้หวง
โหยเห็นปรารถนาสุดาดวง
เกรงจะล่วงลับคำสิ้นสำเนียง

๐ พี่ดุจนกโบยบินมาถิ่นเหนือ
ช่วยจุนเจือต่อถวิลให้ยินเสียง
ขอบุญพระอุ้มชูได้คู่เคียง
ร่วมภพเพียงแม่นั้นนิรันดร์เทอญ

๐ รอยภพราวแผ่ซ้อน...........ทับกัน
ดึงจับสองใจพัน..................ผูกไขว้
ลำบากจักพรากขวัญ...........ไกลห่าง นะแม่
คงสาปใดบ่งไว้...................แน่นแฟ้นเหลือฝืน
บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #9 เมื่อ: 31-08-2006, 08:15 »

ในสายลมเบาหวิวผ่านสัมผัส

เงียบสงัดหยุดนิ่งยิ่งกว่าฝัน

สายรุ้งเรืองทอทาบวูบวาบครัน

คราเมื่อนั้นบังเกิดรักในคนเป็น

ซึมสอดแทรกชำแรกเหมือนแยกร่าง

ทั่วสรรพางค์บางเบาเกินตาเห็น

จิตและกายผสานเดียวไร้ร้อนเย็น

เรื่อเรืองเช่นโชติชัชวาลย์ในม่านไหม

ผะผ่าวแผ่วไออุ่นปกคลุมอยู่

ระลึกรู้ลางเลือนแต่แจ่มใส

ณ คลับคล้ายประทับกลางดวงใจ

เหมือนดั่งไฟดั่งน้ำแข็งพร้อมกันไป

พลันปรากฎประกายยิ่งเจิดจ้า

กว่าดวงตาใดใดจ้องมองได้

สุกสว่างเจิดจรัสอยู่พราวพราย

หิวกระหายมลายสิ้นล้วนกลับกลาย

ดื่มกินได้ไม่สิ้นไร้ขอบเขต

ทั่วทิศเทศแคว้นคามไร้ความหมาย

อาหารทิพย์อันเจาะจงจักกำจาย

แสนสบายเพื่อเธอจะรู้เอง....


บทที่1001...เพื่อ ariyaka และกลอนกานท์
บันทึกการเข้า

ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #10 เมื่อ: 31-08-2006, 09:14 »

 Very Happy
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 13:53 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #11 เมื่อ: 31-08-2006, 09:35 »

กาพย์กลอนนั้นหายาก
ต้องลำบากค้นคว้ามา
เรื่องราวตามประสา
เขาจะว่าว่าอย่างราย
แต่งต่ออย่าแต่งร้าย
จิตสบายมิเคยว่า
หากแต่งแย้งไปมา
อาจเสียท่าให้ได้อาย
ตามใจนะสหาย
เรื่องคลับคล้ายไม่พูดกัน
ต่อให้ถึงสวรรค์
ก็แค่ฉันกับตัวเธอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 09:37 โดย 999 » บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #12 เมื่อ: 01-09-2006, 02:54 »

พ่อนิ่มเนื้อนวลใยอบไออุ่น
กลิ่นกรุ่นกรุ่นหอมหวนยวนใจหญิง
มาบอกรักรักลวงฤารักจริง
อยากแอบอิงพิงซบอบอุ่นไอ

หรือเพียงล่อหลอกลวงดวงใจสาว
ให้เจ็บร้าวอะคร้าวทรวงต้องร่ำไห้
มาแลตาแสร้งรักแล้วลืมไป
ตัดบัวไม่เหลือใยเศร้าใจจริง

ดั่งรักเร่เล่ห์รักถวิลหา
รักเจ้าขารักข้าฯดังถูกสิง
รักเจ้าเอยหลอกล่อคล้ายฝูงลิง
อย่าเฉยนิ่งโปรดตอบขอขอบคุณ

มาทำการบ้านส่งครูค่ะ
Smile
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2006, 03:32 โดย ดอกฟ้ากับหมาวัด » บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #13 เมื่อ: 01-09-2006, 11:29 »

พี่เนื้อเหี่ยวเรี่ยวแรงน้อยค่อยค่อยย่อง
คอยเยี่ยมเยี่ยมมองมองแม่น้องหญิง
ใจไม่กล้าจะว่ารักหนักใจจริง
หวังแอบอิงพิงหลังยืมตังค์เธอ

ไม่ลวงหลอกดอกสาวพี่หนาวเหน็บ
ถึงปวดเจ็บคอยจ้องมองเสมอ
จะคอยเฝ้าเจ้าไว้ไม่เผอเรอ
หวังน้องเผลอไผลปลื้มให้ยืมตังค์

สวัสดีครับคุณ๙๙๙ คุณอริยกะ  คุณดอกฟ้า
บันทึกการเข้า
somebody
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 244



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 01-09-2006, 14:23 »



กลอนตลาดการตลกก็ทำมา
กลอนนำพาการนำกลอนมาผ่อนผัน
กลอนพาไปไปพาเธอทุกคืนวัน
กลอนพาฝันฝันเป็นเธอละเมอครวญ

ชวนยืมตังส์ตังส์ของชวนหรือทักษิณ
ชวนไปบินบินไปชวนต้องสอบสวน
ชวนดมดอมดอมดมโดยโชยยั่วยวน
ชวนลำดวนดวลยืมตังส์พังน่ะซี
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #15 เมื่อ: 02-09-2006, 01:30 »

อยากตัดเยื่อไม่เหลือไว้ใยสวาท
อยากตัดขาดจากโลกและทุกสิ่ง
เพราะหลงรักเข้าแล้วจากใจจริง
ด้วยรักยิ่งยอมทุกสิ่งพร้อมเผชิญ

''เถอะน้องจ๋าพี่ยืมก่อนผ่อนทีหลัง''
นั่งอึ้งฟังหลังพิงฝาทำท่าเขิน
ตอนแรกรักทำท่ารักเหลือเกิน
แสนบังเอิญน้องเพิ่งรู้อยากกู้เงิน



สวัสดีทุกท่านค่ะ Smile
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2006, 01:44 โดย ดอกฟ้ากับหมาวัด » บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #16 เมื่อ: 02-09-2006, 13:53 »

กลอนตลาดดาษดื่นพี่ฝืนเขียน
กลอนพากเพียรเรียนมาอย่าเห็นขัน
กลอนพาไปใจพาเพ้อละเมอพลัน
กลอนพาฝันกันใจเผลอเก้อเขินจริง

จะตัดเยื่อเหลือไยเอาไว้บ้าง
ตัดสวาทขาดร้างห่างมิตรหญิง
คนเข็ญใจไร้หลักให้พักพิง
หนักใจยิ่งเธอทิ้งไปไม่ให้ยืม

ตอบ๒คนเลย  คุณซัมบอดี้  คุณดอกฟ้า  สวัสดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2006, 12:07 โดย komyen » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: