คดีทักษิณในมือศาลอาญากล่าวกันว่า เส้นทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากนักธุรกิจมาสู่ภาคการเมือง ผู้นำประเทศผู้ร่ำรวยและมั่งคั่ง ตกเป็นจำเลยในหลายคดีและหลายศาล
เอาเข้าจริง คดีที่อยู่ในศาลแพ่ง และศาลปกครอง อาจไม่กระทบต่อตำแหน่งทางการเมืองเท่าใดนัก
ก่อนหน้านี้ ดร.อักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุดกล่าวว่า คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกฟ้องอยู่ในศาลปกครองมีหลายคดี แต่เป็นการฟ้องคดีปกครอง ข้อหาการใช้อำนาจโดยมิชอบ เป็นการฟ้องต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ
หมายความง่ายๆ ก็คือ คดีปกครองไม่กระทบตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แต่คดีที่จะทำให้อำนาจวาสนาหมดสิ้นไปคือ คดีอาญาและคดีอาญาที่ต้องลุ้นจนตัวโก่งก็คือ การต่อสู้กันระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณกับ นายวิลเลียม ไลล์ มอนซัน นักธุรกิจชาวอเมริกัน ในปมผลประโยชน์สุดพิสดารในธุรกิจเคเบิลทีวี ไอบีซี ที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 10 ปี
จากพันธมิตรทางธุรกิจที่กลายมาเป็นคู่ต่อสู้ในคดีความ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2538 พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากนายวิลเลี่ยมในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งต่อมาทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง จึงทำให้นายวิลเลียมฟ้องกลับ
ทั้งนี้ คดีอาญาที่นายวิลเลียมฟ้องนั้น ทางทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ร้องต่อศาลว่าควรพิจารณาคดีแพ่งให้ถึงที่สุด คือ ชั้นศาลฎีกาเสียก่อน แล้วจึงค่อยไต่สวนคดีอาญา
เรื่องนี้นิ่งเงียบมานานกว่า 10 ปี จนนาย
วิลเลียมเองก็ถอดใจ หลบไปเลียแผลอยู่ที่ฟิลิปปินส์ เพราะรู้ดีว่า คู่ต่อสู้เป็นถึงนายกรัฐมนตรี มีอำนาจล้นฟ้า โอกาสชนะแทบไม่มี
แต่เมื่อสายลมเปลี่ยนทิศ อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกท้าทายจากอำนาจรอบทิศ นายวิลเลียมได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน และพวก ในคดีอาญาโทษฐานฟ้องเท็จและให้การเป็นเท็จต่อศาล ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2549
การลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งของนายวิลเลียม ได้รับแรงหนุนจากหลายฝ่าย ก่อนหน้านี้ ศาลได้มีคำสั่งรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง โดยจะเร่งพิจารณา 5 นัดรวด แล้วตัดสินทันที คือจะไต่สวนในวันที่ 18 และ 25 กันยายน วันที่ 2, 9 และวันที่ 16 ตุลาคม
หากสืบพยานโจทก์ 5 นัดรวด หรือโจทก์ตัดพยานบางปากออกไป เพราะเห็นว่าหลักฐานมัดจำเลยแน่นเพียงพอ ศาลอาญาย่อมสามารถวินิจฉัยได้ทันทีว่า จะรับคดีนี้ไว้พิจารณาหรือไม่
ประเด็นที่น่าจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เครียดก็คือ แค่เพียงศาลประทับรับฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องประกันตัวต่อศาลในฐานะจำเลยในคดี เบิกความเท็จ
ถ้าศาลอนุญาตให้ประกันก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าศาลอาญาไม่ให้ประกัน ชะตากรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจคล้ายกับชะตากรรมของพลตำรวจเอกวาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เป็นได้ หน้า 39
http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02pol03070849&day=2006/08/07คดีที่ทั้งกองเชียร์ทั้งฝ่ายไล่เฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อ ผลต่ออนาคตของประเทศโดยตรง