...
ถ้าไปเพื่อชาติจริง ทำไมต้องเอา ผบ ทบ ไป..จะไปเข้าพบกลุ่มอำนาจทหารฝ่ายนั้นใช่ใหม?...เพื่ออะไร?...การเข้าพบผู้นำของพม่า ไม่จำเป็นต้องเอา ผบ ทบ ไปถ้าเพียงแค่เจรจาอะไรบางเรื่อง เพราะ ผบ ทบ คงไปกำหนดอะไรทางด้านนโยบายไม่ได้ อีกทั้ง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความมั่นคงทางด้านทหารเลย(ถ้าเป็นอย่างที่อ้าง)
เหตุผลที่ไปพบเขา ตอนที่เขามีกลุ่มอำนาจใหม่เข้ามา คือ กลัวมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
กลัวมีอะไรเปลี่ยนแปลง?
หนึ่ง...ผลประโยชน์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง
สอง....นโยบายที่อาจจะเปลี่ยนไป
สาม....ความมั่นคงที่ต้องมีการพูดคุย
จะคิดจากอันที่สามก่อน...ความมั่นคง..เป็นเหตุผลที่ทำให้หนีบ ผบ ทบ ไปด้วย...ดูเหมือนสมเหตุสมผลดี..แต่..ความมั่นคงที่ว่าหลังจากที่เขามีกลุ่มอำนาจใหม่เข้ามา..เขายังไม่ได้ขยับตัวทำอะไรเลยสักนิด..จะกังวลไปทำไมให้น่าสงสัย..ยังไม่ได้ดูท่าทีเขา ความมั่นคงเรื่องใดจะเร่งด่วนถึงขนาดต้องถ่อไป กับ ผบ ทบ ของเรา มันเร่งรีบยิ่งกว่าปัญหาภาคใต้ของเราเชียวหรือ????? เหตุผลข้อนี้ผมไม่รับฟัง...ตกไป
อันที่สอง...นโยบายของรัฐบาลเขาที่อาจเปลี่ยนไป จึงต้องมีการพูดคุยกัน...อันนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย...ก็เขาพึ่งเข้ามานี่นะ...อีกอย่าง ทำไมต้องเหน็บ ผบ ทบ ไปด้วย ในเมื่อ ถ้าเป็นเรื่องนโยบาย ทหารมาเกี่ยวอะไร?...ถ้าบอกว่ากลัวตาย เอา ผบ ทบ เราไป ประกันอะไรได้??? หรือเขาเกรงใจเฉพาะ ผบ ทบเรา ไม่เกรงใจ นายกฯ ของเรา???? แล้วทำไมต้องเร่งรีบขนาดน้านนนน????? อันนี้ตกไป ไม่รับฟัง
อันแรก....ผลประโยชน์(ของชาติ) อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง????? อันนี้อยากรู้จังว่า เราทำการค้ากับพม่าด้วยหรือ???? เราบอยคอตพม่าอยู่หรือเปล่า???? รัฐบาลเราไม่ได้ทำการค้าเต็มรูปแบบกับพม่า (เท่าที่รู้) มีเพียงการค้าที่จำเป็นบางส่วนเท่านั้น เว้นแต่เอกชนไทยที่เข้าไปทำธุรกิจที่ันั่นที่เราต้องเข้าไปดูแลให้...พิจารณาจากเหตุผลข้อนี้ก็ไม่สมเหตุผล ทำไมต้องหนีบ ผบ ทบ ไปล่ะ?...เจรจากับใคร..ในเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจของชาติ แล้วมีข้อตกลงอะไรที่ต้องใช้ ผบ ทบ เข้ามามีส่วนในด้านนี้??????
เหตุผลสามประการที่ว่ามา ไม่เป็นเหตุให้ต้องรีบถ่อไปพม่าเลย ลงไปปัตตานีแบบเร่งด่วนยังพอจะฟังได้....
ยังมีอีกอันที่ผมแค่สงสัย
คือ ปกป้องผลประโยชน์ของตัวนายกฯเอง ไปในนามนักธุรกิจ จึงต้องหนีบ ผบ ทบ ไปด้วยในฐานะเพื่อนเป็นหลักประกัน และ อาศัยความสัมพันธ์ทางการทหารเข้ามาใช้เพื่อเจรจาในนามส่วนตัว (เพราะไม่ได้ไปในนามรัฐบาล)
ผมก็ขี้สงสัยไปเรื่อย ว่า ไอพี สตาร์ โครงการที่มีพม่าเป็นลูกค้าอยู่รายหนึ่ง ลงทุนไปเป็นหมื่นล้าน คงปล่อยให้สูญเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปไม่ได้ ... และถ้าสูญเสียตรงนี้ไป (รวมทั้งกรณีไอทีวี) เงินมูลค่า 73000 ล้าน ที่ได้จากการขายหุ้นในกลุ่มชิน อาจจะไม่เป็นการขายที่สมบูรณ์ ลูกหนี้ปฏิเสธไม่ต้องจ่ายหนี้ได้ เพราะข้อเท็จจริงในมูลค่าทรัพย์สินไม่ตรงกับความเป็นจริง...
ผมก็ขี้สงสัยอีกว่า นี่เป็นเหตุให้ท่านทักษิณไม่ยอมออกจากอำนาจสักทีหรือเปล่า??..สิ่งที่ท่านทำไว้มันเลวร้ายเกินกว่าจะปล่อยให้คนอื่นมาเห็นหรือ????
ก็แค่สงสัยนะครับ..อย่าฟ้องผมเลย
