ศาลสั่งจับ"ทนายแม้ว-ชูวิทย์-16 ม็อบหนุนกกต."หมิ่นศาล
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2549 18:30 น.
ศาลออกหมายเรียก ธนา-ชูวิทย์ ดูหมิ่น-ละเมิดศาล พร้อมม็อบก่อกวนอีก 16 คน ดำเนินคดี โทษคุกถึง 7 ปี อธิบดีศาลอาญา ย้ำศาลไม่ปิดกั้นบุคคลรับฟังการพิจารณาคดี แต่ต้องไม่ก่อความวุ่นวาย
วันนี้(28 ก.ค.)เวลา 16.20 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอำนวย ธันธรา อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมด้วยนายธันว์ บุญญตุลานนท์ เลขานุการศาลอาญา เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ก่อความวุ่นวายในบริเวณศาล และใช้ถ้อยคำไม่สุภาพวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาล ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุก 3 อดีต กกต. เมื่อวันที่ 25 ก.ค.49 ที่ผ่านมาว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวศาลได้ขอเทปจากสถานีโทรทัศน์มาตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่ามีบุคคลที่เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล ประมาณ 16 คน แต่เนื่องจากว่าทางศาลอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าทั้ง 16 คนเป็นใคร อยู่ที่ไหน ซึ่งจะต้องให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ช่วยตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบจนรู้ว่าบุคคลตามภาพถ่ายที่ศาลมีอยู่นั้นเป็นใครอยู่ที่ไหน ก็จะมีหมายเรียกตัวมาเพื่อไต่สวนต่อไป จึงฝากประชาชนที่สามารถชี้เบาะแสบุคคลทั้ง 16 คนช่วยแจ้งเบาะแส มาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือต่อเลขานุการศาลอาญาก็ได้
อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่เข้าข่ายกระทำความผิด ที่ศาลทราบชื่อแล้ว 2 คน โดยศาลได้ออกหมายเรียกแล้วในวันนี้ ประกอบด้วยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ โดยในวันนั้นนายชูวิทย์ ได้ถือถุงโอเลี้ยง และข้าวผัด 3 ชุดมาบริเวณหน้าศาล เพราะการกระทำเช่นนั้นทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นระหว่างตัวนายชูวิทย์ กับกลุ่มที่สนับสนุนกกต. ซึ่งน่าจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล ส่วนอีกคนคือนายธนา เบญจาทิกุล ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะน่าจะเข้าข่ายดูหมิ่นศาล
ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ภายหลังที่ตนในฐานะผู้บริหารและรองอธิบดีฯ ได้ร่วมกันพิจารณาจากหลักฐานเทปของสื่อมวลชนที่เรียกมาเปิดฟังแล้ว นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ก็ได้ถอดเทปมาให้ แต่อย่างไรก็ดีศาลจะได้สอบถามจากนายธนา อีกครั้งว่าให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เช่นนั้นจริงหรือไม่ เหตุผลที่ให้สัมภาษณ์เพราะอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าโทษของผู้กระทำผิดในกรณีนี้จะเป็นอย่างไร อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่าความหนักเบาขึ้นอยู่กับพฤติการณ์การกระทำผิดของแต่ละคน การพิจารณาโทษหรือการกระทำของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ข้อเท็จจริงเหล่านี้ต้องได้จากการไต่สวน เมื่อศาลไต่สวนแล้วได้ข้อเท็จจริงอย่างไร จะปรึกษาทีมผู้บริหารของศาลว่าจะลงโทษหนักเบาอย่างไร อย่างไรก็ตาม กรณีของบุคคล 16 คนนั้น ถือว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดละเมิดอำนาจศาล ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งฝ่ายที่ต่อต้านกกต. และฝ่ายสนับสนุนกกต. โดยศาลให้ความเป็นธรรมหากฝ่ายใดมาก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบริเวณศาล ก็เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลทั้งหมด ไม่ได้เลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยในส่วนของ 16 คนนี้ ศาลน่าจะส่งหมายเรียกได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 7 วัน แต่หากใครจะมาเข้าพบเพื่อชี้แจงต่อศาลก่อนที่จะได้รับหมายเรียกก่อนก็ได้ ไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ บทลงโทษความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท ส่วนความผิดฐานดูหมิ่นศาลมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลนั้น สามารถกระทำได้แต่ต้องเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงวิชาการหรือในข้อกฎหมาย ไม่ใช่ไม่พอใจแล้วใช้อารมณ์วิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้ศาลไม่ได้ปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสิน ซึ่งอยากจะเรียนให้ประชาชนได้รับทราบว่าการที่ศาลจำเป็นต้องดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้ เพราะการดำเนินกระบวนการพิจารณาในศาลจะต้องเป็นไปด้วยความสงบ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าฟังการพิจารณาได้ แต่จะต้องเป็นไปโดยสงบ ไม่ใช่มาก่อกวน จนกระทั่งการพิจารณาเป็นไปโดยความยากลำบาก ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป ศาลจะดำเนินกระบวนการพิจารณาไม่ได้เลย อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าว
ด้านนายธันว์ เลขานุการศาลอาญา กล่าวว่า
ขอให้สื่อมวลชนช่วยกันกระจายข่าวและวิงวอนประชาชนที่พบเห็นบุคคลตามภาพถ่ายที่ศาลจ้ง ให้แจ้งเบาะแสมาได้ที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน โดยพ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส. สน.พหลโยธิน หมายเลขโทรศัพท์ 06-626-6688 หรือ ที่สำนักเลขานุการศาลอาญา หมายเลขแฟกซ์ 02-541-2273 หรือโทรศัพท์ 02-541-2274 ได้ในวันราชการ
นอกจากนี้ส่วนผู้ที่มีความผิดเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลผ่านเวปไซด์ต่างๆ ขณะนี้ตนได้ประสานไปยังพล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ตรวจสอบผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ศาลด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000096761