เป็น อำมาตยาธิปไตยใหม่ครับ
คือ สื่อมีความสำคัญสูงขึ้นอีก มีอิทธิพลในแนวคิดของประชาชนสูงขี้นอีก (หากไม่มีการปฏิรูปสื่อ ทีวี แนวคิดคนชนบทก็จะไม่ต่างไปจากปัจจุบันและพร้อมจะถูกชักนำแนวคิดด้านการเมืองจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ในจังหวัด และหัวคะแนน นำมาซึ่งการซื้อเสียงขายเสียงเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง)
กลุ่มนักการเมืองเก่าที่หากินกับนายทุน(จากเดิมเคยไปเชิดชูเผด็จการทหาร) ต้องแปรรูปแบบออกไปเป็นการรวมพลังกันเองเพื่อก้าวเข้ามาเป็นรัฐบาล และรอรับการสนับสนุนจากกลุ่มทุน ที่จะระมัดระวังในการเข้ามาสู่การเมืองมากขึ้น เป็นการสนับสนุนอย่างโจ่งแจ้งและลับ ๆ แก่พรรคที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลและพร้อมก้าวเข้ามาทวงถามผลประโยชน์จากรัฐบาลที่เขาอาจมีส่วนสนับสนุนนั้น และจะกลายเป็นการคอรัปชั่นเชิงนโยบายอีกเช่นเดิม
ทหารเปลี่ยนบทบาทใหม่ และกลายเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ โดยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก(ขอบคุณทหาร นายทหารชุดนี้ทุกท่านที่หนักแน่นยืนยันกันมาตลอดว่าไม่มีปฏิวัติ ขอบอกว่าทุกท่านเป็นลูกผู้ชายอย่างแท้จริง)
รัฐบาลชุดใหม่
ถ้า
เป็นรัฐบาลผสม จะเจอกับปัญหาการพัฒนาประเทศที่คงสู้ไม่ได้กับรัฐบาลที่เป็นเอกภาพอย่างไทยรักไทย และจะมีการขัดขากันเองทางการเมืองเช่นเดิมส่งผลในการพัฒนาประเทศ และเศรษฐกิจ..และอายุไม่ยืนแน่นอน
ถ้าเป็นรัฐบาลพรรคเดียว...(ไม่นับการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่รัฐบาลต่อไปอายุคงไม่ยาวนานเพราะต้องมาแก้ไขอะไร ๆ ก่อนยุบสภาไปอีก) จะดีขึ้น และ ต้องรักษาภาพพจน์มากขึ้น พยายามชูผู้นำที่มีภาพลักษณ์ที่ดี..และจะแบ่งเป็นสองขั้วเช่นเดิม ปชป จะกลายเป็นพรรคใหญ่(ถ้าไม่โดนยุบไปด้วย ซึี่งผมมองว่าไม่โดน) ขั้วหนึ่ง อีกขั้วหนึ่งยังไม่รู้จริง ๆ (ผมมองว่า ทรท ยุบ)
ทำไมที่รัฐบาลต่อ ๆ ไปต้องรักษาภาพลักษณ์มากขึ้น ก็ต้องกลับไปที่ข้อหนึ่ง..คนที่จะล้มรัฐบาลจะไม่ใช่ฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นสื่อมวลชนเองมี่มีอิทธิพลสูงขึ้นต่อแนวคิดประชาชน...การเมืองภาคประชาชนจะมีบทบาทมากขึ้น...
อำมาตยาธิปไตย..อาจจะแปลว่าการเมือง หรือ ประชาธิปไตยบนหอคอย ที่คนอยู่ในอำนาจไม่ได้มาจากประชาชนที่แท้จริง แต่มาจากผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีอำนาจในสังคม
ถ้าแปลเช่นนั้น อำมาตยาธิปไตย จะไม่มีอีกต่อไป และจะกลายเป็นทุนนิยมประชาธิปไตยแทน..คือผู้มีเงินให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังผุ้มีอำนาจในรัฐบาลที่มีที่มาจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
ซึ่งประชาชนจะรับรู้และเข้าใจมากขึ้น (ผมมองตรง ๆ จากการล้มระบอบทักษิณนี้เองเลย) และถ้ามีการปฏิรูปสื่อโทรทัศน์ คนชนบทจะเข้าใจและรู้เท่าทันการเมืองมากขึ้น
และยิ่งปฏิรูประบบการศึกษา..ประเทศเราจะกลับเข้าสู่การเดินหน้าอีกครั้ง