วันนี้( 25 ก.ค.)ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลโดยนายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายกมล คำเพ็ญ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา เจ้าของสำนวน นายบันดาล ดังขุนทด ผู้พิพากษาศาลอาญา และองค์คณะอ่านคำพิพากษาจำคุก พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต.จำเลยในความผิดฐาน กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 42 และ มาตรา 38 เป็นเวลาคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดคนละ 10 ปี กรณี ร่วมกันจัดการเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขตรอบใหม่ เมื่อวันที่ 23 และ
29 เมษายน 2549 โดยไม่มีอำนาจ และการออกหนังสือเวียนถึง ผอ.กต.เขต ให้รับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัครใหม่ ตามที่นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
ผิดๆๆ
เริ่มหัวมาอย่างนี้
อ่านคำพิพากษา ผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ผิดระเบียบ กกต ว่าด้วยการเลือกตั้ง ขัด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 7/2
พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541
มาตรา 7/2 ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้มีการเลือก ตั้งใหม่ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจออกประกาศให้ย่นหรือ ขยายระยะเวลา หรืองดเว้นการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้เฉพาะในการ เลือกตั้งนั้น เพื่อให้เหมาะสมแก่การดำเนินการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นไป โดยรวดเร็ว สุจริต และเที่ยงธรรมได้
แต่พอตอนจบ
พิพากษาว่าจำเลยที่ 2-4 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. พ.ศ.2541 ม.24, 42 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา ม. 83 ให้จำคุกคนละ 4 ปี และให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งมีกำหนดคนละ 10 ปี ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 2-4 ต่อจากคดีอื่นนั้น ยังไม่ปรากฏว่าศาลมีคำพิพากษาในคดีเหล่านั้น จึงให้ยกคำขอและให้ยกคำขอตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157
เหลือ2มาตรา
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวาง โทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
รู้สึกอันนี้จะทำให้ กกต. ทั้ง3หัว จมพร้อมกัน
ส่วนอันนี้มาตรายอดฮิต แต่ไม่โดน
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ
โดนไป 4ปี
เรื่องการประกันตัวขี้เกียจอ่านละ
งงนิดๆมีใครช่วยย่อยไหม
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000094948ขอบคุณ คุณแอน และคุณ liverpudlian นะครับ เอามาผิดฉบับ มิน่าอ่านไม่เข้าใจซ้าที