จากกระทู้พันทิพของผม
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4566094/P4566094.htmlเอามาสรุปเรื่องข้อกฏหมายกันนิดนึง ใครจะไปตีความกันยังไงเรื่องของท่านนะครับ
รัฐธรรนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 141 นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ กรรมการการเลือกตั้ง พ้นจากตำแหน่งเมื่อ(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 137 หรือ มาตรา 139(4) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิด อันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ(5) วุฒิสภามีมติตาม มาตรา 307 ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง เมื่อมีกรณีตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเท่าที่เหลืออยู่ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
ซึ่งต้องตีความ (3) ครับว่า ขณะนี้ กกต.ขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 137 โดยสมบูรณ์แล้วหรือยัง
ซึ่งขาดคุณสมบัติไปแล้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตีความในข้อกฎหมายที่ผมมาร์กไว้ให้แล้วข้างบนหรือยังส่วน (4) เกิดในกรณีศาลชั้นต้นตัดสินว่าผิด แต่ให้ประกันตัว ก็ยังถือว่า (4) ยังเอามาใช้ไม่ได้
มาตรา 137 กรรมการการเลือกตั้งต้องมีคุณสมบัติและไม่มี ลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้(1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีบริบูรณ์ในวันเสนอชื่อ
(3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
(4) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 106 หรือ มาตรา 109 (1) (2) (4) (5) (6) (7) (13) หรือ (14) (5) ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการ การเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
(6) ไม่เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของ พรรคการเมืองในระยะห้าปี ก่อนดำรงตำแหน่ง
(7) ไม่เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการปกครอง กรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ไปดูมาตรา 109 กันก่อน
มาตรา 109 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิ ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ(1) ติดยาเสพติดให้โทษ
(2) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
(4) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล(5) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไปโดยได้พ้นโทษ มายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้งเว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
(6) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงาน ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการ ทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
(7) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
(13) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตาม มาตรา 295
(14) เคยถูกวุฒิสภามีมติตาม มาตรา 307 ให้ถอดถอนออก จากตำแหน่งและยังไม่พ้นกำหนดห้าปีนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติจน ถึงวันเลือกตั้ง
นั่นหมายถึงว่า ตาม (4) ถ้ามีหมายศาลออกมาให้คุมขัง แม้แต่นาทีเดียวก่อนยื่นประกัน จบเลยนะครับ
ซึ่งแน่นอนว่า อาจจะมีคนยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตรงนี้อีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะพลิกโผอย่างไรก็ดีครับ ผมว่าเมื่อมาดูที่มาตรา 106 จะเป็นตัวติดสินที่ชัดเจนมากกว่า
มาตรา 106 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคล ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งคือ(1) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(2) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(3) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วย กฎหมาย
(4) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ขณะนี้ถือว่า กกต. ได้อยู่ในระหว่างการถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งไปเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งจากข้อความใน (4) ไม่น่าจะต้องเป็นการตัดสินของศาลฎีกา คงต้องมีการยื่นเรื่องตีความกันต่อไปครับ