สลด! บัณฑิตสาว "เอแบค" อกเหวอะสังเวยชีวิต หนุ่มตายคารถจี๊ปอีก 1 ศพ ยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง 381 รายhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1223393820&grpid=00&catid=01สธ.สรุปยอดเจ็บ381รายตาย2 ขาขาด 4 รายเจ็บหนักอีกอื้อ คิวผ่าตัดรามาฯ ล้นแล้ว สลด! บัณฑิตสาวรั้วเอแบคโดนลูกหลงสังเวยอนาถ อีกรายเป็นชายตายคารถจี๊ปที่ระเบิดใกล้แยกพิชัย ส่วนกลุ่มพันธมิตรที่ล้อมกรอบบชน.ปะทะกลางคันสังเวยเพิ่ม 1 ศพ (ตรวจรายชื่อผู้บาดเจ็บทั้งหมด)
กระทรวงสาธารณสุขเผยยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา ลานพระบรมรูปทรงม้า บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล แยกการเรือน แยกขัตติยานี ทางเข้าพระที่นั่งวิมานเมฆ ถนนราชวิถี ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 20.45 น. ของวันที่ 7 ตุลาคม มีจำนวน 381 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รถจี๊ปสีขาวบริเวณใกล้แยกพิชัย และหญิงจากเหตุสลายม็อบที่หน้ารัฐสภาในช่วงบ่าย
สธ.แจงยอดเจ็บ381รายตาย2 ขาขาด 4 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า ศูนย์นเรนทรได้รายงานล่าสุดเวลา 18.00 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล (รพ.ต่างๆ ทั้งหมด 208 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายติดอยู่ในรถจี๊ปใกล้แยกพิชัย นำส่งผู้บาดเจ็บเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 8 แห่ง ดังนี้ รพ.วชิรพยาบาล 95 ราย รพ.กลาง 8 ราย รพ.จุฬาฯ 9 ราย รพ.ศิริราช 22 ราย รพ.ราชวิถี 5 ราย รพ.พระมงกุฎเกล้า 9 ราย รพ.รามาธิบดี 47 ราย รพ.ตำรวจ 10 ราย และปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ 3 ราย ไม่ต้องนำส่งโรงพยาบาล มี 26 ราย ที่ต้องพักรักษาอาการต่อในโรงพยาบาล ได้แก่ วชิรพยาบาล 9 ราย รพ.กลาง 3 ราย รพ.จุฬาฯ 2 ราย รพ.พระมงกุฎเกล้า 2 ราย รพ.รามาธิบดี 9 ราย รพ.ตำรวจ 1 ราย
เวลา 20.45 น.นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ กล่าวถึงตัวเลขล่าสุดมียอดรวมผู้บาดเจ็บทั้งหมดตลอดทั้งวันจำนวน 381 ราย ขาขาด 4 ราย แพทย์เผยคิวผ่าตัดรามาฯล้น เวลา 19.50 น. รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธ์ ผู้อำนวยการ รพ.รามาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.รามาฯ รับผู้บาดเจ็บเข้ามารักษาแล้ว 4 รอบ ช่วงเวลา 19.00 น.ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดได้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายที่ บช.น.รุนแรงมาก มีผู้หญิงเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถือเป็นรายแรกจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะนี้คิวผ่าตัดเริ่มล้นแล้ว
บัณฑิตสาวเอแบคสังเวย 1 ศพผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียชีวิตหญิงชื่อ นางอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ อายุประมาณ 25 ปี มีบาดแผลที่หน้าอก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะถึง รพ. แพทย์อยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ
นายจินดา ระดับปัญญาวุฒิ บิดา น.ส.อังคณาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ได้ขับรถไปส่งภรรยาคือนางวิชุดา และบุตรสาว 2 คนเพื่อไปชุมนุมที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตูคลองผดุงกรุงเกษม ช่วง 6 โมงเย็นวันเดียวกันนี้และทราบข่าวว่าลูกสาวทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บเวลาประมาณ 18.00 น.เศษ โดยโทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวถูกยิงที่บริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า พอรู้ข่าวไม่ทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต คิดว่าได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับภรรยาได้ สิ่งที่เกิดขึ้นอยากถามว่าใครจะมารับผิดชอบ รัฐบาลยิงประชาชนมือเปล่าได้อย่างไร คงไม่เรียกร้องอะไรกับรัฐบาลที่ทำอย่างนี้ ขอเพียงให้ภรรยากลับบ้านหรือติดต่อกลับมาเท่านั้น
สำหรับผู้เสียชีวิต น.ส.อังคณา หรือ โบว์ อายุ 20 ปีเศษ เรียนจบมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะบริหารธุรกิจ ทำธุรกิจส่วนตัว
รายชื่อผู้ชุมนุมบาดเจ็บช่วงบ่าย-ค่ำ รพ.รามาธิบดีนายสุชาติ พูนจตุรัส 52 ปี ,น.ส.จุฬาลักษณ์ โลหะนวกุล 23 ปี ,นายวิโรจน์ บุญกระเตื้อง 58 ปี ,น.ส.พัชรนันท์ เมธัสพงศ์นุกูล 46 ปี ร.ต.ประวิทย์ ราชกลิ่น 53 ปี ,น.ส.วิชชุนี พิตรากูล 43 ปี ,นายปรีชา สมประสงค์ 49 ปี ,นายกิติ ฤชาสุริยะอำไพ ,นายอดุมสุข บริสุทธิ์ ,นางเยี่ยม แซ่ตั้ง ,นายสมยศ ลิ้มทองคำ ,นายอดิศักดิ์ ร้อยพรเกษมสุข ,นายศุภกร ศุรมงคลทวีสุข ,นายสุวรรณ ผิวเผือก ,นายเผด็จ แซ่เรือง ,น.ส.มนปริยา นภาวิจิตร ,นายสมชาย วรินทรนุวัตร ,นายเอก อุไรไพรวัน ,นายสมพร วรรณประกอบ ,นายสุรัช รุ่งอัญมณี ,นางวรรณา เลี่ยมศักดิ์ ,นายธรานิช รักษาแก้ว ,นายปรีชา ตรีจรูญ ,นายสุรพล บุญดวง ,นายอานนท์ ไอศนาวิน ,ส.ต.ท.เชษฐา ลาดี ,นายสมพงษ์ สิทธิหัตถการ ,นายสมนึก เหมือนแม้นสกุล ,นายชนินทร์ กลิ่นสุคนธ์ ,นายทศกรณ์ เยี่ยมกาญจน์ ,นายธีราเชษฐ์ ธราปัญจทรัพย์ ,นายไพโรจน์ วัฒนากิจรุ่งเรือง
รพ.วชิระจ.ส.ต.จักรา ขันธชัย ,จ.ส.ต.มนตรี มุกสาน ,ด.ต.เสก ตราเงิน ,นายสุธี บุญประเสริฐ 33 ปี ,นายวิรัช ฉั่งหลี 30 ปี ,นายดีม หงวิชัย 30 ปี ,นายจิรธานินท์ โชควิวัฒน์นำชัย 45 ปี ,นายทศพร วิโรจนะ 30 ปี ,นายพัชรพล สุขทองหล่อ 24 ปี ,นายเฉลิมชัย มงคลเกิดกิจ 30 ปี ,น.ส.จีริน พิภัทร์เสรีกุล 26 ปี ,นายวิสุทธิ์ นัมทณิสรณ์ 47 ปี ,นายสันติชัย ขันต้นธง 60 ปี ,นายวิเชียร อินทไทร 53 ปี ,นายวิษณุ ทองโสม 34 ปี ,นายมนตรี ศรีโชค 30 ปี ,น.ส.ไปรพร แสงจันทร์ 28 ปี ,น.ส.สุพัตรา ภู่นานสรณ์ 55 ปี ,นายสมเกียรติ กันทรวรากร 41 ปี ,นายอดิศร เดียวตระกูล 50 ปี นางจิรภา ริทธิกลับ 36 ปี ,นายสิทธิพร ปานประเสริฐ 21 ปี ,นางสิริลักษณ์ พิจิตรกำเนิด 33 ปี ,นางปรัศนีย์ ปริสุทธิกุล 39 ปี ,นายศุภชัย วัชชะกิตติกรณ์ 62 ปี ,นายชนแดง ใจตรง 25 ปี ,ด.ญ.พานีพร เจตนากุล 1 ขวบ
นางบัวเพ็ชร จงจามรีสีทอง ,ด.ญ.ธัชนก มุดธนาเวช 1 ขวบ ,นายสมจิตร พงษ์นาค 43 ปี ,น.ส.จุฑามณี ชาตะนาวิน 24 ปี ,น.ส.อรนุช ฟักสุขจิตต์ 26 ปี ,น.ส.จุฑามาศ แก้วนก 35 ปี ,ด.ต.จรินทร์ ทองหล่อ 43 ปี ,น.ส.กิ่งแก้ว แซ่เตีย 44 ปี ,นายวีรยุทธ พรหมทอง 47 ปี ,นายนันทพัฒน์ อุ้มชู 50 ปี ,ด.ญ.แตงกวา สิทธิบุญ 1 ขวบ ,ด.ญ.สโรชา ณ ป้อมเพชร 7 ขวบ ,ด.ญ.สโรยา สิทธิบุญ 4 ขวบ ,ด.ญ.จิม ไม่ทราบนามสกุล ,น.ส.อนัญญา รุ่งทรัพย์ 24 ปี ,นายประสิทธิ์ โพธสุธน 64 ปี ,น.ส.สโรชา โพธิวัฒน์ 50 ปี ,น.ส.จิตตานันท์ เลิศวิมลชัยศรี 29 ปี ,นายวนิดา สุขสุด 39 ปี ,นายประพัฒน์ โพธสุธน 64 ปี ,น.ส.ลักขณา อนุธน 28 ปี ,น.ส.รุ่งรัตน์ บาลี 31 ปี
น.ส.สิริลักษณ์ สุวัตถี 30 ปี ,นายวัฒนี อุดมภักดี 50 ปี ,น.ส.สาวิศา สิงหเมธา 34 ปี ,นายศุกฤษ มากผล 42 ปี ,นายพงษ์ไท เชื้อชมสุข 30 ปี ,ส.ต.ท.สนทธยา ใจกว้าง 36 ปี ,ร.ต.อ.เกรียงไกร กิ่งสาปี 30 ปี ,นายวิศษฏ์ เข็มทองเจริญ 39 ปี ,นายรุชรินทร์ ทาสี 33 ปี ,นายเศรษฐวุฒิ บัวทุม 33 ปี ,นายวุฒิชัย คำปงศักดิ์ 40 ปี ,ด.ช.ภัควัฒน์ สุนทรวิภาค 6 ขวบ ,นายพิเชษฐ์ มีภู่เพ็ฐ 32 ปี ,ส.ต.ต.ปฐม ชัยบุญเรือง 34 ปี ,นายสุทธิคุณ กำแพงทอง 17 ปี ,น.ส.วิมลวัลย์ พันธ์รัศมี 41 ปี ,ส.ต.ท.ชาญชัย ชมจันทร์ 34 ปี ,ส.ต.ต.พิษณุ เหลาบัว 32 ปี
ด.ญ.วรินทร หงษ์วิจิตร 4 ขวบ ,นางกนกพร จันทร์ขำศรี 43 ปี ,ส.ต.อ.เอนก เอกสนธิ์ 37 ปี ,น.ส.นนท์สมร วงศ์สกุล 29 ปี ,นายไชยยันต์ ชูสกุล 25 ปี ,จ.ส.ต.ธวัชชัย จันทะแสง 34 ปี ,จ.ส.ต.วิชัย เขียวด้วน 38 ปี ,ดต.อุดม ทองคำ 34 ปี ,ส.ต.อ.จักรา ขันธชัย 34 ปี ,ส.ต.ต.มนตรี มกสาร 29 ปี ,จ.ส.ต.สมนึก บุญเทส 34 ปี ,นายศรุต สกุลมาลัยทอง 52 ปี ,ร.ต.อ.วัลลภ รื่นเจริญ 44 ปี ,ด.ช.หฤทธิ์ จะริยะเกษม 6 ขวบ ,ด.ญ.นัทกร วงศ์จริยะเกษม 4 ขวบ ด.ญ.พิชชานุช วงศ์จริยะเกษม 5 ขวบ
ขาขาด1-หมอชี้เหตุจากระเบิดนพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการ รพ.วชิระ กล่าวว่า นายบัญชา บุญแก้ว อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกเข่าขวาแหลกละเอียด เส้นเลือดดำและแดงขาด กล้ามเนื้อฉีกขาด เบื้องต้นแพทย์พยายามที่ให้การรักษาเพื่อคงขาเอาไว้ให้ถึงที่สุด
"ตั้งข้อสังเกตว่าลักษณะของบาดแผลของนายบัญชา เป็นบาดแผลที่ได้รับจากวัตถุระเบิด ที่บริเวณหลัง, ลูกตา, ช่องท้อง และเข่า ซึ่งถือว่ามีความรุนแรงมาก อำนาจการทำลายล้างรุนแรง บดขยี้สูงทำให้บาดแผลเละ และเป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากแก๊สน้ำตา เพราะแผลจะไม่เละขนาดนี้ นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บอีก 2 รายที่บริเวณช่องท้อง ซึ่งอยู่ในห้องผ่าตัดเล็ก" นพ.ชัยวันกล่าว
ขณะที่ นพ.ธันย์ สุภัทรพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ขอสงวนความเห็นถึงสาเหตุและชนิดของอาวุธที่ทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ
ปัดแก๊สน้ำตาทำคนขาขาดพล.ต.ต.อำนวย กล่าวถึงการที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเปิดเส้นทางให้สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรเข้าไปประชุมในรัฐสภาให้ได้ จะทำเท่าที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น อาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่แก๊สน้ำตาก็เป็นเครื่องมือควบคุมฝูงชนที่เป็นมาตรฐานสากลในการควบคุมฝูงชนที่ใช้กันทั่วโลก ไม่ใช่อาวุธที่จะใช้ทำลายประหัตประหาร จะได้รับบาดเจ็บบ้างนั้น อำนาจของมันก็มีแค่ระคายเคือง หรืออาจหกล้ม เบียดทับระหว่างวิ่งบ้างเท่านั้น พื้นถนนลื่นอาจล้มถลอกบ้างเท่านั้น
เมื่อถามว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่ามีการใช้กระสุนยาง กับระเบิด และเศษแก้วต่างๆ พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ไม่มี ใช้แค่แก๊สน้ำตา ส่วนที่บอกว่ามีคนขาขาด ไม่ชัดเจน เพราะแก๊สน้ำตาไม่รุนแรงขนาดนั้น มีแค่การระคายเคืองใช้น้ำล้างหน้าก็หาย อาจจะหกล้มหรือวิ่งไล่ทับ ล้มทับกัน เพราะมีการเอาน้ำมันราด เมื่อฝูงชนแตกตื่นก็อาจวิ่งทับกันเอง
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ในทางลับมีการเจรจากันกับกลุ่มพันธมิตรทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย พยายามแก้ปัญหาอยู่ แต่จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาก่อนที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จะเดินมาให้จับ ต้องใช้คำว่าเดินมาให้จับ ส่วนวัตถุประสงค์ของการเดินมาให้จับมีวัตถุประสงค์อะไรนั้น ตนคงไม่ตอบแทน ไปคิดเอาเอง เพราะหลังจากเดินมาให้จับก็มีม็อบขึ้นมา จริงๆ ถ้าไม่มีการเดินมาให้จับกุม กลุ่มพันธมิตรก็เริ่มเข้าใจ และเริ่มน้อยลงตามลำดับ
ล้อมกรอบ บช.น. พันธมิตรตาย1เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มชายแต่งกายในชุดทหาร สวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีชมพูคลุม ขับรถจักรยานยนต์ ตระเวนไปรอบ บช.น. และจุดใกล้เคียง ก่อนใช้ประแจตัวใหญ่หมุนและดึงวาวล์น้ำประปาบริเวณโดยรอบ ทำให้น้ำประปาใน บช.น.หยุดไหลทันที โดยตำรวจไม่สามารถจับกุมได้ทัน นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.ได้สั่งการให้ตำรวจ เตรียมขดลวดหนามจำนวนหลายวง มาวางไว้ที่ประตูด้านหน้าและด้านหลัง บช.น. เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ภายหลังมีข่าวว่ากลุ่มพันธมิตร อาจจะบุกเข้ามาปิดล้อม บช.น. ทำให้สถานการณ์ใน บช.น. ทั้งตำรวจและผู้สื่อข่าวค่อนข้างตึงเครียด
เวลาประมาณ 18.00 น. ที่สี่แยกหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า ได้มีการระดมผู้ชุมนุมจำนวนมากมาตรึงกำลัง และมีทีท่าว่าจะบุกเข้าไปยึด บช.น. ทำให้มีการนำแผงลวดหนามมากั้นหน้า บช.น. และเกิดการประจันหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมกับกำลังตำรวจนครบาล และ ตชด.ที่ประจำการรักษาความปลอดภัยหน้า บช.น. จากนั้นมีกลุ่มพันธมิตรที่สลายตัวจากบริเวณหน้ารัฐสภา ส่วนหนึ่งมาสมทบกับผู้ชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและหน้า บช.น. รวมแล้วกว่า 5,000 คน และเกิดปะทะกันจนมีหญิงอายุประมาณ 25 ปี ในกลุ่มผู้ชุมนุมตาย 1 ราย