ทัศนะวิจารณ์ คิดใหม่ วันอาทิตย์
5 ตุลาคม พ.ศ. 2551 00:00:00
"สมชายลมโชย"เล็กๆ พูด-ทำไม่ได้ ใหญ่ๆ-ใครจะเชื่อถือ"คำพูด" :"
สมชาย วงศ์สวัสดิ์" คุณไม่น่าจะใช่ "นายกรัฐมนตรีของเรา" ตัวจริงที่สมควรได้รับการมอบหมายภารกิจสำคัญในการบริหารประเทศไทย
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่น่าจะยังเป็น "
ร่างทรง" ของใครบางคนที่กำลังเริ่มกดปุ่มรีโมตคอนโทรล สั่งให้ทำโน่นทำนี่ในแบบที่เจ้าตัวอาจจะไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรหรือพูดอะไรออกไปในฐานะ "นายกรัฐมนตรีของเรา" คนไทยทั้งประเทศ
"สมชาย" ที่มีอดีตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับซี 11 ระดับปลัดกระทรวงถึง 2 กระทรวงที่หาได้น้อยมากๆ ในประเทศนี้ ที่เจ้าตัวยอมว่าได้ดีในชีวิตมาจากการ "เอื้ออาทร" ของพี่เขย "คนดีของสมชาย"
นับจาก "
นายกฯ สมชายผัวเจ๊แดง" ขอประทานโทษฟังแล้วไม่สุภาพแสลงหู แม้จะคล่องปากมากกว่าการเรียกแบบมีนามสกุล "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ที่เลื่อนสถานะจากสามีคุณนายแดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และน้องเขยอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็น "นายกรัฐมนตรีคนที่ 26" ของประเทศไทย
ไม่ว่าใครจะมอง "พี่เขย" เป็นคนชั่วช้าสามานย์แค่ไหน แต่ "สมชาย" เห็นว่าพี่เขยคนนี้เป็น "คนดี" ตลอดกาล ที่ได้อุปถัมภ์ค้ำชูให้ชีวิตสมชายสมหวังเกินที่ตั้งใจไว้มากมาย จนไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะไปไกลได้เป็นถึง "นายกรัฐมนตรีคนที่ 26" "นายกรัฐมนตรีสมชาย" มีโอกาสครั้งเดียวในชีวิตนี้ที่จะก้าวให้พ้นจาก "เงา" ของพี่เขยและเมีย ด้วยการทำงานอย่างอิสระไม่เป็น "ร่างทรง" ของใครเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองให้ได้
แต่ "
สมชาย" กลับยังเป็น "สมชายลมโชย" คนเดิมที่กำลังปล่อยให้ชีวิตยังพัดลอยล่องผูกติดกับพี่เขยและเมีย จนนานวันเข้าอาจจะกลายเป็น "สวะ" ไร้ค่าที่ไม่มีใครให้ราคาค่างวดในการเป็น "นายกรัฐมนตรีของเรา" คนไทยทั้งประเทศอีกต่อไป
เริ่มตั้งแต่ "คณะรัฐมนตรีของสมชาย1" ทำให้เกิดอาการสิ้นหวังระบาดไปทั่วสังคม ทำลายสถิติ "ขี้เหร่" ของรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ได้อย่างราบคาบ คำพูดของ "สมชาย" ในฐานะ "นายกรัฐมนตรีคนที่ 26" เริ่มไม่คงเส้นคงวาไม่สมกับความเป็น "คนใต้-ลูกผู้ชาย-ชายชาตรี" ขาดความน่าเชื่อถือมากขึ้นทุกวันและยังทำร้ายจิตใจใครต่อใครเป็นว่าเล่น
สำนักวิจัยดังๆ อย่างสวนดุสิตของอาจารย์สุขุม เฉลยทรัพย์ กับเอแบคของอาจารย์นพดล กรรณิกา น่าจะลองสำรวจความเห็นของชาวบ้านว่าเชื่อถือในคำพูดของ "สมชาย" แค่ไหนที่บอกว่าลงมือเลือกรัฐมนตรีมาเองทุกคน พี่เขยและเมียไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องสั่งการ
"เพื่อนพี่เขย" สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่เป็นอดีตคู่แข่ง "นายกรัฐมนตรีคนที่ 26" ก็เป็นอีกคนที่คงไม่เชื่อถือคำพูดของ "สมชาย" อีกต่อไปแล้ว
ยังงงไม่หายยิ่งกว่าอาการเมาค้างแฮงก์ข้ามวันข้ามคืนว่า ทำไม "สมชาย" เอ่ยปากขอให้มาเป็น "รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ" ด้วยเหตุผลพิลึกหาคนเหมาะสมไม่ได้จริงๆ รับไปก่อนแล้วกัน
ด้วยความไม่สบอารมณ์ "สมพงษ์" จึงตัดสินใจโยน "เผือกร้อน" ถอนพาสปอร์ตปกแดงของพี่เขยสมชายไปให้ "สมชาย" ตัดสินใจเอง อย่างไม่ต้องเกรงใจกันต่อไปแล้ว แต่ "สมชาย" โยนกลับมาโดยทันที แล้วบอกว่าอยู่ในอำนาจของ "สมพงษ์" ว่าจะเอายังไงให้บอกมา
"สมพงษ์" จึงยิ่งงงหนักขึ้นไปอีก คงอยากจะถามว่า "สมชาย" ทำไมคุณไม่ไปถามพี่เขยว่าจะให้ "พวกเรา" ทำยังไงไม่ให้เดือดร้อน
"พี่ษิณตัดสินใจซื้อที่อยู่ถาวรในบั้นปลายชีวิตได้หรือยัง น้องจะได้เลิกอุ้มเผือกร้อนที่ลวกมือพองไปหมดแล้ว ไอ้ธิทวงถามทุกวัน" "
สมชาย" น่าจะเป็นยิ่งกว่า "นอมินีนายกรัฐมนตรี" ที่ "สมัคร สุนทรเวช" เคยรับจ้างพี่เขยมา 7 เดือน แต่เข้าขั้น "ร่างทรงนายกรัฐมนตรี" ของพี่เขยคนดีของสมชายที่จะสำแดงตัวตนอีกด้านหนึ่งของพี่เขยออกมาให้เป็นที่ประจักษ์มากขึ้นๆ ตัวตนแท้จริง "พี่เขยของสมชาย" เป็น "คนสองบุคลิก" เมื่อคราวเป็น "นายกรัฐมนตรีคนที่ 23" อยู่นอกบ้านมักทำเป็น "ใจเย็น" พูดจาฉาดฉาน แต่ใครๆ ก็รู้ว่า "ใจร้อน" มากๆ และยังมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่เป็นประจำ
เมื่ออยู่ในที่ลับตาเฉพาะกับข้าทาสบริวารที่ใกล้ชิด หรือกลับถึงบ้านที่ไม่มีนักข่าวสอดรู้สอดเห็น มักจะปลดปล่อย "ตัวตน" จริงๆ กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่เจ้าอารมณ์พาลทะโลทุกเรื่องที่มีผู้คนขัดขวางไม่ให้ทำงานได้ดั่งใจ
"คุณแดง" ไม่สงสัยเลยหรือว่าทำไมคำพูดของสามีที่นอนเตียงเดียวกัน เริ่มไม่อยู่กะร่องกะรอย (หรือเป็นอย่างนี้มานานแล้ว?) นับตั้งแต่พี่เขยชี้นิ้วให้เป็น "นายกรัฐมนตรีคนที่ 26"
หรือว่า "สมชาย" เป็นคนบุคลิกเดียวคือนอกบ้านกับในบ้านก็พูดจาไพเราะ ไม่เคยพูดคำหยาบมึงกูอั๊วลื้อกับใคร แตกต่างจาก "พี่เขย" ที่มีสองบุคลิกโดยสิ้นเชิง "ปากกับใจ" มักไม่ตรงกัน
"สมชาย" ตัวจริง จึงพูดออกมาว่าจะตั้ง "โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" คนใหม่ที่เป็น "สาวสวยสด (ใส)" เปลี่ยนจากเพื่อนรักของพี่เขย "พล.ต.อ.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์" มาเป็น "สาวสวย-ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม" ที่มีอดีตขมขื่นจากข่าวลืออัปมงคลเคียงข้างพี่เขยคนดี
คำพูดของ "สมชาย" ที่บอกความในใจกับสาธารณะไปแล้ว ทำให้ "สาวสวย-ดร.ณหทัย" แก้มเปล่งปลั่งหอมชื่นมีน้ำมีนวลขึ้นทันตาเห็น โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เขียนประวัติใหม่ไฉไลขึ้นเป็นกอง
ดร.ณหทัยปรับจิตปรับใจพร้อมแล้ว สำหรับการกลับมาใหม่ในวงการการเมืองอย่างสมศักดิ์ศรีเพื่อลบล้างอดีตที่อยากลืม
เมื่อเสริมกับ "ทีมรองโฆษกฯ เดิม" สาวสวยอีก 2 คนที่เป็นอดีตผู้ประกาศข่าว "ศุภรัตน์ นาคบุญนำ" กับ "วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส" ย่อมทำให้ "ทีมงานโฆษกฯ ของสมชาย" จะได้รับการจารึกจดจำให้เป็น "ดรีมทีม" ที่สวยและเก่งไม่แพ้นางฟ้าชาร์ลี (Charlie's Angels) เป็นแน่แท้
อีกคำพูดของ "สมชาย" ที่แม้ไม่ได้บอกตรงๆ กับสาธารณะ แต่ได้ส่งสัญญาณ Off the Record ไปถึง "อดีตหวานใจ" สาวสวยนามว่า "นพดล ปัทมะ ณ ปราสาทวิหาร" ที่วางตัวไว้ว่าจะก้าวมาเป็นนายกฯ น้อย "เลขาธิการนายกรัฐมนตรี" เพื่อช่วยด้านกฎหมายและจัดการงานราชการให้ "สมชาย" สบายใจได้ว่าสามารถต่อสายตรงถึงพี่เขยได้ตลอด 24/7 (24 ชั่วโมง 7 วัน)
แต่ "สมชาย" กลับทำไม่ได้ตามความตั้งใจในการตั้งโฆษกรัฐบาลกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่อาจจะมีบุญกุศลผลพลอยได้ ทำให้ "ณหทัย-นพดล" ถ่านไฟเก่าลุกโชน กลับมาเป็น "กิ๊ก" คู่หวานชื่นกันได้
ดังคำพังเพย "รักแท้แพ้ใกล้ชิด" ในการทุ่มเททำงานเพื่อชาติและลบล้างข่าวลืออัปมงคลเกี่ยวกับพี่เขยของสมชายอย่างเด็ดขาดเสียที
ทำไม "สมชายผัวเจ๊แดง" ที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี กลับทำไม่ได้ตามที่ได้ลั่นวาจาไปแล้วในเรื่องเล็กๆ แค่นี้
จึงเป็นปริศนาว่าใครเป็นคนทำให้ "สมชาย" จำต้องเปลี่ยนใจเพียงชั่วไม่กี่คืนต่อมา จนทำร้ายจิตใจสู้โว้ยของดอกเตอร์สาวสวยที่พร้อมคืนการเมืองและหัวใจสีชมพูของดอกเตอร์หนุ่มโสดที่อ้างว้างมาหลายเพลา
คุณนายแดงที่นอนเตียงเดียวกันกับ "สมชาย" น่าจะตอบคำถามได้ดีที่สุดว่าทำไมต้องจำใจตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ยอมตามใจ "สมชาย"
หรือว่านี่จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นทำงานสำคัญของสมชาย ในฐานะ "นายกรัฐมนตรีคนที่ 26" ให้เป็นเกียรติประวัติของตระกูลวงศ์สวัสดิ์-ชินวัตร ป้องกันไม่ให้เรื่องราวในอดีตกลิ่นคาวที่กระทรวงตาชั่งกลับมาหลอนซ้ำซ้อนใน "ทำเนียบดอนเมือง" ที่มีซอกหลืบลึกลับกว่านัก
คำพูดของ "สมชาย" ในเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ได้สำคัญต่อการบริหารประเทศเพียงไม่กี่เรื่องที่ไม่สามารถทำได้ดั่งใจ กำลังจะส่งผลทำให้เรื่องใหญ่และสำคัญต่อความเป็นความตายของประเทศ เดินหน้าต่อไปไม่ได้เพราะไม่มีใคร "เชื่อถือ" ในคำพูดของ "สมชายลมโชย" อีกต่อไปแล้ว
แม้ว่า "สมชาย" พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่น่ารัก ใจดี พูดจาสุภาพไพเราะ ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใคร ทำใจดีสู้ "พันธมิตรมือตบ" ด้วยการกลับไป "บ้านเกิด" แหลใต้กับ "คนนคร" เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ลืมกำพืดเดิมเป็นคนใต้ที่ไปได้ดีทางเหนือ
หลังจากนั้น "สมชาย" ขึ้นเหนือไปสักการะกระดูกบรรพบุรุษตระกูลพี่เขยและภรรยา พยายามพูดสำเนียงชาวเหนือยกย่องพี่เขยเป็น "คนดีที่หนึ่งในดวงใจ" เพื่อ "เอาใจ" คนบ้านเดียวกับพี่เขยที่ส่วนใหญ่ยังรักเทิดทูนไม่ให้ใครมารังแก
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา "สมชาย" ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อช่วยผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ของพรรคพลังประชาชน แล้วพยายามเว้าสำเนียงอีสานเพื่อให้ได้ใจ "คนอีสาน" ที่มาฟังการปราศรัยที่สนามหลวงไปลงคะแนนให้ลูกพรรค
"สมชาย" ทำได้ดีเพียงแค่นี้เองจริงๆ ในความพยายามพูดจาเสนาะหู "วจีไพเราะ" แต่ไม่แน่ใจว่า "วจีสุจริต" หรือไม่ ดัดสำเนียงเหนือ-ใต้-อีสานให้กลมกลืนหรือกลบเกลื่อนตัวเอง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้เป็น "นายกรัฐมนตรีของเรา" คนไทยทั้งประเทศ หวังจะให้แตกต่างจากพี่เขยที่เลือกเป็น "นายกรัฐมนตรีของคนเหนือและอีสาน" เท่านั้น
ใครยังจะเชื่อคำพูดของ "สมชาย" ที่รับปากจะปฏิรูปการเมืองชำระล้างสิ่งโสโครก "การเมืองเก่า" แล้วสร้าง "การเมืองใหม่" ด้วยการเห็นดีเห็นงามกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ชุดที่ 3) ที่ให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วม แต่ลูกพรรคกลับส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาสนามหลวงเข้าบรรจุวาระประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
ใครยังจะเชื่อคำพูดของ "สมชาย" ที่เคยโทรศัพท์ไปแสดงไมตรีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวังจะเจรจาให้เกิดความสมานฉันท์ แต่กลับทำไม่รู้ไม่เห็นอ้างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมกับพฤติกรรมตำรวจที่อยู่ใต้บังคับบัญชาไป "ดักจับ" แกนนำพันธมิตร "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" ในข้อหากบฏ แล้วใครยังจะเชื่อถือในคำพูดคำจา " ปากอย่าง-ใจอย่าง" ที่ไม่ต่างจากพฤติกรรม " หน้าไหว้-หลังหลอก" ของ "สมชาย" ผัวเจ๊แดง-น้องเขยทักษิณที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วว่าจะขออุทิศตนเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤติ (อ่านข้อเขียนย้อนหลังและแสดงความคิดเห็นตลอด 24 ชั่วโมงทาง
www.oknation.net/blog/adisak)
http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/05/news_300531.php'สมชาย' เป็น'นายกรัฐมนตรี' ไม่กี่วัน มีสมญานาม นามมแฝง ไม่น้อยหน้า ทักษิณ สมัคร แล้ว
ถ้าอยู่ในตำแหน่ง'นายกฯอุปโลกน์' ถึงสามเดือน อาจจะมีนามแฝง ล้อเลียน ถากถาง ประจาน นำหน้า'หมัก เมถุน'.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า