เชคบิลชินณิชาซ้ำรอย โอ้ค-เอมบทเรียนสอนลูกให้โกง??
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 กันยายน 2551 14:48 น.
เมื่อสองปีก่อน เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ออกอาการสะท้อนในหัวอก น้ำตาคลอเบ้าเคล้าด้วยเสียงสั่นเครือ เมื่อตอบคำถามนักข่าวที่ถามถึงกรณีถูกยื่นตรวจสอบข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ซุกทรัพย์สินไว้กับบรรดาลูกๆ ซึ่งร่ำรวยนับพันๆ ล้านอย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้าคุณอลงกรณ์ (พลบุตร) เป็นสุภาพบุรุษอย่านำครอบครัวดิฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะจะไม่เป็นธรรมกับลูกของดิฉันเพราะลูกยังเป็นเด็ก ไม่ทราบอะไร เราไม่ควรเอาการเมืองเข้าไปแปดเปื้อน ( ผู้จัดการรายวัน 11 เมษายน 2549) ช่วงนั้น นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทำหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบกรณีร่ำรวยผิดปกติ และปกปิดบัญชีทรัพย์สินของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส. เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ใน 3 ประเด็น คือ การถือหุ้นในโครงการหมู่บ้านชินณิชา วิลล์, การซื้อที่ดินจำนวน 8 ไร่ มูลค่า 256 ล้านบาท ในหมู่บ้านดังกล่าว และการซื้อหุ้นของบริษัท 4 แห่ง มูลค่ากว่าพันล้านของบุตรทั้งสามที่พึ่งบรรลุนิติภาวะและยังศึกษาอยู่
มาถึงวันนี้ ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ หรือ น้องเชียร์ ลูกสาววัย 27 ปี ที่ คุณแม่แดง ออกรับว่า ยังไร้เดียงสาไม่ควรเอาการเมืองเข้าแปดเปื้อนเมื่อสองปีก่อน กลายมาเป็นทายาททางการเมืองของตระกูลวงศ์สวัสดิ์ ในวันที่นางเยาวภา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหลังพรรคไทยรักไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค โดย ชินณิชา มีตำแหน่งเป็น ส.ส.เชียงใหม่ สังกัดพรรคพลังประชาชน และเป็นส.ส.ที่อายุน้อยที่สุดในสภา ชินณิชา ตกเป็นเป้าหมายถูกตรวจสอบอีกครั้ง ภายหลังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นบิดา ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คราวนี้เธอถูกตรวจสอบในฐานะของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยตรงไม่ใช่เป็นการตรวจสอบทางอ้อมจากข้อหาของผู้เป็นมารดา
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2551 ในประเด็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อป.ป.ช.
และในวันที่ 29 ก.ย. 2551 นายเรืองไกร ได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าตรวจสอบการถือครองหุ้นในบริษัทเอ็ม ลิงค์ เอเชียฯของนางสาวชินณิชา ซึ่งบริษัทดังกล่าวเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐวิสาหกิจ คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พร้อมๆ กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นบิดาที่ถือครองหุ้นในบริษัทซีเอส ล็อกอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งอาจเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2550
ทั้งนี้ ตามรายการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2551 นางสาวชินณิชา แสดงว่ามีทรัพย์สินรวมเป็นเงิน 362,164,971.40 บาท รวมหนี้สิน 75,136,520.94 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินเป็นเงิน 287,028,450.46 บาท
ตามบัญชีที่ยื่นต่อป.ป.ช. นั้น ไม่ได้มีรายการที่นางสาวชินณิชา กู้ยืมมาจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินธุรกิจ ซึ่งถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อายัดไว้แต่อย่างใด
นายเรืองไกร จึงต้องการให้ ป.ป.ช. เข้าตรวจสอบการไม่แสดงทรัพย์สินในส่วนนี้ ถือว่าเข้าลักษณะจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินและเอกสารประกอบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเอกสารประกอบด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ซึ่งเข้าข่ายผิดตามมาตรา 263 หรือไม่
ในเรื่องนี้ หาก ป.ป.ช. ตรวจพบว่าไม่แสดงบัญชีดังกล่าวไว้ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที ทั้งยังอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีด้วย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 34
.................................................................................................................................................................................
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000115280
ถ้าคุณอลงกรณ์ (พลบุตร) เป็นสุภาพบุรุษอย่านำครอบครัวดิฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะจะไม่เป็นธรรมกับลูกของดิฉันเพราะลูกยังเป็นเด็ก ไม่ทราบอะไร เราไม่ควรเอาการเมืองเข้าไปแปดเปื้อน ( ผู้จัดการรายวัน 11 เมษายน 2549)ถ้าความคิดนี้ถูกต้อง เหมาะสม....
นักการธุรกิจการเมือง นักการเมืองฉ้อราษฎร์บังหลวง ควรจะทยอยมีเมีย มีลูกน้อยเป็นระยะ ไว้ถ่ายโอนทรัพย์สินที่คดโกงมา ตลอดชีวิต....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปล. อ่านรายละเอียดของข่าวเพิ่ม.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า