ในยุคทักษินครองเมือง ผมรู้สึกว่ามีภาษาไทยที่ความหมายเปลื่ยนไปจาก ความเข้าใจสมัยเป็นเด็กของผม
คำแรกคือ "ชาติหน้าตอนบ่ายๆ"
เมื่อตอนเป็นเด็กได้ยิน อ่าน (หรือพูดด้วยละมั้ง) คำนี้บ่อยมาก
อย่างแข่งขันอะไรกัน เราก็ปรามาสคู่ต่อสู้ไว้ก่อนเลย คิดชนะผม ชาติหน้าตอนบ่ายๆโน้น
หรือเรื่องเกี่ยวกับความรักเหมือนจะเคยอ่าน คิดจะเป็นแฟนกับฉันรึ ชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะจ๊ะ (อันนี้ยังมีหวังชาติหน้าก็ยังดี)
หรือเกี่ยวกับเรื่องการวิจารณ์เรื่องต่างๆ ก็ยังมีใช้ ยกเลิกการผลิตบุหรี่ ชาติหน้าตอนบ่ายๆโน้น ร้านเกี๋ยวลุงป๋องจะเปิดแฟรนชายไปขายเมกา ชาติตอนบ่ายๆเถอะลุง
มาเจอท่านผู้นำพูดคำนี้เข้าไป ปัจจุบันคำนี้เป็นคำที่ตายไปเสียแล้ว
หากใครใช้ก็จะเจอสวน อ๋อ อีก1เดือนใช่ไหม , ชาติหน้ามันก็ไม่นานนี่ , ฯลฯ
เล่นเอาคนที่ปรับตัวกับการเปลื่ยนแปลงนี้ไม่ทันเสียมวยไปซะหลายยก
แต่ก็ทำให้หลายๆคนมีความหวังขึ้นมาทันที เพราะเคยมีเกจิ จำนวนมากทำนายเอาไว้ว่า ทีมชาติไทยจะไปบอลโลกได้ต้องชาติหน้าตอนบ่ายๆ หยั่งนี้ก็มีหวังแล้วละซิ
คำต่อมาก็โจรกระจอก
คำนี้มีไว้ดูถูก มิจฉาชีพมือละอ่อน (ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำครั้งแรก)
ประเภท เอาปืนปลอมไปจี้แบงค์ โดน รปภ. อัดน่วม ส่งให้ตำรวจ หรือจะจี้แบงค์แต่เกิดไปผิดที่ ไปจี้ สถานีตำรวจ
หรือเอามีดไปจี้ขอทาน จี้แม่ค้ากล้วยกล้วยปิ้ง โดนข้อหาโจรกระจอกทั้งนั้น
ปัจจุบัน คำนี้ ฟังแล้วแสลงหูอย่างมาก เพราะท่านผู้นำ(อีกแล้ว)
ได้ดูถูกคนกลุ่มหนึงว่าเป็นโจรกระจอก ผ่านไป6ปี ท่านยังไม่สามารถทำให้ปัญหาจากโจรกระจอกนี้เบาบ้างลงได้เลย
มีแต่ทำให้ คนทั้งประเทศขุ่นข้องหมอง ระคนโศกเศร้า จากเหตุการณ์ ตันหยงลิมอร์ และ รร.บ้านกูจิงลือปะ(ตอนเหตุการณ์ครูจุ้ยนี่ผมน้ำตาซึมเลย)
ตอนนี้เลยไม่อยากเห็นใครเขียนคำนี้ น่าจะไปใช้คำว่า โจรตาถั่ว โจรอ่อนหัด โจรซื้อบื้อ ไปตามเหตุการณ์ ดีกว่า
แต่... โจรนี่อาจจะกระจอกจริงๆก็ได้ เพราะตั้งกี่ปีแล้ว ราษฎรกับข้าราชการในภาคใต้ ตายไปประมาณ x,xxx คน(ไม่รู้ตัวเลขแฮะ) ท่านประกาศสงครามเปรี้ยงเดียว 2500คน ตายเพราะโดนตัดตอนทันที