ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
05-12-2024, 07:40
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ทางออกประเทศไทย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ทางออกประเทศไทย  (อ่าน 1775 ครั้ง)
กลุ่มสมานฉันท์ไทย SCT
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 04-09-2008, 15:42 »

ความเดิม
หัวข้อการเผชิญหน้าของกลุ่มพันธมิตร(ซ้ายสุดขั้ว)และน.ป.ก(ขวาสุดโต่ง)
1.การคดโกงจากพรรคพวกชุดเดิมๆและการไม่เคารพต่อศาล(หนีคดีไปต่างประเทศโดยไม่รอการตัดสิน)ขอโทษกลุ่มขวาที่ต้องพูดความจริง หรือไม่ใช่ ?
2.นายก ป.ม รวมแกน 6พ. ตัวแทนชุดเดิม เพียงเพื่อการเปลี่ยนกฎหมายให้พวกของฝ่ายขวา หรือไม่ใช่ ?
3.สร้างความไม่พอใจต่อฝ่ายซ้าย ปัจจุบันชุมนุม 124 วันแต่พวกท่านผิดกฎหมายโดยเข้ายึด 2 ที่ แทนที่จะใช้การฟ้องศาลต่อรายการ
3.1 รายการ 3 เกลอ เรื่องจริงข้างเดียว
3.2 พูดจาประสา ป.ม เพราะมีแต่จะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างกันและรายการของฝ่ายซ้ายเอง ซึ่งควรเลิกจัดทั้ง  2  ฝ่าย
4.สถานการณ์ปัจจุบัน ต.ร และฝ่ายขวาเข้ารุกยึดพื้นที่คืนแทนที่จะใช้การเจรจาทางสันติ ซึ่งสภาก็ให้ทางออกแล้ว
5.ขณะนี้เผือกร้อนได้ถูกโยนไปที่กำลังของบ้านเมือง  ท.อดทน ซึ่งไม่รู้จะทนได้นานเท่าไหร่  จะออกหัวหรือออกก้อย?
6.ประชาธิปไตยคงต้องหาจุดการประสานกลมกลืนให้ลงตัว เพราะประชาธิปไตยของเราเดินมายังไม่ถึงจุด60 %ความรู้ความถูกต้องของประชาชนยังไม่เต็มร้อย  เราคงจำกันได้กับเพลงที่

   หัวใจถูกแทงกี่ขั้ว     ตามตัวถูกฟันกี่แผล      ปู่ไทยตายไปกี่คนแน่ไทยจึงได้แผ่มาถึงแหลมทอง
   กระดูกไทยกระเด็นไปกี่ท่อน........             นำตาของไทยไหลหลั่ง ทุกๆครั้งที่ถูกเฉือนแหลมทอง
   .....ไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นมองวิญญานปู่จะร้องไอ้ลูกหลาน  จั***...ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
7.เศรษฐกิจชาติกำลังล้าหลัง ในขณะที่เขมร,เวียดนาม,ฯลฯ   กำลังรุดหน้า แล้วมันจะมาทะเลาะกันทำหอกหักอะไร   ไม่กระ***นกระหือรือที่จะมาเจรจา
   สงบสุขกัน
8.สรุปทางออกของการเมืองไทยคือการเจรจาทางการทูต โดยวิธีการที่สันติวิธี พันธมิตรหากแน่จริงก็ส่งตัวแทนลงเลือกตั้งไปสู้กันด้วยสมองและวาจาที่มี 
   เหตุและมีเหตุผลในสภา   ทางฝ่ายขวาท่านก็อย่าใช้สิ่งที่ไม่เป็นธรรมาภิบาล ต่อบ้านเมือง ด้วยความเคารพรักในความคิดที่ปราถนาดีต่อบ้านเมืองทุกๆ
   ฝ่าย 
                                                                                                                                  ขอแสดงความนับถือ
                                                                                                                                       กลุ่ม S.C.T   
                                                                                                                                   ( สมานฉันท์ไทย )
วิธีการสลายการชุมนุมโดยไม่เสียเลือดเนื้อ = ก๊าซไข่เน่า(เหม็น) + หมามุ่ย(คัน)
   
 Idea Idea Idea
   
 Idea Idea Idea
บันทึกการเข้า
BrettAnderson
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180



« ตอบ #1 เมื่อ: 04-09-2008, 15:52 »

ไม่อยากให้เรียกฝ่าย นปก ว่าฝ่ายขวานะครับ เพราะขวาหมายถึงพวกอนุรักษ์นิยม อีกมุมหนึ่งก็คือพวกนิยมกษัตริย์นั่นเอง

แต่พฤติกรรมของกลุ่มและผู้ที่อยู่เบื้องหลังของกลุ่มนี้ก็ทราบกันดีอยู่นะครับ

ที่แปลกใจที่สุดก็คือ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นขวาสุดโต่งอย่างนายหมักหมมมาผสมพันธ์กับพวกซ้ายตกขอบที่เป็นคนในรัฐบาลชุดทักสินได้อย่างกลมกลืนขนาดนี้ได้อย่างไร

บันทึกการเข้า

SCT
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 04-09-2008, 18:15 »

ไม่อยากให้เรียกฝ่าย นปก ว่าฝ่ายขวานะครับ เพราะขวาหมายถึงพวกอนุรักษ์นิยม อีกมุมหนึ่งก็คือพวกนิยมกษัตริย์นั่นเอง

แต่พฤติกรรมของกลุ่มและผู้ที่อยู่เบื้องหลังของกลุ่มนี้ก็ทราบกันดีอยู่นะครับ

ที่แปลกใจที่สุดก็คือ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นขวาสุดโต่งอย่างนายหมักหมมมาผสมพันธ์กับพวกซ้ายตกขอบที่เป็นคนในรัฐบาลชุดทักสินได้อย่างกลมกลืนขนาดนี้ได้อย่างไร

ขอบคุณครับที่ตอบแสงความคิดเห็นและให้ความรู้
บันทึกการเข้า
paka21
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 05-09-2008, 00:35 »

‘การทำประชามติ’ ทางลงของม็อบ ทางออกจากรัฐประหาร

สัมภาษณ์ ‘สมชัย จึงประเสริฐ’: ว่าด้วย ‘การทำประชามติ’ ทางลงของม็อบ ทางออกจากรัฐประหาร

ฟ้ารุ่ง ศรีขาว

ในภาวะที่บ้านเมืองกำลังแบ่งเป็นฝั่งเป็นฝ่ายพร้อมทั้งความสับสนว่า “สิ่งที่ควรจะเป็น” ต้องเป็นไปตาม “หลักการ” หรือ “จำนวนเสียง” กันแน่??? เพราะทุกครั้งที่กลุ่มการเมืองทั้งนอกสภาและในสภาโจมตีฝ่ายตรงข้าม ต่างหนีไม่พ้นการอ้าง “เหตุผลชุดเดียวกัน” แต่เอามาพูดคนละที กล่าวคือ ฝ่ายหนึ่งอ้างจำนวนเสียงโหวต แต่อีกฝ่ายอ้างหลักการบางอย่าง ขณะเดียวกันเมื่อถึงคราวฝ่ายกุมอำนาจรัฐอ้างหลักกฎหมาย ฝ่ายตรงข้ามย่อมเกทัพด้วยจำนวนมวลชนผู้ชุมนุม

ส่วนการเมืองในระบบ/ในสภาดำรงอยู่ได้เพราะ “หลักการ/ความเชื่อ” ว่าเรามี “ตัวแทน/มาจากการเลือกตั้ง” ในขณะที่ชีวิตประจำวันของประชาชนส่วนใหญ่เดินดินกินข้าวแกงขึ้นรถเมล์ดูละครทีวีก่อนเข้านอน โดยสภาพหลังจากวันเลือกตั้งแล้วไม่สามารถมีอำนาจในการต่อรองใดๆ ทางการเมืองนอกจาก “การชุมนุม”

และขณะนี้ กฎหมายประชามติได้ผ่าน ส.ส. แล้วนะครับ
ในขณะที่ ทาง ส.ว. กล่าวว่ามันสายไป ซึ่ง ไม่สายไปแน่นอน
หาก ส.ว. นำเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วน ขอเพียงประชาชน ให้ความสนใจ ไม่เมินเฉย ใครคิดว่ามันคือหลักความถูกต้อง แล้ว
ไม่เลือกข้างหนึ่งข้างใด จนไม่มีเหตุผล
เราต้องรวมพลังกัน ให้เกิดเป็นกระแส ไม่ใช้แค่เพียงใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่เกี่ยวกับฉัน ก็ปล่อยไป ต้องใช้ให้เป็นทางออกที่ถูกต้องทางสังคม อย่างน้อยถ้าท่านคิดว่าคือสิ่งที่ถูก แค่ช่วยกันคิดและ ให้ความคิดเห็น ไปในกลุ่มคนต่างๆ
พลังสีเขียว คือพลังของประชาชนที่แท้จริงถึงเวลา รวมพลังกันแล้วครับเพื่อให้ประเทศก้าวต่อไป
บันทึกการเข้า
ทางออกประเทศไทย
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 05-09-2008, 10:19 »

เหตุการล่าสุด
               นักศึกษารามถูกยิง
               จึงเตือนมาในฐานะผู้เกิดในแดนใต้สยามอาณาจักรศรีวิชัย
               ซึงมีคำขวัญว่า ชาว........ใจกว้าง   สร้างแต่ความดี
               เพราะคนใต้รักพวกรักพ้องหาก ไปมีปัญหาแม้แต่การมองหน้า
               ก็ถือว่าหาเรื่องแล้ว     แต่นี่ท่าน......Who Are You ? ใช้ปืนไปจัดการ
               ต่อแต่นี้ไปฝ่าย น.ป.ก พวกท่านชุมนุมกันที่ไหน ต้องระวัง.........ลูกหลงครับ!!!!!!
                                                                                 กลุ่มสมานฉันท์ไทย SCT
               ล่าสุดวงการส่งออกเสียหายไปแล้ว 3500 ล้านบาท
                             ถึงสิ้นสัปดาห์         = 15000 ล้านบาท
                             ท่องเที่ยวยอดสูญ   = 30000-60000 ล้านบาท เตรียมตกงานกันได้แล้วนะคร๊าบพี่น้อง
บันทึกการเข้า
BrettAnderson
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180



« ตอบ #5 เมื่อ: 05-09-2008, 10:38 »

ผมว่าการทำประชามติก็ไม่ใช่หนทางที่จะเป็นทางออกได้ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร

ไม่ใช่ผมไม่เคารพเสียงข้างมากของประชาชนหรอกนะครับ แต่การกำหนดหัวข้อการลงประชามติก็ต้องเป็นหัวข้อที่ยอมรับได้ทุกฝ่ายด้วย

ว่าแต่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ผ่านมาจากการลงประชามติไม่ใช่หรือครับ

ก็ไม่เห็นรัฐบาลนี้จะให้ความเคารพในจุดนี้เลย

ไหงตอนนี้ถึงได้เอาเรื่องประชามติมาเป็นจุดซักฟอกตัวเองอีกล่ะครับ

ถ้าหากไม่คิดจะแตะต้องรัฐธรรมนูญชุดนี้ รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ต้องมีสภาพเช่นทุกวันนี้หรอกครับ
บันทึกการเข้า

ประชาชนคนหนึ่ง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 05-09-2008, 10:48 »

นักมวยชกกัน คุณจะเชียร์ฝ่ายไหน?
นักมวยแพ้ แต่คนดูไม่แพ้?
กรรมการบนเวที เป็นกลางหรือเปล่า?

เขามีกฎ และกติกา อยู่นะครับ ทำตามกฎและกติกานะครับ
 
บันทึกการเข้า
ทางออกประเทศไทย
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 05-09-2008, 12:46 »

การลงประชามติ
  ควรทำพร้อมกันหมดทุกเรื่อง
  1. สนับสนุน  1.1ฝ่ายพันธมิตร
                  1.2 หรือ ฝ่าย ร.บ
                  1.3 หรือ ยุบสภา เลือกตั้งใหม่
  2. ควรแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่
                  2.1   ควร
                  2.2   ไม่ควร
                  2.3   งดออกเสียง
     ขอ 2 เรื่องก่อนครับ    รับรองปัญหาจบ ขอบคุณที่ เข้ามาแสดงความคิดเห็น
                                                                     กลุ่มสมานฉันท์ SCT
บันทึกการเข้า
คนกลาง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 05-09-2008, 15:05 »

จิงๆๆแล้วหน้าจะยุบสภานคับ คืนอำนาจกลับไปที่เจ้าของตัวจิง
แล้วเรีมตนกันใหม่ ถ้าปชชได้เสียงข้างมากก้ต้องยอมรับ ครับ
แต่มีข้อแม้ว่าปชปต้องเข้าร่วมรัฐบาลครับ2พักคงเพียงพอ
แบ่งตำแหน่งกันให้ลงตัวก็จบพักอื่นๆๆไห้เป็นฝ่ายค้านจบ
ผมคิดว่าทุกฝ่ายคงรับกันได้นะครับรถไฟสายใต้จะได้ออกวิ่งเสียที
บันทึกการเข้า
paka21
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 05-09-2008, 20:05 »

ผมไม่เห็นว่า การลงประชามติ จะมีผลเสียอะไรนะครับ ถ้าเทียบกับการยุบสภา ซึ่ง ทางด้านรัฐบาลก็คงไม่ยอมอยู่อย่างนี้แหละ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนนะครับ ว่า ถ้าเกิดปัญหา ขัดแย้งในประเทศ ให้ใช้การประชามติเป็นทางออก เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชัดเจนครับ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่านักวิชาการต่างๆ มาให้ข้อตำหนิกัน ซึ่ง ตอน รับ
รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ก็ขัดแย้งกัน พอลงประชามติทุกอย่างก็ยุติ ได้
    แล้วผมคิดว่า พลังของประชาชนที่ สร้าง แนวร่วม พันธมิตรขึ้นมาได้นั้น เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากนะครับ พันธมติรมีจำนวนเป็นแสนเป็นล้าน อยู่ทุกภาคในประเทศ แล้วพวกเค้าเองก็ มีความรู้ เปิด หูเปิดตา ทางพันธมิตรเองก็เชื่อว่า คือเสียงส่วนใหญ่ในประเทศ
    แล้วทำไมเราไม่เชื่อในพลังของประชาชนล่ะครับ ไอ้หลักการที่ว่า ปัญหาทางการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง ทุกวันนี้ มันใช้ได้ที่ไหนล่ะครับ ลองใช้เหตุผลตรึกตรองเอาดูนะครับ
    ส่วนผมไม่เข้าข้างใครนะครับ แต่ผมอยู่ข้างประชาชน แล้วผมจะรณรงค์ทางออกของปัญหาโดยประชามติต่อไปเรื่อยๆครับ เพราะคิดว่า เป็นทางออกที่ ดีที่สุดแล้วในตอนนี้
บันทึกการเข้า
ประชาชนคนหนึ่ง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 05-09-2008, 22:14 »

ประโยชน์สำหรับตน "ส่วนใหญ่"
การทำประชามติ ก็ เป็นการถาม คน "ส่วนใหญ่"
ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ก็ เป็นการถาม คน "ส่วนใหญ่" (แต่เสียงบประมาณเยอะกว่า)

เห็นด้วยกันการทำประชามติ

กฎและกติกาก็มีอยู่นะครับ ทำตามกฎและกติกาด้วยครับ
 
บันทึกการเข้า
the longest day
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33


« ตอบ #11 เมื่อ: 16-09-2008, 22:20 »

คิดว่าการลงประชามติ ก็ไม่ใช่ทางออก เพราะการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนทั้งประเทศนั้นไม่เท่ากัน ใครที่สามารถกุมสภาพท้องถิ่นได้มากกว่า โดยเฉพาะพื้นที่ในชนบท ก็สามารถให้ข้อมูลจริงๆเท็จๆได้มากกว่า เมื่อชาวบ้านได้รับข้อมูลที่จริงๆเท็จๆกรอกหูข้างเดียวเรื่อยๆ ในขณะที่ถูกปิดกั้นข้อมูลอีกด้านหนึ่ง การตัดสินใจลงให้เรื่องไหน ก็ผิดเพี้ยนได้ นี่ต่อให้ตัดเรื่องการซื้อออกไปก่อน

ถ้าจะลงจริงๆ ต้องให้โอกาสทุกฝ่าย ได้แสดงแนวคิดของแต่ละฝ่ายออกฟรีทีวี ทุกช่อง ออกวิทยุ ทุกสถานี วันละอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง ทุกวัน สักหนึ่งเดือน เป็นอย่างต่ำ ก่อนลง เพื่อที่ข้อมูลแนวคิดแต่ละฝ่ายได้เข้าถึงคนทั่วไปให้มากสุด แล้วให้คนทั่วไปได้ตัดสินใจเองว่าจะเชื่อข้อมูลของฝ่ายไหน   
บันทึกการเข้า
ทางออก
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 17-09-2008, 09:45 »

หนทางแก้ปัญหาให้กับประเทศไทย
ก่อนอื่นต้องมาวิเคราะห์ถึงกลุ่ม 2 กลุ่ม คือ
๑.   ฝ่ายที่โน้มเอียงไปทางพันธมิตรประชาธิปัตย     ๒.ฝ่ายเป็นกลางไม่ต้องการความวุ่นวาย                ๓.ฝ่ายที่เป็นน.ป.กพลังประชาชน
   ๑.๑   ๘๐ % อยู่ทางภาคใต้และกรุงเทพมหานคร               ๒.๑  คิดเป็น 35 %ของประชากร                       ๓.๑ ๘๐ % อยู่ภาคเหนือและอิสาน
   ๑.๒  คิดเป็นจำนวน 18,720,000.คน                                   หมายรวมพรรคร่วม                                                               
         ล้านคน 18.7 %ของประเทศ                                 ๒.๒ คิดเป็นจำนวน11,060,000.คน        ๓.๒ คิดเป็นจำนวน33,258,000คน.
                 
   ๑.๓ คูณ 80% = 14,976,000.-ล้านคน                               ล้านคน11.06%ของประเทศ                 33.26% ของประเทศ.
                         
                                                                                  ก.ท.มใต้ที่เหลือ3744000             ๓.๓ คูณ80%ฝ่าย ๓ เป็น26,606,400.-คน.
     
                                                                                  +11060000+อิสานเหนือที่เหลือ     ๓.๔ คิดเป็น 42.23 % (ยืดหยุ่นอาจถึง......
                                                                                                                                      45%)ของประเทศ
                                                                                  6651600 = 21,455,600.-ล้านคน         
    ๑.๔ คิดเป็น 23.77 % (ยืดหยุ่นอาจถึง 25%) ของประเทศ    ๒.๓ คิดเป็น 34 % (ยืดหยุ่นอาจถึง 35%)  ของประเทศ
 
           ( อ้างอิงประมาณการลงประชามติรัฐธรรมนูญพ.ศ 2549 และประมาณการโดยเฉลี่ยของการเลือกตั้งเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา )                       
              *** สรุปว่าเลือกตั้งคราวต่อๆไปก็อาจจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
               ฝั่งพันธมิตร 23.77 + 34 = 57.77         หรือฝั่งรัฐบาล   42.23 + 34 = 76.23
                   
                                                                                             






จำนวนประชากรของประเทศไทย            
             
                               หน่วย : พันคน
ภาค   2542   2543   2544   2545   2546   2547   2548   2549   2550
กรุงเทพฯและปริมณฑล   9,309   9,401   9,529   9,669   9,815   9,637   9,785   9,948   10,065
เหนือ   12,125   12,101   12,124   12,153   12,089   11,842   11,884   11,891   11,872
ตะวันออกเฉียงเหนือ   21,379   21,405   21,494   21,609   21,660   21,267   21,328   21,377   21,386
กลาง   2,964   2,967   2,985   3,003   3,008   2,930   2,942   2,957   2,963
ตะวันออก   4,141   4,181   4,242   4,301   4,350   4,273   4,334   4,402   4,443
ตะวันตก   3,591   3,607   3,624   3,650   3,658   3,591   3,628   3,653   3,654
ใต้   8,153   8,217   8,312   8,416   8,500   8,433   8,517   8,600   8,655
รวม   61,662   61,879   62,309   62,800   63,080   61,974   62,418   62,829   63,038
1.   เหลืองบวก     ฟ้า=
18,720,000.คน
 2.       ชมพู+ 
           เทา=                                                       33,258,000คน
3.        เขียวเป็นกลางรวมถึงพรรคร่วม=
11,060,000.คน   
ที่ 31 ธันวาคม 2550 ดังต่อไปนี้

ลำดับ   จังหวัด   จำนวนราษฎร
                          ชาย      หญิง      รวม
    ทั่วประเทศ                31,095,942   31,942,305 63,038,247
1   กรุงเทพมหานคร   2,727,574   2,988,674   5,716,248
2   จังหวัดกระบี่                    206,048   204,586   410,634
3   จังหวัดกาญจนบุรี   421,707   413,575   835,282
4   จังหวัดกาฬสินธุ์   487,574   489,934   977,508
5   จังหวัดกำแพงเพชร   361,523   364,471   725,994
6   จังหวัดขอนแก่น   869,386   883,028   1,752,414
7   จังหวัดจันทบุรี   248,842   255,161   504,003
8   จังหวัดฉะเชิงเทรา   323,500   335,466   658,966
9   จังหวัดชลบุรี   607,029   626,417   1,233,446
10   จังหวัดชัยนาท   162,947   174,200   337,147
11   จังหวัดชัยภูมิ   557,725   561,872   1,119,597
12   จังหวัดชุมพร   240,186   241,112   481,298
13   จังหวัดเชียงราย   605,963   619,050   1,225,013
14   จังหวัดเชียงใหม่   817,524   846,875   1,664,399
15   จังหวัดตรัง   300,154   310,178   610,332
16   จังหวัดตราด   110,876   109,667   220,543
17   จังหวัดตาก   270,657   260,271   530,928
18   จังหวัดนครนายก   122,765   125,731   248,496
19   จังหวัดนครปฐม   401,245   429,725   830,970
20   จังหวัดนครพนม   347,294   349,811   697,105
21   จังหวัดนครราชสีมา   1,264,118   1,288,776   2,552,894
22   จังหวัดนครศรีธรรมราช   749,036   757,961   1,506,997
23   จังหวัดนครสวรรค์   526,476   547,207   1,073,683
24   จังหวัดนนทบุรี   484,838   539,353   1,024,191
25   จังหวัดนราธิวาส   352,404   359,113   711,517
26   จังหวัดน่าน   240,800   236,581   477,381
27   จังหวัดบุรีรัมย์   766,889   769,181   1,536,070
28   จังหวัดปทุมธานี   428,791   468,052   896,843
29   จังหวัดประจวบคีรีขันธ์   248,290   246,298   494,588
30   จังหวัดปราจีนบุรี   225,786   229,202   454,988
31   จังหวัดปัตตานี   314,836   322,970   637,806
32   จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   367,673   393,039   760,712
33   จังหวัดพะเยา                   239,393   247,186   486,579
34   จังหวัดพังงา                   123,837   123,050   246,887
35   จังหวัดพัทลุง                   246,777   255,786   502,563
36   จังหวัดพิจิตร                   271,896   282,844   554,740
37   จังหวัดพิษณุโลก   414,311   427,372   841,683
38   จังหวัดเพชรบุรี   220,847   235,214   456,061
39   จังหวัดเพชรบูรณ์   496,858   500,673   997,531
40   จังหวัดแพร่                   227,772   238,104   465,876
41   จังหวัดภูเก็ต      150,473   165,025   315,498
42   จังหวัดมหาสารคาม   463,945   472,060   936,005
43   จังหวัดมุกดาหาร   168,517   167,590   336,107
44   จังหวัดแม่ฮ่องสอน   131,667   123,137   254,804
45   จังหวัดยโสธร   270,840   268,702   539,542
46   จังหวัดยะลา                   234,166   236,525   470,691
47   จังหวัดร้อยเอ็ด   653,594   654,995   1,308,589
48   จังหวัดระนอง   94,437   86,350   180,787
49   จังหวัดระยอง   288,098   295,372   583,470
50   จังหวัดราชบุรี   407,338   424,100   831,438
51   จังหวัดลพบุรี    380,361   390,252   770,613
53   จังหวัดลำพูน    197,719   207,438   405,157
54   จังหวัดเลย                   311,517   304,021   615,538
55   จังหวัดศรีสะเกษ   721,032   721,979   1,443,011
56   จังหวัดสกลนคร   556,088   556,976   1,113,064
57   จังหวัดสงขลา   647,820   677,095   1,324,915
58   จังหวัดสตูล                   141,870   142,612   284,482
59   จังหวัดสมุทรปราการ   547,341   579,599   1,126,940
60   จังหวัดสมุทรสงคราม   93,526   100,686   194,212
61   จังหวัดสมุทรสาคร   228,254   241,680   469,934
62   จังหวัดสระแก้ว   271,670   267,467   539,137
63   จังหวัดสระบุรี   305,056   310,700   615,756
64   จังหวัดสิงห์บุรี   103,166   112,487   215,653
65   จังหวัดสุโขทัย   295,317   309,984   605,301
66   จังหวัดสุพรรณบุรี   409,096   433,488   842,584
67   จังหวัดสุราษฎร์ธานี   480,958   489,466   970,424
68   จังหวัดสุรินทร์   686,246   686,426   1,372,672
69   จังหวัดหนองคาย   453,868   448,750   902,618
70   จังหวัดหนองบัวลำภู   250,386   247,217   497,603
71   จังหวัดอ่างทอง   136,962   147,444   284,406
72   จังหวัดอำนาจเจริญ   184,913   184,002   368,915
73   จังหวัดอุดรธานี   765,723   764,963   1,530,686
74   จังหวัดอุตรดิตถ์   229,639   235,638   465,277
75   จังหวัดอุทัยธานี   161,146   165,829   326,975
76   จังหวัดอุบลราชธานี   895,369   890,340   1,785,709

            
หัวข้อความ
ต้องการ
ของปัญหา
ต่างๆ

                 ฝ่าย ๑.พันธมิตร   ฝ่าย ๓.รัฐบาล   วิธีแก้ไขปัญหา   ป.ล       หมายเหตุ
๑.การเมืองใหม่
แต่งตั้ง 70
เลือกตั้ง 30          มีเหตุผลเพราะ1.แต่งตั้งโดยการ
                     คัดสรรจากสาขาอาชีพต่างๆเสมือน
                     การเลือกตั้งอยู่แล้วจะได้บุคคลากร
                     จากหัวกระทิและมีคุณธรรมไม่มีผล
                     ประโยชน์แอบแฝงเพราะไม่ต้องใช้
                     เงินเลือกตั้งมา                    ควรผ่อนปรนให้มีการ
                                                                 แต่งตั้งดังกล่าวโดยวิธีการ
                                                                 เลือกตั้งจากสาขาอาชีพนั้นๆ
                                                                 อาชีพอะไรก็ไปเลือกคนๆนั้น
                                                                 แต่อยู่ที่ว่าใครเป็นผู้เสนอชื่อหรือ
                                                                โดยการสมัครใจเองและต้องไปแก้
                                                                 กฏหมายรัฐธรรมนูญก่อน                เรียกตัวแทนฝ่ายประสานงาน
                                                                                                             ทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจาหาข้อตกลง
                                                                                                              และ70/30,50/50
                                                                                                              เสนอเข้ากรรมมาธิการแก้
                                                                                                              ไขรัฐธรรมนูญให้มีการลง
                                                                                                              ประชามติ                ต้องยอมรับทุกๆฝ่ายที่เคยกระทำ.
                                                                                                                                             ผิดไม่ควรมีนิรโทษกรรม
                                                                                                                                             จะเป็นตัวอย่างไม่ดี
                                                                                                                                             ต่อชนรุ่นหลัง
๒.ไม่รับข้อเสนอการคัดสรรรัฐบาล
    ควรยอมรับก่อนเพราะมาจากการเลือกตั้งของเสียงส่วนใหญ่
                                                           หรือรัฐบาลยอมยุบสภาเลือกตั้ง
                                                                        ใหม่แต่ผลคงไม่ต่างกันนอกจากแก้ข้อ๑.เสียก่อน   เหมือนดังข้อ ๑คือการเจรจากัน                                                                                                                                   เมื่อสรุปได้แล้วต้องยึดถือตลอด
๓.คิดแก้รัฐธรรมนูญ
   คัดค้านเต็มที่ไม่ยอมให้แก้ไข                           เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายร่างไม่เป็นกลาง                     ควรเจรจาตั้งคณะ
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   กรรมาธิการและลงประชามติ   
       ต้องลงประชามติ
          ประชามติ                 ประชามติ              ประชามติ             ประชามติ             ประชามติ




                                                                                                                                   
บันทึกการเข้า
แก้ปัญหา
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: 17-09-2008, 09:49 »

จากกลุ่มสมานฉันท์ไทยSCT
                           
ต่อเนื่องจากหัวข้อ        ทางออกประเทศไทย

                           ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในกฏหมายและเสียงส่วนรวม
                           
                           โดยยึดหลักคำตัดสินของกฏหมาย อย่าให้กฏหมู่ทุกฝ่ายอยู่เหนือกฎหมาย
 
                           รักพ่ออย่าทะเลาะกัน
                                                                 ขอบคุณครับ
                           ได้ข่าวมาว่าจะมีผู้นำเชื้อ ไข้หวัดนก............ซาล์..........ฯลฯไปปล่อยใน.........อาจ......ต.....R"""""""ย......เรียบ
 
 
 
บันทึกการเข้า
การเมืองใหม่
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: 17-09-2008, 09:52 »

คนกลางรักชาติศาสนกษัตริย์
บุคคลทั่วไป
  ขอประชามติ 1.ยุบสภา 2.เลือกฝ่ายค้าน 3.ฝ่ายรัฐบาลเหมือนเดิม เพราะ ?
« เมื่อ: 12-09-2008, 14:56 » อ้างถึง

--------------------------------------------------------------------------------
ขอประชามติ   1.ยุบสภา 2.เลือกฝ่ายค้าน 3.ฝ่ายรัฐบาลเหมือนเดิม 4.งดออกเสียง  เพราะ ?

              ผมอยู่กรุงเทพ เกิดที่จังหวัดตรัง จบการศึกษาจากประเทศไต้หวัน เป็นวิศวกร

              ขอเลือก  1. ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศเลือกตั้งใหม่ เพราะ
                              1.1 บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติสุข สุ่มเสี่ยงต่อการทำร้ายกันอันนำมาซึ่งความแตกแยกของประเทศชาติ
                              1.2 หากเลือกฝ่ายค้าน ถูกใจหลายฝ่ายแต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็จะออกมาประท้วงอีก
                              1.3 หากเหมือนเดิมก็เหมือน ณ.ปัจจุบัน ไม่ว่าฝ่าย 6 พรรคใดใครมาเป็น
 
ขอประชามติ    1.แก้รัฐธรรมนูญ  2.ไม่แก้รัฐธรรมนูญ 3.ควรทำประชามติทั้งประเทศ
                ผมเห็นว่าควรทำประชามติหากประชาขนเห็นว่าควรแก้ก็ตั้งกรรมมาธิการแก้ไขกันใหม่ในส่วนที่บางฝ่ายไม่เห็นชอบ
                                                                                         คนกลางรักชาติศาสนกษัตริย์ 
 
  บันทึกการเข้า 
 
 
 
คนกลาง
บุคคลทั่วไป
  Re: ขอประชามติ 1.ยุบสภา 2.เลือกฝ่ายค้าน 3.ฝ่ายรัฐบาลเหมือนเดิม เพราะ ?
« ตอบ #1 เมื่อ: 12-09-2008, 15:00 » อ้างถึง

--------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นเพื่อชาติของเรา
 
  บันทึกการเข้า 
 
 
 
เลือกอยู่ข้างธรรมะ
บุคคลทั่วไป
  Re: ขอประชามติ 1.ยุบสภา 2.เลือกฝ่ายค้าน 3.ฝ่ายรัฐบาลเหมือนเดิม เพราะ ?
« ตอบ #2 เมื่อ: 12-09-2008, 21:48 » อ้างถึง

--------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีการทำประชามติ  เพราะ รธน  ฉบับนี้ต้องใช้ไปสักสองสามปี หรือห้าหกปี  แล้วถ้ามีปัญหา หรือคิดว่าต้องแก้ไข
ถึงเวลาค่อยมาตั้ง สสร ๓ แก้ไข รธน

เรื่องยุบสภา-----------ณ ปัจจุบันนี้  ใครจะเป็นคนยุบสภา------ไม่มีนายกแล้ว  และมีความเห็นจากศาลท่านหนึ่งว่า
สมัครต้องพ้นสภาพไปตลอดอายุขัยของสภานี้....

ไม่รู้ว่าใครจะยุบพรรค....เพื่อเป็นไปตามมาตรา ๑๐๘

มีทางเดียวคือ  สส  เลือกนายกใหม่ ตามมาตรา  ๑๗๒  ซึ่งจะเกิดได้  สส  ในสภาต้องเห็นแก่ชาติบ้านเมือง

(คงยาก)...ที่สำคัญคือ  พรรคชาติไทย เพื่อผ่นดิน พปช  กกต มีมติยุบพรรค และยังอยู่ที่อัยการ  นานแล้ว

ควรส่งให้ศาล รธน  พิพากษาเสียที  ถ้ายุบพรรค  สส ในพรรคนี้ก็ต้องไปหาพรรคใหม่อยู่ 

---------------ไม่มีใครเลือกเป็นคนกลางแล้ว------------ ยังมาพูดเรื่องกลางอยู่อีก

แล้วมาเลือก นายก  หรือจะทำอะไรก่อนหลัง  ก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่ที่รู้ ๆๆ คือ  บ้านเมืองนี้เป็นของคนไทย ไม่ใช่ของไอ้พวกตระกูลโ ค ต ร โกง และโกงทั้ง โค ต ร
มันทำยังกับบ่้านนี้เมืองนี้เป็นของพวกมัน

ท่านผู้รักษาบ้านเมืองทั้งหลาย  ลองคิดดูว่า  จะปล่ยให้พวกตระกูลเหรี้ยเหลี่ยม มันทำกับคนไทย บ้านเมืองไทยอยู่ได้อย่างไร
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: