cameronDZ
|
|
« เมื่อ: 15-03-2007, 17:17 » |
|
เมื่อวาน ผมยกหูโทร.ไปหาเวบมาสเตอร์ประชาไท - ด้วยเรื่องใด หลายคนคงรู้
นานมากแล้ว ที่ไม่ได้คุยกัน คำแรก ที่ไถ่ถามกัน "สบายดีไหม..." แล้วก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อึกอัก กันทั้งสองฝ่าย คุยกัน อย่างประดักประเดิด เหมือนคนไม่รู้จัก สักพัก ก็กล่าวคำ "โชคดี...รักษาสุขภาพนะ..." แล้ววางสายไปอย่างหม่นหมองกลับมานั่ง เปิดเพลงนี้ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=heathen&date=23-07-2005&group=4&blog=1แล้วก็ร้องไห้.... ความรู้สึก มันเป็นเช่นเพลง อ ย า ก ไ ด้ ยิ น ว่ า รั ก กั น จะยังเป็นไปได้อีกไหม ในสถานการณ์เช่นนี้ ในประเทศนี้
คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่พานพบความรู้สึกโหดร้ายแบบนี้ คนอื่น ๆ ก็คงจะพบเจอ เช่นกัน
ถ้าไม่นับ ญาติมิตร คนในครอบครัว ที่ตอนนี้ ก็แตกร้าว ไม่ค่อยอยากเจอ อยากคุยกัน เพื่อนพ้องน้องพี่ ทั้งที่สนิทมาก สนิทน้อย เคารพนับถือกัน ไม่ว่าจะในสายนักวิชาการ เอ็นจีโอ นักเคลื่อนไหว ม.เที่ยงคืน ประชาไท บ้านนอกดอทคอม ฯลฯ
ก็เหมือน อยู่คนละโลก มีพระเจ้าคนละองค์ ด้วยรายละเอียดแห่งความปวดร้าวที่แตกต่าง- บ้างเกลียดชังทักษิณ แต่ต่อต้านมาตรา 7 - เกลียดทักษิณ แต่ก็เกลียดสนธิ - เกลียดเผด็จการทหาร จนยอมเลิกเกลียดทักษิณ - สนับสนุน คมช. แต่เกลียดนายกขี่เต่า - สนับสนุนนายกขี่เต่า เกลียดสะพรั่งฯลฯ ผม...วันนี้ เหนื่อยเต็มทีแล้วครับ ผม...ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่...อยากได้ยินว่ารักกัน
จะผ่านความยากลำบากของชีวิตช่วงนี้ ไปได้ไหม รู้สึกมัน เหน็ดเหนื่อย ยาวนาน เหลือเกิน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2007, 17:23 โดย cameronDZ »
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 15-03-2007, 19:46 » |
|
ต้องได้สิคะ ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราต้องเผชิญ และถึงแม้จะผ่านไปไม่ได้ ก็เตรียมใจไว้ต้อนรับกับมันด้วยความกล้าหาญและจิตใจทีนิ่งสงบ อย่าเพิ่งหมดหวัง และท้อแท้กับมันค่ะ ปัญหามีไว้ให้สู้ ศัตรูคือยากำลังนะคะ เริ่มที่ "จิตใจ" ของเราเองก่อน ลองยื่นมือออกไปก่อนสิคะ ด้วยมิตรภาพและความจริงใจ ขอบคุณสำหรับเพลง "อยากได้ยินว่ารักกัน" ค่ะ ยังคงไพเราะซาบซึ้งเหมือนเดิม เลยไปหาเพลงมาให้ฟังบ้างค่ะ ไม่ทราบว่าจะช่วยให้มีกำลังใจบ้างมั้ยในฐานะสมาชิกเพื่อนร่วมบอร์ดคนหนึ่งค่ะ "รักต้องสู้" ของ คาราบาว http://imusic.teenee.com/2/frame/5640.php
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2007, 20:57 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 15-03-2007, 22:06 » |
|
ผม...จริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก นอกจาก "รู้สึก" มากหรอกครับ
ขอบคุณ คุณเม่ย ที่ให้กำลังใจ
จริง ๆ ผมเป็นห่วง เพื่อนพ้องน้องพี่ พวกที่ต่อสู้ทางความคิดกันเองในศูนย์กลางอำนาจ ...ที่อยู่ระหว่างเขาควายแห่งความขัดแย้ง อย่างจริงจัง
จะมีวัน กลับมา "รักกัน" อีกเหมือนเดิมไหม
จะให้ "รักกัน" ตอนนี้ เดี๋ยวเกิดอีกฝ่ายต่อรอง ว่า..เอาสิ แต่มึงต้องเปลี่ยนมาต่อต้านเผด็จการทหารกับกู ก่อน ก็คง รักกัน ไม่ลง เพราะไอ้เจ้าอีโก้ ที่มันยิ่งใหญ่กว่ามิตรภาพที่สร้างสมกันมาตลอดชีวิต
มันน่าเศร้าจริง แค่ คน ๆ เดียว ทำให้ประเทศไทย แตกแยกกันทางความคิดได้มากขนาดนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
skidato
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 22-03-2007, 20:28 » |
|
เพลงบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่องเลย สู้ ต่าย อรทัย ของผมไม่ได้เพราะสุดๆ เหอๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 22-03-2007, 20:31 » |
|
เพลงบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่องเลย สู้ ต่าย อรทัย ของผมไม่ได้เพราะสุดๆ เหอๆ
เง้อ...ไม่มีอะไรจะด่า ไปด่าเพลงซะอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 22-03-2007, 20:34 » |
|
ชอบเพลง"ปูนาขาเก"ง่ะ เดินไม่ค่อยจะตรง ขายังดันเป๋ซะอีก น่าฉงฉาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
skidato
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 22-03-2007, 20:35 » |
|
เพลงบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่องเลย สู้ ต่าย อรทัย ของผมไม่ได้เพราะสุดๆ เหอๆ
เง้อ...ไม่มีอะไรจะด่า ไปด่าเพลงซะอีก ก็มันน่าด่ามั้ยล่ะคลิ๊กเข้าไปหวังจะฟังดูหน่อยดันเสือกไม่มีเสียงเพลงซะงั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 23-03-2007, 02:48 » |
|
ชอบ เธอบอก...เธอหลอกมากกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 14-05-2007, 12:27 » |
|
ขุดกระทู้ขึ้นมา ให้ตัวเองเจ็บปวดเล่น ๆ อีกสักครั้ง
เพราะ เมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ได้พานพบเหตุการณ์ที่ทำให้อยากฟังเพลง "อยากได้ยินว่ารักกัน" หรือไม่ก็...ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรู้จัก-รักกันอีกแล้ว ก็เป็นได้
วันนั้น ผมนั่งจิบกาแฟ คุยอยู่กับ อ.ไชยันต์ ไชยพร (ไอ้หนุ่มผมยาวจอมฉีกบัตร) กับเพื่อน ๆ อีก สองสามคน กำลัง เมากาแฟ คุยกันเฮฮาสารพัดโจ๊ก ไอ้ชูเจ้าเก่า(แห่งประชาไท)ก็เดินเข้ามากับ อุเชนทร์ NGO นักเคลื่อนไหวที่กลุ่มผมก็ไม่ค่อยสนิทนัก เราชวนสองคนนั้น ลงนั่งกินกาแฟด้วยกัน ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายอะไรกันเลย เจ้าอุเชนทร์ ก็เปิดฉาก โยนระเบิดโครมใส่ อ.ไชยันต์ ว่า "อาจารย์ คิดยังไงถึงไปรับใช้เผด็จการ" อ.ไชยันต์ ยังอารมณ์ดี หัวเราะหึ ๆ ตอบกลับมาแบบทีเล่นทีจริงว่า "เงินดี" แต่เจ้านั่น ไม่ทีเล่นด้วย เปิดฉาก ใส่เป็นชุด ๆ อย่างก้าวร้าว ไร้สัมมาคารวะ จนผมยังคิดอยู่ในใจว่า ขนาด อ.ไชยันต์ เป็นอาจารย์สอนปริญญาโทมันที่ธรรมศาสตร์ นะเนี่ย มันยังกล้าด่า โลกนี้ไม่มีครูบาอาจารย์แล้วมั้ง (แม้วสอน-ทางอ้อม) เป็นผมละ เจอดีแน่ รับรองวิชานั้น มึงตกแน่ 555
มัน ด่า ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆ จนหนำใจ (โดยที่ อ.ไชยันต์ไม่ตอบโต้จริงจัง) แล้วก็ลุกจากไป มารู้ทีหลังว่า อย่าว่าแต่อาจารย์ตัวเองเลย ขนาดพี่รสนา หรือ พี่แดง-เตือนใจ ไอ้เจ้านี่ก็เคยเข้าไปชี้หน้าด่า ไม่รู้จักพี่เชื้อมาแล้ว พวกเรา แซว ลับหลังว่า คงเว้นแต่ สุริยะใส กระมัง ที่มันไม่กล้า กลัวเขา ตื๊บคืน
และก็คิดอยู่ในใจว่า เออ...ถ้ากรูกำลังกินเบียร์ ไม่ใช่กินกาแฟ มึงคงโดนกระทืบไปแล้วเหมือนกัน หรือถ้าไปทำอย่างนี้ในโต๊ะที่มีอาจารย์เสกนั่งอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะโดนภาชนะชนิดไหนกระทบศีรษะเอา
ที่เล่าให้ฟังไม่มีอะไร
เพียงแต่ เตือนใจ เพื่อน ๆ ชาวเสรีไทย การเป็นนักท่องเวบ ต่อสู้เผด็จการ (ที่บางทีก็ถูกตราหน้าว่าสนับสนุนเผด็จการทหาร) ว่า การได้ด่าทอ หยามเยียด ถ่มถุย ใส่พวกขี้ข้าหน้าเหลี่ยม ที่ไม่รู้จักหน้าค่าตา (คนหรือหมาที่ไหนก็ไม่รู้) เป็นเรื่องสนุกสนาน บานตะไท สะใจไร้เอฟเฟคต์ ยิ่งนัก
แต่การเห็น เพื่อนเรา แตกร้าว กลายเป็นศัตรูทางความคิด (ชกปากกันไปกี่ราย ไม่ได้เก็บสถิติ) เป็นเรื่อง เจ็บปวด สุดจะบรรยาย
ไม่รู้จะบอกว่า
อยากได้ยินว่ารักกัน...เหมือนเดิม หรือ ไม่อยากให้ (วันที่ 19 กย.) มันเกิดขึ้นเลย
ไม่รู้สิ...นึกอะไรไม่ออกแล้ว มึน ไม่เจอกับตัวเอง คงไม่รู้สึก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 14-05-2007, 13:20 » |
|
^ ^ อย่าบอกนะว่าเคยรักกันกับอุเชนทร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 14-05-2007, 13:29 » |
|
^ ^ อย่าบอกนะว่าเคยรักกันกับอุเชนทร์ ไม่เคยคิดจะรักกับพวก "นักเลงม็อบ" ฮับ คนละเวย์กัน ที่มาบอก ก็จะบอกว่า คนที่เคยเรียกว่าเพื่อน นอกจากจะเลี้ยงกุ๊ยราชดำเนินไว้เป็นพวกแล้ว ยังคบค้าสมาคมกับพวกนักเลงม็อบอีก เจริญๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 14-05-2007, 13:35 » |
|
เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน + เว็บบอร์ดประชาไท =
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Priateľ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 14-05-2007, 13:41 » |
|
หากเขาคนนั้นรักคนรอบข้างไม่ได้ ไอ้ปากของเขาที่พร่ำว่าจะไปรักมวลชนผู้ทุกข์ยากข้างนอกโน่นก็เป็นแค่ลมๆแล้งๆเท่านั้น
ตัดใจรักคนใหม่เถอะครับ ขอเอาใจช่วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.
ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
|
|
|
อังศนา
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 14-05-2007, 14:20 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
|
|
|
|
THE THIRD WAY
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 14-05-2007, 14:43 » |
|
รักเอยจริงหรือที่ว่าหวาน หรือทรมานใจ....รักนี้มีสุข ทุกข์เคร้าไป ใครหยั่งถึงเจ้าได้....คงไม่ช้ำ ฤ ดี รักเอยรักที่ปรารถนา....รักมาประดับชีวี หวั่นใน ฤ ทัยเหลือที่....แกล้งรักลวงชีวี แล้วรักขยี้ใจ.....ฮือ....ฮือ..... ฯลฯ ความรัก เหมือนภูตผีปีศาจ มาก็ไม่ได้บอกกล่าว ไปก็ไม่ได้ร่ำลา ทุกผู้..ก็แสวงหากันนัก โอ้ความรักเอย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 14-05-2007, 15:07 » |
|
ชอบแมว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 26-09-2008, 21:07 » |
|
ขุดกระทู้เก่าเก็บของตัวเอง ขึ้นมาอีกที ดู ๆ ไป กระทู้นี้ คงเหมือนที่ระบายความเจ็บปวด จากสงครามสี ที่นับวันทวีความรุนแรง ทำร้ายจิตใจ ตัวผมเอง ขึ้นเรื่อย ๆ ละนะ
จริง ๆ เรื่องนี้ ชั่งใจอยู่นาน ว่าจะเล่าดีไหม เพราะใกล้ตัวเหลือเกิน
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ รางวัล มนัส เศียรสิงห์
มนัส เศียรสิงห์ คือใคร? ทำไมถึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อรางวัล? และเป็นรางวัลเกี่ยวกับอะไร?
อธิบายแบบรวบรัดได้ว่า
มนัส เศียรสิงห์ เป็นนักศึกษาศิลปะ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์หฤโหด 6 ตุลา 19 ครับ ถ้าท่านยังจำภาพหนึ่งอันโด่งดัง เกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่มีคนถูกผูกคอ ลากออกมาสนามหลวง นั่นแหละครับ เขาคนนั้น มนัส เศียรสิงห์ ตอนที่ถูกลากออกมานั้น มนัสยังไม่ตาย เขายังดิ้นกระแด่ว ๆ แล้วหลังจากนั้น ถูกเอาลิ่มไม้ปักกลางอก ก่อนจะถูกจับเผาไฟทั้งเป็น (พอเถอะ อย่าอธิบายมากกว่านี้เลย สยอง+เศร้า)
มนัส เศียรสิงห์ หรือ "พี่แดง" เป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบันผมเองครับ
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ทางกลุ่มเพื่อนพ้องของมนัส เศียรสิงห์ ได้จัดทำรางวัล "มนัส เศียรสิงห์" เพื่อมอบให้แก่ ศิลปินที่อุทิศตนเพื่อสังคม เพื่อระลึกถึงคุณงามความดี ของมนัส เศียรสิงห์ มีศิลปินได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ มาหลายคนแล้ว
แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ได้มีกลุ่มเพื่อนพ้องมนัส เศียรสิงห์ ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการตัดสินรางวัล เรียกร้องให้ยึดรางวัลที่มอบให้ศิลปินคนหนึ่ง เพราะศิลปินคนนั้น ประพฤติตนไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของการให้รางวัลเชิดชูเกียรติ
ศิลปินคนนั้น คือ วสันต์ สิทธิเขตต์
ข้อกล่าวหาของเพื่อนพ้องมนัส (ส่วนหนึ่ง) คือ วสันต์ สิทธิเขตต์ ก่อนหน้านั้น มีส่วนร่วมในการต่อสู้ขับไล่เผด็จการมาโดยตลอด แต่หลังวันที่ 19 กย. 49 วสันต์ สิทธิเขตต์ กลับไปเข้าข้างเผด็จการทหาร สนับสนุนการยึดอำนาจ และเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
เศร้าอีกแล้ว อยากฟังเพลง "อยากได้ยินว่ารักกัน" อีกแล้ว
คือ ไม่ต้องไปคิด ไปหวังว่า คณะกรรมการตัดสินรางวัล จะยินยอมทำตามคำเรียกร้องนี้หรอกครับ เพราะในคณะกรรมการ หลายคน ก็ต่างตกอยู่ใน "สงครามสี" เหมือน ๆ กับเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ มีทั้งคนที่เห็นด้วยกับพันธมิตร (เห็นด้วยทั้งหมด - เห็นด้วยบ้าง) และไม่เห็นด้วย
มันก็ไม่ต่างจากความแตกแยกทางความ "เชื่อ" ในศิลปิน คนทำงานศิลปะ แขนงต่าง ๆ ตอนนี้แหละครับ เช่น ยกตัวอย่างให้ดูก็ได้ อดีตสมาชิกวงกรรมาชน เช่น จิ้น กรรมาชน - คนนี้โปรทักษิณจ๋า เพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับหมอเลี้ยบ หมอมิ้ง แต่นิด กรรมาชน กลับเห็นด้วยกับแนวทางของพันธมิตร ขึ้นเวทีพันธมิตร หลายครั้ง
เพื่อนฝูง พวกพ้อง มองหน้ากันไม่ติด (ไม่อยากมอง) กันไปหมดแล้วครับ เพราะไอ้เหียก ทักษิณ คนเดียวนี่แหละ
คือ ถ้าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผูกพัน กับแวดวงที่ผมคลุกคลีอยู่ เป็นเพียงคนเกลียดทักษิณทั่ว ๆ ไป ผมคงจะหัวเราะเยาะกับกรณีนี้ และอาจพูดประชดไปแล้วว่า "ยึดรางวัลจากวสันต์ สิทธิเขตต์ แล้วเอาไปมอบให้ วิสา คัญทัพ ก็แล้วกัน เหมาะสมกับรางวัลนี้ที่ซู้ดดดด"
แต่คนที่มีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์มากกว่า อย่างผม เห็นภาพ ครูประทีป ออกมาพูดเสียดสีเหน็บแนม พี่สุวิทย์ วัดหนู หลังความตาย เห็น วิสา คัญทัพ ออกมาสำรากด่า เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ อังคาร กัลยาณพงศ์ เห็นภาพ จิ้น กรรมาชน กับ นิด กรรมาชน ยืนอยู่คนละข้างกัน เห็นภาพ บก.ลายจุด พูดจาลำเลิกสามหาวใส่ พี่แดง-เตือนใจ ดีเทศน์ เห็นภาพ วสันต์ สิทธิเขตต์ กลายเป็นผู้ร้ายในสายตา กลุ่มเพือนมนัส เศียรสิงห์
มันเจ็บปวดเกินจะบรรยายครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
|