ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
06-07-2025, 06:41
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ทางออกธรรมดาๆ ที่ตรงไปตรงมา : ธงชัย วินิจจะกูล 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ทางออกธรรมดาๆ ที่ตรงไปตรงมา : ธงชัย วินิจจะกูล  (อ่าน 1065 ครั้ง)
boyk
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,477



« เมื่อ: 07-09-2008, 22:21 »

ทางออกธรรมดาๆ ที่ตรงไปตรงมา : ธงชัย วินิจจะกูล



ระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2551 มีแถลงการณ์จากกลุ่มบุคคลใหญ่น้อยสารพัดพยายามเสนอทางออกต่อสถานการณ์ขณะนี้รวม 17 ฉบับ ผมได้รับร่างที่ส่งผ่านกันมาให้พิจารณาอีก 2 ฉบับ รวมเป็น 19 ฉบับ

             ในจำนวนนี้ 11 ฉบับเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก อีก 3 ฉบับเสนอให้ยุบสภา อีก 2 ฉบับเสนอว่ายุบสภาก็ได้ นายกฯ ลาออกก็ได้ อีก 3 ฉบับไม่เสนออะไรเลย   ข้อเสนอเหล่านี้ให้เหตุผลไปต่างๆกัน ผู้สนใจการเมืองคงคิดคำนวณข้อดีข้อเสียของแต่ละทางออกด้วยความลำเอียงเลือกข้างตามจริตของตน

            น่าดีใจที่ไม่มีใครเสนอทางออกซึ่งอาจอยู่ในใจบางคนแต่ไม่กล้าพูดออกมา นั่นคือรัฐประหาร อย่างน้อยก็ยังมีความละอายใจกันอยู่บ้าง

            น่าดีใจที่ไม่มีใครเสนอทางออกอีกอย่างซึ่งอาจอยู่ในใจหลายคน แต่มิอาจเอื้อมเสนอ อย่างน้อยก็ยังมีความยับยั้งชั่งใจกันอยู่บ้าง

            แต่น่าตกใจที่มีไม่กี่คนที่เสนอทางออกอีกอย่างซึ่งอาจจะง่ายที่สุดและถูกต้องชอบธรรมที่สุด (เกษียร เตชะพีระเสนอความคิดนี้ในบทความของเขาแต่โดนปัญญาชนพันธมิตรฯ โจมตีราวเป็นศัตรู นักวิชาการจำนวนหนึ่งก็เสนอในการประชุมเร็วๆนี้ที่จุฬาฯ ก่อนการปะทะกัน) นั่นคือ

            ผู้นำพันธมิตรฯ ควรมอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายศาล เพื่อให้เผชิญกับกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ส่วนการชุมนุมประท้วงรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไปได้ในที่อื่นที่เหมาะสมกับการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย (ที่ไม่ใช่เพื่อยึดอำนาจรัฐ) 

            ทางออกนี้ต้องการความกล้าหาญและความรับผิดชอบของผู้นำพันธมิตรฯ เมื่อกล้าก่อปัญหา กล้าขัดขืน ก็สมควรกล้าเผชิญหน้ากับกฎหมายอย่างมีอารยะ ต้องทำเช่นนี้ต่างหาก การประท้วงของพันธมิตรฯ จึงจะนับเป็นอารยะขัดขืน

            หากไม่ทำเช่นนี้การกระทำของพันธมิตรฯ ย่อมนับเป็นการกระทำของอันธพาลการเมืองที่วางอำนาจบาตรใหญ่อยู่เหนือกฎหมาย ถึงจะใหญ่โตแค่ไหนก็เป็นแค่กุ๊ยการเมืองระดับชาติที่น่ารังเกียจ

            ในสังคมไทย แม้แต่พระมหากษัตริย์ยังอยู่ใต้กฎหมาย ผู้นำพันธมิตรฯเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนกันจึงวางอำนาจบาตรใหญ่เหนือกฎหมายได้

            เกลียดทักษิณ ก็อย่าทำตัวอย่างเดียวกับที่ตนกล่าวหาทักษิณ

            ผมอยากเห็นท่าน ผบ.ทบ. หรือคนระดับนั้นไปเชิญตัวผู้นำพันธมิตรฯถึงที่ชุมนุม ไปมือเปล่าๆ ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้มีการมอบตัวกันแต่โดยดี  จากนั้นเป็นเรื่องของศาล

            ผู้นำพันธมิตรฯ ควรกล้าหาญรับผิดชอบความบกพร่องของตน (หรือใครคิดว่าพวกเขาไม่มีความบกพร่อง?) อย่าเอาชีวิตเลือดเนื้อของมวลชนผู้สนับสนุนตน เข้าเสี่ยงตายแทนตัวเองเลย

            ความกล้าหาญอาจช่วยให้ผู้นำพันธมิตรฯ กลายเป็นวีรบุรุษในฉับพลันอีกด้วย

            อาจมีข้อโต้แย้งว่าเป็นไปได้ยาก เพราะผู้นำพันธมิตรฯ คงไม่ยอม เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะทางออกอื่นก็ไม่ง่ายสักข้อ และก็คงมีคนอื่นไม่ยอมเช่นกัน ผู้นำพันธมิตรฯเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนกันที่เราต้องคอยเอาใจ

            อาจมีข้อโต้แย้งว่าทางออกนี้ไม่ยุติความขัดแย้งในปัจจุบันอย่างถึงราก เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะทางออกอื่น ไม่ว่ายุบสภาหรือลาออก ก็ไม่ยุติความขัดแย้งพื้นฐานแต่อย่างใด  เรากำลังหาทางเพียงแค่ลดการประจันหน้าและลดอุณหภูมิทางการเมืองลง ทุกทางออกหวังผลแค่ต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยกันทั้งนั้น

            อาจมีข้อโต้แย้งว่า มวลชนของพันธมิตรฯ คงยอมไม่ได้ เหตุผลข้อนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะขึ้นอยู่กับผู้นำพันธมิตรฯ จะกล้าหาญทำความเข้าใจกับคนของตนหรือไม่ต่างหาก มวลชนของพันธมิตรฯ เป็นคนมีการศึกษาและโตๆกันแล้วทั้งนั้น

            ทั้งทางออกอื่นก็คงมีมวลชนของฝ่ายตรงข้ามพันธมิตรไม่ยอมรับเช่นกัน ไม่เห็นมีปัญญาชนนักวิชาการคิดถึงเขาบ้างเลย

            ทางออกที่เสนอนี้ยังเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตย และไม่ทำลายความน่าเชื่อถือของศาลอีกด้วย ในทางกลับกันการทำตัวอยู่เหนือกฎหมายของพันธมิตรฯ เป็นการทำร้ายอำนาจตุลาการที่ตนยกย่องเชิดชู

            อยากจะสร้างการเมืองใหม่ ก็กรุณาอดทนจนกว่าประชาชนจะเห็นด้วย  มิใช่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ บังคับขู่เข็ญ ยัดเยียดให้คนครึ่งค่อนประเทศจำต้องยอมรับ

            ทางออกง่ายๆ ตรงๆ และถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายข้อนี้ถูกมองข้ามเสียสิ้นเพราะความลำเอียงที่แผ่ซ่านจนน่ากลัว  จนไม่ฟังกันอีกต่อไป

            น่าตกใจที่ปัญญาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน นักกฎหมายทนายความและนักสิทธิมนุษยชนทิ้งหลักการ หลักวิชาชีพ กลายเป็นนักเคลื่อนไหวมวลชนที่มุ่งเอาชนะกันไปหมด ต่างลำเอียงกระเท่เร่ให้ท้ายการวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่เหนือกฎหมาย ลำเอียงจนขาดความยั้งคิด เอาแต่ได้ เลือกปฏิบัติ ขาดหลักการ เกลียดชังทักษิณจนขาดสติ ทำลายทุกอย่างและใครก็ตามที่ขวางหน้า 

            พวกตนข่มขู่คุกคามคนอื่นก็ถือเป็นความรักชาติ  ใช้ความรุนแรงก็ถือเป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ พกอาวุธก็ถือเป็นสันติวิธี  รวมกันแล้วก็ถือเป็น “ข้ออ่อนที่มีอยู่บ้าง”พอรับได้ หากฝ่ายตรงข้ามตนทำผิดก็เรียกร้องเอาผิดราวจะกินเลือดกินเนื้อ

            คนมากมายไม่กล้าทักท้วงทัดทานเพราะไม่อยากโดนก่นด่าทำลาย เสียเพื่อนเปลืองตัว

            ประชาชนหลายสิบล้านที่กำลังเฝ้าดูพันธมิตรฯ และปัญญาชนชาวกรุง จะให้พวกเขาเข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไรกัน พวกเขาย่อมคิดว่าประเทศชาติไม่ใช่ของเขาแต่เป็นของเทวดาชาวกรุงที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง แถมยังมีนิสัยเด็กๆ คือ เอาแต่ได้แต่ไม่กล้ารับผิดชอบ 

            พวกเขากำลังอัดอั้นตันใจจนกำลังจะระเบิดสักวันว่า พวกเขาเป็นแค่ไพร่ทาส เป็นพลเมืองชั้นต่ำกว่าพันธมิตรฯ และปัญญาชนชาวกรุงหรืออย่างไร

            ทางออกที่ถูกมองข้ามนี้ เป็นวิถีปฏิบัติปกติที่ใช้กันอยู่เป็นประจำในนานาอารยะประเทศที่ถือกฎหมายเป็นใหญ่ เพื่อไม่ให้การประท้วงลามปามกลายเป็นการนองเลือด  เป็นทางออกอย่างแรกๆที่ใครๆก็นึกได้จนเป็นสามัญสำนึก

            ประเทศไทยประหลาดกว่าใครอื่นขนาดไหนกัน จึงมองข้ามทางออกธรรมดาๆและตรงไปตรงมาข้อนี้กันหมด  หรือประเทศไทยมีระดับอารยะธรรมสูงต่ำผิดปกติกว่าคนอื่น จึงถือกฎหมายเป็นของเล่นที่จะใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจชอบ

            หรือปัญญาชนประเทศไทยมีระดับสติปัญญา ความเที่ยงตรงและความยึดมั่นในหลักการ อยู่ในระดับสูงต่ำผิดปกติต่างจากที่อื่นๆในโลก จึงนึกไม่ถึงทางออกอย่างแรกๆที่น่าจะเป็นสามัญสำนึก 

            ผมพบว่า มีหลายคนยอมรับว่าตนลำเอียง และเห็นว่าการเลือกปฎิบัติและเลือกใช้กฎหมายตามแต่ประโยชน์ของฝ่ายตนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเขาเห็นว่ามีภารกิจที่สำคัญกว่ากฎหมายซึ่งต้องเอาชนะให้ได้

            พวกเขาจึงจงใจมองข้ามทางออกธรรมดาๆและตรงไปตรงมาข้อนี้ เพราะเขาหวังบรรลุชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าการเคารพกฎหมาย

            ความขัดแย้งทางการเมือง 2-3 ปีที่ผ่านมาวนเวียนอยู่กับหายนะก็เพราะความคิดสั้นพรรค์นี้แหละ

            สรุป ยุบสภา?  ลาออก?  หรือมอบตัวแล้วเชิญชุมนุมกันต่อไปในสถานที่อื่นที่เหมาะสม?

            ขอความกรุณาพิจารณาอย่างมีสติ อย่าเอาแต่ได้ อย่าคิดแต่จะเอาชนะกันจนทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า อย่าเกลียดกลัวจนถูกอวิชชาครอบงำ

             ขณะนี้สายไปแล้วที่สำหรับทางออกที่สมบูรณ์ มีแต่ทางออกที่ก่อความเสียหายมากกว่ากับน้อยกว่า รักษาระบบสถาบันหลักต่างๆ มากกว่ากับน้อยกว่า และเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน

             ผมเบื่อแถลงการณ์ทั้งหลายเต็มทน แต่หากมีใครเสนอทางออกนี้ ผมจะขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง และขอจองลงชื่อล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ทันร่างไว้เลย

http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=4120&username=politic

บันทึกการเข้า

ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
boyk
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,477



« ตอบ #1 เมื่อ: 07-09-2008, 22:26 »

ทางออกธรรมดาๆที่ตรงไปตรงมา 
 
โดย รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง 6 กันยายน 2551 10:20 น.
 
 
       ทรรศนะของคุณธงชัย วินิจจะกูล จากบทความที่มีชื่อเดียวกันกับบทความนี้ ที่ได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเมื่อ 5 ก.ย. 51 ที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่านำเสนอความจริงเพียงครึ่งเดียวและเป็นทางออกเพียงทางเดียวที่พิลึกในตรรกะที่ผู้เขียนได้นำเสนอ
       
       ข้อเท็จจริงบางประการต่อไปนี้อาจเป็นทางออกธรรมดาๆที่คุณธงชัย วินิจจะกูลไม่ได้คิดหรือไม่ได้พูดออกมา
       
       1.ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯมีสาเหตุมาจากอะไร ทำไมจึงขัดแย้งกัน
       
       ความขัดแย้งดังกล่าวมีสาเหตุพื้นฐานมาจากปัญหาของคนเพียงคนเดียวก็คือ คุณทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนดังเช่นประชาชนธรรมดาๆทั่วไป
       
       ลองแหวกพงหญ้าที่ปกคุลมดินที่ไม่เป็นสาระสำคัญออกจะเห็นรากเหง้าของปัญหาว่าเป็นอย่างที่กล่าวหรือไม่ คุณสมัคร สุนทรเวชเป็นใครมาจากไหนทำไมจึงได้เป็นหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชาชน พรรคนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรในชั่วข้ามคืน มีใครเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินที่สำคัญ
       
       คำตอบที่ธรรมดาๆมากที่สุดก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร
       
       แล้วคุณทักษิณ ชินวัตรทำไมจึงต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยทั้งที่พร่ำบอกกับสาธารณชนอยู่เสมอๆว่า ผมวางมือแล้วบ้าง หรือ ผมไม่เกี่ยวข้องแล้วบ้าง เพราะเหตุผลใด
       
       คำตอบที่ธรรมดาๆมากที่สุดก็คือคุณทักษิณ ชินวัตรไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนดังเช่นประชาชนธรรมดาๆทั่วไป
       
       หากยินดีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบพิสูจน์ความจริง รัฐบาลที่มาจากพรรคพลังประชาชนก็จะไม่มีสาเหตุอะไรที่จะขัดแย้งกับพันธมิตรฯแต่อย่างใด
       
       ทำไมประชาชนคนไทยโดยส่วนรวมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดจึงต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องของคุณทักษิณ ชินวัตรเพียงคนเดียว ทำไม
       
      2. คุณทักษิณ ชินวัตรทำอะไรไว้จึงต้องถูกตรวจสอบและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
       
       สิ่งที่คุณทักษิณ ชินวัตรทำเอาไว้ก็คือ การสร้างระบอบที่ทำให้ประชาชนต้องอยู่ในระบบอุปถัมภ์จากคุณทักษิณ ชินวัตร หรือที่อาจรู้จักโดยทั่วไปว่าเป็นระบอบทักษิณ หรือทักษิโนมิคส์ นโยบายทั้งหลายที่ได้ถูกนำเสนอตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายที่เอาใจประชาชน ให้ผลประโยชน์ในระยะสั้นแต่จะอ่อนแอและเป็นโทษในระยะยาว
       
       การกระทำดังกล่าวหากไม่บิดเบือนหรือฉ้อฉลก็ไม่สามารถทำได้เพราะการทุจริตเชิงนโยบายจะต้องมี 2 องค์ประกอบที่สำคัญก็คือ (1)ต้องอาศัยอำนาจรัฐและ(2)เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง มิใช่เพื่อประโยชน์โดยส่วนรวม การเข้าสู่อำนาจรัฐจึงเป็นเงื่อนไขที่สำคัญ
       
       มิใช่เรื่องใหม่และมิใช่คุณทักษิณ ชินวัตรเพียงคนเดียวที่คิดนโยบายเหล่านี้เป็น แต่ที่นักการเมืองอื่นๆไม่กระทำก็เพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงต่อกระบวนการยุติธรรม จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่สังคมจะเห็นด้วยกับการนำคุณทักษิณ ชินวัตรเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและข้อเท็จจริงที่ปรากฏจนถึงปัจจุบันก็คือศาลรับฟ้องในทุกคำร้องที่มีไปถึงศาลในนโยบายที่คุณทักษิณ ชินวัตรได้กระทำมาในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง
       
       คำตอบที่ธรรมดาๆมากที่สุดก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร
       
       3. สังคมไทยในปัจจุบันทำไมจึงมีความขัดแย้งสูง

       
       ผลพวงจากนโยบายเอาใจประชาชนหรือประชานิยม ทำให้ประชาชนไทยแบ่งออกเป็น 2 พวกโดยชัดเจนคือ (1)พวกที่ชอบนโยบายประชานิยมและ(2)พวกที่ไม่ชอบ
       
       เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่จะเสพติดในความสะดวกสบายโดยไม่ดูที่มาที่ไปว่าจะเป็นผลประโยชน์ในระยะสั้นแต่จะอ่อนแอและเป็นโทษในระยะยาวหรือไม่ เพราะรัฐบาลเป็นฝ่ายนำเสนอสิ่งเสพติดนี้เอง
       
       ความขัดแย้งที่มีในสังคมไทยในปัจจุบันจึงเป็นผลพวงมาจากคุณทักษิณ ชินวัตรแต่เพียงผู้เดียวที่ต้องการให้ประชาชนเสพติดในนโยบายแบบประชานิยมที่นำเสนออกมา ในขณะที่โครงสร้างทางสังคมไทยอ่อนแอที่ไม่สามารถมีบรรทัดฐานของความถูกผิดได้ ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายตรงข้ามเห็นผลของนโยบายประชานิยมนี้ว่าจะก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาวลุกขึ้นมาโดยมีพันธมิตรฯเป็นหัวหอก
       
       อาจกล่าวได้ว่าสังคมไทยจะไม่มีทางกลับไปสู่สภาพเดิมๆอีกต่อไปแล้ว เพียงแต่จะไปสู่หนทางแห่งความอ่อนแอจากนโยบายประชานิยมหรือเข้มแข็งขึ้นจากการพึ่งพาตนเอง
       
       คำตอบที่ธรรมดาๆมากที่สุดก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร
       
       4. การเสนอทางออกแบบธรรมดาๆที่ตรงไปตรงมา
       

       สิ่งที่หลายภาคส่วนในสังคมได้เสนอต่อรัฐบาลก็คือ การให้รัฐบาลพิจารณาตนเองไม่ว่าจะโดยการลาออกหรือยุบสภา
       
       เหตุผลที่แสนจะธรรมดาก็คือหากไม่สามารถที่จะบริหารงานอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาให้กับคนส่วนใหญ่แล้ว ข้ออ้างแต่เพียงว่ามาจากการเลือกตั้งก็ไม่สามารถทำให้เกิดความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด ประชาชนเลือกพรรคพลังประชาชนเข้ามามิได้หมายความว่าให้อำนาจเข้ามาทำในสิ่งไม่ดีไม่งามกับสังคมส่วนรวม
       
       ข้อเสนอที่แสนจะธรรมดาจากคุณธงชัย วินิจจะกูลที่เสนอให้แกนนำพันธมิตรฯเคารพกฎหมายด้วยการมอบตัว ในขณะที่คุณธงชัย วินิจจะกูลเห็นว่าข้อเสนอที่ให้รัฐบาลเคารพกฎหมายของกลุ่มอื่นๆ”เป็นความคิดสั้นพรรค์นั้น” ดูจะเป็นทรรศนะที่ถูกอวิชาครอบงำเสียมากกว่า
       
       การละเว้นกับฝ่ายรัฐบาลที่กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่มีการยำเกรงกฎหมายฉบับเดียวกันกับที่รัฐบาลผู้ซึ่งมีหน้าที่และเป็นผู้ปฏิญาณตนว่าจะรักษา และเป็นฉบับเดียวกับที่คุณธงชัย วินิจจะกูลบอกให้ผู้อื่นเคารพจึงเป็นการนำเสนอความจริงเพียงครึ่งเดียวและเป็นทางออกเพียงทางเดียวที่พิลึกในตรรกะของคุณธงชัย วินิจจะกูล
       
       หากรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกหรือยุบสภา ก็จะเป็นการสลายการชุมนุมได้โดยง่าย ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่ต้องใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะแกนนำพันธมิตรฯจะหมดเงื่อนไขในการชุมนุมและต้องมอบตัวโดยปราศจากเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการนองเลือด
       
       ทางออกที่แสนจะธรรมดาๆตรงไปตรงมาจึงน่าจะอยู่ที่การเสนอให้รัฐบาลเคารพกฎหมาย ด้วยการลาออกหรือยุบสภา เพื่อที่คนอื่นๆในสังคมจะได้เคารพเป็นแบบอย่างมิใช่หรือ
       
       คำตอบที่ธรรมดาๆมากที่สุดก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร
       
       รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง

       คณะเศรษฐศาสตร์
       มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
       chawin@econ.tu.ac.th
 
 http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000105542
บันทึกการเข้า

ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 07-09-2008, 22:44 »

ทางออกธรรมดาๆ ที่ตรงไปตรงมา : ธงชัย วินิจจะกูล



ระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2551 มีแถลงการณ์จากกลุ่มบุคคลใหญ่น้อยสารพัดพยายามเสนอทางออกต่อสถานการณ์ขณะนี้รวม 17 ฉบับ ผมได้รับร่างที่ส่งผ่านกันมาให้พิจารณาอีก 2 ฉบับ รวมเป็น 19 ฉบับ

             ในจำนวนนี้ 11 ฉบับเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก อีก 3 ฉบับเสนอให้ยุบสภา อีก 2 ฉบับเสนอว่ายุบสภาก็ได้ นายกฯ ลาออกก็ได้ อีก 3 ฉบับไม่เสนออะไรเลย   ข้อเสนอเหล่านี้ให้เหตุผลไปต่างๆกัน ผู้สนใจการเมืองคงคิดคำนวณข้อดีข้อเสียของแต่ละทางออกด้วยความลำเอียงเลือกข้างตามจริตของตน

            น่าดีใจที่ไม่มีใครเสนอทางออกซึ่งอาจอยู่ในใจบางคนแต่ไม่กล้าพูดออกมา นั่นคือรัฐประหาร อย่างน้อยก็ยังมีความละอายใจกันอยู่บ้าง

            น่าดีใจที่ไม่มีใครเสนอทางออกอีกอย่างซึ่งอาจอยู่ในใจหลายคน แต่มิอาจเอื้อมเสนอ อย่างน้อยก็ยังมีความยับยั้งชั่งใจกันอยู่บ้าง

            แต่น่าตกใจที่มีไม่กี่คนที่เสนอทางออกอีกอย่างซึ่งอาจจะง่ายที่สุดและถูกต้องชอบธรรมที่สุด (เกษียร เตชะพีระเสนอความคิดนี้ในบทความของเขาแต่โดนปัญญาชนพันธมิตรฯ โจมตีราวเป็นศัตรู นักวิชาการจำนวนหนึ่งก็เสนอในการประชุมเร็วๆนี้ที่จุฬาฯ ก่อนการปะทะกัน) นั่นคือ

             ผู้นำพันธมิตรฯ ควรมอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายศาล เพื่อให้เผชิญกับกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ส่วนการชุมนุมประท้วงรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไปได้ในที่อื่นที่เหมาะสมกับการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย (ที่ไม่ใช่เพื่อยึดอำนาจรัฐ) 

            ทางออกนี้ต้องการความกล้าหาญและความรับผิดชอบของผู้นำพันธมิตรฯ เมื่อกล้าก่อปัญหา กล้าขัดขืน ก็สมควรกล้าเผชิญหน้ากับกฎหมายอย่างมีอารยะ ต้องทำเช่นนี้ต่างหาก การประท้วงของพันธมิตรฯ จึงจะนับเป็นอารยะขัดขืน


            หากไม่ทำเช่นนี้การกระทำของพันธมิตรฯ ย่อมนับเป็นการกระทำของอันธพาลการเมืองที่วางอำนาจบาตรใหญ่อยู่เหนือกฎหมาย ถึงจะใหญ่โตแค่ไหนก็เป็นแค่กุ๊ยการเมืองระดับชาติที่น่ารังเกียจ

            ในสังคมไทย แม้แต่พระมหากษัตริย์ยังอยู่ใต้กฎหมาย ผู้นำพันธมิตรฯเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนกันจึงวางอำนาจบาตรใหญ่เหนือกฎหมายได้

            เกลียดทักษิณ ก็อย่าทำตัวอย่างเดียวกับที่ตนกล่าวหาทักษิณ

            ผมอยากเห็นท่าน ผบ.ทบ. หรือคนระดับนั้นไปเชิญตัวผู้นำพันธมิตรฯถึงที่ชุมนุม ไปมือเปล่าๆ ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้มีการมอบตัวกันแต่โดยดี  จากนั้นเป็นเรื่องของศาล

            ผู้นำพันธมิตรฯ ควรกล้าหาญรับผิดชอบความบกพร่องของตน (หรือใครคิดว่าพวกเขาไม่มีความบกพร่อง?) อย่าเอาชีวิตเลือดเนื้อของมวลชนผู้สนับสนุนตน เข้าเสี่ยงตายแทนตัวเองเลย

           ความกล้าหาญอาจช่วยให้ผู้นำพันธมิตรฯ กลายเป็นวีรบุรุษในฉับพลันอีกด้วย  

            อาจมีข้อโต้แย้งว่าเป็นไปได้ยาก เพราะผู้นำพันธมิตรฯ คงไม่ยอม เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะทางออกอื่นก็ไม่ง่ายสักข้อ และก็คงมีคนอื่นไม่ยอมเช่นกัน ผู้นำพันธมิตรฯเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนกันที่เราต้องคอยเอาใจ

            อาจมีข้อโต้แย้งว่าทางออกนี้ไม่ยุติความขัดแย้งในปัจจุบันอย่างถึงราก เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะทางออกอื่น ไม่ว่ายุบสภาหรือลาออก ก็ไม่ยุติความขัดแย้งพื้นฐานแต่อย่างใด  เรากำลังหาทางเพียงแค่ลดการประจันหน้าและลดอุณหภูมิทางการเมืองลง ทุกทางออกหวังผลแค่ต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยกันทั้งนั้น

             อาจมีข้อโต้แย้งว่า มวลชนของพันธมิตรฯ คงยอมไม่ได้ เหตุผลข้อนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะขึ้นอยู่กับผู้นำพันธมิตรฯ จะกล้าหาญทำความเข้าใจกับคนของตนหรือไม่ต่างหาก มวลชนของพันธมิตรฯ เป็นคนมีการศึกษาและโตๆกันแล้วทั้งนั้น

            ทั้งทางออกอื่นก็คงมีมวลชนของฝ่ายตรงข้ามพันธมิตรไม่ยอมรับเช่นกัน ไม่เห็นมีปัญญาชนนักวิชาการคิดถึงเขาบ้างเลย

            ทางออกที่เสนอนี้ยังเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตย และไม่ทำลายความน่าเชื่อถือของศาลอีกด้วย ในทางกลับกันการทำตัวอยู่เหนือกฎหมายของพันธมิตรฯ เป็นการทำร้ายอำนาจตุลาการที่ตนยกย่องเชิดชู

            อยากจะสร้างการเมืองใหม่ ก็กรุณาอดทนจนกว่าประชาชนจะเห็นด้วย  มิใช่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ บังคับขู่เข็ญ ยัดเยียดให้คนครึ่งค่อนประเทศจำต้องยอมรับ

            ทางออกง่ายๆ ตรงๆ และถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายข้อนี้ถูกมองข้ามเสียสิ้นเพราะความลำเอียงที่แผ่ซ่านจนน่ากลัว  จนไม่ฟังกันอีกต่อไป

            น่าตกใจที่ปัญญาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน นักกฎหมายทนายความและนักสิทธิมนุษยชนทิ้งหลักการ หลักวิชาชีพ กลายเป็นนักเคลื่อนไหวมวลชนที่มุ่งเอาชนะกันไปหมด ต่างลำเอียงกระเท่เร่ให้ท้ายการวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่เหนือกฎหมาย ลำเอียงจนขาดความยั้งคิด เอาแต่ได้ เลือกปฏิบัติ ขาดหลักการ เกลียดชังทักษิณจนขาดสติ ทำลายทุกอย่างและใครก็ตามที่ขวางหน้า 

            พวกตนข่มขู่คุกคามคนอื่นก็ถือเป็นความรักชาติ  ใช้ความรุนแรงก็ถือเป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ พกอาวุธก็ถือเป็นสันติวิธี  รวมกันแล้วก็ถือเป็น “ข้ออ่อนที่มีอยู่บ้าง”พอรับได้ หากฝ่ายตรงข้ามตนทำผิดก็เรียกร้องเอาผิดราวจะกินเลือดกินเนื้อ

            คนมากมายไม่กล้าทักท้วงทัดทานเพราะไม่อยากโดนก่นด่าทำลาย เสียเพื่อนเปลืองตัว

            ประชาชนหลายสิบล้านที่กำลังเฝ้าดูพันธมิตรฯ และปัญญาชนชาวกรุง จะให้พวกเขาเข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไรกัน พวกเขาย่อมคิดว่าประเทศชาติไม่ใช่ของเขาแต่เป็นของเทวดาชาวกรุงที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง แถมยังมีนิสัยเด็กๆ คือ เอาแต่ได้แต่ไม่กล้ารับผิดชอบ 

            พวกเขากำลังอัดอั้นตันใจจนกำลังจะระเบิดสักวันว่า พวกเขาเป็นแค่ไพร่ทาส เป็นพลเมืองชั้นต่ำกว่าพันธมิตรฯ และปัญญาชนชาวกรุงหรืออย่างไร


            ทางออกที่ถูกมองข้ามนี้ เป็นวิถีปฏิบัติปกติที่ใช้กันอยู่เป็นประจำในนานาอารยะประเทศที่ถือกฎหมายเป็นใหญ่ เพื่อไม่ให้การประท้วงลามปามกลายเป็นการนองเลือด  เป็นทางออกอย่างแรกๆที่ใครๆก็นึกได้จนเป็นสามัญสำนึก

            ประเทศไทยประหลาดกว่าใครอื่นขนาดไหนกัน จึงมองข้ามทางออกธรรมดาๆและตรงไปตรงมาข้อนี้กันหมด  หรือประเทศไทยมีระดับอารยะธรรมสูงต่ำผิดปกติกว่าคนอื่น จึงถือกฎหมายเป็นของเล่นที่จะใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจชอบ

            หรือปัญญาชนประเทศไทยมีระดับสติปัญญา ความเที่ยงตรงและความยึดมั่นในหลักการ อยู่ในระดับสูงต่ำผิดปกติต่างจากที่อื่นๆในโลก จึงนึกไม่ถึงทางออกอย่างแรกๆที่น่าจะเป็นสามัญสำนึก 

            ผมพบว่า มีหลายคนยอมรับว่าตนลำเอียง และเห็นว่าการเลือกปฎิบัติและเลือกใช้กฎหมายตามแต่ประโยชน์ของฝ่ายตนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเขาเห็นว่ามีภารกิจที่สำคัญกว่ากฎหมายซึ่งต้องเอาชนะให้ได้

            พวกเขาจึงจงใจมองข้ามทางออกธรรมดาๆและตรงไปตรงมาข้อนี้ เพราะเขาหวังบรรลุชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าการเคารพกฎหมาย

            ความขัดแย้งทางการเมือง 2-3 ปีที่ผ่านมาวนเวียนอยู่กับหายนะก็เพราะความคิดสั้นพรรค์นี้แหละ

            สรุป ยุบสภา?  ลาออก?  หรือมอบตัวแล้วเชิญชุมนุมกันต่อไปในสถานที่อื่นที่เหมาะสม?

            ขอความกรุณาพิจารณาอย่างมีสติ อย่าเอาแต่ได้ อย่าคิดแต่จะเอาชนะกันจนทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า อย่าเกลียดกลัวจนถูกอวิชชาครอบงำ

             ขณะนี้สายไปแล้วที่สำหรับทางออกที่สมบูรณ์ มีแต่ทางออกที่ก่อความเสียหายมากกว่ากับน้อยกว่า รักษาระบบสถาบันหลักต่างๆ มากกว่ากับน้อยกว่า และเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน

             ผมเบื่อแถลงการณ์ทั้งหลายเต็มทน แต่หากมีใครเสนอทางออกนี้ ผมจะขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง และขอจองลงชื่อล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ทันร่างไว้เลย

http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=4120&username=politic




บทความ ความคิดเห็นอาจารย์เกษียร เตชะพีระ ยังเป็นความคิดเห็น ความคิดต่างของนักวิชาการได้....!!!
แต่ความคิดเห็นของธงชัย วินิจจะกูล เป็นเพียง'คนเดือนตุลาที่เพี้ยนไป' สมคบคิดกับหมอเลี๊ยบและหมัก เมถุนได้ เขียนเอาแต่ได้ให้รัฐบาลทรราช เส-นียด เมถุน เท่านั้น....
ไม่มีความคิดเห็นที่ควรวิพากษ์วิจารณ์.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2008, 22:50 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #3 เมื่อ: 08-09-2008, 00:35 »

 
สงสัยไม่มีใครมาชวนออกแถลงการณ์


ปล. ที่จั่วหัวว่า "ทางออกธรรมดาๆ" นี่

กะให้คนอ่านคิดว่า โอ้วว นี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ลูกนนทรี
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 222


เกษตรศาสตร์_ศาสตร์แห่งแผ่นดิน


« ตอบ #4 เมื่อ: 08-09-2008, 01:02 »

ตอนแรกก็ชื่นชมแกตอนเป็นนักโทษ 6 คุลา 2519 แต่อ่านบทความนี้แล้วหมดศรัทธาครับ
บันทึกการเข้า

เกลียดพวกเลียไอ้เหลี่ยม ไม่นิยมบัตรเติมเงิน
raphael99
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #5 เมื่อ: 08-09-2008, 01:12 »

สวัสดีครับ เพื่อน พี่น้อง

ช่างเป็นทางออกที่ตรงไปในหัวใจของรัฐบาลขายชาติจริงหนอ

ต่อไปใครมาเป็นนักสู้ก็เดินเข้าคุกแสดงสปิริตไปเลย

คนไม่เชื่อฟังรัฐบาลโจรเข้าคุกเสร็จก็ให้ศาลประหารเลยดีไหม พี่จะได้ไม่เปลืองข้าวเลี้ยง

ถ้าให้ออกทางนี้พี่ก็ไปทานหญ้าแทนข้าวเถอะครับ

สุดท้ายผมขอบอกชัดเลยว่า จะให้นักสู้เข้าคุกเอา ทักษิณ พจมาน มาเข้าก่อนดีไหม

เห็นชอบพูดกันจังเรื่อง เย้ยกฎหมายเนี่ย แน่จริงก็ไปจับ ทักษิณ-พจมาน มายัดคุกก่อนแล้วค่อยเห่า

ขอโทษเพื่อน พี่น้อง ทุกคนด้วยครับ ที่ไม่สุภาพ
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #6 เมื่อ: 08-09-2008, 01:31 »

ทักษิณ และครอบครัว

หนีคดีอยู่ตอนนี้

เป็นอารยะขัดขืนหรือไม่
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
shishamo
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 127


ผิดมั้ยที่เชียร์พันธมิตร เรื่องของช้าน...


« ตอบ #7 เมื่อ: 08-09-2008, 03:02 »

 

ไม่ไหว

พวกตนข่มขู่คุกคามคนอื่นก็ถือเป็นความรักชาติ  ใช้ความรุนแรงก็ถือเป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ พกอาวุธก็ถือเป็นสันติวิธี  รวมกันแล้วก็ถือเป็น “ข้ออ่อนที่มีอยู่บ้าง”พอรับได้ หากฝ่ายตรงข้ามตนทำผิดก็เรียกร้องเอาผิดราวจะกินเลือดกินเนื้อ

น่าจะดูแต่ช่อง NBT แหม 

คนที่โดนหมายจับ ลอยนวลอยู่ อังกฤษ ทำไมไม่พูด บอกไปด้วยสิ รัฐบาลต้องนำตัวผู้กระทำผิดที่ศาลตัดสินแล้วอ่ะ มารับโทษด้วย

เห็นๆ โจมตีพันธมิตรฝ่ายเดียว เห้อ
บันทึกการเข้า

อยากเห็นอนาคตที่สดใส
ฮูลิแกน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 234



« ตอบ #8 เมื่อ: 08-09-2008, 20:34 »

ไอ้หมาด่าง แห่งโนคูป มันก็พูดแบบนี้ แกนนำ พธม.ควรมามอบตัว
พอมีคนเสนอความเห็นให้ทักกี้ต้องมามอบตัวด้วย
มันแถไปว่า สิ่งที่พิพากษาทักกี้ นั้นไม่แฟร์ เพราะ คตส.มาจากอำนาจรัฐประหาร 
ผมนึกไม่ถึงว่ามันจะ...ได้ใจขนาดนี้!
 
บันทึกการเข้า

ชาตินิยมแบบคับแคบผมไม่ชอบ แต่พวกเพ้อเจ้อบ้าทฤษฎี ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน
บทความของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จาก ค.คน ฉบับเมษายน 2550
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #9 เมื่อ: 08-09-2008, 22:15 »

ทางออกง่ายๆ ครับผมเห็นด้วย

ผมเห็นด้วยว่า เอาแกนนำเข้ากระบวนการยุติธรรมด้วย แล้วลากไอ้สารเลว ที่หนีคดีกลับมาด้วย

ถ้าผมอยู่ตรงหน้าอาจารย์ท่านนี้ผมจะถามว่า การมอบตัว สร้างความยุติธรรมได้จริงผมไม่เถียง แล้วการที่ รัฐบาลปล่อยคนร้ายหนีคดีแล้ว ส.ส.ยกมือกันประท้วงห้ามเอ่ยถึง เรียกว่าอะไรครับ แนะนำคนอื่นอย่าเลือกปฎิบัติ แต่อาจารฯเลือกวิจารณ์หรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: