ประชาชนธรรมดาจะจับกุมผู้กระทำผิดได้หรือไม่ ?
[/b]
โดยปกติแล้วการจับกุมผู้กระทำผิดนั้น เป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ซึ่งคำว่าเจ้าพนักงาน ที่ว่านี้มีความหมายกว้างขวาง ขึ้นอยู่กับว่ากฎหมายในแต่ละเรื่องนั้น จะบัญญัติให้ใครเป็นเจ้าพนักงาน เช่น เจ้าหน้าที่ศุลกากร เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายศุลกากร มีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการขนสินค้าหนีภาษี เจ้าหน้าที่สรรพสามิต เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายสรรพสามิต มีอำนาจหน้าที่จับคุมความผิดเกี่ยวกับสรรพสามิต ฯลฯ เป็นต้น ส่วนตำรวจ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ นั้น จัดอยู่ในประเภทพนักงานฝ่ายปกครอง มีอำนาจหน้าที่จับกุมความผิดได้ทุกประเภท แม้ว่าความผิดนั้น ๆ จะมีเจ้าพนักงานโดยเฉพาะอยู่แล้วก็ตาม เช่น ความผิดตามกฎหมายศุลกากร กฎหมายสรรพสามิต ตำรวจ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ก็ยังมีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมได้
สำหรับประชาชนหรือที่เรียกว่าราษฎรธรรมดานั้น โดยปกติไม่มีอำนาจและหน้าที่ในการจับกุมผู้ใดได้ เพราะประชาชนธรรมดาไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน
แต่อย่างไรก็ดีกฎหมายไม่ได้ห้ามโดยเด็ดขาดตายตัวว่า มิให้ประชาชนธรรมดาจับกุมผู้กระทำความผิดโดยสิ้นเชิง บทบัญญัติที่เป็นข้อยกเว้นไว้ให้ประชาชนธรรมดามีอำนาจที่จะจับกุมผู้กระทำผิดได้เฉพาะในบางกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
๑. เมื่อเจ้าพนักงานร้องขอให้ช่วยจับ กรณีนี้จะต้องเป็นเรื่องที่มีหมายจับอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานใดก็ตาม และเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามกฎหมายหรือจับตามหมายจับนั้น ได้ร้องขอให้ประชาชนธรรมดาช่วยจับกุมผู้กระทำผิดตามที่หมายจับระบุไว้ ข้อนี้จะต้องพึงระวังให้ดีว่าถ้าเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานจะจับกุม โดยไม่มีหมายจับแม้เจ้าพนักงานจะร้องขอให้ประชาชนธรรมดาช่วยจับ ประชาชนธรรมดาก็ไม่มีอำนาจในการจับกุม
มีข้อสังเกตว่าคำร้องขอของเจ้าพนักงานเช่นนี้ไม่ถือเป็นคำสั่งของเจ้าพนักงาน
ดังนั้น ประชาชนผู้ได้รับคำร้องขอจะปฏิบัติตามคำร้องขอนั้นหรือไม่ก็ได้
๒. เมื่อพบการกระทำผิดซึ่งหน้าเฉพาะความผิดประเภทที่กฎหมายระบุไว้ กรณีนี้ประชาชนผู้พบการกระทำผิดนั้นสามารถเข้าทำการจับกุมได้ทันที โดยไม่ต้องคอยให้เจ้าพนักงานร้องขอ อย่างไรก็ดีอำนาจในการจับกุมของประชาชนธรรมดาตามข้อ ๒ นี้ ค่อนข้างจะมีขอบเขตจำกัดอยู่เฉพาะแต่ความผิดประเภทที่ระบุไว้ในท้าย ป.วิอาญาเท่านั้น และต้องเป็นกรณีที่พบการกระทำผิดซึ่งหน้าอีกด้วย ซึ่งเงื่อนไขนี้นับว่าเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยเรียนกฏหมายมาก่อน เพราะจะไม่ทราบว่าความผิดประเภทใดบ้างที่กฎหมายระบุไว้ในบัญชีท้าย และก็ไม่ทราบว่าที่เรียกว่าความผิดซึ่งหน้ามีขอบเขตความหมายแค่ไหน เพราะถ้อยคำนี้เป็นคำทางกฏหมายซึ่งมีความหมายเฉพาะไม่จำเป็นต้องนำมาเขียนในที่นี้ แต่จะขอนำเอาความผิดซึ่งหน้าที่ระบุอยู่ในบัญชีท้ายประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญาเฉพาะที่พบอยู่เสมอ เพื่อเป็นแนวทางในการจดจำ
- ความผิดต่อเจ้าพนักงาน
- ความผิดฐานหลบหนีจากที่คุมขัง
- ความผิดต่อศาสนา
- ความผิดปลอมแปลงเงินตรา
- การก่อการจราจล
- ข่มขืน กระทำชำเรา
- ทำร้ายร่างกาย
- ฆ่าคนตาย
- หน่วงเหนี่ยวกักขัง
- ลักทรัพย์
- วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ กรรโชกทรัพย์
๓. เมื่อประชาชนผู้เป็นายประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้หลบหนีประกันหรือจะหลบหนีประกัน โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าพนักงาน ให้จับกุมได้ทันท่วงทีเท่านั้นไม่ใช่เป็นเจ้าหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ และถ้าเป็นกรณีอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ ประชาชนธรรมดาก็ไม่มีอำนาจทำการจับกุมผู้กระทำผิดได้เลย
ผลทางกฎหมาย
กรณีที่ประชาชนธรรมดา มีอำนาจตามกฎหมายที่จะจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ดังกล่าวมาในข้อ ๑-๓ นี้ ประชาชนผู้ทำการจับกุมย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เช่นไม่มีความผิดฐานทำให้ผู้ถูกจับเสื่อมเสียอิสรภาพเสรีภาพ หรือหากผู้จะถูกจับนั้นต่อสู้ขัดขวางประชาชน ผู้จับก็มีอำนาจใช้กำลังป้องกันตนได้พอสมควรแก่เหตุ
ในทำนองกลับกัน ถ้าเป็นกรณีไม่มีอำนาจจับกุมได้ตามกฎหมาย ผู้จับก็ต้องมีความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ และอาจมีความผิดฐานอื่นติดตามมามากมาย เช่น บุกรุก ทำร้ายร่างกาย ฯลฯ เป็นต้น