อย่างไรคือพรรคฝ่ายค้าน"มาตรฐานโลก"ในสายตาพรรครัฐบาลสิงคโปร์? 12 มิถุนายน 2549 20:05 น.
เมื่อวานพูดถึงท่านผู้เฒ่าลีกวนยูแห่งสิงคโปร์ ที่ประกาศว่าประเทศของเขาต้องการพรรคฝ่ายค้านที่ได้ "มาตรฐานโลก" (world-class) ไม่ใช่ "สวะสังคม" (this riffraff) อย่างที่เขามีอยู่
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : วันนี้ต้องถามลี ว่าพรรค Peoples Action Party (PAP) หรือ "
พรรคกิจประชา" ของเขาวันนี้เป็น "
มาตรฐานโลก" ทางการเมืองที่ตรงไหน?
ผู้นำสิงคโปร์มักจะพูดถึงการเมืองไทย, ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน อย่างหยามหยันเสมอ ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งก่อนการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา, ลีเสียนหลง ที่เป็นทั้งนายกฯและหัวหน้าพรรค (และลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้เฒ่าลี) ก็พูดกับผู้มีสิทธิออกเสียงของเขาอย่างเหยียดหยามต่อการเมืองไทยและไต้หวัน
"จะเอาอย่างการเมืองเมืองไทยหรือ?" เขาถาม และบอกต่อว่าเลือกตั้งเสร็จแล้ว, การเมืองไทยก็ยังวุ่นวายต่อ จะเอาอย่างไต้หวันหรือ? ลีเสียนหลง บอกว่า เลือกตั้งเสร็จนักการเมืองก็แสวงหาผลประโยชน์กันจ้าละหวั่น ว่าแล้วก็อ้างว่านักการเมืองของพรรครัฐบาลสิงคโปร์นั้น พอได้รับเลือกตั้งเสร็จ วันรุ่งขึ้นก็ต้องเริ่มทำงานอย่างขะมักเขม้นเพื่อทำตามนโยบายที่ได้ป่าวประกาศเอาไว้
พูดเอาดีใส่ตัว, เอาชั่วใส่เพื่อนบ้าน ว่างั้นเถอะแต่นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนที่ติดตามผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าความนิยมของคนสิงคโปร์ต่อพรรค "กิจประชา" กำลังลดลงอย่างเห็นได้ชัด และพรรคฝ่ายค้านกำลังท้าทายอำนาจรัฐในหลายๆ ด้าน เพราะสหรัฐได้ประโยชน์จากสิงคโปร์ ในฐานะ "หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" จึงไม่ค่อยจะถูกสอบถามเรื่องเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน แต่เพราะรัฐบาลตั้งแต่ลีกวนยู เป็นต้นมาได้ใช้วิธีการควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อต่างประเทศอย่างได้ผล, จึงทำให้สิงคโปร์อ้าขาผวาปีกอย่างที่เห็นอยู่
แต่คนสิงคโปร์รุ่นใหม่มองไปรอบๆ ตัว แล้วก็เห็นการเฟื่องฟูด้านประชาธิปไตยในไต้หวัน, อินโดนีเซีย และแม้กระทั่งประเทศไทยแล้ว ก็ต้องการจะมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่กว้างขวางกว่าทุกวันนี้นี่คือสิ่งที่ผู้นำสิงคโปร์กำลังเผชิญอยู่แม้จะไม่ยอมรับว่าจะต้องปรับเปลี่ยน แต่ก็หนีไม่พ้นความจริงที่ว่าการเมืองรวมศูนย์ยี่ห้อ "ลี" นั้น มิอาจจะอยู่ยั่งยืนต่อไปโดยไม่สนใจเสียงกล่าวหาจากฝ่ายค้านที่ว่า "ช่องว่าง" ระหว่างคนมีกับคนมีน้อยกว่านั้น กำลังมีสูงขึ้นกว่าเดิม
ผู้นำสิงคโปร์ ไม่อาจจะพยายามหาประโยชน์ทางธุรกิจจากไทยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มด้านหนึ่ง แต่พอหันหลังให้ก็พูดจาส่อเสียดประชดประชันไทยอย่างไร้ความจริงใจและความเป็นมิตรอีกด้านหนึ่งเพราะนี่ย่อมมิใช่วิสัยของพรรครัฐบาลที่อ้างว่ามองหา "พรรคฝ่ายค้านมาตรฐานโลก" ในบ้านไม่ได้
เพราะนี่คือการตีท้ายครัวของเพื่อนบ้านที่ไม่น่าให้อภัยอย่างยิ่ง
และนี่ย่อมไม่ใช่ลักษณะผู้นำที่คุณทักษิณ ของประเทศไทย เคยแสดงความชื่นชมไว้เป็นแน่แท้http://www.bangkokbiznews.com/2006/06/13/u001_112094.php?news_id=112094กระทู้นี้ของคุณกาแฟดำ ได้บอกเล่าให้ฟังหลายประการ เช่น
1. ผู้นำประเทศสิงคโปร์ใช้ประเทศไทยและประเทศไต้หวัน เป็นบันไดสำหรับขี้นไปเหนือชั้นกว่า โดยละความเข้าใจว่าเหนือชั้นกว่าทุกวิถีทาง ซึ่งเป็นการพูดความจริงครึ่งหนึ่ง ความเท็จครึ่งหนึ่ง....
นายลีกวนยูและลูกชาย คือนายกรัฐมนตรีที่เผด็จการความคิดทางเสรีประชาธิปไตยของคนสิงคโปร์ ที่อดีตนายกฯไทยทักษิณ พยายามตามรอยเท้า ละทิ้งจิตสำนึก คุณธรรมและเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อบริหารประเทศอย่าง"นักธุรกิจการเมือง" เจ้าของบริษัทไทยรักไทย...
วันนี้ชาวสิงคโปร์มีอาหารกินอิ่ม มีที่หลับนอนและสิ่งอำนวยความสะดวกตามทุนนิยมได้แล้ว เริ่มแสวงหาสิทธิเสรีภาพและอาหารปัญญา อาหารสมอง เพื่อตอบสนองความต้องการที่รัฐบาลปัจจุบันนี้ไม่ตอบสนองและไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด....
2. [color=red ]นายลีและลูกชายที่เป็นนายกฯในขณะนี้แสวงหาผลประโยชน์เข้าประเทศฝ่ายเดียว ยิ้มแย้มกับเพื่อนบ้านเพื่อตักตวงผลประโยชน์ที่ถูกต้อง โดยซ่อนอาการดูแคลนไว้ในใจ......[/color]
3.
คุณสุทธิชัย หยุ่น หรือ กาแฟดำ ที่ "คนรักทักษิณ" สาวกฯ และ "หวอรูม" เคยสร้างภาพว่าเป็น ลูกสมุน รับใช้นายทุนสิงคโปร์ ได้วิพากษ์วิจารณ์"กล่องดวงใจ"ของนายลีและลูกชายที่เป็นนายกฯอย่างเปิดเผย ซึ่งพวก"คนรักทักษิณ" สาวกฯ และ "หวอรูม" ไม่กล้ามาก่อนแม้แต่คิดวิพากษ์วิจารณ์นายลีและลูกชาย.....