อ่านข่าวฝั่งเรามานาน "ทุกวันๆ" ชัก "จืด"..
ลองฟัง "ฝั่งทางโน้น" ดูบ้าง..ว่าเขา "คิดกันยังไง.........
เกี่ยวกับ "กรณีทักษิณ..ลี้ภัยการเมือง"... หมัก’ โล่ง!!..เบาตัว!..... น่าจะตรงกับทั้ง...อาการและความรู้สึก ของ นายสมัคร สุนทรเวช ยามนี้ทันทีที่ความชัดเจน “ไม่กลับประเทศ” เพื่อมาขึ้น ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใน คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้นตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาการออกแถลงการณ์...ผ่านจดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากประเทศอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อช่วงสายของวันที่ 11 ส.ค. ซึ่งกำหนดการเดิมนั้น วันและเวลา
ปรากฎภาพนางกาญจนาภา หงษ์เหิร (ด้านขวาของภาพ) เลขานุการของคุณหญิงพจมานที่ถูกศาลอาญาตัดสินให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาจากคดีหุ้นบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ และอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ พร้อมกับครอบครัวชินวัตร ดังกล่าวนี้ อดีตนายกฯ คนนี้ จะต้องนั่งอยู่ในศาลเพื่อต่อสู้ใน คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกมันจึงเป็นเพียงการยืนยันอีกครั้งว่า...บ้านเมืองนี้ “ไม่ปลอดภัยนัก” สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว กระทั่ง ต้องกลับไปใช้ชีวิตในต่างแดนอีกครั้ง!สิ่งนี้ ถ้าจะมีประโยชน์กับ นายสมัคร ก็แค่...ไม่ต้อง “ออกตัว” ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นจริงๆแม้ภาพของ นายกฯ คนปัจจุบัน จะไม่ “ดูดำดูดี” อะไรมากนักกับ อดีตนายกฯ คนที่ 23 โดยเฉพาะหลายๆ คดีความในชั้นศาล แม้กระทั่ง การจัดเวทีด่า “ระบอบทักษิณ” และถ่ายทอดกันสดๆ ผ่าน สถานีโทรทัศน์ ASTV ของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
แต่ลึกๆ ความผูกพันในฐานะ “ผู้หยิบยื่น” โอกาสทางการเมืองครั้งสุดท้ายในชีวิตให้กับนายสมัคร แทนที่จะต้องอยู่กับบ้าน...เลี้ยงทั้งหลานและแมว บุญคุญครั้งนั้น สำหรับคนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบไทยๆ แล้วลืมกันไม่ลง!!!และต้องหาทาง “ทดแทนกัน” จะด้วยหนทางใด? ยังไง...ก็ต้องทำ ไม่ช้าก็เร็วหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงอยู่ในเมืองไทย ไม่เพียงทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองการใช้ “อำนาจรัฐ” ของ นายสมัคร เป็นไปเพื่อช่วยเหลือและก่อประโยชน์ให้กับ อดีตนายกฯ คนที่ 23 เท่านั้นแต่ยังจะทำให้ “ลิ่ม” ที่กำลังตอกและย้ำ “ความร้าวฉาน” ภายใน พรรคพลังประชาชน ดูหนักแน่นและจริงจังมากขึ้นเสียอีก
ไม่แน่ว่า...ระหว่างอาการ “เอาใจออกห่าง” กับ “เอาใจนาย” ของคน 2 กลุ่ม
อาจทำให้ พรรคพลังประชาชน “แตก” ก่อนจะถูกคำสั่ง ศาลรัฐธรรมนูญ “ยุบพรรค”แน่นอน...ความรู้สึกนี้ย่อมต้องมีและยากจะปฏิเสธ!!!เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับเมืองไทย “บางกอกทูเดย์” ถึงได้บอก...นายสมัคร เบาตัว ขึ้นเยอะ!!!เพราะแค่คดีความในชั้นศาล ทั้งที่ตัวเองก่อขึ้นมาเองอย่าง...การจัดรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติชี้ขาด 4 ต่อ 1 ให้ส่งเรื่องไปยัง...ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อชี้ขาด “คุณสมบัติ” ความเป็น “นายกรัฐมนตรี” ของ นายสมัคร
รวมถึง คดีความจัดซื้อรถเรือดับเพลิง สมัยยังเป็น ผู้ว่าฯ กทม. และกับอีกหลายๆ คดีนั้นแค่นี้...ก็สาหัสสากรรจ์แล้วยังจะมีคดีที่ไม่ได้ก่อ! แต่ต้องรับผลกรรมร่วมกัน จากการโดน “ใบแดง” ของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตกรรมการบริหารพรรคฯ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนถึงขั้น “ยุบพรรค” อีกไม่นับรวม...แนวรบ “แมลงวัน” อย่าง พวกพันธมิตรฯ ที่คอยตอมไต่ “บาดแผล” ซึ่งมีกลิ่นคาวเลือดจากน้ำมือ “คนใกล้ตัว” และการเกาะติดแบบ “เสียดสี” เอาจากฝ่ายค้าน...พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง ส.ว.บางกลุ่ม นักวิชาการ และเอ็นจีโอบางคน ที่คอยจ้องจับผิด!แล้วยังจะมี “ปมลึกๆ...ร้อนๆ” ระหว่างการ “จัดโผ” แต่งตั้งและโยกย้ายนายทหาร
ประจำปี ที่ดูท่าว่า...ไม่น่าจะลงตัวนักสารพัดเรื่องของ นายสมัคร เอง ก็หนักหนาสาหัสแล้วเมื่อ “ไร้เงา” พ.ต.ท.ทักษิณ การจัดการปัญหาภายใน พรรคพลังประชาชน ก็ดูจะง่ายขึ้นนายสมัคร จึงไม่ต้อง เปิดศึกและสร้างแนวรบ 2-3 ด้าน ไปพร้อมๆ กันเบาตัว! ในระดับที่น่าพอใจทีเดียวเช่นกัน ใครได้เห็นอาการของ นายสมัคร ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 ส.ค.แล้ว คงรับรู้ถึงความรู้สึกลึกๆ ได้ว่า...เป็นเช่นใดอาการ “ยกมือห้ามญาติ” พร้อมกับเร่งฝีเท้า...เดินฝ่าวงล้อมของกองทัพผู้สื่อข่าว โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจไม่กลับเข้าประเทศนายสมัครคิดและทำถูก ที่ไม่พูดหรือให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ เพราะ...ปากระดับนายสมัครนั้น ยิ่งพูดรังแต่จะยิ่งเสียหายมากขึ้น!!!
จากนี้ สถานการณ์ต่างๆ ทั้ง ภายในพรรคพลังประชาชนและภายในประเทศ ก็น่าจะดีขึ้นบ้าง และสิ่งนี้ สื่อต่างประเทศ เองก็จับจ้อง พร้อมทำการวิเคราะห์เสร็จสรรพ“หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจ “ลี้ภัย” ออกนอกไทย แทนที่จะต่อสู้คดีคอร์รัปชั่นหลายคดี ก็อาจเท่ากับเป็นการ ยุติความวุ่นวายทางการเมือง ในเมืองไทยที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลไทย”ข้างต้น คือ ความเห็นของ...สำนักข่าวรอยเตอร์ขณะที่ ไฟแนนเชี่ยล ไทม์ส ยังเชื่อว่า...การจากไปของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจส่งผลกระทบต่อการเรียกคืนเงินที่ถูกอายัดไว้ 69,000 ล้านบาท แต่นั่นก็คงจะทำให้รัฐบาลชุดนี้ มีเวลาหายใจหายคอจากวิกฤติทางการเมือง โดยเฉพาะจาก กลุ่มม็อบพันธมิตรฯ ที่จ้องแต่จะประท้วงรัฐบาล พร้อมกับเดินหน้าแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ด้านกลุ่มก้อนต่างๆ ใน พรรคพลังประชาชน ล่าสุด การที่ นายเนวิน ชิดชอบ ผู้ที่ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวหาว่า “ทรยศนายใหญ่” ขันอาสาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ จัดส่งแถลงการณ์ไปยังสื่อต่างๆ โดยใช้เครื่องแฟกซ์ของ โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตัวเขาเข้าไปนั่งทำงานเป็นประจำจนรู้กันทั่ว ก็เพื่อจะยืนยันว่า...ตัวเขายังคงได้รับความไว้วางใจจากอดีตนายกฯ คนที่ 23 อยู่ใครที่เคย “ให้ร้าย” ต้องหยุด!!!แล้วก็ได้ผลเมื่อกลุ่มก้อนต่างๆ ทั้ง...กลุ่มเพื่อนเนวิน และ กลุ่มอีสานพัฒนา ต่างก็โอนอ่อนผ่อนท่าทีที่เคยแข็งกร้าวเข้าหากันแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน อย่าง…นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ออกมาย้ำว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ในเมืองไทย ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะต้องดูแลกันเอง แล้วยังอ้างคำพูดของอดีตนายกฯ ด้วยว่า...ให้สามัคคีกัน
ก่อนจะตบท้ายว่า...ส.ส.พรรคพลังประชาชน ทุกคน ควรปรับยุทธวิธีเพื่อให้อยู่รอดภายใต้การนำของ นายสมัคร ส่วนทางฝั่ง กลุ่มอีสานพัฒนา ตัวแทนอย่าง...นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ยอมรับว่า เมื่อไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ มันก็จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องกลับมาหารือ เพื่อวางยุทธศาสตร์และทิศทางกันใหม่ โดยการนำของ นายสมัครสุดท้ายปลายทาง...ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชาชน “ต้องจบ” และ ส.ส.ทุกคน จะต้องยอมรับกับสภาพ หัวหน้าพรรคตัวจริง! ของ นายสมัคร เสียทีเพื่อให้ นายสมัคร นำ “รัฐนาวา” ที่มี พรรคพลังประชาชน เป็นแกนหลัก ฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคต่อไปเบาตัว และ เบาใจ ขึ้นเยอะจริงๆสำหรับ นายสมัคร วันนี้! วันที่...วิกฤติกลายเป็นโอกาสงามๆ !!!
ที่มา.
http://www.bangkok-today.com/bkk.content.php?bkk=1,1,0,25041