บังโม
...ผมขอเรียก "ตัวจริง" ของคุณ
คุณเป็นคนตอแหลนะ
บิดเบือน ใส่ไฟ และกลับดำเป็นขาว - กลับขาวเป็นดำ อย่างมานะมาก
ผมไม่ทราบหรอกว่าศาสนาของคุณสอนสั่งให้คนในศาสนาของคุณเก่งในทางตอแหล ย้ำยืนในสิ่งที่ "อยากให้เป็น" จนยินดีที่จะปิดหูปิดตาตัวเอง หรือไม่
แต่ศาสนาพุทธของผมสอนว่า การโกหก - ใส่ร้าย โดยมุ่งหมายทำลายคนบริสุทธิ์พร้อม ๆ กับล้างเท้าให้คนชั่วนั้น
...เป็นบาป
ที่จะต้องรับผลกรรมอย่างหนักหนาสาหัสในนรก
สุดท้าย
ผมจะไม่ตอบโต้อะไรกับคุณอีกแล้ว และจะไม่ถือว่าคุณมีตัวตนอยู่ในโลกนี้
เพราะคุณได้กระทำตัวเยี่ยงสมุนบริวารของเซตอน ที่ผุดขึ้นมาจขากนรกเพื่อทำลายล้างมนุษย์และสัจจธรรม
ขอพระอัลเลาะห์จงนำความวิบัติไปสู่คุณ
อย่างแสนสาหัส และต่อเนื่องยาวนาน
จนกระทั่งคุณต้องร้องขอความตายจากพระองค์เพื่อเป็นการปลดเปลื้องตนเองจากความทุกข์ทรมาน
ด้วยผมขอแสดงคำกล่าวยืนยันในฐานะแห่งการเป็นพยานว่า
คุณผู้ใช้นามแฝง อิรวันชาห์ IrWanSyah หรือก่อนหน้านี้ใช้นามแฝงมะแอ ศิษย์บังโม หรือก่อนหน้านี้ใช้นามแฝงโมเสส
มิได้แสดงความเป็นมนุษย์ทั้งในรูปแบบแห่งผู้ศรัทธาต่อพระองค์ หรือแม้แต่ผู้ที่มิใช่มุสลิม
เขาไม่สมควรได้รับเกียรติและความไว้พระทัยจากท่านในฐานะของมนุษย์อีกต่อไป
ด้วยเขานั้นกระทำการทำลายมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ฺด้วยวาจาและข้อเขียน - ข้อความของเขา
และยกย่องเชิดชูคนที่กระทำการทำร้ายมนุษย์ด้วยอารมณ์เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน
เพียงเพราะเขาเชื่อในคนที่เขารัก และระบอบของคนที่เขาอ้าง
มากกว่าเชื่อในพระองค์และสัจจธรรมของพระองค์
บุคคลนี้กระทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพระองค์ พร้อมกับกระทำตัวเป็นภาคีกับเซตอน
้ซึ่งชักจูงโน้มน้าวเขาไปรับใช้ลูกหลานของมันด้วยหนทางที่มันปรารถนา อย่างเป็นที่สำเร็จ
เห็นด้วยครับ
ฮะรอม เป็นคำศัพท์นิติบัญญัติอิสลาม จากภาษาอาหรับ วิธีการสะกดอื่น ๆ มีเช่น หะรอม, ฮารอม ในภาษาพูดคำว่า ฮะรอม เพี้ยนเป็น ฮาหร่าม
ฮะรอม คือกฏบัญญัติห้าม ที่มุกัลลัฟ (มุสลิมผู้อยู่ในศาสนนิติภาวะ) ทุกคนต้องละเว้น เช่น
1. การตั้งภาคีต่ออัลลอหฺ
2. การแหนงหน่ายต่อความเมตตาของอัลลอหฺ
3. การหมดหวังในความเมตตาต่ออัลลอหฺ
4. การเชื่อว่าสามารถรอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอหฺ
5. การสังหารชีวิตผู้ไม่มีความผิด
6. การเนรคุณต่อมารดาและบิดา
7. การตัดขาดจากญาติพี่น้อง
8. การกินทรัพย์สินของลูกกำพร้าโดยอธรรม
9. การกินดอกเบี้ย
10. การผิดประเวณี
11. การรักร่วมเพศระหว่างชาย
12. การใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ว่าทำผิดประเวณีหรือรักร่วมเพศ
13. การดื่มสุราเมรัยหรือทำการใดที่เกี่ยวข้องกับสุราเมรัย
14. การเล่นการพนัน
15. การอยู่กับการละเล่นบันเทิง
16. การฟังหรือขับร้องเพลงและเล่นดนตรี
17. การพูดเท็จ
18. การสาบานเท็จ
19. การเป็นพยานเท็จ
20. การไม่ยอมให้การหรือเป็นพยาน
21. การผิดสัญญา
22. การทำลายไม่รับผิดชอบสิ่งที่ได้รับมอบหมาย
23. การขโมยลักทรัพย์
24. การหลอกลวง
25. การบริโภค อุปโภคสิ่งที่ได้มาโดยทุจริตวิธี
26. การไม่ยอมจ่ายหนี้หรือเหนี่ยวรั้งทรัพย์สินของผู้อื่น
27. การหนีจากสงครามศาสนา
28. การกลับคืนสู่อวิชชาหลังจากได้เรียนรู้สัจธรรมอิสลามแล้ว
29. การฝักใฝ่กับผู้อธรรม
30. การไม่ช่วยเหลือผู้ถูกอธรรม
31. การเรียนและทำคุณไสย
32. ความฟุ่มเฟือย
33. ความเย่อหยิ่งทรนง
34. การต่อสู้กับศรัทธาชน
35. รับประทานซากสัตว์ เลือด เนื้อสุกร และสัตว์ที่ไม่ได้ถูกเชือดตามหลักศาสนา
36. การละทิ้งการนมาซ
37. การไม่จ่ายซะกาต
38. การไม่ใยดีต่อการทำหัจญ์
39. การละทิ้งกฎบัญญัติศาสนา เช่น การถือศีลอด ญิฮาด การสั่งทำความดี การห้ามทำความชั่ว การภักดีต่อบรรดาอิมาม การผละตนออกจากศัตรูบรรดาอิมาม
40. การทำบาปเล็กบาปน้อยจนเป็นกิจวัตร
41. การนินทากาเล
42. การยุยงให้ผู้คนแตกแยกกัน
43. การวางแผนหลอกลวงผู้อื่น
44. อิจฉาริษยา
45. การกักตุนสินค้าจนทำให้ข้าวยากหมากแพง
46. การตั้งตัวเป็นศัตรูต่อศรัทธาชน
47. การรักร่วมเพศระหว่างหญิง
48. การเป็นแมงดาหรือแม่เล้าติดต่อให้แก่โสเภณี การยินยอมให้ภารยาและบุตรีผิดประเวณี
49. การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง
50. การทำการอุตริในศาสนา
51. การพิพากษาคดีด้วยความฉ้อฉล
52. การทำสงครามในเดือนต้องห้ามทั้งสี่ คือ ซุลกออิดะหฺ ซุลฮิจญะหฺ มุฮัรรอม และรอญับ นอกจากจะเป็นฝ่ายถูกรุกราน
53. การล่วงละเมิดสิทธิของศรัทธาชนด้วยการล้อเล่น เหยียดหยาม ด่าทอ
54. การหักห้ามกีดกันผู้อื่นเข้าสู่สัจธรรม
55. การเนรคุณต่อคุณงามความดีของอัลลอหฺ
56. การก่อเหตุวุ่นวายในสังคม
57. การขายอาวุธแก่ที่ก่อความไม่สงบสุข
58. การใส่ร้ายผู้อื่น
59. การไม่ให้ความเคารพต่ออัลลอหฺ
60. การลบหลู่ดูหมิ่นต่อกะอฺบะหฺ
61. การลบหลู่ดูหมิ่นต่อมัสยิด
62. การที่บุรุษสวมใส่ผ้าไหม
63. การใช้ภาชนะทำด้วยทองคำและเงิน