กลุ่มธรรมยาตราเป็นใคร? ทำเพื่ออะไร!

แนวทางการต่อสู้ของสองกลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างไร?
นี้เป็นข้อสำคัญที่จะเปรียบถึงความแตกต่าง ทั้งแนวทางการต่อสู้และ
ผลทางการเมือง
พันธมิตรประชาชนมีมวลชนนับหมื่น ใช้เวลาในการประท้วงนับเดือนแต่ไม่ก่อ
ผลสะเทือนใดๆ ที่ไปขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงใดๆได้ ตรงกันข้าม กลับเป็นแนวร่วมมุมกลับ
ให้กับรัฐบาล จนเกิดการก่อตัวขึ้นของ คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่มพิราบขาว และ
อีกหลายกลุ่ม จนกระชับขึ้นเป็น กลุ่ม นปก. ในที่สุด พูดให้ตรงคือ กลุ่มพันธมิตร
ประชาชนเพื่อประชาธิไตย เป็นคนให้กำเนิดกลุ่ม นปก. เป็นแนวร่วมมุมกลับให้กับ
รัฐบาลได้ตอบโต้นั่นเอง ซึ่งเกิดขึ้ืนภายใต้การนำของห้าคนอย่างชัดเจน ในส่วนของ
มวลชนเองที่มีเป็นหมืนแทบจะไม่มีบทบาทใดๆ เลย ตามผู้นำอย่างจงรักภักดี ความ
เคลื่อนไหวจึงรังแต่จะสร้างความขัดแย้งขยายผลไปสู่ความแตกแยกระดับชาติ เคลื่อน
ไปที่ไหนก็ตีกันที่นั่น แม้กระทั่งที่เขาพระวิหารเอง
ทั้งที่ก่อนนั้นกลุ่มธรรมยาตราใช้วิธีการปฏิบัติธรรมอย่างเงียบไม่เป็นข่าวดัง
นำเอาการเรียกร้องอธิปไตยในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งที่จริงมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นของไทย
จึงกล้าที่จะแสดงถึงสิทธิ์ที่จะนั่งปฏิบัติธรรมในเขตแดนของตัวเอง
นี่เป็นความแตกต่างที่เห็นชัดเจน กลุ่มธรรมยาตราไม่ตอบโต้กับแรงเสียดทาน
แต่กับกลุ่มพันธมิตรกลับใช้กำลังตอบโต้กับแรงต้าน ตีกันเองมันได้อะไร เขมรมัน
หัวเราะเยาะเอา
ข้อเปรียบเทียบคือ ปริมาณที่มีอยู่มากมายของพันธมิตร กลับถูกคนสามคน
ของกลุ่มธรรมยาตราที่มีไม่ถึงยี่สิบคนบดบังไป และที่น่ารังเกียจก็คือ พยายามชิงการ
นำกลับโดยอ้างว่า แกนนำของกลุ่มธรรมยาตราเป็นพวกตน และเคลื่อนขบวนไปปิดล้อม
กลุ่มธรรมยาตรา แต่ทำไม่สำเร็จ ไปแล้วแทนที่จะช่วยหนุน กลับไปทำให้ภาพของกลุ่ม
ธรรมยาตราเสียหาย ไปทะเลาะตีกับคนในพื้นที่ จนกลุ่มธรรมยาตราต้องพลอยถูกชาว
บ้านเกลียดชังไปด้วย ต้องใช้ความอดทนกราบไหว้ขอโทษท่ามกลางการด่าทอของชาว
บ้านที่ไม่เข้าใจ นี่เป็นผลงานของพันธมิตรล้วนๆ ที่มีแต่ปริมาณ แต่ขาดคุณภาพ
ข้อเปรียบความแตกต่างทางการเมืองคือ
พันธมิตรสร้างความแตกแยกใชาติ
กลุ่มธรรมยาตราสร้างเอกภาพขึ้นในชาติ
เอกภาพที่เกิดขึ้นคือ คนไทยทุกคนเห็นความสำคัญของความเป็นชาติ มีจุด
ร่วมที่หวงแหนในแผ่นดินเดียวกัน คนไทยมองเห็นจุดอ่อนของการไม่สามัคคีกัน กองทัพ
เองถูกผลักดันให้รับผิดชอบต่อหน้าที่สำคัญที่สุด คือเรื่องอธิปไตย แทนที่จะไปรับใช้เพื่อ
ประโยชน์ของนักการเมือง ก็กลับมาทำหน้าที่ตามภารกิจสูงสุด คือปกป้องอธิปไตยของ
ประเทศ ที่ีจริงหน้าที่นี้ผู้ปกครองฝ่ายบริหารควรจะถือเป็นภารกิจสำคัญ แต่ถูกมองข้าม
จึงตกเป็นหน้าที่ของกองทัพแห่งชาติในที่สุด
คนสามคนทำไมถึงกล้าข้ามเขตแดนแห่งปัญหา?
เพราะความเข้าใจในอำนาจอธิปไตยของประเทศ ขอบเขตและอำนาจมันอยู่ที่
ไหน อยู่กับใคร และใครเป็นผู้ใช้อำนาจรักษาอธิปไตยที่แท้จริง ผมพูดเท่านี้กลุ่มพันธมิตร
ก็งงแล้ว แต่สามคนนั่นเขาไม่งง เพราะเขารู้ ทั้งสามคนนั่นมีความรู้พอ เข้าใจพอที่จะ
ทำ และรู้ด้วยว่าทำไปแล้วจะปลอดภัย และถ้าจะพูดให้ลึกไปกว่านั้นคือ ผู้บัญชาการกอง
กำลังบูรพารู้ดีว่าคนกลุ่มนี้เป็นพวกไหน และยึดแนวทางไหนในการต่อสู้
นายทหารระดับสูงที่เข้าไปเจรจากับแกนนำถึงกับพูดว่า "ผมรู้นะคุณเป็นคนของใคร"
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับแนวทางของกลุ่มธรรมยาตรา นายทหารที่พยายามไปเกลี้ยกล่อม
ถึงกับต้องถอยฉากออกมา คาดไม่ถึงว่าคนที่มีลักษณะเป็นคนธรรมดามีความรู้ถึงขนาด
นำ "นโยบาย 66/23" ซึ่งเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาชาติของกองทัพแห่งชาติเองมา
ประยุกต์ใช้ในการเรียกร้องประเด็นเขาพระวิหาร ซึ่งอันที่จริง ต้องเป็นหน้าที่ของ
กองทัพแห่งชาติต่างหาก แต่นี่เป็นประชาชนเสียเองที่มีความรู้เข้าใจในนโยบายต่อสู้
กับพรรคคอมมิวนิสต์

ทำไมต้องใช้นโยบาย 66/23 ซึ่งเป็นนโยบายสร้างประชาธิปไตยแก้เกมการ
เมืองของเขมร?
การนำเอายกปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกนั้น เจตนาของเขมรไม่ได้
มีเท่าที่เห็น ความจริงก็คือ เขมรยกเอาเขาพระวิหารขึ้นมาเพื่อรุกทางการเมืองต่อประเทศ
ไทย
เมื่อเราถูกรุกเรื่องเขาพระวิหาร เขมรก็ถูกรุกกลับเรื่องมณฑลบูรพา (ซึ่งเขียนเอา
ไว้ก่อนนี้แล้วในหัวข้อ อนุสาวรีย์ชัย ชัยชนะที่สูญสิ้น) ที่เราโดนฝรั่งเศสโกงเอาไปหน้าด้านๆ
ทำให้เขมรตกเป็นฝ่ายรับบ้าง ถึงกับแหกปากร้องยูเอ็น!
ในขณะที่ไทยเองตกอยู่ในวิกฤติขาดเอกภาพจากการที่คนในประเทศแตกแยก
และการเมืองของรัฐบาลที่ไม่สามารถกุมสภาพการบริหารได้ เราจึงตกเป็นฝ่ายเดินแก้เกม
ตามหลังเขมรทุกครั้ง เขมรเป็นฝ่ายรุก แต่เราเป็นฝ่ายรับ ว่ากันไปแล้วคือเราแพ้เขมร
ทางการเมืองไปแล้ว จากการที่เขมรเอายูเนสโกมารับรองปราสาทพระวิหารว่าเป็นของ
เขมร และเราเองดันไปรับรอง แต่ก็ยังแก้ไขทัน เพราะเป็นการเซ็นไปโดยไม่ได้ผ่าน
การลงสัตยบรรณจากรัฐสภา ซึ่งเป็นสภาแห่งอำนาจอธิปไตย ของปวงชนทางการปกครอง
และนี่เล่นถึงขั้นดึงเอายูเอ็นมาเป็นแนวร่วมขย่มไทยอีก การรุกยึดเอาปราสาทพระวิหาร
โดยดึงเอานานาชาติมารับรองเขมรนั่นเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่ทำให้เราเพลี่ยงพลํ้าในยกแรก
ที่สำคัญ อย่าลืมว่าพรรคของนายฮุนเซ็นไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เป็นที่รู้กันอยู่ว่ายังมี
พรรคคอมมิวนิสต์ของเวียตนามให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง หรือมากกว่านั้นก็เป็นไปได้
เมื่อเราถูกรุกโดยพรรคคอมมิวนิสต์ อาวุธที่จะเอาไปต่อสู้ก็ต้องใช้หลักการของ
ประชาธิปไตย
อะไรคือหลักการสำคัญของ นโยบาย 66/23
66/23 เป็นนโยบายสร้างประชาธิปไตยนั่นเอง
การเคลื่อนไหวของกลุ่มธรรมยาตราไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลแต่อย่างใด
และเรื่องดินแดนเป็นของไทยหรือเขมรก็ไม่ใช่ความมุ่งหมาย แล้วมันคืออะไร?
แท้จริงคือ ทำไปเพื่อแก้ไขสถานการณ์วิกฤติในชาติต่างหาก โดยนำเอาประเด็นอันละเอียดอ่อนขึ้นมาเพื่อจุดประกายให้เห็นทางรอดของชาติ
ปัญหาของชาติในขณะนี้คือ ความแตกแยกของคนไทย
กองทัพอ่อนแอ ขาดเอกภาพและสรรพกำลัง
การปฏิเสธการปกครองของกลุ่มพันธมิตร ปัญหาชายแดนใต้ นี่เป็นเรื่องหลักๆ
หากปัญหาเหล่านี้ยังอยู่ รัฐบาลเองก็ไม่สามารถกุมสภาพใดๆ ได้ คือปกครองไม่ได้
ปัญหาเรื่องชาติจึงเป็นปัญหาหลักที่ต้องได้รับการเยียวยา ประเด็นเขาพระวิหาร
เป็นตัวแก้ได้อย่างดี ดังที่เห็น คนไทยตื่นตัวคำนึงถึงความเป็นชาติมากขึ้น รู้สึกหวงแหน
ในอธิปไตยของประเทศ จากความแตกแยกมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียว กลุ่มธรรมยาตราเอง
พยายามจะบอกกับรัฐบาลให้ทำหน้าที่รักษาประโยชน์ของชาติ แต่รัฐบาลกลับไปคำนึงถึง
ประโยชน์ของคนส่วนน้อย และด่าว่า "ไอ้บ้าสามคน" ท่านไม่เข้าใจจริงๆ ที่จริงท่านน่า
จะฉวยโอกาสสร้างความเป็นหนึ่งของคนในชาติ แต่กลับทำให้เสียหายซะงั้น ถามท่านว่า
หากแตกแยกกันอยู่อย่างนี้ ท่านจะปกครองได้หรือ ทำไมไม่ถือโอกาสนี้สร้างความเข้าใจ
ในเรื่องชาติขณะที่มีโอกาส ฮุนเซ็นฉลาดที่หยิบเอาประเด็นนี้มาทำให้คนเขมรรวมกัน
เป็นหนึ่ง และคะแนนท่วมท้นอย่างแน่นอน เมื่อรัฐบาลไม่ทำ จำเป็นต้องผลักดันกองทัพ
ให้ออกมารับผิดชอบต่อบ้านเมือง ฉะนั้นจึงเห็นความต่างระหว่างกลุ่มพันธมิตรที่พยายาม
ให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร ขณะที่กลุ่มธรรมยาตราให้ทหารกลับคืนสู่ภารหน้าที่อัน
สำคัญ คือรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศ แทนที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชน
ที่ถูกด่าว่าเป็นไอ้บ้า
ในด้านตรงข้าม ฮุนเซนฉลาดพอที่จะฉวยเอาสถานการณ์นี้กวาดคะแนนเข้าตัว
เรียกความนิยมอย่างท่วมท้น ชาตินิยมเขมรขึ้นสูง ฉลองเฮกันยกใหญ่ ขณะที่นายกไทย
กลับทำให้ความแตกแยกของคนในชาติขยายวงกว้างไปอีก ใครโง่ ใครฉลาด ดูกันเอาเอง
tonton / thaimunkong.org