ทำไมสมัครห่วงเลือกตั้งเขมร มากกว่าแสดงจุดยืนไทย?

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : มีผู้นำประเทศอย่างของไทยวันนี้ โอกาส "สิ้นชาติ" ก็ไม่ห่างไกลเท่าไรนัก

นักข่าวถามนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ว่า ได้ต่อสายคุยกับนายกฯ ฮุนเซน แห่งกัมพูชา เพื่อคลี่คลายสถานการณ์หรือไม่

เป็นคำถามแบบผู้ใหญ่ เป็นเชิงเสนอแนะ และสะท้อนถึงความรู้สึกของคนไทย ที่ต้องการให้ผู้นำประเทศแสดงความเป็นผู้นำ

แต่คำตอบของนายกฯ คนนี้ ทำเอาคนไทยช็อกไปตามๆ กัน

"กำลังนี้ยังไม่ต้องคุย เขามีเลือกตั้งวันที่ 27 กรกฎาคม ฉะนั้นให้เครดิตนายฮุนเซน เขาหน่อย..."

แปลว่าอะไร "ให้เครดิตฮุนเซน" ในวันที่เขารุกไล่เราทางการทูต ไปถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และมีทีท่าว่าจะยึดเอาบริเวณ "เขตทับซ้อน" 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่ติดกับปราสาทเขาพระวิหารกระนั้นหรือ

ขณะที่นายกฯ สมัคร บอกนักข่าวไทย ว่า ที่ทางฮุนเซนออกมากล่าวหาไทยอย่างร้ายแรงนั้น "ไม่เป็นไร ยังไม่เสียหาย" นั้น

เอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ ดอน ปรมัตถ์วินัย บอกผ่านการสัมภาษณ์ทางไกลให้กับนักข่าวไทย ว่า

"การออกมาร้องเวทีโลกของกัมพูชา ในกรณีนี้ เป็นการทำเพื่อโชว์ศักยภาพของผู้นำประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ประเทศอื่นไม่ทำกัน เพราะเป็นการจู่โจมแบบกองโจร..."

คนไทยฟังนายกฯ สมัคร กับทูตดอน พูดแล้ว คุณคิดว่าใครทำหน้าที่ของการแสดงจุดยืนของประเทศไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศมากกว่ากัน หากเปรียบฝีไม้ลายมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ของประเทศตนเอง คุณสมัคร พ่ายฮุนเซน ยับ...เป็นมือคนละชั้นโดยสิ้นเชิง

ทำไมคุณสมัคร จึงเกรงใจฮุนเซน ขนาดนี้ ทำไมต้องเป็นห่วงเป็นใย ว่า ฮุนเซน ต้องใช้เรื่องเขาพระวิหารหาเสียง เพื่อชนะเลือกตั้งให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิม

พูดแบบเบาก็ต้องบอกว่า ถ้าไม่ไร้เดียงสา ก็ไร้ประสิทธิภาพ

ถ้าพูดอย่างภาษาของนายกฯ เอง ก็ต้องบอกว่า ถ้าไม่บ้า ก็โง่เต็มประดา

เกมรุกของกัมพูชาครั้งนี้ ไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจไทยเหลืออยู่อีกต่อไป เพราะเขาคิดว่าเขาได้เปรียบไทย และรู้ว่ารัฐบาลไทยขณะนี้มีจุดอ่อนตรงการเมืองระดับชาตินี่แหละ

เขาเลือกจังหวะที่เราเพลี่ยงพล้ำ บุกหนักทางการเมืองระหว่างประเทศ เพราะเขาเห็นแล้วว่า ระดับนำทางการเมืองของประเทศอ่อนปวกเปียก และกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่มีมือดี แต่เหมือนถูกมัดมือชก ไม่อาจจะสำแดงความรู้ความสามารถได้ เพราะระดับนำไร้วิสัยทัศน์

กัมพูชา ข้ามหัวอาเซียนไปหาคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ก็เพราะเขาต้องเร่งทำให้ทันก่อนวันเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้

พอคุณสมัคร ยอมรับเงื่อนไขเวลานี้ ก็ตกหลุมพรางเขาทันที เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ

สิ่งที่ฮุนเซนต้องการ คือ การแสดงแสนยานุภาพทางการทูต และอำนาจการต่อรองของตนเองในเวทีสากล เพื่อสะท้อนกลับมาสู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 8 ล้านคนของกัมพูชา...ให้เห็นว่าเขาเก่งกว่านายกรัฐมนตรีไทยที่ชื่อสมัคร และสามารถตีกอล์ฟกับอดีตนายกฯ ไทย ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างหน้าตาเฉย

ขณะที่นายกฯ ไทย ทำเก้ๆ กังๆ เหมือนมีความหวาดกลัวบารมีอะไรบางอย่างของฮุนเซน ที่มีสายตรงเชื่อมกับคนที่เขาเชื่อว่า มีอิทธิพลทางการเมืองเหนือนายกฯ ของไทยคนปัจจุบัน

ผลการประชุมของสมาชิก 15 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงเมื่อตอนเช้ามืดเวลาบ้านเราเมื่อวานจบลงเหมือนที่ไทยกับกัมพูชาคุยกัน "นอกรอบ" ที่สระแก้วเมื่อวันจันทร์

นั่นคือ "ไม่มีข้อสรุป" เพราะยังเห็นแตกต่างกัน

คำว่า "ไม่มีข้อสรุป" ย่อมหมายความว่า กัมพูชา ได้ชัยชนะไปรอบแรกแล้ว เพราะหากฝ่ายไทย สามารถน้าวโน้มสมาชิกส่วนใหญ่ได้ ก็จะต้องมีมติให้กัมพูชากลับไปหารือทวิภาคีกับไทยเสียก่อน

การที่เขมรส่งเรื่องด่วน เพื่อขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุม "ฉุกเฉิน" นั้นต้องถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติยิ่ง เพราะเมื่อประเทศสมาชิกมีข้อพิพาทกัน สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือการให้สองชาตินี้เจรจาหาทางออกร่วมกันเสียก่อน...ไม่ใช่พอเกิดเรื่อง ต่างก็ฟ้องไปที่สหประชาชาติทันที

ที่สำคัญ คือ สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง 5 ชาติยักษ์ใหญ่ ที่จะต้องมีเสียงเอกฉันท์หากมีมติไปทางใดทางหนึ่ง

ขณะที่เขียนอยู่นี้ 5 ชาติยักษ์ใหญ่ก็ยังเห็นไม่ตรงกัน...อเมริกา จีน และรัสเซีย แสดงจุดยืนแล้วว่าให้ไทยกับเขมร ไปพูดจากันสองประเทศเสียก่อน...ถ้าไม่รู้เรื่อง ค่อยส่งเรื่องมาที่องค์การระหว่างประเทศ

ฝรั่งเศส เจ้านายเก่าของกัมพูชา ทำท่าเอนเอียงไปด้านกัมพูชา อยู่แล้ว เพราะจริงๆ แล้ว เขานี่แหละที่เป็นต้นตอของปัญหาระหว่างสองประเทศนี้...และทำให้ไทยเสียเปรียบในการต่อรองและเจรจา

จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องรุกหนักทางการทูต เพื่อแสดงจุดยืนของเราอย่างแข็งขัน เพราะการนิ่งเฉยเท่ากับเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่ต้น

ถ้านายกฯ ไทยเป็นห่วงเรื่องผลการเลือกตั้งของเขมรมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศไทย ก็เท่ากับพูดแทนพรรค CPP ของนายกฯ ฮุนเซน ไม่ได้พูดในฐานะผู้นำไทยที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยทุกลมหายใจ

http://www.bangkokbiznews.com/2008/07/25/news_279179.php

เจรจา สองฝ่าย ไทย และ เขมร...จะมีการเจรจากันอีกครั้งหลังจากการเลือกตั้งในเขมรเสร็จ...

ในขณะที่เรา ประนีประนอม เพื่อให้ "สมเด็จ พระมหาเสนาบดี ฯ"(ไม่รู้มันมาจากราชวงศ์ไหน) ได้กลับไปหาเสียงอย่างสบายอกสบายใจ...

แล้วทอดเวลาออกไป....เขมรได้ส่งหนังสือ ร้องเรียนทั่วโลก กล่าวหาว่าไทยรุกล้ำอธิปไตย......

ลุงหมัก ทำอะไรไปมั่งหรือยัง....

ในขณะที่ ท่านสมเด็จมหาเสนาบดี...แถลงข่าวออกสื่อไปทั่วโลก กล่าวหาไทยรุกล้ำ ...

ลุงหมักเงียบ ไม่ออกแถงการตอบโต้...(ไม่เห็นเก่งเหมือนตอบโต้พันธมิตรนี่หว่า)....

ตกลง ลุงหมัก ต้องรอ ให้ท่านสมเด็จ มหาเสนาบดี เอาเท้าลูบหน้าก่อนใช่มั๊ยครับ..

แล้วค่อยทำตาขวางแบบที่ ทำกับนักข่าว...