ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
11-05-2025, 10:32
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อัยการสูงสุดได้รับข้อมูลยุบพรรคจาก กกต.แล้ว "แต่...." 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อัยการสูงสุดได้รับข้อมูลยุบพรรคจาก กกต.แล้ว "แต่...."  (อ่าน 1259 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 06-06-2006, 22:11 »

อัยการสูงสุดได้รับข้อมูลยุบพรรคจาก กกต.แล้ว

นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด ยอมรับว่า กกต.ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาทำความเห็นเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทยจริง แต่ทั้งนี้กกต.ไม่ได้มีมติชี้มูลความผิดมาว่า การกระทำที่เกิดขึ้นสมควรเสนอให้ยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งอัยการสูงสุดจะต้องไปพิจารณามาตรา 66 และ 67 ของพ.ร.บ.พรรคการเมืองก่อนว่ากกต. หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองมีหน้าที่เพียงรวบรวมหลักฐาน หรือต้องมีมติชี้มูลมายังอัยการสูงสุด  อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ตั้ง นายชัยเกษม นิติสิริ รองอัยการสูงสุด ขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบสำนวนเรื่องนี้ รวมทั้ง สำนวนหลักฐานการยุบพรรคการเมืองขนาดเล็กที่กกต.ส่งมาก่อนหน้านี้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใด โดยจะมีการหารือในรายละเอียดกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้  อย่างไรก็ตามความเห็นของอัยการสูงสุดก็ไม่จำเป็นเหมือนกับนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่หากว่ามีความเห็นเหมือนนายทะเบียนก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้

นายพชร ยังกล่าวอีกว่า สำหรับคณะกรรมการที่มีชัยเกษมเป็นประธาน นั้นตนได้แต่งตั้งมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วให้พิจารณาเรื่องที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และคณะรักษาการสว. ยื่นเรื่องขอให้พิจารณายุบพรรคไทยรักไทยตามมาตรา  63 ของรัฐธรรมนูญและให้เวลาคณะกรรมการทำการตรวจสอบสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ดังนั้นก็จะส่งสำนวนที่กกต.ส่งมาให้กรรมการชุดนี้ไปพิจารณาพร้อมๆกัน อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่าตามพรบ.พรรคการเมืองมาตรา 66และ67 นายทะเบียนพรรคการเมือง กกต.ควรจะมีมติชี้มูลความผิดมาก่อน ดังนั้นจึงจะทำหนังสือถึงกกต.เพื่อให้มีมติเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา แต่ทั้งนี้หากกกต.ไม่ยอมมีมติก็เห็นว่าอัยการสูงสุด มีอำนาจที่จะพิจารณาสำนวนเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทยตามรัฐธรรมนูญ 63 วรรค 2 ที่ระบุว่าบุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้ได้อำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางทิ่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนุญมิได้ กรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการดังกล่าว ผู้รู้เห็นการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยส่งยุบพรรคได้

http://www.naewna.com/news.asp?ID=11648

ไม่ยอมชี้มูลความผิด สงสัยต้องการยื้อให้ไปตีความต่ออีกที

ไม่ก็ไม่ต้องการรับผิดชอบ ต่อกรณีนี้.... (ปัด...)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2006, 22:13 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 06-06-2006, 22:34 »

กกต.ส่งเรื่องพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงสมัคร ส.ส.ให้อัยการสูงสุด พิจารณาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองแล้ว แต่ไม่ชี้มูลยุบพรรคไทยรักไทย ปล่อยให้อัยการสูงสุดตัดสินเอาเอง อสส.ตั้งคณะกรรมการรับลูกแล้ว ติง กกต.น่าจะชี้มูลมาก่อน จึงต้องส่งกลับให้ชี้มา

(6มิ.ย.) นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด ยอมรับว่า ช่วงเย็นวันนี้ (6 มิ.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาทำความเห็นเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย แต่ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้มีมติชี้มูลความผิดว่า การกระทำที่เกิดขึ้นสมควรเสนอให้ยุบพรรคไทยรักไทย

 "อัยการสูงสุด จะต้องไปพิจารณามาตรา 66 และ 67 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองก่อนว่า กกต. หรือนายทะเบียนพรรคการเมือง มีหน้าที่เพียงรวบรวมหลักฐาน หรือต้องมีมติชี้มูลมายังอัยการสูงสุด" นายพชร กล่าวและว่า

 ขณะนี้ได้ตั้งนายชัยเกษม นิติสิริ รองอัยการสูงสุด ขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบสำนวนเรื่องนี้ รวมทั้งสำนวนหลักฐานการยุบพรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่ กกต.ส่งมาก่อนหน้านี้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใด โดยจะมีการหารือในรายละเอียดกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.)

 "อย่างไรก็ตาม ความเห็นของอัยการสูงสุด ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่หากว่ามีความเห็นเหมือนนายทะเบียน ก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้" นายพชร  กล่าวและว่า

 สำหรับคณะกรรมการที่มีนายชัยเกษมเป็นประธานนั้น ได้ตั้งขึ้นมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยให้พิจารณาเรื่องที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กทม. และคณะ ได้ยื่นเรื่องขอให้พิจารณายุบพรรคไทยรักไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 และให้เวลาคณะกรรมการ ทำการตรวจสอบสำนวน ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ดังนั้น ก็จะส่งสำนวนที่ กกต.ส่งมาไปให้พิจารณาพร้อม ๆ กัน

 "ส่วนตัว เห็นว่า ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 66 และ 67 กกต. ควรที่จะมีมติชี้มูลความผิดมาก่อน ดังนั้น จึงจะทำหนังสือถึง กกต. เพื่อให้มีมติเรื่องดังกล่าวก่อน แต่ทั้งนี้ หาก กกต.ไม่มีมติ ก็เห็นว่า อัยการสูงสุดมีอำนาจที่จะพิจารณาสำนวน เรื่องการยุบพรรคไทยรักไทยได้ ตามมาตรา 63 วรรค 2 ที่ระบุว่า บุคคลจะใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ให้รัฐธรรมนูญไม่ได้ "นายพชร กล่าวและว่า

 กรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการดังกล่าว ผู้รู้เห็นการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุด ตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรคได้

 ทั้งนี้ มีรายงานแจ้งว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าวของ กกต. ที่ประชุม กกต. ไม่สามารถที่จะลงมติชี้มูลว่า พรรคไทยรักไทย มีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้ และสมควรส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค โดยนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ต่างมีความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 66และ 67 นั้น เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง คือ

พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. เพียงคนเดียว ทำให้ที่ประชุมหาทางออก โดยนำสำนวนการสอบสวน และรายงานผลการสอบสวน ของนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรการสอบสวนเป็นหลัก ในการนำเสนอไป พร้อมกับพยานหลักฐานอื่น ๆ ส่งไปยังอัยการสูงสุด

 อนึ่ง มาตรา 67 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่เกี่ยวกับขั้นตอนการยุบพรรคระบุว่า เมื่อปรากฏต่อนายทะเบียนหรือเมื่อนายทะเบียน ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการบริหารพรรคว่า พรรคการเมืองใด กระทำการตามมาตรามาตรา 66 ให้นายทะเบียนแจ้งต่ออัยการสูงสุด พร้อมด้วยหลักฐาน ถ้าอัยการสูงสุดเห็นสมควร ก็ให้ยื่นคำร้อง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าว

 "ถ้าอัยการสูงสุด ไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายทะเบียนตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีผู้แทนจากนายทะเบียน และผู้แทนจากอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ในกรณีที่คณะทำงานดังกล่าว ไม่อาจหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินการยื่นคำร้องได้ ให้นายทะเบียนมีอำนาจยื่นคำร้องเอง" แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว

http://www.komchadluek.net/2006/06/06/a001_17174.php?news_id=17174
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #2 เมื่อ: 07-06-2006, 00:13 »

เขาเรียกเทคนิคนี้ว่า  ส่งเรื่องไปคา นิยมใช้ในวงการตำรวจ  จุดประสงค์คือดึงเรื่องให้นาน เพื่อให้มีการชงเรื่องไปมา  เมื่ออีกผ่ายแย้งกลับมาทางนี้ก็จะตอบข้อแย้งโดยทำสำนวนวนไปวนมาให้สำนวนการสอบสวนอ่อนด้วยเอกสารไม่สมบรูณ์ พยานตาย หลักฐานหาย หรือไม่สมประกอบการพิจารณา   จนบางเรื่องผู้ต้องหาก็เดินถนนได้ตลอดเวลาเหมือนไม่มีการฟ้อง  จนศาลต้องยกประโยชน์ให้จำเลย หรือบางกรณี จนขาดอายุความ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2006, 09:39 โดย HILTON (ปาล์มาลี) » บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #3 เมื่อ: 07-06-2006, 01:23 »

เรื่องของเรื่องของคนรู้กฎหมาย รู้ระเบียบและประเพณีของราชการ นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ส่วนตัวและพรรคพวกจริงๆ......!


ด้วยเหตุนี้ ศาลฏีกา อัยการสูงสุด จึงต้องทบทวนวิธีการรับมือ 3 กกต.และทีมกฎหมายที่อยู่เบื้องหลังด้วยความระมัดระวัง เฉลียวใจ ทันเกม และวิธีการพิเศษเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


คอยติดตาม 3 กกต และ คนรักทักษิณที่ให้กำลังใจ จะคอยตะโกนให้ ศาลฏีกาและอัยการสูงสุด รักษากติกาและเดินในเส้นทางที่พวกเขา"ขีด"ไว้......!


 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 07-06-2006, 14:10 »

อัยการถกด่วน "เผือกร้อน" กกต.
วันที่ 07 มิ.ย. 2549

อัยการถกด่วน "เผือกร้อน" กกต. ไม่ยอมชี้มูลความผิดกรณีขอให้ยุบพรรคไทยรักไทย ทั้งที่ตอนเสนอให้ยุบพรรคเล็ก ชี้มูลความผิดมาด้วย เผยยังไม่ได้ส่งเรื่องกลับคืน กกต.

เช้าวันนี้(7 พ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อธิบดีอัยการฝ่ายคณะกรรมการอัยการ ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งหนังสือพร้อมหลักฐานของคณะอนุการกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ชุดที่นายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธานมายังอัยการสูงสุดเพื่อให้ดำเนินการยุบพรรคไทยรักไทยว่า หลังจากนายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด(อสส.) ได้รับหนังสือแล้ว ได้มอบหมายให้นายชัยเกษม นิติศิริ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการตามความในกฎหมาย ม.63 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รองอัยการสูงสุด อธิบดีอัยการฝ่ายต่างๆ มีตนเป็นเลขานุการ มีคณะกรรมการรวม 11 คน

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้รับมอบหมายให้พิจารณาเรื่องที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลและบุคคลอื่น ยื่นเรื่องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากอ้าง มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเพื่อขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ รวม 5 เรื่อง และกรณีที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กทม. และพวกยื่นเรื่องให้ยุบพรรคไทยรักไทย กรณีจ้างพรรคเล็กลงสมัครในการเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วไปอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้เริ่มประชุมนัดแรกและได้นำเรื่องที่ กกต. ส่งหนังสือเรื่องยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อวานที่ผ่านมา มาพิจารณาด้วย

นายอรรถพล กล่าวว่า หนังสือจาก กกต. ดังกล่าวลงนามโดย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ของสำนักงานอัยการสูงสุดจะพิจารณาว่า หนังสือที่ส่งมาเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66, 67 หรือไม่ จากที่พิจารณาแล้วมีข้อสังเกตว่า หนังสือยุบพรรคไทยรักไทยดังกล่าวมีความขัดแย้งกับหนังสือที่ กกต. เคยส่งเรื่องให้ยุบพรรคเล็ก 2 พรรคก่อนหน้านี้ เนื่องจากครั้งนั้น กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ส่งสำนวนคดียุบพรรคการเมือง พร้อมชี้มูลความผิดขอให้ยุบพรรคมาด้วย แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ของสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องพิจารณาดูว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร แต่ขณะนี้ไม่สามารถบอกได้

"อัยการไม่มีอำนาจยุบพรรคการเมืองตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ 2540 เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดให้อัยการมีอำนาจให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการ ให้พรรคการเมืองดังกล่าวหยุดการดำเนินการที่ขัดกับรัฐธรรมนูญเท่านั้น หากศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยแล้วเห็นว่า พรรคการเมืองดังกล่าวมีการกระทำที่เป็นพฤติกรรมล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอาจวินิจฉัยให้ยุบพรรคการเมืองนั้นได้"โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

นายอรรถพล กล่าวว่า หากคณะกรรมการชุดนี้ได้พิจารณาทั้งที่ยื่นมาทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะนำเสนอให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ สำหรับอำนาจยุบพรรคการเมืองนั้นอัยการสามารถดำเนินการได้ตามมาตรา 67 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 อันเนื่องมาจากการกระทำผิดตามมาตรา 66 ของพ.ร.บ.เดียวกัน

ทางด้านนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวยืนยันว่า อัยการยังไม่ได้ส่งหนังสือขอให้ยุบพรรคไทยรักไทยกลับไปยัง กกต. แม้ว่าหนังสือที่ส่งมาดังกล่าวอาจไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการตรวจสอบจะมีการประชุมกัน เพื่อพิจารณาและหารือถึงที่ กกต.ได้ส่งหนังสือมาให้พิจารณายุบพรรคไทยรักไทยอีกครั้ง คาดว่าจะมีความคืบหน้าระดับหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอัยการ จะพิจารณาถึงแนวทางการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและขอบเขตอำนาจของการอัยการว่าจะส่งหนังสือกลับไปยัง กกต.ให้ชี้มูลความผิดแล้วส่งมาใหม่ ตามที่เคยดำเนินการในกรณีการส่งเรื่องยุบพรรคเล็กหรือจะดำเนินการตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ เมื่อได้ข้อสรุปเบื้องต้นจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 8 มิถุนายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป


http://www.matichon.co.th/matichon/
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
กาลามชน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 717


« ตอบ #5 เมื่อ: 07-06-2006, 17:39 »

กกต อาจจะไม่มีความเห็นที่จะยุบพรรค ทรท แต่ครั้งจะปิดคดีจบลงที่ตัว ก็เกรงว่าฝ่ายต่อต้านฯคงจะไม่พอใจ จึงส่งสำนวนส่งต่อไปให้อัยการโดยไม่ลงความเห็นใดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2006, 18:37 โดย กาลามชน » บันทึกการเข้า
กาลามชน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 717


« ตอบ #6 เมื่อ: 07-06-2006, 18:40 »

ข่าวเมื่อตอนเย็น อัยการยืนยันว่า กกต ที่ไม่ได้ลงมตินั้น ทำถูกต้องแล้ว จึงรับสำนวนเพื่อส่งให้ศาล รธน ต่อไป
บันทึกการเข้า
โกวเฮง
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 334



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 07-06-2006, 18:57 »

ข่าวเมื่อตอนเย็น อัยการยืนยันว่า กกต ที่ไม่ได้ลงมตินั้น ทำถูกต้องแล้ว จึงรับสำนวนเพื่อส่งให้ศาล รธน ต่อไป

อ้างถึง
กกต.ยันทำตามกรอบกฎหมายไม่ชี้ขาดยุบพรรคการเมืองก่อนส่งศาล
โดย ผู้จัดการออนไลน์    7 มิถุนายน 2549 17:39 น.
              ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชี้แจงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งส่งเรื่องพรรคการเมืองใหญ่ว่าจ้างพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ให้อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคการเมืองโดยไม่ได้ชี้มูลความผิด พล.ต.อ.ประเสริฐ สุทธิสนธิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยืนยันว่า กกต.ดำเนินการถูกต้องตามมาตรา 67 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 ที่ไม่ได้กำหนดให้ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะทะเบียนพรรคการเมือง ต้องชี้มูลการกระทำความผิด ซึ่งเป็นเหตุในการยุบพรรคการเมือง แต่มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้อัยการสูงสุดเท่านั้น ส่วนการพิจารณายุบพรรคการเมืองเป็นดุลยพินิจของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณาจากพยานหลักฐานที่คณะกรรมการการเลือกตั้งส่งไป ทั้งนี้ หากอัยการสูงสุดไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามกฎหมายที่ระบุว่า ให้นายทะเบียนทั้งคณะ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากนายทะเบียน และผู้แทนอัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป อย่างไรก็ตาม หากคณะทำงานดังกล่าวไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับการยื่นคำร้องได้ นายทะเบียนมีอำนาจยื่นคำร้องได้เอง

http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9490000074769

กกต. ชี้เองอ๊ะไม่ใช่อัยการ

อ้างถึง
วาสนายันทำถูกต้องไม่สรุปความเห็นส่งอัยการ

19:24 น. พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคระกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้สัมภาษณ์กรณีส่งพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด เกี่ยวกับการสอบสวนข้อกล่าวหา พรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ให้กับอัยการสูงสุด โดยไม่มีมติว่าสมควรยุบพรรคดังกล่าวหรือไม่ โดยยืนยันว่า ทำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของตนเอง ที่สอบสวนอะไรเป็นการลับ แล้วจะไม่นำไปเปิดเผย โดยเรื่องต้องลับจากมือตนเองไปจนถึงปลายทาง และยืนยันว่า กรณีของการสั่งยุบพรรคเล็ก 2 พรรค คือพรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทยก็ไม่เคยมีเป็นมติจาก กกต.อย่างที่เป็นข่าว และกกต.ไม่เคยทำสองมาตรฐาน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อส่งอัยการสูงสุดไปแล้ว หากอัยการสูงสุดไม่เห็นด้วย แลฃ้วส่งเรื่องกลับมาให้ กกต.มีมติ ก็ต้องมาว่ากันอีกครั้ง

http://203.154.97.19/citizen_report/breaking/read.php?newsid=197458
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2006, 19:48 โดย โกวเฮง » บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #8 เมื่อ: 07-06-2006, 19:02 »

ชี้มูลเข้าไปจะจะ เดี๋ยว โดนตัดเงินงวดสุดท้ายเดะ
บันทึกการเข้า
โกวเฮง
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 334



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-06-2006, 19:16 »

อ้างถึง
สุดารัตน์ ย้ำมั่นใจพรรคทรท.ไม่โดนยุบ
18:48 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการดำเนินการทางกฎหมายในคดีพรรคไทยรักไทยถูกกล่าวหาว่าจ้างวานพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดชี้ขาดว่า เมื่อถึงเวลาพิจารณาสำนวนคดีจะมีกระบวนการยุติธรรมที่จะเปิดให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมได้ ซึ่งไม่หนักใจ เพราะเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม และยังมั่นใจว่าพรรคไทยรักไทยจะไม่ถูกดำเนินคดียุบพรรค ทั้งนี้ เห็นว่าการดำเนินการที่เกิดขึ้นในขณะนี้ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้วคือเมื่อไม่มีข้อสรุปชี้มูลมาจาก กกต. อัยการสูงสุดสามารถตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่วมหรือจะสรุปเองได้ ซึ่งพรรคยึดตามกฎหมายว่าอย่างไรก็อย่างนั้นอยู่แล้ว

เขามั่นใจม้าก ฮั่นแน่ รู้ทันนะ
บันทึกการเข้า

HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #10 เมื่อ: 07-06-2006, 23:02 »

เชื่อผมนี้เป็นลูกเล่น  ของพวกมีเชื่อตำรวจ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: