ลุงหมัก คับ..ไปฟังลุงเปลวบ่นหน่อย...

เรื่อง "ปราสาทพระวิหาร" นับวันจะเป็นหนามแหลมปักคาใจคนไทย หลายแง่-หลายมุม พูดกันไป เข้าใจกันไปคนละทาง-สองทาง เหตุที่เป็นเช่นนั้น จะโทษใครไม่ได้เลย

นอกจากต้องโทษ "รัฐบาลสมัคร" เพราะปิดๆ บังๆ ไม่ยอมอธิบาย และไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่ไปทำกับกัมพูชาให้ประชาชนได้ทราบอย่างโปร่งใส ฉะนั้น เรื่องนี้จะไม่จบลงไปง่ายๆ แน่!

กับเรื่องใหญ่ๆ อย่างนี้ "นายสมัคร สุนทรเวช" ทำเป็นว่าข้าแน่ พยายามลอยตัวอยู่เหนือปัญหา แต่กับเรื่องขี้กระผีกแค่ "พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์" สวมเครื่องแบบไปขึ้นเวทีวิพากษ์ประชาธิปไตย

โฮย..จะตายโหง-ตายหะขึ้นมาทันที!

สั่งสอบด้วยข้อหา ขัดรัฐธรรมนูญ ทำผิดกฎกลาโหม กฎกองทัพ ออกอ่าว-ออกทะเล จะเอากันให้เป็น-ให้ตาย ไปโน่นเลย

ผมอยากจะบอกท่านนายกฯ ว่า อย่าไปเชื่อพวกทหาร "แก๊งนอมินี" ที่เอามาเทกระโถนข้างตัวให้มากนัก เรื่องจิ๊บจ๊อยอย่างนี้ วิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลแบบ "ชายชาติทหาร" เขาทำต่อกันก็คือ

กระซิบบอกเขาภายใน ให้ผู้บังคับบัญชาเรียกตัวมาปิดประตูห้องคุยกันตามประสา "ทหารกะทหาร"

"เฮ้ย..มึงไปขึ้นเวทีเรื่องของมึง แต่อย่าใส่เครื่องแบบขึ้นไปอีกล่ะ มันจะกลายเป็นเรื่องของกองทัพโว้ย"

เท่านี้ก็จบ!

แต่นี่..โอ้โฮ..ต้องออกเป็นคำสั่งทางราชการ รัฐมนตรีกลาโหมนี่คงไม่ค่อยมีงานกองทัพให้เซ็นชื่ออันหล่อเหลากระมัง คราวนี้ได้เซ็นชื่อสะใจ แทนที่เรื่องไม่เป็นเรื่องมันจะหายไปกับสายลมและแสงแดด

ก็ไอ้การต่อความยาวสาวความยืดอย่างนี้แหละ มันจะเหมือนรื้อทั้งกองทัพ เพื่อจับมดคันไฟตัวเดียว!

ทหารแต่งเครื่องแบบไปรับจ้างคุมรื้อร้าน รื้อผับ รื้อบาร์เบียร์ หรือทหารแต่งเครื่องแบบคุมแก๊งยาเสพติด คุมแหล่งอบายมุข หรือไปรับจ้างอุ้ม รับจ้างทวงหนี้ อย่างที่เห็นเป็นข่าว-เป็นคราว ต่างกรรม ต่างวาระอยู่เนืองๆ นั้น

เป็นผลงานเชิดหน้าชูตากิจการทหาร และเป็นสิ่งที่แต่ละเจ้ากระทรวงกลาโหม "รับได้" อย่างนั้นหรือครับ!?

เพราะไม่เห็นคนไหนมีปฏิกิริยาตอบสนอง "เปิดปุ๊บ-ติดปั๊บ" อย่างกรณี พลเอกปฐมพงษ์ ที่ไปขึ้นเวทีวิพากษ์ประชาธิปไตยอย่างนี้เลย?

การสวมเครื่องแบบวิพากษ์ประชาธิปไตย ในภาวะที่บ้านเมืองมีการบริหารขาดหิริโอตตัปปะ ประชาชนไร้ที่ยึดเหนี่ยว มันเป็นการกระทำที่เลวร้าย อันตรายต่อชาติ ต่อแผ่นดิน และอับสิ้นหมองศรีกองทัพ "รุนแรง" ขนาดนั้นหรือครับ?

สงสัยรัฐมนตรีกลาโหมวันนี้ จะชอบทหาร "นุ่งผ้าซิ่น" เท้าแขน แอ่นหยัด ร้องเพลง "เขมรทักษิณาธิปไตย" กล่อมอยู่ในกระทรวง ฟังไป จิบน้ำแดงแกล้มขนมเค้กไปกระมัง

ทีกับเรื่อง "ชาวกัมพูชา" บุกรุกเข้ามาตั้งบ้านปลูกเรือนรุกล้ำเข้าเขตแดนไทยบริเวณปราสาทพระวิหาร ชาวบ้านตะโกนบอกจนปากจะฉีกถึงตูด กระทั่งทหารพื้นที่เองเขาก็บอกว่า

"ทหารจะผลักดันออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ฝ่ายการเมืองไม่ให้ทำ เพราะกลัวจะสะเทือนความสัมพันธ์"

เนี่ยะ..ทีเรื่องอย่างนี้ รัฐมนตรีกลาโหมว่าไงล่ะ เหมือนมีดุ้น..ไปอุดหู ไม่พูด ไม่มีความเห็น ไม่สั่งการ ไม่ตั้งแท่น "สอบสวนด่วน" อะไรทั้งนั้น!

ท่านผู้ชำนาญการทหาร ที่ไปกั้นม่านอยู่ข้างหลังรัฐมนตรีนอมินีนั่นก็เหมือนกัน ไม่เห็นชงเรื่อง "สั่งการลงไปเลยครับ..เจ้านาย" อย่างนี้บ้างล่ะ?

จากปัญหาทั้งหลายทั้งปวง ผมจะบอกให้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล คนกู้บ้าน-กู้เมือง นั้น ไม่ใช่คนอายุ ๗๐ อย่างรัฐมนตรีกลาโหมวันนี้ และไม่ใช่ทหารดุริยางค์ข้างที่

ที่คอยแต่ขับร้องเพลง "เขมรทักษิณาธิปไตย"!

แต่จะเป็นชาวบ้าน และทหารที่ท่านเที่ยวไปยืน ปากห้อย ตาเขียว ตาขวาง ใส่เขานั่นแหละ!!

ในกรณี "ทหารกับรัฐบาล" นี้ มีบางคนบอกว่า น่าสงสารนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ผมถามเขาว่า "สงสารทำไม?" เขาก็บอกว่า "ท่านคงทำงานไม่ได้สะดวกนัก เพราะถูกฝ่ายทหาร คือ 'พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา' ควบคุมชนิดไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตา"

ผมย้ำเขาเพื่อความแน่ใจว่า "พลเอกอนุพงษ์น่ะรึควบคุมนายกฯ สมัคร?"

เขาก็บอกว่า "ใช่..ก็ดูซี นับตั้งแต่เป็นนายกฯ มา ๔-๕ เดือน ไม่ว่าจะเดินทางออกนอกประเทศครั้งไหน พลเอกอนุพงษ์เป็นต้องตามไป 'ประกบตัว' นายกฯ ไว้แจ"

ผมฟังแล้วก็เถียงไม่ออก เพราะจริงของเขา นี่..เห็นอดีตรัฐมนตรีนพดลที่กลับจากแคนาดาแวะอังกฤษด้วยอ้างว่า "ประสานงานเพื่อให้นายกฯ สมัครไปเยือน" นั้น

พลเอกอนุพงษ์คงต้องตาม "คุมตัว" นายกฯ ไปด้วยอีกมั้ย..เนี่ยะ!?

คิดอย่างนี้ก็สบายใจไปอย่าง ถ้าคิดมุมตรงกันข้ามอย่างสื่อพวกผมคิด มันก็มีแต่เรื่องเหม็นคาวใจ คือสื่อจะมองไปในลักษณะว่า

"นายกฯ ไปไหนต้องหนีบ ผบ.ทบ.ไปด้วยทุกครั้ง เพื่อประกันความมั่นใจว่า..อยู่ทางนี้จะไม่มีใครปฏิวัติ"!!

อันที่จริง ถ้านายกฯ คิดอย่างนั้น ก็ถือเป็น "ความระแวง" ที่ไร้สาเหตุ เพราะทหาร-คือกองทัพยุคนี้ ถ้าเปลี่ยนเครื่องแบบเป็นสีกรัก ผมว่าทุกเช้า..ญาติโยมถือขันข้าวไปรอใส่บาตรหน้ากรม-กองกันพรึ่บ

เพราะด้วยสโลแกนกองทัพ "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" ทำให้ทหารพับเพียบบำเพ็ญเพียรด้วยข้อธรรมในหมวด "ถืออุเบกขา" ใกล้ดวงตาเห็นธรรมกันหมดทั้งกองทัพแล้ว

เขมรและเล็มดินแดน..ก็เฉย

ใครจะจาบจ้วงล่วงเกินสถาบัน..ก็เฉย

แต่ทหารแต่งเครื่องแบบขึ้นเวทีพันธมิตรฯ..ตบะแตก!

อ้าว..นี่..นี่..ผมคุยอยู่กะท่านเดี๋ยวนี้ แหงะหน้าดูโทรทัศน์ เห็นข่าวแวบๆ พลเอกปฐมพงษ์ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ พูดอะไรปาวๆ อีกแล้ว

อืมมมม..หน-สองหน ก็น่าจะพอนะครับ มากไปจะเป็นการท้าทายกันเปล่าๆ ขึ้นเวทีพูดจากับประชาชนนั่นน่ะ ไม่เป็นไร แต่เมื่อเขาไม่สบายใจกันที่แต่งเครื่องแบบไป

ก็อย่าทำอะไรให้เขา "กางตำรา" ขึ้นหาความผิด-ความถูกเลยครับ!

ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเห็นใจ "พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์" ในฐานะ ผบ.สส.น่ะ ผมดูลักษณะท่านแล้ว ท่านเป็นทหารที่เป็นทหารจริงๆ แต่การทหารวันนี้มันมีส่วนผสมระหว่าง "การทหาร+การเมือง" ค่อนข้างจะลุ่มลึก

ฉะนั้น พลเอกบุญสร้าง "ทหารแท้" ท่านเล่น ๒ หน้าไม่เป็น แต่เมื่อการเมืองมาอาศัยมือการทหารให้จัดการแทน ผมไม่อยากพูดว่า "พลเอกบุญสร้างเล่นไม่สมบทบาท" แต่อยากจะบอกว่า

"อย่าไปสร้างความลำบากใจให้ท่าน ผบ.สส.ต้องทำตามหน้าที่เช่นนี้ให้มากนักเลยครับ" เพราะท่านไม่ถนัดจัดเจนในการรับใช้การเมืองแบบนี้นักหรอก!

มาสนใจตรงนี้ดีกว่า โปรดจับตาไว้นะครับ การเมืองเพื่อปลดเปลื้อง พ.ต.ท.ทักษิณจากคดีความ "เริ่มยก ๒" อีกแล้ว

"แก้รัฐธรรมนูญ" โดยเฉพาะมาตรา ๓๐๙ นั่นแหละ!
มีข่าวชิมลางออกมาแล้วว่า ส.ส.พลังประชาชนเตรียมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ เข้าสภาฯ อีกแล้ว กะการณ์กันว่า รัฐบาลจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ อ้างว่าเป็นเรื่องของสภาฯ ฝ่ายบริหาร คือรัฐบาลไม่เกี่ยว

แล้ว ส.ส.พลังประชาชนก็จะยื่นในสมัยประชุมนิติบัญญัติที่จะเปิดในเดือนหน้านี้เลย ยื่นปุ๊บ ท่านประธานชัย ชิดชอบ ก็จะทำเถรตรง บรรจุเข้าระเบียบวาระปั๊บ คงได้สนุกกันอีกหละ

พลังประชาชนตอนนี้ "ไม่มีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว" ฉะนั้น อะไรที่ต้องการได้ เขาต้องทำทุกอย่าง การเป็นรัฐบาลครั้งนี้ เขาก็ประกาศแล้วว่า "ทำเพื่อทักษิณ" ก็เห็นอยู่แล้วใช่ไหม แนวรบด้านพลังประชาชนระเนนระนาดทีละคน-สองคน

"นายวัฒนา อัศวเหม" ยังต้องหนีศาล ซมซานไปนอกประเทศ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณที่คดีทั้งมีอยู่ในศาลแล้ว และเริ่มทยอยตามมาเรื่อยๆ จะทำเป็น "หลังเย็น" อยู่ได้อย่างไรไหว

มีทางเดียวต้อง "แก้รัฐธรรมนูญ" ลบทิ้งมาตรา ๓๐๙ เพื่อลบการรับรองการทำหน้าที่ของ คตส.ในคดีความต่างๆ ที่ทำไว้เท่านั้น พอจะเป็นช่องให้ "นายใหญ่" ดิ้นได้เพื่อรอดในคดีนั้นๆ

ที่พูดกันว่า "ไม่ยุบสภาฯ..ไม่ยุบสภาฯ" นั้น ถ้าภารกิจแก้รัฐธรรมนูญ ลบมาตรา ๓๐๙ ออกไปได้แล้ว ผมอยากจะบอกว่า ยุบสภาฯ วันไหน..จะมีคนแตะเอียให้ตะหากด้วยซ้ำ!

อืมมมม..วันเสาร์ว่าจะไม่คุยเรื่องเครียด เผอิญผมมันเครียดซะเอง ก็เลยไปตามเรื่องตามราว ความจริงตั้งใจจะเล่าเรื่องไป "สูดดมท่อไอเสีย" จากรถยนต์กลางถนนที่แออัดในเมืองเซาเปาโล บราซิล แต่กลับหายใจโล่ง สบายปอดให้ฟัง แต่ก็เลยไม่ได้เล่า ยกยอดไปในวันที่ "นึกขึ้นได้" ก็แล้วกันนะครับ.

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=12/Jul/2551&news_id=160934&cat_id=200