ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
09-07-2025, 02:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จากสงครามครั้งสุดท้ายสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์ สุริยะใสลั่นประชาธิปไตย70:30ต้องปรากฎ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จากสงครามครั้งสุดท้ายสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์ สุริยะใสลั่นประชาธิปไตย70:30ต้องปรากฎ  (อ่าน 4404 ครั้ง)
ขบวนการไดโนเสาร์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 39


« เมื่อ: 26-06-2008, 11:01 »

“การเมืองใหม่” ภายใต้การต่อสู้ของพันธมิตรฯ
โดย สุริยะใส กตะศิลา

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000074892&#Comment
    " ข้อเสนอที่ท้าทายของแกนนำพันธมิตรฯ ที่เสนอสูตรผสมของผู้เข้าสู่อำนาจในสัดส่วน 70:30 กล่าวคือเพิ่มกระบวนการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น ร้อยละ 70 และลดที่มาของผู้ดำรงตำแหน่งโดยวิธีการเลือกตั้งลงเหลือร้อยละ 30 จึงเป็นเพียงการนับหนึ่ง.. วันนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขอเป็นผู้ถือธงนำ และประกาศเป็นพันธสัญญาในการต่อสู้ครั้งนี้ร่วมกับผู้รักความเป็นธรรมทั่วไป สงครามครั้งสุดท้ายโค่นล้มระบอบทักษิณจึงเป็นเพียงระยะผ่านสู่ สงครามอันศักดิ์สิทธิ์ คือการ ร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ ให้ปรากฏเป็นจริง..."


   
       ภายหลังพันธมิตรฯ สามารถเคลื่อนขบวนหลายแสนคนฝ่าด่านกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถเข้ามายึดพื้นที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลได้เป็นผลสำเร็จ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเลือดตกยางออกอย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวล หลังจากนั้น พันธมิตรฯ ได้ตั้งเวทีถาวรขนาดใหญ่ที่สะพานชมัยมรุเชฐ และมีการเปิดปราศรัยปกติคล้ายๆ กับการชุมนุมยืดเยื้อที่สะพานมัฆวานรังสรรค์
       
       ประเด็นที่ได้รับความสนใจและถามไถ่จากสื่อมวลชน กระทั่งกลายเป็นข้อถกเถียงตามมาในวงกว้างก็คือ การเปิดประเด็นของ 5 แกนนำบนเวทีปราศรัย ที่ชูธงปลุกมวลชน “ร่วมสร้างการเมืองใหม่” พร้อมๆ กับการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีการเมืองแบบระบบรัฐสภาในปัจจุบันที่ไม่สามารถเยียวยาหรือแก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติได้อย่างเท่าทัน
       
       การเมืองใหม่ ได้กลายเป็นวาทกรรมการเมืองที่หลายฝ่ายออกมาตีความ ขยายความ ตั้งข้อสังเกต หรือกระทั่งเคลือบแคลงว่าพันธมิตรฯ มีวาระพิเศษหรือวาระซ่อนเร้นจากการชูธงผืนใหม่ใบนี้หรือไม่
       
       ผมในฐานะผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ซึ่งพอมีความใกล้ชิดทางความคิดกับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ทั้งในห้องประชุมและนอกห้องประชุม
       
       ผมเห็นว่า การชูธง “ร่วมสร้างการเมืองใหม่” ของทั้ง 5 แกนนำต่อมวลชนพันธมิตรฯ และสาธารณชนนั้น ถือเป็นการยกระดับการต่อสู้ของแกนนำ และมวลชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       
       เป็นการยกระดับที่อาจดูเหมือนล้ำหน้า และเกินความเข้าใจของประชาชนทั่วไป แต่เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องพูด ต้องเสนอและต้องกล้าจุดประกาย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายหรือ ถ้าเปรียบประเทศเป็นปลาก็เหลือแต่ก้างไว้ให้ลูกหลานเท่านั้น
       
       เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วถ้าเราย้อนไปดูการก่อเกิดของพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ และเปิดโปงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ โดยชูวาทกรรม “กู้ชาติ” นั้น แม้สุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องพ้นจากตำแหน่งโดยการรัฐประหาร และต่อมาระบอบทักษิณ ได้ถูกรื้อถอนไปในระดับหนึ่งก็ตาม
       
       แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ข้อยุติ ซ้ำร้ายหลังการเลือกตั้งได้รัฐบาลนอมินี ยิ่งพบชัดเจนว่าการเมืองไทยมีทิศทางกลับไปสู่ระบอบทักษิณ และความเป็นใหญ่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กระทั่งกลุ่มทุนการเมืองในนามพรรคไทยรักไทยเดิม
       
       ด้วยเหตุดังนั้น การประกาศฟื้นพันธมิตรฯ ภาค 2 จึงเลี่ยงไม่พ้น แต่ภายใต้สถานการณ์ใหม่จึงดูเหมือนธงการต่อสู้ของพันธมิตรฯ จึงเป็นธงผืนใหม่และใบใหญ่กว่าเดิม คือธง “โค่นระบอบทักษิณ ไล่รัฐบาลหุ่นเชิด” ในความหมายของ “สงครามกู้ชาติครั้งสุดท้าย”
       
       ในขณะเดียวกันก็ประกาศสงครามครั้งใหม่ คือ การชูธง “สร้างชาติ” ภายใต้วาทกรรมการเมืองใหม่ ไปให้พ้นระบบรัฐสภาของนักเลือกตั้ง หรือประชาธิปไตยแบบ 4 วินาที หรือลัทธิเลือกตั้งเป็นใหญ่
       
       “การเมืองใหม่” ในความหมายของพันธมิตรฯ จึงเป็นการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ลดอำนาจหน้าที่ของตัวแทนหรือผู้แทนลง เพิ่มบทบาทและอำนาจให้กับประชาชนมากขึ้น
       
       คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ประชาธิปไตยแบบระบบรัฐสภา หรือประชาธิปไตยแบบผู้แทนได้ถูกประจานไปทั่วโลกว่ามีขีดจำกัดและไม่มีศักยภาพในการรับมือกับวิกฤตการณ์ของโลกในยุคทุนสามานย์เป็นใหญ่ กระแสการพัฒนาประชาธิปไตยในทางสากลทั่วโลกจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการปรับปรุงปฏิรูประบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเข้มข้นมากขึ้น
       
       ในบางประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ไม่เพียงแต่ลดบทบาทและอำนาจในการตัดสินใจของผู้แทนลงเท่านั้น แต่ยังเพิ่มและถ่ายโอนเคลื่อนย้าย “อำนาจในการตัดสินใจ” ไปที่ประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยโดยตรงมากขึ้น ในรูปแบบของการประชาพิจารณ์ (Public Hearing) และประชามติ (Referendum) มากขึ้น
       
       การเมืองใหม่ในความหมายของประชาธิปไตยแบบใหม่ จึงไม่ใช่แค่ต้องให้ความสำคัญกับที่มาหรือกระบวนการในการตัดสินใจใช้อำนาจเท่านั้น หากแต่ต้องสร้างหลักประกันว่าประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทุกชนชั้นจะเข้าถึงอำนาจในการตัดสินใจหรือกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ ชาวนา กรรมกรผู้ใช้แรงงาน คนจนในเมือง คนจนในชนบท ชนเผ่าชายขอบ พ่อค้าวาณิชย์ นักธุรกิจชนชั้นกลาง ผู้หญิง คนพิการ คนด้อยโอกาสทางสังคม เป็นต้น
       
       กล่าวเช่นนี้ย่อมแน่นอนว่าไม่ใช่แค่สัดส่วนหรือที่นั่งในอำนาจนิติบัญญัติ (ส.ส.-ส.ว.)จะต้องมีองค์ประกอบและหลักประกันที่หลากหลายเท่านั้น ในขณะเดียวกันอำนาจบริหารก็ต้องมีพื้นที่ให้กับคนกลุ่มต่างๆ เหล่านั้นในระดับที่แน่นอนเช่นกัน
       
       ข้อเสนอที่ท้าทายของแกนนำพันธมิตรฯ ที่เสนอสูตรผสมของผู้เข้าสู่อำนาจในสัดส่วน 70:30 กล่าวคือเพิ่มกระบวนการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น ร้อยละ 70 และลดที่มาของผู้ดำรงตำแหน่งโดยวิธีการเลือกตั้งลงเหลือร้อยละ 30 จึงเป็นเพียงการนับหนึ่งหรือริเริ่มจุดประกายให้สังคมได้ขบคิดถกเถียงขยายผลในวงกว้างต่อไป
       
       ทั้งนี้ ในรายละเอียดหรือโมเดลของ การเมืองใหม่ จึงจำเป็นที่ผู้รู้ นักวิชาการ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย และภาคส่วนต่างๆ จะนำไปขบคิดขยายผลเพื่อก้าวพ้นลัทธิเลือกตั้งที่ทุนเป็นใหญ่ ประเทศซื้อได้ และประชาชนเป็นเพียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ว่านอนสอนง่ายเท่านั้น
       
       ที่กล่าวมาข้างต้น หลายคนอาจสงสัยว่าจะเริ่มตรงไหนอย่างไร ต้องปฏิวัติ รัฐประหาร ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ ต้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลเฉพาะกาล อย่างนั้นหรือ ผมกลับเห็นว่าวิธีการอาจไม่สำคัญเท่ากับหลักการ หากวันนี้สังคมเห็นความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนว่าเราต้องร่วมร่วมกันสร้างชาติและสร้างการเมืองใหม่แล้ว รูปแบบวิธีการก็อาจไม่ใช่เรื่องยากและอาจง่ายเกินกว่าที่เราคิดและอาจไม่ถึงขั้นต้องรบราฆ่าฟันกันกลางเมืองอย่างที่หลายฝ่ายกังวล
       
       วันนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขอเป็นผู้ถือธงนำ และประกาศเป็นพันธสัญญาในการต่อสู้ครั้งนี้ร่วมกับผู้รักความเป็นธรรมทั่วไป สงครามครั้งสุดท้ายโค่นล้มระบอบทักษิณจึงเป็นเพียงระยะผ่านสู่ สงครามอันศักดิ์สิทธิ์ คือการ ร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ ให้ปรากฏเป็นจริง...
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 26-06-2008, 11:47 »

ในความคิดผมโมเดล แต่งตั้ง 70 เลือกตั้ง 30 นี้คงไม่ผ่านและน่าจะเกิดกระแสต่อต้านด้วย

ความจริงแล้วปัญหาการเมืองไทยไม่น่าจะอยู่ที่การแต่งตั้งหรือเลือกตั้งมาเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง
แต่น่าจะอยู่ที่เข้ามาแล้วปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามที่ควรหรือไม่

ซึ่งการแต่งตั้งเข้ามาไม่ได้รับประกันว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง
มากกว่าผู้ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง ในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจรวมหัวกันโกงก็ได้

จุดที่ควรทำน่าจะอยู่ที่การปกป้่องดูแลกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถดำเนินคดีผู้กระทำผิด
ไม่ว่าจะมีที่มาจากแต่งตั้งหรือเลือกตั้งก็ตาม

ที่ผ่านมาคือรัฐบาลสมัคร นำโดยพรรคพลังประชาชน มีพฤติกรรมพยายามบิดเบือนแทรกแซง
กระบวนการยุติธรรม เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายผู้ัรับผิดชอบคดี ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทุกฝ่ายที่รู้เห็นและตระหนักถึงความเสียหายที่จะเกิดกับกระบวนการยุติธรรม ได้มีการเคลื่อนไหว
เพื่อต่อต้านคัดค้านการกระทำดังกล่าว

แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้มีสัดส่วนมากๆ
เพราะถ้าแก้แบบนั้นแล้วดีจริง เราก็ควรแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง 100%
ข้อเสนอของแกนนำพันธมิตรถือว่าท้าทายจริงๆ และคงมีคนไม่เห็นด้วยจำนวนมาก 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26-06-2008, 12:14 »

ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แป๊ะพูดแล้วอ่ะ อย่าพยายามเลย เด๋วแนวร่วมหายหมดจริงๆ ขอบอก 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 26-06-2008, 12:30 »

คือ จะเรียกว่าประชาธิปไตยหรือไม่ประชาธิปไตยก็แล้วแต่ .... แนวคิดที่ว่ามันไม่ได้ช่วยอุดช่องว่างคนชั่วเข้ามาครองอำนาจได้เลย  ปัญญา่อ่อนสุดๆ

ไปคิดใหม่เหอะ แป๊ะลิ้ม-ยะใส
บันทึกการเข้า

Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 26-06-2008, 12:33 »

เป็นโมเดล ที่ไม่ได้ความเลยอ่ะ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #5 เมื่อ: 26-06-2008, 12:36 »

แค่โยนหินถามทาง
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 26-06-2008, 12:49 »

ทำไมไม่เอา "ประวัติการเสียภาษี 7 ปี" มาเล่นงานพวกนี้ก่อนที่จะเข้าสู่ตำแหน่ง ??

ถ้าพวกนี้สามารถใช้จ่ายฟู่ฟ่า มีคฤหาสน์หลังใหญ่โต ก็ย่อมต้องมีรายได้  และมีเมื่อมีรายได้ถูกต้อง ก็ต้องมีหลักฐานการเสียภาษี แปลว่ามีแหล่งที่มารายได้  หากรวยแบบมีที่มาที่ไป แบบนี้น่ายกย่อง

แต่ถ้าไม่มีการเสียภาษี ก็ใช้สรรพากรไปปรับเอาเงินเข้าหลวง  อีกกรณีพิสูจน์แหล่งที่มารายได้ไม่ได้ ก็ยึดทรัพย์มันเลย

แค่นี้เอง

**** ยกเครดิตให้กับไอเดียของ เอกยุทธ อัญชันบุตร
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #7 เมื่อ: 26-06-2008, 15:22 »

ถ้ากระบวนการคัดสรรถูกแทรกแซงจากการเมืองก็จบเห่ครับ
บันทึกการเข้า
ขบวนการไดโนเสาร์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 39


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-06-2008, 15:33 »

ผมเข้าใจว่าตัวแทน70%ในอุดมคติของพันธมิตรนั้น หน้าตาน่าจะเหมือนๆคำนูณ สิทธิสมาน,ประสาน ไตรรัตน์วรกุล,สมชาย แสวงการ ที่เป็นส.ว.ในเวลานี้มั๊งครับ แล้วก็ให้7คนเลือกมา...หากออกมาแบบนี้พวกเราเอาไหมหละครับ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #9 เมื่อ: 26-06-2008, 19:02 »

ท่าทางไอ้ยะมันเพี้ยนไปแล้วจริงๆ....สงครามศักดิ์สิทธิ์ของมันก็คือ การถอยป้ายแดงอีกคัน(หลังจากเพิ่งถอยให้ที่บ้านทั้งๆที่ไม่ทำมาหาdakใดๆ)นั่นเอง!!  ไอ้ยะน๊ะไอ้ยะ...ทำพ่อธิเรทติ้งตกก็คราวนี้แหล่ะไอ้ลูกเวร!!
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 26-06-2008, 19:36 »

ผมเข้าใจว่าตัวแทน70%ในอุดมคติของพันธมิตรนั้น หน้าตาน่าจะเหมือนๆคำนูณ สิทธิสมาน,ประสาน ไตรรัตน์วรกุล,สมชาย แสวงการ ที่เป็นส.ว.ในเวลานี้มั๊งครับ แล้วก็ให้7คนเลือกมา...หากออกมาแบบนี้พวกเราเอาไหมหละครับ
นั่นใช่ครับ แต่ว่า "ใคร" คือผู้มีสิทธิ์ชี้ขาดมาเลือกคนเหล่านี้ แล้วใครเป็นคนสรรหาผู้มีสิทธิ์ชี้ขาดเพื่อเลือกคนเหล่านี้อีกที .......... สำคัญที่สุด มีอะไรรับประกันได้บ้างว่า อนาคตคณะสรรหาตัวแทนเหล่านี้จะไม่ถูกซื้อไปอีก  (อันนี้พูดในแง่ว่า หากคุณต้องการประชาธิปไตยแบบมีเลือกตั้ง)


ท่าทางไอ้ยะมันเพี้ยนไปแล้วจริงๆ....สงครามศักดิ์สิทธิ์ของมันก็คือ การถอยป้ายแดงอีกคัน(หลังจากเพิ่งถอยให้ที่บ้านทั้งๆที่ไม่ทำมาหาdakใดๆ)นั่นเอง!!  ไอ้ยะน๊ะไอ้ยะ...ทำพ่อธิเรทติ้งตกก็คราวนี้แหล่ะไอ้ลูกเวร!!
กูรู้ว่าไอ้ยะใสมันไม่โง่ดันทุรังเหมือนไอ้เหลี่ยมหรอก   ไอ้เหลี่ยมมันต้องด่ามึงง่ะไอ้เติ้ล ไอ้ลูกเวร ยิ่งปล่อยโง่เรตติ้งยิ่งตก 
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #11 เมื่อ: 27-06-2008, 17:27 »

ฮ่าๆๆๆๆเข้ามาขำๆไอเดียไอ้ยะมันอกีหน เอิ๊กๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: