ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
12-05-2025, 23:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ผมถามเรื่องรถเมล์ที่เป็นข่าวทีครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ผมถามเรื่องรถเมล์ที่เป็นข่าวทีครับ  (อ่าน 2490 ครั้ง)
popsies
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19



« เมื่อ: 24-06-2008, 18:05 »

เราสามารถซื้อรถเมล์แบบผ่อนได้ป่าวครับ

หรือต้องเช่าอย่างเดียว   ขอข้อมูลทีครับ  ขอบคุณล่วงหน้าครับ
บันทึกการเข้า

พลังที่ยิ่งใหญ่คือพลังประชาชน
แต่ถ้าพลังมันมากไปต้องระวังจลาจล
การเมืองสมัครเล่นทำให้เราเข้าตาจน
ความคิดแตกเปนหลายสาขาเหมือนกับร้านชลาชล
ไม่ใช่เวลามานั่งเถียงหรือว่าฟังเหตุผล
ยิ่งสมานฉันท์มากก็ยิ่งโกลาหล
เมื่ออำนาจในมือไม่เข้าใครออกใคร
นักการเมืองไม่โกงกินเขาแค่ชิมไปบ่นไป

ผมเล่นร็อกแอนด์โรลเพื่อร็อกแอนด์โรลที่ผมเล่น
เมื่อสมัครเล่นการเมืองก็คือการเมืองสมัครเล่น
อนาคตประเทศไทยก็ยังมองไม่ค่อยจะเห็น
แค่อยากจะขอภาวนาให้หลุดจากความลำเค็ญ
อยากจะฝากความหวังไว้ในมือของรัฐบาล
ทำการใหญ่ก็ขอให้พอกับงบประมาณ
เพราะถ้าฟองสบู่มันแตกพวกเราก็คงจะทรมาน
เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้วัดกันที่ทรัพย์สิน
อนาคตของชาติไม่จำเป็นต้องวาดด้วยเงาทักษิณ
ควรจะปล่อยให้มันไหลไปแบบธรรมชาติ
บริหารกันแบบนายทุนอาจจะทำให้เรานั้นวิปลาส
ไม่ควรจะเน้นนโยบายที่เอาแต่เอื้ออาทร
เพราะเงินที่คุณจะเอาไปทุ่มมันคือภาษีอากร
มันคือการสร้างคะแนนเพื่อให้เกิดประชานิยม
มันคือการใช้เงินแผ่นดินมาเพื่อสร้างอาณานิคม
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #1 เมื่อ: 24-06-2008, 21:30 »

ที่เค้าต้องเช่าก็เพื่อตัดปัญหาคอรัปชั่นในองค์กร รวมไปถึงการดูแลบำรุงรักษา ทางบริษัทจะต้องรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่าง หากเสียหายวิ่งไม่ได้ ก็ต้องจัดหารถมาแทนให้

หน่วยงานระดับบิ๊กๆ ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้นแหละ
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
popsies
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19



« ตอบ #2 เมื่อ: 25-06-2008, 01:21 »

ผมอยากรู้ครับ ว่าเราซื้อผ่อนได้ป่าวครับ  เรื่องนั้นช่างมัน   พอดีอาจารย์เค้าให้หาข้อมูล แต่งงครับ
บันทึกการเข้า

พลังที่ยิ่งใหญ่คือพลังประชาชน
แต่ถ้าพลังมันมากไปต้องระวังจลาจล
การเมืองสมัครเล่นทำให้เราเข้าตาจน
ความคิดแตกเปนหลายสาขาเหมือนกับร้านชลาชล
ไม่ใช่เวลามานั่งเถียงหรือว่าฟังเหตุผล
ยิ่งสมานฉันท์มากก็ยิ่งโกลาหล
เมื่ออำนาจในมือไม่เข้าใครออกใคร
นักการเมืองไม่โกงกินเขาแค่ชิมไปบ่นไป

ผมเล่นร็อกแอนด์โรลเพื่อร็อกแอนด์โรลที่ผมเล่น
เมื่อสมัครเล่นการเมืองก็คือการเมืองสมัครเล่น
อนาคตประเทศไทยก็ยังมองไม่ค่อยจะเห็น
แค่อยากจะขอภาวนาให้หลุดจากความลำเค็ญ
อยากจะฝากความหวังไว้ในมือของรัฐบาล
ทำการใหญ่ก็ขอให้พอกับงบประมาณ
เพราะถ้าฟองสบู่มันแตกพวกเราก็คงจะทรมาน
เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้วัดกันที่ทรัพย์สิน
อนาคตของชาติไม่จำเป็นต้องวาดด้วยเงาทักษิณ
ควรจะปล่อยให้มันไหลไปแบบธรรมชาติ
บริหารกันแบบนายทุนอาจจะทำให้เรานั้นวิปลาส
ไม่ควรจะเน้นนโยบายที่เอาแต่เอื้ออาทร
เพราะเงินที่คุณจะเอาไปทุ่มมันคือภาษีอากร
มันคือการสร้างคะแนนเพื่อให้เกิดประชานิยม
มันคือการใช้เงินแผ่นดินมาเพื่อสร้างอาณานิคม
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #3 เมื่อ: 25-06-2008, 02:52 »

อ่า อย่าไปฟังพ่อคิลมาก เดี๋ยวจะหลงทางออกอ่าวไทย


คำถามดูงงๆ เอาเป็นว่า ซื้อได้ครับถ้ามีแหล่งเงิน และโครงการคุ้มค่าการลงทุน
รูปแบบการจัดซื้อ คงจะไม่ได้จัดผ่อนแบบคนทั่วไปซื้อรถยนต์ หรือถ้ามีก็ไม่เคยเห็นแฮะ

เพราะโครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ จะกันเป็นเงินก้อนมาให้หน่วยงานบริหาร ตามโครงการที่ทำเรื่องขอไป
ซึ่งหน่วยงานก็มักจะจ่ายตามความคืบหน้าของโครงการ หรืองวดการรับมอบ แล้วแต่จะระบุใน TOR
จะทยอยจ่ายกี่งวดก็ตามแต่ตกลงกัน ถ้าเป็นโครงการระยะยาว มีการทยอยส่งมอบ ก็จะมีการตั้งงบผูกพัน เอาไว้ทยอยจ่ายไปเรื่อยๆ

แหล่งเงินที่นำมาใช้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลบริหารจัดการ จะเป็นเงินงบประมาณหรือเงินนอกงบประมาณก็ตามแต่ ถ้าเป็นเงินกู้ มีภาระดอกเบี้ย
ก็ชำระกันไปตามเรื่องตามราว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อโดยตรง นอกจากจะเป็นเงินกู้ลักษณะพิเศษ ที่มีเงื่อนไขเกี่ยวพันกับโครงการ


จริงๆ ไม่ได้สุงสิงกับหน่วยงานรัฐมานานแล้ว อาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง ยังไงก็ลองไปอ่านระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างดูแล้วกันนะครับ

http://www.gprocurement.go.th/04_law/law%202535.doc ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างตามนี้

http://service.nso.go.th/cleantrans/bids.ppt ขั้นตอนการตั้งโครงการก็ตามนี้
บันทึกการเข้า
public limited
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 25-06-2008, 10:05 »

ข่าวนี้อาจจะพอช่วย ท่าน จขกท ได้ครับ

เช่ารถเมล์ 6,000 คัน ธาตุแท้..คนการเมือง [17 มิ.ย. 51 - 18:04]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews02&content=93708

นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วม ขสมก. ยกตัวเลขเปรียบเทียบให้เห็นระหว่าง "เช่า" กับ "เช่าซื้อ" ไว้
บันทึกการเข้า

เปิดความคิด พิชิตความไม่รู้ ต้องดู-ต้องอ่าน-ต้องฟัง และสิ่งสำคัญคือมีคุณธรรมต่อชาติบ้านเมือง
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #5 เมื่อ: 25-06-2008, 11:15 »

ถ้า  เราจัดซื้อ รถใหม่เอง
   มันจะต่างจากปัจจุบันนี้ตรงไหน  มันก็จะกลับไปสู่ระบบเดิมๆ แค่มีรถใหม่และรถใช้เชื้อเพลิงใหม่
   ช่วงปีแรกๆ ก็ลดต้นทุน ค่าซ้อมได้เพราะรถยังใหม่ พอผ่านไป ก็กลับคืนสู่ระบบเดิมอีก
   จริงเหรือคับที่ 5 ปีตัดขายรถ สุดท้ายไม่ได้ขายหรอกครับ


ลองคิดนอกกรอบดีไหม
   ลองเช่าดู
ตัดต้นทุน อื่นๆ ที่ไม่คงที่หรือรั่วไหลได้ออกไป เหลือแต่ค่าเช่ารถเต็มๆ แล้วก็เอามาบริหารเส้นทางวิ่ง ให้ได้กำไร
ตอนนี้ค่าเช่ารถ TAXI ขับคันละ 1000 บาท ต่อวัน  ถ้าเราเช่ารถเมล์ได้คันละ 2-3000 คงถูกดี
 แต่ตอนนี้มันวันละ 5000 พร้อมระบบ   ลองพิจารณา ดูครับ แพงมั๊ย ( ผมว่าแพงไปหน่อย แต่ก็พอทน )   

ปัจจุบันบริษัทเอกชนที่มีการใช้รถ ในองค์กรมากกว่าร้อยคัน เขาหันมาเช่าหมดแล้วครับ
อย่างเครือเจริญโภคภัณท์ มีรถในเครือ หลายพันคัน จนอาจถึงหมื่น จนสามารถทำใบขับขี่เฉพาะของบริษัทใช้เอง
เมื่อก่อนรถซื้อเองหมดครับ ต้องจัดตั้งหน่วยกองยานยนต์คอยดูแลจัดการซ่อมแซม แต่ไม่ไหว รั่วไหลมาก ค่าใช้จ่ายสูง

  แต่ปัจจุบัน เช่าทั้งหมด จ่ายค่าเช่าเป็นเดือน ค่าเช่าก็สูงขนาด 3ปีก็มากกว่าราคารถแล้ว
  จากนั้นบริษัทก็ไม่มีปัญหาจากเรื่องยานยนต์ใน เครืออีกเลย   
ถ้าเช่าแล้วไม่คุ้มซีพีคงกลับไปซื้อเองเหมือนเดิมแล้วแหละ



บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #6 เมื่อ: 25-06-2008, 11:47 »

แก้ผิดจุดแล้วครับ.....ปัญหาจริง ๆ คือ การรั่วไหล ภายใน ขสมก. ก็ไปแก้ที่ การบริหารสิครับ...

ผมนั่งคำนวณ กับ เพื่อนเล่น (เพื่อนผมเป็นคนนำเข้ารถที่ว่านั่นแหละครับ)

เถียงไปก็เท่านั้น ...เดี๋ยว คุณ mebeam ก็ออกมาแถ แบบ กระทู้ เขาพระวิหารนั่นอีก.....สุดท้ายก็ไม่ยอมรับอยู่ดี

เอาเป็นว่า....ก่อนเป็นข่าวดัง....ผมกำลังจะไปดูที่โรงงานที่เมืองจีนแล้วครับ....แต่พอได้ยินเรื่องราคา...

ต้องบอกตรง ๆ ครับ....โคตรโกง จริง ๆ .....

ยืนยันครับ...หลังหมดสัญญา เช่า....ขายซาก ได้ ขี้หมู ขี้หมา...คัน 7-8 แสนบาทแน่นอน....

นั่น 4-5 พันล้านเอง.....ถ้าไม่เชื่อ ไปบอก ไอ้รัฐบาลขี้โกงนั่น ให้ผมทำก็ได้ ผมลดให้อีกคันละล้าน....

 


 
บันทึกการเข้า
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #7 เมื่อ: 25-06-2008, 12:15 »

แก้ผิดจุดแล้วครับ.....ปัญหาจริง ๆ คือ การรั่วไหล ภายใน ขสมก. ก็ไปแก้ที่ การบริหารสิครับ...

ผมนั่งคำนวณ กับ เพื่อนเล่น (เพื่อนผมเป็นคนนำเข้ารถที่ว่านั่นแหละครับ)

เถียงไปก็เท่านั้น ...เดี๋ยว คุณ mebeam ก็ออกมาแถ แบบ กระทู้ เขาพระวิหารนั่นอีก.....สุดท้ายก็ไม่ยอมรับอยู่ดี

เอาเป็นว่า....ก่อนเป็นข่าวดัง....ผมกำลังจะไปดูที่โรงงานที่เมืองจีนแล้วครับ....แต่พอได้ยินเรื่องราคา...

ต้องบอกตรง ๆ ครับ....โคตรโกง จริง ๆ .....

ยืนยันครับ...หลังหมดสัญญา เช่า....ขายซาก ได้ ขี้หมู ขี้หมา...คัน 7-8 แสนบาทแน่นอน....

นั่น 4-5 พันล้านเอง.....ถ้าไม่เชื่อ ไปบอก ไอ้รัฐบาลขี้โกงนั่น ให้ผมทำก็ได้ ผมลดให้อีกคันละล้าน....

 


 

เยี่ยม ครับ ถ้าหาราคามันได้ถูกๆคุณลองคำนวณราคาเช่าสิว่า ถ้ามันมีระบบด้วยมันจะราคาประสักเท่าไหร่
ระบบ + ราคารถ + ค่าภาษีต่างๆ + ค่าประกันภัย+ ค่าบำรุงซ่อมแซม + รถสำรอง - ขายรถทิ้งหลังหมดสัญญา= ประมาณเท่าไหร่
ผมเชื่อในระบบเช่า ก็อย่างที่บอกผมก็ว่าราคามันก็ดูแพง แต่มันควรจะเท่าไหร่ล่ะ ที่จะเช่าได้

ผมเชื่อในระบบเช่า เพราะคิดว่าการเช่าจะเป็นการบริหารการรั่วไหลของขสมกที่ถูกจุด ไม่ใช่การซื้อรถใหม่



บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #8 เมื่อ: 25-06-2008, 12:45 »

เยี่ยม ครับ ถ้าหาราคามันได้ถูกๆคุณลองคำนวณราคาเช่าสิว่า ถ้ามันมีระบบด้วยมันจะราคาประสักเท่าไหร่
ระบบ + ราคารถ + ค่าภาษีต่างๆ + ค่าประกันภัย+ ค่าบำรุงซ่อมแซม + รถสำรอง - ขายรถทิ้งหลังหมดสัญญา= ประมาณเท่าไหร่
ผมเชื่อในระบบเช่า ก็อย่างที่บอกผมก็ว่าราคามันก็ดูแพง แต่มันควรจะเท่าไหร่ล่ะ ที่จะเช่าได้

ผมเชื่อในระบบเช่า เพราะคิดว่าการเช่าจะเป็นการบริหารการรั่วไหลของขสมกที่ถูกจุด ไม่ใช่การซื้อรถใหม่





คงไม่ต้องมั๊งครับ.....เพราะ ผมไม่คิดว่า มันจะแก้ตรงประเด็น....

บอกไปข้างบนแล้ว...ว่า ปัญหา มันเกิดจากการรั่วไหลในองค์กร..

ก็ไปแก้ตรงนั้น...

ถ้าจะเอารถใหม่ ไปเช่าซื้อเอาดีกว่า.....

แต่ ถ้ายินดี จะใช้ระบบที่รัฐบาลเสนอมา...ผมยินดีรับใช้ครับ...

บอกแล้ว ว่ารถให้อีกคันละล้าน....จะไปเฉลี่ยออกตรงไหนก็ยินดีครับ


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2008, 12:47 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: