"มาร์ค" สวมบทพระเอกลิเก อ้อน สส.ทั้งสภาฯ โหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ

[ดัดจริต ดีดดิ้น]

"มาร์ค" อ้อนส.ส.ทั้งสภาฯ โหวตไม่ไว้วางใจ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ 7 รัฐมนตรี ว่า 2-3 วันที่ผ่านมา นายสมัครได้พูดพาดพิงถึงฝ่ายค้านในญัตติของฝ่ายค้านหลายเรื่อง ซึ่งตนขอบอกว่ามีความคลาดเคลื่อนและมีการกล่าวหากล่าวเท็จ ทำให้ประชาชนสับสนต่อการทำงานและญัตติของฝ่ายค้านด้วย นอกจากนี้ นายกฯและพรรคพลังประชาชนพยายามพูดว่ามีขบวนการของพรรคประชาธิปัตย์กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสมคบกันเล่นการเมืองนอกระบบ อีกทั้ง นายสมัครใช้วาจาข่มขู่ว่าถ้ามีวันใดที่พรรคฝ่ายค้านมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล นายสมัครจะจัดตั้งส.ส.สอบตกมาตั้งแก๊งค์ข้างถนนขับไล่ ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจว่าพันธมิตรฯเป็นแก๊งค์ข้างถนนและพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง ทั้งที่พันธมิตรฯชุมนุมอย่างอิสระและยังตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ เช่น การเมืองในระบบตัวแทนจะต้องถูกลดบทบาทลงไป ก็ไม่ได้เป็นคุณกับพรรคประชาธิปัตย์

"กลุ่มพันธมิตรฯมีมาก่อนรัฐบาลชุดนี้ การกล่าวหาว่าพอนายสมัครเป็นนายกฯพรรคประชาธิปัตย์ก็เลยไปอยู่เบื้องหลังจัดตั้งพันธมิตรฯขึ้นมา อย่างนี้ไม่สมเหตุสมผล จึงขอให้หยุดใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์และหยุดเบี่ยงเบนประเด็น แต่หน้าที่ของนายกฯคือชี้แจงต่อสภาฯ ส่วนหน้าที่ของรัฐบาลคือรักษาความสงบเรียบร้อยและบริหารบ้านเมืองอย่าให้เกิดเงื่อนไขของการชุมนุม อย่าเอาเรื่องของฝ่ายค้านไปใส่ร้ายป้ายสี"นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การเปลี่ยนท่าทีของรัฐบาลไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจและไม่เห็นความสำคัญในกระบวนการของสภาฯ เห็นได้ชัดจากการแสดงออกของนายสมัครที่พูดทำนองว่าญัตติเขียนมาอย่างนั้นต้องการให้พูด จะได้จบๆกันไป ซึ่งถ้านายกฯเคารพกระบวนการของสภาฯ ควรฟังการอภิปรายของพรรคและใช้สิทธิชี้แจง ถ้าข้อมูลและเหตุผลของฝ่ายค้านไม่หนักแน่น ประชาชนก็จะตำหนิฝ่ายค้าน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ตนคิดไม่ถึงว่านายกฯจะกล้าพูดเท็จกับคนไทยทั้งประเทศโดยกล่าวหาว่าไทยเสียเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 เพราะม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นทนายในขณะนั้น ยอมรับแผนที่ที่ทำโดยฝรั่งเศสซึ่งถูกนำมาต่อสู้คดีในศาลโลก และพวกตนได้อ่านคำพิพากษาของศาลโลก คำบรรยายฟ้อง และการต่อสู้ข้อสังเกตของทั้ง 2 ฝ่าย พบว่าไม่ได้บอกว่าทีมกฏหมายของฝ่ายไทยไปยอมรับแผนที่ที่ทำโดยฝรั่งเศส แต่ตรงกันข้าม ข้อต่อสู้ของฝ่ายไทยคือไม่ยอมรับแผนที่ดังกล่าว ซึ่งศาลโลกตัดสินว่าไทยยอมรับแผนที่โดยปริยาย ไม่ใช่โดยการต่อสู้ของทีมทนาย แต่การกระทำของรัฐบาลก่อนหน้านั้นมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี และการกระทำที่ศาลโลกใช้ในการปิดปากไม่ให้ฝ่ายไทยต่อสู้ในเรื่องนี้ เป็นการกระทำลักษณะเดียวกันกับที่นายนพดล ปัทมะและนายสมัครกำลังทำในขณะนี้ ดังนั้นนายสมัครไม่ควรให้ข้อมูลผิดและไม่ควรกล่าวเท็จ แต่ควรรอฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กล่าวหาว่ารัฐบาลและรัฐมนตรีทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียอธิปไตยคืออะไร

ความเสียหายจากการกระทำที่เกิดขึ้นนี้ทุกฝ่ายในสังคม จึงควรช่วยกันยับยั้งโดยเร็ว ก่อนที่คณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกจะประชุมต้นเดือนก.ค.นี้ และวิธีที่จะยับยั้งความเสียหายคือการทำให้คนไทยไม่ยอมรับการกระทำที่เกินเลยอำนาจตามรัฐธรรมนูญของรัฐมนตรีและนายกฯ และผมขอเรียกร้องให้ส.ส.ที่เป็นคนไทยทุกคน ไม่ไว้วางใจนายกฯและรมว.ต่างประเทศ โดยสาเหตุจากเรื่องนี้ เพื่อบอกกับชาวโลกและกรรมการมรดกโลกว่าคนไทยไม่ยอมรับสิ่งที่ไปตกลงกันเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหาร เรื่องนี้ผมและคณะจะได้ทำหน้าที่ ในการปกป้องผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศไทยอย่างดีที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ”นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า ส่วนจะมีการยื่นถอดถอนภายหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น พรรคจะไปพิจารณาอีกครั้ง

เมื่อถามว่า ข้อมูลการอภิปรายจะสามารถเป็นหมัดน็อกรัฐบาลได้หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้สนใจว่าจะไปน็อกนายนพดลหรือนายสมัคร แต่สนใจว่าฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศจะแสดงท่าทีที่ชัดเจนไม่ยอมรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมฟังการแถลงข่าวของนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยนั่งปะปนอยู่กับกลุ่มผู้สื่อข่าว จากนั้นได้ลุกเดินออกจากห้องแถลงข่าว โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ผู้นำฝ่ายค้านถามหาความรับผิดชอบในจิตสำนึกของบรรดา สส.ฝักถั่วในภาครัฐบาลตะหาก

ประชาชนที่เลือกพวกเหียกๆบางตัวเข้ามา จะเฝ้าติดตามและพิจารณาเอง....ก็แค่นั้น