เครือข่าย นปก.แม้วเดินสายปลุกแก้ รธน.50 - ต้านพันธมิตรฯ ทั่วอีสาน http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=951000007020515 มิถุนายน 2551 20:19 น.
หน้าปกเอกสารประกอบการสัมมนาในหัวข้อ "ขบวนคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน" ซึ่งแท้ที่จริงเป็นการปลุกระดมของระบอบทักษิณ 
กำหนดการสัมมนา เครือข่ายระบอบทักษิณปลุกระดมชาวบ้านภาคอีสานหนุนแก้ รธน.50 และต่อต้านพันธมิตร แฉเด็กครูประทีปตัวตั้งตัวตี อาศัยเครือข่าย พอช.องค์กรมหาชน แหล่งเงินเอ็นจีโอ ที่เกิดขึ้นในยุค แม้ว จับมือกับนักวิชาการฝ่ายซ้าย(หัวคอมมิวนิสต์)ใน มข. ประสาน นปก. ดึง จรัล ดิษฐาอภิชัยเป็นวิทยากร ตั้งเป้าเดินสายทั่วอีสาน รายงานข่าวจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยขอนแก่น แจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา "กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน" นำโดยนายพิชิต พิทักษ์ ซึ่งอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(กป.อพช.)ภาคอีสาน และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้เกณฑ์ชาวบ้านในเขตจังหวัดขอนแก่น และใกล้เคียงประมาณ 70 คน เข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อ "ขบวนคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน" ที่ห้องประชุมสถาบันวิจัยและพัฒนา(RDI) มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยอ้างกับ RDI ว่า จะมาอบรมเยาวชน พอช. แต่เมื่อถึงเวลาสัมมนา กลับกลายเป็นเวทีเคลื่อนไหวของฝ่ายระบอบทักษิณ โดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย ร่วมกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยขอนแก่น คือ รศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันอภิปรายโจมตีรัฐธรรมนูญ 2550 การปฏิวัติของทหาร และการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดทั้งวัน การจัดครั้งนี้ติดป้ายเวทีตัวใหญ่ว่า "ยึดหลักประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหาร เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550" รวมทั้งประกาศว่าจะตระเวนจัดเวทีปลุกระดมให้พี่น้องชาวอีสานร่วมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และต่อต้านการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ
รายงานแจ้งว่า
การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ เป็นการเคลื่อนไหว 3 ประสาน ระหว่าง นปก. นักวิชาการ และเอ็นจีโออีสานบางกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะได้รับทุนสนับสนุนจากฝ่ายระบอบทักษิณจำนวนมาก ทั้งนี้จากที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านบางคนบอกว่า ได้รับค่าจ้างมาร่วมประชุม 500 บาท และที่สำคัญ คนกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งมุ่งสร้างความน่าเชื่อถือในการเคลื่อนไหวของตนเอง โดยพยายามไปอิงกับเอ็นจีโอบางคน และใช้ชื่อสถาบันการศึกษาที่ทำงานกับชุมชน เช่น สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ดูเหมือนว่าหน่วยงานเหล่านี้ร่วมจัดด้วย ซึ่งในวันนั้นนักวิชาการสถาบันแห่งนี้ได้ร่วมกันต่อต้านและให้ปลดป้ายรณรงค์ของกลุ่มทันที เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะใช้ชื่อสถาบันมาปรากฏบนป้ายของกลุ่ม
นอกจากนี้
ยังมีข้อสงสัยต่อการทำงานของคนกลุ่มนี้ เช่น หัวข้อและกลุ่มเป้าหมายของการสัมมนาไม่ใช่เรื่องอบรมคนรุ่นใหม่ตามที่อ้าง แต่กลับกลายเป็นเวทีปลุกระดมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และด่าพันธมิตรฯ ตลอดงาน รวมทั้งยังมีความพยายามสร้างภาพด้วยการมาจัดที่ RDI ทั้งที่ใน จ.ขอนแก่นมีสถานที่จัดงานมากมาย โดยเฉพาะห้องประชุมของหน่วยงานราชการอื่นๆ ใน จ.ขอนแก่น ที่ยินดีอ้าแขนรับ เพราะทั้งกลไกการเมืองและราชการในขอนแก่นยังคงตกอยู่ภายใต้การครอบงำของระบอบทักษิณอยู่แล้ว หรือแม้แต่ที่คณะมนุษยศาสตร์ฯ ต้นสังกัดของนักวิชาการที่มาร่วมขบวนการก็ไม่ไปจัด
สำหรับการจัดสัมมนานาครั้งนี้ ตามเอกสารประกอบการสัมมนา ระบุว่า เป็นการจัดครั้งที่ 2/2551 ระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน 2551 โดย เครือข่ายขบวนการคนรุ่นใหม่อีสาน (คคส.) กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน(กสส.) และสหพันธ์เยาวชนอีสาน (สยส.) มีวิทยากรหลัก คือ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) โดยในกำหนดการ ได้ใช้ ผศ.นำหน้าชื่อ และระบุว่ามาจาก คป.พร.(คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550)
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า
นายพิชิต พิทักษ์ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดสัมมนาครั้งนี้เคยทำงานอยู่ที่มูลนิธิดวงประทีป ของนางประทีป อึ้งทรงธรรม มาก่อน ส่วน รศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง ก็เป็นนักวิชาการฝ่ายซ้ายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่มีความสนิทสนมกับนายอดิศร เพียงเกษ 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเนื่องจากคดียุบพรรค สำหรับ พอช.นั้น เป็นองค์กรมหาชนที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นแหล่งรวมของเอ็นจีโอสายที่สวามิภักดิ์กับอำนาจรัฐและคอยรับจ้างรัฐบาลในการเคลื่อนไหว เนื่องจากมีงบประมาณ สำหรับให้เอ็นจีมาเสนอขอไปทำโครงการต่างๆ ทั้งนี้
งานหลักของ พอช.คือโครงการบ้านมั่นคง ซึ่งเป็นโครงการสร้างที่พักอาศัยให้กับประชาชนในสลัม ซึ่งในแต่ละปีมีงบจำนวนมหาศาล โดยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2549 ครม.ชุดพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้อนุมัติงบประมาณ 13,600 ล้านบาทเพื่อดำเนินการก่อสร้างบ้านมั่นคง จำนวน 200,000 หน่วย ในระหว่างปี 2550-2554 โดยปี 2550 ที่ผ่านมา ดำเนินการ 3 หมื่นหน่วย วงเงิน 2,040 ล้านบาท
**************************************************************
