"เทือก" โดดออกมาป้อง "อ้อแอ้"
-----------------------------------------------------
วันนี้(30 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ให้สัมภาษณ์ถึงหลักฐานภาพจากทีวีวงจรปิดหน้าห้องทำงานของพล.อ.ธรรมรักษ์ อิสรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม
ที่มีการบันทึกกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีพรรคการเมืองใหญ่จ้างพรรคเล็กลงสมัครเลือกตั้ง
มาแสดงต่อศาลอาญาเมื่อวานนี้(29 พ.ค.)ว่า
การเปิดเผยรูปภาพดังกล่าวไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเล่นงานพล.อ.ธรรมรักษ์ แต่สถานการณ์บังคับ
โดยตนต้องการจะหยุดยั้งกระบวนการสร้างเรื่องว่าพรรคประชาธิปัตย์จ้างพรรคเล็กลงสมัคร
และหากพรรคไทยรักไทยยังออกมาพูดโต้ตอบ และยังบังคับตนมากกว่านี้ ตนก็จะทำมากกว่านี้อีก
ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้เป็นการท้าทาย แต่ต้องการให้สังคมทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
โดยยังมีหลักฐานอื่นเก็บเอาไว้ เพราะจำเป็นต้องเก็บไว้เพื่อปกป้องตัวเอง
เนื่องจากต้องต่อสู้กับคนพาล ดังนั้นตนจะเอาชนะคนพาลด้วยกฎหมาย
นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงไปโทษพล.อ.ธรรมรักษ์ ก็ไม่ถูก
เพราะเรื่องการว่าจ้างพรรคเล็กของพรรคไทยรักไทยทำกันเป็นกระบวนการแบ่งสายกันทำ
แต่บังเอิญเรื่องมาแดงในสายพล.อ.ธรรมรักษ์
ความจริงพล.อ.ธรรมรักษ์ เป็นคนใช้ได้ ไม่เบี้ยวใคร
แต่บังเอิญปัญหามาจากการเบี้ยวค่าจ้างที่ลูกน้องของพล.อ.ธรรมรักษ์ เอาเงินไปเล่นม้าแล้วเสียม้า หมุนเงินไม่ทัน
พอพรรคเล็กไปทวงก็ไม่ยอมจ่าย และยังใช้อิทธิพล
ทำให้ต้องวิ่งมาขอพึ่งตน และสาเหตุย้ายที่รับเงินจากพรรคไทยรักไทยมาเป็นที่กระทรวงกลาโหม
เพราะวันนั้นตรงกับวันที่พรรคไทยรักไทยจัดปราศรัยใหญ่ที่สนามหลวง
และใกล้เวลาปราศรัยแล้วจึงเปลี่ยนสถานที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทหารคนสนิทของพล.อ.ธรรมรักษ์ระบุว่าบุคคลในภาพเป็นเพียงนายอ้วน
ซึ่งเป็นช่างภาพประจำตัว ไม่ใช่พล.อ.ธรรมรักษ์ นายสุเทพ กล่าวว่า
ทำไมตลกขนาดนี้ และคนที่เดินตามหลังก็ไม่ใช่ "เสธไอซ์" ใช่หรือไม่
แต่เป็นตาแป๊ะใส่เครื่องแบบหรืออย่างไร
ตนขอยืนยันว่าภาพที่ได้มาจากกล้องวงจรปิดของกระทรวงกลาโหมจริงๆ
เสียดายที่เขาไม่ได้ถ่ายตอนส่งเงินให้ เพราะในห้องรมว.กลาโหมไม่มีกล้องวงจรปิด
แต่ตนไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนนำภาพมาให้
เพราะต้องรักษาแหล่งข่าวด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนไม่ได้นำกล้องไปติดตั้งเอง
เพราะไม่ใช่ผู้อำนวยการสร้างหนังเจมส์บอนด์
และถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงห้อง เปลี่ยนสี เปลี่ยนพรม หรือย้ายห้องทำงานใหม่ก็สามารถทำได้
แต่ตนมั่นใจว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าหลักฐานที่มีเป็นของจริง
"คนที่เดือดร้อนเรื่องนี้ไม่ใช่พล.อ.ธรรมรักษ์ แต่เป็นกกต.
ถ้าผมชนะกกต.ก็ติดคุก ถ้าติดคุกวันไหนผมจะให้เด็กหิ้วโอเลี้ยงไปเยี่ยม
แต่ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้ยุบพรรคไทยรักไทย
เพียงบังเอิญหลักฐานที่มีมันเกี่ยวโยงกับพรรคไทยรักไทยเอง
ถ้าพลาดพลั้งไปโดนใครบ้างก็ต้องขอโทษด้วย
และการที่ท่านพงษ์เทพ(เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย)
บอกสามารถฟ้องผมได้ที่ไปเปิดเผยเรื่องของพล.อ.ธรรมรักษ์ที่ไม่เกี่ยวกับคดีนั้น
ผมเสียดายที่ท่านเป็นนักกฎหมาย แต่คำฟ้องของผมแม้จะเป็นการฟ้องกกต.
แต่ก็ตั้งข้อหาการปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริต ดังนั้น ก็ต้องนำหลักฐานที่เกี่ยวโยงกัน
ในเรื่องที่ไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กมาพิสูจน์เพื่อให้เกิดความเข้าใจ"
นายสุเทพกล่าว และว่า ผ่านมาเคยให้เวลากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เพื่อตรวจสอบว่ามีเรื่องนี้จริงหรือไม่
แต่พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า เลอะเทอะ
และไม่ดำเนินการตรวจสอบกลับให้พวกปากดีทั้งหลายออกมาต่อว่า
http://www.matichon.co.th/breaking-news/breaking-news.php?nid=20060530-161004