ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดโจรปล้นชาติ ถูกต่อต้านอย่างหนักจากสังคม โดยมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ ส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดให้โจรปล้นชาติ ไม่อาจทำได้โดยราบรื่น อีกทั้งยั้งเป็นเงื่อนไขให้อาจจะเกิดการปฏิวัติ โดยทหารฝ่ายที่ไม่เอาลูกกรอก
ยิ่งนานวัน แนวร่วมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยิ่งทวีจำนวนขึ้น ทั้งจากหลากหลายสาขาวิชาชีพ รัฐบาลนอมินีก็ไม่อาจจะแก้ไขสถานการณ์ได้ การปราบปรามกลุ่มพันธมิตรยิ่งจะทำให้เงื่อนไขการปฏิวัติมีมากยิ่งขึ้น และบ้านเมืองอาจจะเข้าสู่กลียุค จลาจล และบานปลายไปจนถึงการไม่ยอมรับรัฐบาลลูกกรอกนอมินี ไม่ว่าจะอ้างความชอบธรรมอย่างไร
หากยังดื้อดึงดันจะอก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ผลสุดท้ายต้องมีการปะทะกัน และเมื่อมีการรอมชอม สมานฉันท์ การแก้รัฐธรรมนูญจะถูกหลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ทำให้ยืดเยื้อยาวนาน และไม่ทันการฟอกผิดให้เจ้าของรัฐบาลตัวจริง
ดังนั้นจึงมีแผนการณ์ใหม่ ในการถอยหนึ่งก้าว เพื่อจะตีข้าศึกให้ย่อยยับ ก่อนจะวิ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ด้วยการถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกจากสภา แต่ยังคงไว้ซึ่งเงื่อนไขที่พันธมิตรจะยังคงชุมนุมต่อไป เช่นกรณ๊รัฐมนตรีที่ต้องคำกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง การระดมกำลังกุ๊ยออกมามาก่อกวน การยั่วยุจากรัฐบาลลูกกรอก ให้กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงชุมนุมเรียกร้องต่อไป
และเมื่ออ้างเหตุผลว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ถูกถอนไปแล้ว แต่ยังมีการชุมนุมอยู่ เป็นการสร้างความวุ่นวาย ก็จะมีการปราบปราบกลุ่มผู้ชุมนุม จับแกนนำ สลายม็อบ คุมสถานการณ์ให้นิ่ง
ก่อนจะยื่นร่างแก้ไขใหม่ชนิดม้วนเดียวจบ ด้วยเสียงทั้งพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ในขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อนประชาธิปไตย ถูกปราบปรามจนหมดทางต่อสู้แล้ว
ทั้งหมดนี้ต้องทำให้ได้ในสมัยประชุมวิสามัญที่กำลังจะเริ่มขึ้น หาไม่ ไม่ทันการณ์แล้ว
คอยจับตาการถอนร่าง และการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมให้ดี อย่ากระพริบตา ไพ่ใบสุดท้ายแล้ว ชนะได้ครองประเทศ แพ้ ต้องหนีคดีหัวซุกหัวซุน
