ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
15-05-2025, 16:43
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จักรภพ เตรียมแปลบรรยาย(ภาษาอังกฤษ)ที่ FCCT..ต้นตอกล่าวหาหมิ่นพระมหากษัตริย์ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จักรภพ เตรียมแปลบรรยาย(ภาษาอังกฤษ)ที่ FCCT..ต้นตอกล่าวหาหมิ่นพระมหากษัตริย์  (อ่าน 2197 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 13-05-2008, 10:03 »

'จักรภพ'ย้อนพวก'หัวเถิก'บ่อนทำลายกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง


http://www.bangkokbiznews.com/

จักรภพ เพ็ญแข:รมต.สำนักนายกฯ ปัดตอบ"หัวเถิก"คือใครบ่อนทำลายรัฐบาล เตรียมแปลบรรยายต้นตอถูกกล่าวหาหมิ่นสถาบันกษัตริย์เผยแพร่ "จตุพร"ท้า"ปีย์"ร้อนตัวออกมาแจงได้ "ไทกร"ร้องกองปราบ"สมัคร"ไม่จัดการ"หัวเถิก"

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้(12 พ.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวใน "รายการสนทนาประสาสมัคร" ถึงคนหัวเถิกบางคนกำลังหมิ่นสถาบันและขอให้นายจักรภพ ไปแจ้งความสู้คดี ว่า ตนขอบคุณและซาบซึ้งกับสิ่งที่นายสมัคร กล่าวไว้ในรายการสนทนาประสาสมัคร ถือว่าเป็นการหาทางออกที่ดีที่สุดว่า ตนไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น

ส่วนตัวนั้นคงจะไม่ทำอะไรเพิ่มเติมนอกจากจะทำคำแปลเป็นภาษาไทยที่ถูกต้อง ในการบรรยายกับสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และจะจัดทำเพื่อเผยแพร่ในเร็ววันนี้ออกมาและเผยแพร่นั้น แปลผิด แปลหาเรื่อง แปลใส่ความกัน ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมกับตน ส่วนการเคลื่อนไหวอื่นๆ นั้นก็จะว่าไปตามนายสมัครแนะนำเป็นหลัก

"ถือว่าเป็นความกรุณาของหัวหน้าของผมโดยตรงให้ความเป็นธรรมและมองว่าเรื่องทั้งหมดจงใจเจตนาหาเรื่องกัน ซึ่งมันเป็นเช่นนั้น หากดูคำแปลในคำบรรยายของผมนั้นถือว่าแปลผิดและหาเรื่องทั้งนั้น"

เมื่อถามว่า จะนำคำแปลที่ถูกต้องไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า จะทำในขั้นต่อไปคือเมื่อแปลเสร็จแล้วจะไม่รอให้ตำรวจเรียก จะนำเอกสารภาษาอังกฤษ และภาษาไทยไปมอบให้ตำรวจด้วยตัวเองเผื่อว่าอาจมีอะไรสอบถามเพิ่มเติมในวันนั้น ตนจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเสียเลย ตนอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้มันมาจากการใส่ความ และหาทางเพิ่มความตึงเครียดในบ้านเมือง ตนก็ต้องไปดับชนวน

เมื่อถามว่า กลุ่มจ้องหาเรื่องทราบหรือไม่ว่าชื่ออะไร และอยู่กลุ่มใดนายจักรภพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบชัดเจน แต่ทราบว่ามีสองกลุ่มคือ 1.กลุ่มจงใจหาเรื่องเพื่อให้รัฐบาลมีปัญหา 2.กลุ่มที่เชื่อโดยสุจริตใจว่าพูดและมีพฤติกรรมแบบนั้นจริงๆ กลุ่มนี้ตนเป็นห่วงและอยากสื่อสารให้สบายใจว่าไม่มีใครในรัฐบาลนี้เลยที่มีความคิด จิตใจและพฤติกรรมเช่นนั้น

“การต่อสู้ในช่วงนี้มีเรื่องเดียว คือสถาบัน น่าสังเกตว่านำเสนอประเด็นนี้บ่อยและถี่เรื่อยๆ คงไม่ต้องย้ำว่าไม่มีใครมีในเมืองไทยสบายใจที่นำเรื่องนี้มาสู่สนามการเมือง สถาบันอยู่สูงกว่าการเมือง และไม่เกี่ยวข้อง การเมืองของใครก็ไม่ควรเกี่ยวข้อง” นายจักรภพ อ้าง   

เมื่อถามว่า ในฐานะร่วมงานในคณะรัฐมนตรี ระบุบุคคลที่นายสมัครอ้างได้หรือไม่ว่าเป็นใคร นายจักรภพ กล่าวว่า คงระบุไม่ได้ เพราะนายสมัครพบบุคคลเยอะในแต่ละวัน อาจมีคนหัวเถิกหลายคน 

เมื่อถามว่า ใช่บุคคลที่เว็บไซต์ต่างๆ ระบุถึงหรือไม่ และใครที่มีอำนาจเรียก ผบ.ตร.ไปพบได้ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่รู้เพราะมีหลายเว็บไซต์ และมีหลายเหตุการณ์ แต่เอาเป็นว่าตนไม่รู้ และต้องตีความว่า เถิกมาก เถิกน้อย   

เมื่อถามว่า นายสมัครพูดกำกวมแบบนี้ สังคมก็สงสัย ฉะนั้นควรเปิดเผยเลยว่าเป็นใคร นายจักรภพ กล่าวว่า ต้องสอบถามนายสมัคร แต่บางเรื่องนั้นเป็นการทำงานแบบไทยๆ คือส่งสัญญาณให้รู้ว่าคนอื่นรู้กันว่าทำแบบนี้ ฉะนั้นหากหยุดยั้งพฤติกรรมต่างๆ ได้ ก็คงไม่ต้องเผชิญหน้ากันทุกเรื่องตลอดไป

เมื่อถามว่า นายสมัครพูดแบบนี้ต้องการยั่วหรือไม่เพราะพูดแบบเป็นรหัสแต่ไม่ระบุชื่อ นายจักรภพ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เจตนาคือต้องการให้ปรับตัวโดยไม่ต้องประจานกันมากกว่า โดยพูดเพียงแค่ทรงผม

เมื่อถามว่า ขบวนการโค่นรัฐบาลที่นำไปสู่การรัฐประหารนั้นเป็นเช่นใด นายจักรภพ กล่าวว่า เหมือนเดิม หากใครอยากรู้ว่าขบวนการนี้ทำงานอย่างไร ขอให้ไปอ่านประวัติศาสตร์สองช่วงคือ 1.ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดนเหมือนตนในช่วงนี้ คือโดนกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และตอนหลังนายสุรินทร์เส้นโลหิตแตก หมดสภาพและเสียชีวิตในที่สุด สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นประวัติศาสตร์มาสอนลำดับเรื่องได้ และ 2.เหตุการณ์ก่อน 19 กันยายน 2549 แต่พิสูจน์ได้ว่า 30 ปีที่ผ่านมาบุคคลและขบวนการเบื้องหลังเหล่านี้ไม่ได้พัฒนาความคิดเลย

“จตุพร"รับลูกนายกฯ คนหัวเถิกมีตัวตน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงบุคคลคนหัวเถิกว่า จากการตรวจสอบยืนยันคนที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงนั้นมีตัวตนและมีพฤติกรรมเช่นนั้นจริง มีการเรียกทหาร เรียกข้าราชการไปให้ข่าวเท็จโดยอ้างสถาบัน ถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ เพราะมีความพยายามล้มล้างประชาธิปไตย โดยใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ ซึ่งนายสมัครส่งสัญญาณเตือนถึง 2 ครั้ง ก็เพื่อต้องการให้หยุด หากไม่หยุดนายสมัครก็มีสิทธิดำเนินการเพราะถือว่ามีพฤติกรรมส่งผลเสียต่อระบบประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดเดาเป็นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะนายสนธิ ยังหัวเถิกไม่พอ แต่ยืนยันว่าบุคคลเป็นบุคคลที่ชอบกล่าวอ้างถึงสถาบัน ตอนนี้บุคคลดังกล่าวคงรู้ตัวและอีกไม่กี่วันนี้ เมื่อมีกระแสข่าวจากสื่อคงชัดเจนขึ้น ตนคงพูดอะไรไม่ได้เพราะนายกฯ ไม่อยากให้พูด อยากให้เป็นสัญญาณทางการเมืองไปก่อน 

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุน่าจะเป็น หม่อมหลวงปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา นายจตุพร กล่าวว่า  ถ้า ม.ล.ปีย์ ร้อนตัวก็ขอให้แสดงตัวมาเลย คาดว่าอีกไม่กี่วันจะมีความชัดเจน

คนใกล้ตัว"ปีย์"จวก“หมัก”ล่วงเกิน 

แหล่งข่าวผู้ที่ใกล้ชิด ม.ล.ปีย์ มาลากุลฯ เปิดเผยว่า ต้องถามนายสมัครเองที่พูดหมายถึงใคร แต่ถ้าหมายถึง ม.ล.ปีย์ บอกได้เลยว่าเป็นการพูดโดยไม่รู้เรื่อง มีข้อมูลที่ตื้นเขินมาก เพราะม.ล.ปีย์ ไม่ได้มีอิทธิพลอะไร ตามที่นายสมัคร อ้าง แต่ตรงกันข้ามม.ล.ปีย์ เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวอยู่เงียบๆ สุภาพ ไม่ต้องการเป็นข่าว และเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่บุคคลสาธารณะที่นายกรัฐมนตรีจะล่วงเกินเขาได้

ส่วนที่นายสมัคร ระบุ ม.ล.ปีย์ พูดคุยกับบุคคลต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิวัติ จริงๆ แล้ว ม.ล.ปีย์เป็นคนที่มีคนรู้จักมาก จากการทำนิตยสารดิฉัน และจส.100 แต่ไม่เคยเรียกใครเข้าพบ มีแต่คนที่รู้จักเข้าไปพูดคุยทักทาย แต่ยืนยันว่าการคุยกับบุคคลต่างๆ ของม.ล.ปีย์ เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น ไม่ควรจะถูกนำมาพูดถึง เพราะไม่ได้มีเป้าหมายทางการเมืองใดๆ สิ่งที่นายสมัคร กล่าวอ้างล้วนมาจากความไม่รู้เรื่องทั้งนั้น

"ไทกร"แจ้งกองปราบจับนายกฯ ไม่จัดการ"หัวเถิก"

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป) นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ หล๋อโตน พงส.(สบ1) บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีที่นายสมัคร ได้กล่าวถึง “ไอ้หัวเถิก” ผ่านรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นบุคคลที่กำลังทำลายบ้านเมือง โดยในเนื้อหาที่นายสมัครพูดนั้นทำให้เข้าใจว่านายสมัครทราบอยู่แล้วว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ กับผู้ที่เป็นภัยต่อบ้านเมือง

นายไทกร กล่าวว่า ที่ต้องออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษนายสมัคร ครั้งนี้ เนื่องจากนายสมัคร ได้กล่าวถึง “ไอ้หัวเถิก” ว่าเป็นผู้ที่กำลังทำลายบ้านเมือง ผ่านทางรายการสนทนาประสาสมัคร โดยการให้รายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลนี้นั้นทำให้เข้าใจว่า นายสมัครทราบดีว่าบุคคลดังกล่าวคือใคร แต่แทนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นบ่อนทำลายชาติ นายสมัครกลับพูดถึงบุคคลนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่มีการดำเนินการใดๆ

ทั้งที่นายสมัคร เป็นถึงนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบื้องต้น ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ได้รับเรื่องไว้ก่อนจะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา

*****************************************************************
พันธมิตรเค้าเรียกร้องให้Eเพ็ญเอาต้นฉบับ (ภาษาอังกฤษ) มาออกซ่อง 11
ไม่ใช่ให้มันมาแปลเป็นภาษาไทยอ่านให้ฟัง!!
Eเพ็ญมัน ก็ แถ แถ "ดัดจริต" จะแปลไทยมาให้ฟัง
อย่างงี้ Eเพ็ญแหล๋โกหกแปลผิดเพี๊ยนเข้าทางมัน...
ถ้าแน่จริง..(หน้าตัวเมีย) ให้เอาต้นฉบับภาษาอังกฤษมัน มาเปิดซ่อง 11 เลยดิ..
พวกรากโง่รากหญ้าแก๊งใอ้เหลี่ยม..จะได้หู-ตา-สว่าง
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 13-05-2008, 10:42 »

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=13/May/2551&news_id=158467&cat_id=500

อ้างถึง
อย่างไรก็ตาม คำพูดของนายกฯ หมัก   ถึงไอ้หัวเถิก   อย่างน้อยก็เป็นคุณกับคนอย่าง   "จักรภพ เพ็ญแข"   ถึงกับซึ้งในน้ำใจนายกฯ หมัก  ที่ออกมาปกป้องเรื่องการพาดพิงสถาบัน  โดยเจ้าตัวบอกว่าคำพูดที่งานของชมรมนักข่าวต่างประเทศ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีขบวนการแบบผิดๆ แบบหาเรื่อง จงใจจะเล่นงาน ทั้งที่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น ล่าสุดกำลังแปลคำพูดเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ...๐

ขณะที่ประชาธิปัตย์ถอดคำพูดของจักรภพในงานดังกล่าวได้  8  แผ่น พออ่านแล้ว "ขนลุกซู่" กันทั้งพรรค   "มาร์ค"  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรค  และเป็นอดีตนักเรียนอังกฤษ พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า   "ถ้าใครที่พอจะรู้ภาษาอังกฤษก็จะรู้สึกไม่สบายใจแน่นอน   เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะพูด  และแสดงออกถึงทัศนคติที่เป็นอันตราย   ดังนั้นถ้านายกฯ  ยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้ขาด ก็อาจจะเป็นเรื่องลำบาก เพราะถือว่าเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน"...๐

"ทัศนคติที่เป็นอันตราย"   เป็นอย่างไรในสายตาประชาธิปตย์   เดี๋ยวก็ได้เห็นกัน   เพราะล่าสุดประชาธิปัตย์ได้คำถอดเทปแปลเป็นภาษาไทย  8 หน้า พร้อมซีดี เตรียมมอบให้นายกฯ และเผยแพร่ต่อสาธารณะแล้ว  แต่จะให้หวังกับนายกฯ หมักนั้นอย่าหวังเลย เอาเป็นว่าสาธารณชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่างานนี้จะออกหัวหรือก้อย อีกไม่นานได้รู้กันแน่...๐

รอ ประชาธิปัตย์ เขาจัดให้   
บันทึกการเข้า
jrr.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #2 เมื่อ: 13-05-2008, 11:35 »


พูดเอง....แปลเอง

.......แล้วจะกระแดะพูดภาษาต่างด้าวทำไม ???
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: