"ทักษิณ"นอนเสียวสันหลัง
ศาลปค.รับฟ้องใบลาออกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม มีรายงานจากศาลปกครองแจ้งว่า ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้รับคำฟ้องคดีที่นายการุณ ใสงาม ส.ว.บุรีรัมย์ กับพวก ซึ่งเป็นกรรมการ และเลขานุการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ร่วมกันยื่นฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขอให้ศาลพิพากษาให้นายกรัฐมนตรี และครม.ทั้งคณะ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ตามหนังสือประกาศลาพักราชการเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมาพร้อมกับยื่นคำขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว สั่งห้ามนายกรัฐมนตรีและครม. ปฏิบัติหน้าที่การบริหารราชหารแผ่นดิน ในส่วนที่เกี่ยวกับเสนอกฎหมายต่างๆ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้
ศาลปกครองกลางได้พิจารณารับคำฟ้องดังกล่าว เป็นคดีดำหมายเลข 962/2549 ประเภทคดีการปกครอง และการบริหารราชการแผ่นดิน ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ซึ่งมีนายประนัย วณิชชานนท์ ตุลาการศาลปกครองกลางเป็นเจ้าของสำนวน ขณะเดียวกันยังมีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ฤษภาคม ที่ผ่านมา พ.ญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล อดีตผู้สมัคร ส.ว.กทม. ได้ยื่นฟ้อง ครม.และนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลาง ในความผิดเรื่อง เป็นหน่วยงานทางปกครอง และเจ้าหน้าที่รัฐออกมติ ครม.วันที่ 4 เม.ย.49 เรื่องประกาศแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 แทนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยการประกาศลาพักจากราชการจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างเหตุมีปัญหาสุขภาพ ก็เป็นความเท็จ และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พร้อมกับให้ศาลสั่งเรียกเงินเดือนที่นายกฯอาจได้รับในระหว่างไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่คืนด้วย โดย ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็น
คดีดำหมายเลข 956/2549 มีนายสมยศ วัฒนภิรมย์ ตุลาการศาลปกครองกลาง เป็นเจ้าของสำนวนเพื่อพิจารณาว่าคดีมีมูลที่จะประทับรับฟ้องหรือไม่ด้วย
ส่วนคดีที่นายนิติธร ล้ำเหลือ กรรมการสิทธิมนุษยชน-สภาทนายความ และ นายนคร ชมพูชาติ รองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ฟ้อง ครม. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ และ เลขาธิการ ครม.ในกรณีปัญหาเรื่องการลาพักการปฏิบัติหน้าที่นายกฯนั้น ล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งส่งคำร้องไปให้ศาลปกครองกลางเพื่อพิจารณาว่าจะรับฟ้องคดีหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าคดีไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลปกครองสูงสุด
ในขณะที่นายสัก กอแสงเรือง รักษาการ ส.ว.กทม. ก็ออกมาระบุว่า จากมติครม.เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พ้นจากตำแหน่งนายกฯไปแล้ว และถือว่าคำสั่งหรือมติหลายอย่างที่ออกมาในเวลานี้ถือว่ายังคลุมเครือทางกฎหมาย รวมทั้งการที่มีการออกมติครม.เมื่อวันที่ 23 พฤภาคมที่ผ่านมาเพื่อเปลี่ยนแปลงมติเมื่อวันที่ 5 เมษายนยกเลิกการลาพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเพิ่มเติมข้อควาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการลำดับรักษาการรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกฯ ด้วย
"ตามความเห็นส่วนตัวถือว่าท่านนายกฯ ได้ลาออกไปแล้ว เพราะในหนังสือลาพักได้ระบุชัดเจนว่าขอลาพักจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ดังนั้น ถือว่าได้ลาออกตลอดไปแล้ว" อดีตนายกสภาทนายความ กล่าว
เช่นเดียวกับนายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ก็ชี้ว่า นายกฯ และรักษาการครม.ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นใบลาพักการปฏิบัติหน้าที่ เปรียบไปก็เหมือนต้นสักใหญ่ถูกโค่นเหลือแต่ตอ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีคงวามพยายามกลับเข้ามารับตำแหน่ง ก็เหมือนกับการเอาไม้พม่ามาสวมตอ
"การกลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งของนายกฯ ถ้าจะพูดแบบเอาหลักศีลธรรม ก็ต้องเรียกว่าตระบัดสัตย์ เบาลงมาหน่อยก็คือ เสียสัตย์เพื่อชาติ เหมือนที่พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่ถ้าจะเอามาตรฐานทางกฏหมายมาวัด จะเรียกว่า
รัฐบาลสวมตอ คงไม่ผิดนัก"นายคณิน กล่าว
แต่ทางด้านนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโต้แย้งว่า ความจริงนายกฯและครม.ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ภายหลังจากมีการยุบสภา ดังนั้นการทำหน้าที่นายกฯและครม.ขณะนี้เป็นตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะประเทศไม่สามารถจะว่างเว้นจากการบริหารประเทศได้ ต้องมีรัฐบาลในการบริหารประเทศ ขณะนี้ปัญหาทางการเมืองมีลักษณะเป็นการเฉพาะ ดังนั้นรัฐบาลที่บริหารประเทศจึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ค่อนข้างยาวนา
"การพ้นจากตำแหน่งนั้น ถือว่าได้พ้นไปแล้วจากการยุบสภา จึงไม่มีการพ้นจากตำแหน่งในครั้งที่ 2 อีก"โฆษกรัฐมนตรี กล่าว
....
http://www.naewna.com/news.asp?ID=9897