จาก จ อ ม พ ล ป. ถึ ง ก บ ฏ แ ม น ฮั ต ตั น

จากจอมพลป.ถึงกบฏแมนฮัตตัน

22 เมษายน พ.ศ. 2551 00:00:00

หลายครั้งที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานะของเขาในพรรคพลังประชาชน หรือแม้แต่ในคณะรัฐมนตรี

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ว่าเขานั้นเป็นเพียงคนเดียวกับคนพวกนั้นในคณะรัฐมนตรี หรือกระทั่งล่าสุดที่ออกมายอมรับว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 237 และมาตรา 309 และต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อสู้คดีไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขัดกับเสียงข้างมากของพรรคพลังประชาชน

สถานภาพของนายสมัคร นั้น เปรียบได้กับการเมืองช่วงปี พ.ศ.2490-2494 ช่วงที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี

เนื่องจากจอมพล ป.พิบูลสงคราม มิได้เป็นหัวหน้าพรรคเสียงข้างมากในสภา ดังนั้นจึงต้องอาศัยการรวบรวมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคต่างๆ รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่แยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ในการสนับสนุนรัฐบาล โดยการตอบแทนด้วยตำแหน่งทางการเมือง

รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงเต็มไปด้วยการต่อรองผลประโยชน์ สถานการณ์เหล่านี้ได้ทำให้เกิดปัญหาหลายประการในเวลาต่อมา

ปัญหาแรกคือ ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐสภา ซึ่งพรรครัฐบาลที่สนับสนุนจอมพล ป.พิบูลสงคราม นั้นเป็นการรวมตัวกันในรูป "สหพรรค" การเมืองในสภาเต็มไปด้วยเรื่องผลประโยชน์ กระทั่งมีการกล่าวหา ส.ส.ในสภากระทำการทุจริตประพฤติมิชอบ และที่โดนวิจารณ์อย่างหนักคือการเพิ่มเงินให้กับ ส.ส.เพื่อสนับสนุนรัฐบาล สถานการณ์ที่เรียกร้องประโยชน์ส่วนตนเช่นนี้ทำให้รัฐบาลขาดความเชื่อถือ และประชาชนเสื่อมศรัทธา

ปัญหาประการที่สองคือ ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล การที่รัฐบาลรวมตัวกันในรูป "สหพรรค" ทุกกลุ่มพยายามเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีและพยายามแย่งชิงผลประโยชน์กันตลอดเวลา ทำให้จอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องปรับคณะรัฐมนตรี 4 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน

ปัญหาประการที่สามคือ การขาดเสถียรภาพทางการเมือง แม้ว่าจะมีเสียงสนับสนุนในสภาและคณะรัฐประหาร แต่ฝ่ายทหารเรือยังคงให้การสนับสนุนนายปรีดี พนมยงค์ จนเกิดความขัดแย้งระหว่างทหารบกกับทหารเรือ และในช่วงเวลานั้นเองได้เกิดกบฏหลายกลุ่ม

(1) กบฏไฮยิคดิน เมื่อปี พ.ศ.2491 ที่ก่อวินาศกรรมในพื้นที่ปัตตานี สายบุรี และเบตง เพื่อแบ่งแยกดินแดนไปรวมกับกลุ่มสหพันธรัฐมลายู

(2) กบฏเสนาธิการ หรือกบฏนายพล เมื่อปีพ.ศ.2491 ฝ่ายกบฏซึ่งเป็นนายทหารกรมเสนาธิการ ได้วางแผนล้อมจับบุคคลสำคัญของรัฐบาล แต่โดนรัฐบาลล้อมจับได้ก่อน

(3) กบฏการสังหารแบบอูอองซาน ประกอบด้วย พ.อ.ทวน วิชัยขัทคะ ร.อ.สุนทร ทรัพย์ทวี และร.อ.ชวลิต ชัยสิทธิเวช ได้วางแผนโค่นล้มรัฐบาลด้วยการสังหารคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกับการก่อกบฏในประเทศพม่าที่ฝ่ายกบฏก่อเหตุสังหารนายกรัฐมนตรีอูอองซาน แต่ฝ่ายกบฏโดนจับกุมได้โดยหัวหน้ากองกำลังฝ่ายรัฐบาล พล.ท.สฤษดิ์ ธนะรัชต์

(4) กบฏวังหลวง เมื่อปี พ.ศ.2492 ภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์ โดยได้รับการสนับสนุนจากนายทหารเรือและอดีตสมาชิกขบวนการเสรีไทย โดยการล้มรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม แล้วนำรัฐธรรมนูญ 2475 มาใช้แทนรัฐธรรมนูญ 2492 แต่ฝ่ายรัฐบาลปราบปรามจนฝ่ายกบฏ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

(5) กบฏแมนฮัตตัน เมื่อปี พ.ศ.2494 การบริหารประเทศที่เต็มไปด้วยการแสวงหาผลประโยชน์ และหลายกลุ่มที่พยายามก่อกบฏแต่ก็ไม่สำเร็จ กระทั่งเกิดการรวมตัวของนายทหารเรือที่เรียกตัวเองว่าเป็น "คณะกู้ชาติ" ซึ่งประกอบด้วยนายทหารเรือหนุ่ม ได้แก่ น.อ.อานนท์ ปุณฑริกาภา ผู้บังคับการกองสำรวจเรือรบ น.ต.มนัส จารุภา ผู้บังคับการเรือหลวงรัตนโกสินทร์ น.ต.ประกาย พุทธารี สังกัดกรมนาวิกโยธิน พล.ร.ต.ทหาร ขำหิรัญ อดีตผู้บังคับการกรมนาวิกโยธิน วางแผนจับกุมจอมพล ป. ในพิธีรับมอบเรือขุดแมนฮัตตัน จากรัฐบาลอเมริกัน ที่ท่าราชวรดิฐ โดยก่อนหน้านี้ "คณะกู้ชาติ" ได้วางแผนยึดอำนาจรัฐบาลมาแล้วถึง 4 ครั้ง

ผลของการปราบปรามกลุ่มกบฏแมนฮัตตัน อย่างรุนแรง ทำให้ทหารเรือเสียชีวิต 43 คน ทหารบกเสียชีวิต 7 คน ตำรวจเสียชีวิต 9 คน ประชาชนเสียชีวิต 118 คน แต่ก็ลดทอนกำลังฝ่ายทหารเรือไม่ให้เป็นภัยต่อรัฐบาล

ที่ยกประวัติศาสตร์การเมืองมาเล่าสู่กันฟังเพราะอยากให้รัฐบาลตระหนักว่าการทำอะไรก็ตามเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง มักมีคนคอยขัดขวางอย่างรุนแรง และการปราบปรามเพื่อนำชัยชนะมาสู่รัฐบาล คนที่ล้มตายส่วนมากล้วนเป็นประชาชน

--------------------

รักษ์ มนตรี mo_tri@hotmail.com
http://www.bangkokbiznews.com/2008/04/22/WW01_0104_news.php?newsid=250179