คำตอบอยู่ในหนังสือ “ลับ ลวง พราง ปฏิวัติปราสาททราย” !!

[กรวุฒิ]

จาก http://spiritofpolitics.blogspot.com

1. พันธมิตรควรอ่านและนำไปพิจารณาซะดี ๆ เพราะพวกคุณมีส่วนอยู่ในสถานนั้นด้วยเช่นกัน พวกคุณทำให้สถานการณ์ สุกงอม นำไปสู่การปฏิวัติ ห้ามปฏิเสธนะครับ เพราะประชาชนไม่เชื่อพวกคุณอีกต่อไป

2. ท่านอดีตประธานคมช. พูดชัดเจน ถ้าไม่ปฏิวัติ จะเกิดการนองเลือด เพราะประชาชนทั้งสองฝ่ายจะปะทะกัน แต่ถ้าท่านฉุกคิดนึกถึงกรรมการห้ามมวย ถ้ากรรมการบอก “ชก!!!” นักมวยจะชกกัน ถ้ากรรมการบอก “แยก!!!” นักมวยจะแยกจากกัน ถ้าบอก “หยุด!!!” นักมวยหยุดชกกัน  การสกัดกั้นประชาชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมท่านสามารถทำได้แต่ไม่ทำ ท่านเลือกใช้วิธีปฏิวัติ เพราะท่านอาจมีวาระซ่อนเร้น ดั่งคำพูดของท่าน “ถ้าย้อนอดีตได้จะไม่ให้ พล.อ. สุรยุทธ ฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะเป็นเสียเอง” ชัดเจนไหม ?? พวกพันธมิตรท่านทำเพราะตัวท่านเองแต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่เพื่อพวกคุณ

3. ข้อพิสูจน์ที่ท่านสามารถสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนมาชุมนุม ช่วงที่นปก.ชุมนุมต่อต้านเผด็จการ ท่านสกัดกั้นประชาชนไม่ให้มาชุมนุมที่ท้องสนามหลวงร่วมกับนปก.โดยสั่งให้ตำรวจ ทหาร ตั้งด่านตรวจทุกเส้นทางที่มุ่งสู่กรุงเทพ ฯ จริงไหมครับท่าน ??? ทำไมท่านทำได้ล่ะ

4. ในหนังสือ “ลับ ลวง พราง ปฏิวัติปราสาททราย” เป็นคำตอบสุดท้ายที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 49 , รัฐธรรมนูยปี 50 , องค์กรต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยคมช. น่าจะขาดความชอบธรรม โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับ 14 ล้านเสียง ท่านต้องมองด้วยความเป็นธรรม ในช่วงที่ลงประชามติ “รับร่าง” “ไม่รับร่าง” ประชาชนมีสิทธิ์ลงมติ 45 ล้านเสียง (ถ้าผิดขออภัยด้วย) รับร่าง 14 ล้านเสียง , ไม่รับ 10 ล้านเสียง รวม 24 ล้านเสียงอาจอยู่เฉย ๆ ไม่ลงคะแนน (พลังเงียบ) 21 ล้านเสียง

สรุป

1. รับร่าง 14 ล้านเสียง
2. ไม่รับ 10 ล้านเสียง
3. พลังเงียบ  / อยู่เฉย 21 ล้านเสียง
4. ข้อ 2 + ข้อ 3 เท่ากับ 31 ล้านเสียง จริงไหมครับ ห้ามกล่างถึงอีกต่อไป

[ผ่านมา]

กระทู้พวกแกล้งโง่
แสดงตัวเป็นคนรักประชาธิปไตยโง่ๆ แบบนี้
ควรอ่านผ่านๆ แล้วอย่าใส่ใจ ผ่านเลยไป
เสียเวลาโต้ตอบเปล่าๆ

พวกเอาแต่ประโยชน์ตน ไม่เห็นความสำคัญ
ของการที่บ้านเมืองต้องมีผู้นำที่มีเป็นคนดี มีจริยธรรม
เพื่อความเจริญของบ้านเมือง และความผาสุกของประชาชน
ชอบทำตัวเป็นตัวป่วนแบบคนไม่มีสมอง
หรือปั่นกระทู้แบบคนมีสมองตามเวป
ทั้งๆ ที่มีความรู้ มีการศึกษา
แต่เพราะขาดการอบรมบ่มเพาะทางจิตใจ
จึงไม่มีจิตสำนึกทางจริยธรรม คิดเอาแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า
คือผลประโยชน์ตนและพวกพ้อง

หรือพวกที่เกิดมาเพื่อทำลายสังคม เพราะมีอัตตาท่วมท้น
จึงมีปมด้อยว่าตัวเองต่ำต้อย เป็นชนชั้นล่างในสังคม
ด้วยเพราะความหลงรู้ไม่เท่าทันกฏของอนิจจัง
และกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นสัจจธรรมของโลกสมมตินี้
จึงต่อต้านสถาบัน หลงเชื่อทฤษฎีของพวกที่มีความรู้สึกเดียวกัน
คือพวกที่มีปมด้อย ต้องการทำลายสังคม
เพื่อทำตามความเชื่อของตนเอง
คือสร้างสังคมที่ตนองคิดว่าตัวเองจะมีความสำคัญ
ได้รับการยอมรับได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำความยุติธรรม
มาสู่สังคม เพื่อคนที่ถูกกดขี่ขูดรีด

เมื่อแกล้งโง่ ในที่สุดเมื่อสร้างเหตุเช่นนี้ คือแกล้งโง่
หรือมีพฤติกรรมทำลายสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม
ด้วยความหลง ที่ตามภาษาบาลีเรียกว่า "อวิชชา" เช่นนี้
ผลต่อไป คือไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกนานแสนนาน
และเมื่อเกิดเป็นมนุย์ ก็ต้องปัญญาอ่อน โง่ตักดานจริงๆ

[Caocao]

กระทู้พวกแกล้งโง่
แสดงตัวเป็นคนรักประชาธิปไตยโง่ๆ แบบนี้
ควรอ่านผ่านๆ แล้วอย่าใส่ใจ ผ่านเลยไป
เสียเวลาโต้ตอบเปล่าๆ

พวกเอาแต่ประโยชน์ตน ไม่เห็นความสำคัญ
ของการที่บ้านเมืองต้องมีผู้นำที่มีเป็นคนดี มีจริยธรรม
เพื่อความเจริญของบ้านเมือง และความผาสุกของประชาชน
ชอบทำตัวเป็นตัวป่วนแบบคนไม่มีสมอง
หรือปั่นกระทู้แบบคนมีสมองตามเวป
ทั้งๆ ที่มีความรู้ มีการศึกษา
แต่เพราะขาดการอบรมบ่มเพาะทางจิตใจ
จึงไม่มีจิตสำนึกทางจริยธรรม คิดเอาแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า
คือผลประโยชน์ตนและพวกพ้อง

หรือพวกที่เกิดมาเพื่อทำลายสังคม เพราะมีอัตตาท่วมท้น
จึงมีปมด้อยว่าตัวเองต่ำต้อย เป็นชนชั้นล่างในสังคม
ด้วยเพราะความหลงรู้ไม่เท่าทันกฏของอนิจจัง
และกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นสัจจธรรมของโลกสมมตินี้
จึงต่อต้านสถาบัน หลงเชื่อทฤษฎีของพวกที่มีความรู้สึกเดียวกัน
คือพวกที่มีปมด้อย ต้องการทำลายสังคม
เพื่อทำตามความเชื่อของตนเอง
คือสร้างสังคมที่ตนองคิดว่าตัวเองจะมีความสำคัญ
ได้รับการยอมรับได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำความยุติธรรม
มาสู่สังคม เพื่อคนที่ถูกกดขี่ขูดรีด

เมื่อแกล้งโง่ ในที่สุดเมื่อสร้างเหตุเช่นนี้ คือแกล้งโง่
หรือมีพฤติกรรมทำลายสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม
ด้วยความหลง ที่ตามภาษาบาลีเรียกว่า "อวิชชา" เช่นนี้
ผลต่อไป คือไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกนานแสนนาน
และเมื่อเกิดเป็นมนุย์ ก็ต้องปัญญาอ่อน โง่ตักดานจริงๆ

[สมชายสายชม]

จาก http://spiritofpolitics.blogspot.com


สรุป

1. รับร่าง 14 ล้านเสียง
2. ไม่รับ 10 ล้านเสียง
3. พลังเงียบ  / อยู่เฉย 21 ล้านเสียง
4. ข้อ 2 + ข้อ 3 เท่ากับ 31 ล้านเสียง จริงไหมครับ ห้ามกล่างถึงอีกต่อไป

สมัยรัฐบาลทักษิณ ๑  ทักษิณก็มักจะพูด(กับคนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย)เป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า

"ประชาชนเลือกพรรค ทรท.มา ๑๔ ล้านเสียง (จึงมีสิทธิตัดสินใจทุกอย่างโดยชอบธรรม)"

 

[login not found]

สรุป

1. รับร่าง 14 ล้านเสียง
2. ไม่รับ 10 ล้านเสียง
3. พลังเงียบ  / อยู่เฉย 21 ล้านเสียง
4. ข้อ 2 + ข้อ 3 เท่ากับ 31 ล้านเสียง จริงไหมครับ ห้ามกล่างถึงอีกต่อไป

ในเมื่อข้อ 3 อยู่เฉย ถ้าผมจะสรุปว่า
ไม่อยากให้คะแนนรับร่างสูงเกินไปเลยไม่ไปลงคะแนนเสียง
จึงได้ข้อสรุปว่า 1+3 = 35 ล้านเสียง ก็ได้เช่นกัน

ในความเป็นจริง พวกไม่ไปลงคะแนนเสียงคือพวกนอนหลับทับสิทธิ
ถามแล้วก็ไม่บอก ดีไม่ดีก็ไม่ว่า พอไม่ถูกใจก็ชอบพูดทำนอง "กรูว่าแล้ว"
หลบเลี่ยง "หน้าที่" ความรับ"ผิด"+"ชอบ"ในคะแนนเสียงของตัวเอง
ตัวถ่วงความเจริญประเภทนี้ไม่สมควรจะนำมานับเป็นคะแนนเสียงใดใดทั้งสิ้น
ทำมาอ้างตรรกะบวยห่วยๆ 31ล้านเสียงเอาแต่ประโยชน์เข้าตัวแบบนี้มันงี่เง่าสิ้นดี

[Can ไทเมือง]

กระทู้แบบนี้ ถ้าไปตั้งที่ราชดำเนิน รับรองคนเข้าเล่นตรึม

 

[พรรณชมพู]

ตอบให้  

จาก http://spiritofpolitics.blogspot.com

1. พันธมิตรควรอ่านและนำไปพิจารณาซะดี ๆ เพราะพวกคุณมีส่วนอยู่ในสถานนั้นด้วยเช่นกัน พวกคุณทำให้สถานการณ์ สุกงอม นำไปสู่การปฏิวัติ ห้ามปฏิเสธนะครับ เพราะประชาชนไม่เชื่อพวกคุณอีกต่อไป

- อย่าลืมไห้ไอ้พวกขายชาติอ่านด้วย เพราะมันก็อยู่ในสถานการร์นั้นเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นตัวการสำคัญในการก่อความวุ่นวายให้ประเทศชาติ 

2. ท่านอดีตประธานคมช. พูดชัดเจน ถ้าไม่ปฏิวัติ จะเกิดการนองเลือด เพราะประชาชนทั้งสองฝ่ายจะปะทะกัน แต่ถ้าท่านฉุกคิดนึกถึงกรรมการห้ามมวย ถ้ากรรมการบอก “ชก!!!” นักมวยจะชกกัน ถ้ากรรมการบอก “แยก!!!” นักมวยจะแยกจากกัน ถ้าบอก “หยุด!!!” นักมวยหยุดชกกัน  การสกัดกั้นประชาชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมท่านสามารถทำได้แต่ไม่ทำ ท่านเลือกใช้วิธีปฏิวัติ เพราะท่านอาจมีวาระซ่อนเร้น ดั่งคำพูดของท่าน “ถ้าย้อนอดีตได้จะไม่ให้ พล.อ. สุรยุทธ ฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะเป็นเสียเอง” ชัดเจนไหม ?? พวกพันธมิตรท่านทำเพราะตัวท่านเองแต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่เพื่อพวกคุณ

- ก่อนการปฎิวัติ ประธาน คมช.ไม่มีอำนาจอะไรในการยับยั้งหรือสกัดกั้นไม่ให้คนมาชุมนุม และไม่ได้อยู่ในตำแหน่งกรรมการห้ามมวย หน้าที่ทางราชการ ต้องฟังคำสั่งรัฐมนตรีกลาโหม และนายกรัฐมนตรี ซึ่งสองตัวนั่นเวลานั้น มีหน้าที่โดยตรง แล้วมันทำอะไรกันอยู่ไม่ทราบ ถึงได้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ โง่มากหรือไง ถึงคิดไม่ออก

ส่วนเรื่องย้อนอดีตนั้น เขาอาจจะหมายความว่า การเลือก พลเอกสุรยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ท่านต้องเดือดร้อน จากการคุกคามของพวกขายชาติ หากย้อนเวลาได้ จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่เคารพ ต้องเดือดร้อนไง   

3. ข้อพิสูจน์ที่ท่านสามารถสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนมาชุมนุม ช่วงที่นปก.ชุมนุมต่อต้านเผด็จการ ท่านสกัดกั้นประชาชนไม่ให้มาชุมนุมที่ท้องสนามหลวงร่วมกับนปก.โดยสั่งให้ตำรวจ ทหาร ตั้งด่านตรวจทุกเส้นทางที่มุ่งสู่กรุงเทพ ฯ จริงไหมครับท่าน ??? ทำไมท่านทำได้ล่ะ

- โง่จริงๆ นี่หรือเรียกว่าเหตุผล เมื่อก่อนการปฎิวัติ ประธาน คมช.ไม่มีอำนาจใดๆในการปฎิบัติการยับยั้งประชาชน หน้าที่เป็นของรัฐบาลทักษิณ ทำไมมันไม่ทำ ถามผิดคนแร้วววว แต่หลังจากปฎิวัติ ประธาน คมช. ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การยับยั้งเหตุนองเลือดนั้น ทำได้  แต่รัฐบาลทักษิณไม่ทำ เพราะต้องการให้เกิดเหตุนองเลือด เพื่อปฎิวัติตัวเองนั่นไง หายโง่หรือยัง 

4. ในหนังสือ “ลับ ลวง พราง ปฏิวัติปราสาททราย” เป็นคำตอบสุดท้ายที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 49 , รัฐธรรมนูยปี 50 , องค์กรต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยคมช. น่าจะขาดความชอบธรรม โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับ 14 ล้านเสียง ท่านต้องมองด้วยความเป็นธรรม ในช่วงที่ลงประชามติ “รับร่าง” “ไม่รับร่าง” ประชาชนมีสิทธิ์ลงมติ 45 ล้านเสียง (ถ้าผิดขออภัยด้วย) รับร่าง 14 ล้านเสียง , ไม่รับ 10 ล้านเสียง รวม 24 ล้านเสียงอาจอยู่เฉย ๆ ไม่ลงคะแนน (พลังเงียบ) 21 ล้านเสียง

- อันนี้อ่านแล้ว สรุปได้ว่า ไร้เหตุผล ในหนังสือเล่มนั้น ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่เป็นคำตอบหนึ่งโดยความเห็นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหนังสือเล่มหนึ่ง สามารถให้คำตอบสุดท้ายได้

ท่านต้องไปอ่าน "ยังไงก็ไม่ชิน" ของ ขบวนการเสรีไทยเวบบอร์ด เพราะนั่นคือคำตอบสุดท้ายจริงๆว่า คนไทยไม่เอาทักษิณ ไม่เอาพวกขายชาติ หนังสือยังมีวางจำหน่ายอยู่ หาไม่ได้ติดต่อได้ในบอร์ด อ่านซะ แล้วจะหายโง่

สรุป

1. รับร่าง 14 ล้านเสียง
2. ไม่รับ 10 ล้านเสียง
3. พลังเงียบ  / อยู่เฉย 21 ล้านเสียง
4. ข้อ 2 + ข้อ 3 เท่ากับ 31 ล้านเสียง จริงไหมครับ ห้ามกล่างถึงอีกต่อไป

- บวกเลขผิด บวกให้ใหม่
1. รับร่าง 14 ล้านเสียง
2. ไม่รับ 10 ล้านเสียง
3. พลังเงียบ  / อยู่เฉย 21 ล้านเสียง
4. ข้อ 1 + ข้อ 3 เท่ากับ 35 ล้านเสียง จริงไหม ห้ามตะแบงอีกต่อไป

จบคำตอบ 

[นทร์]

จขกท คิดเองเออเอง เหมาะสรุปเองเสร็จ

คุ้นๆ


หนังสือ บอกว่าเบื้องหลังเป็นอย่างไร

กรณีที่อยากเป็นนายกเองหากย้อนกลับได้

แสดงว่า สนธิ ต้องการให้นายกทำมากกว่านี้

ผิดหวังในตัวนายกสุรยุทธ์นั่นเอง

ก็ตรงกับที่พันธมิตรคิดกัน


แล้วถ้าทักษิณไม่ระดมประชาชนออกมาสู้กับพันธมิตร

การปฏิวัติอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้


*** เรื่องคะแนน คุณก็ว่าไปโน่น (เหมือนในวิทยุแท๊กซี่เปี๊ยบ)

เขาดูความสำคัญว่ารับร่าง เป็นสำคัญ

รับเท่าไหร่ ไม่รับเท่าไหร่ หรือไม่ไปลงคะแนน

คุณจะเอาไปเหมารวมว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ยังไง ....
 

[TheBluECaT]

อ้าว~!!  ผมก็เป็น 1 ใน 21 ล้านเสียงนะ...

วันนั้นติดธุระ  เลยไปลงประชามติไม่ได้

อย่าเหมารวมเอา  ผมไปรวมกับคนไม่รับร่างฯ เดะ  ไรว้า~ 

[Private]

คนที่ว่าคนอื่นโง่ ตัวเองก็โง่ สรุปแล้วก็โง่ด้วยกัน

เราอยู่ในข้อ 3 ที่ไม่รับร่าง