ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2025, 20:29
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถ้าคนหนึ่งพูดอะไร'ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว'ได้ ต่างชาติจะให้ความเชื่อถือได้........ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถ้าคนหนึ่งพูดอะไร'ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว'ได้ ต่างชาติจะให้ความเชื่อถือได้........  (อ่าน 2330 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 09-03-2008, 22:34 »

อัดพันธมิตรกฎหมู่'นพดล'หาถ่วงความเจริญทำลายภาพลักษณ์ประเทศ/ชัดปชป.ให้ท้าย


9 มีนาคม 2551    กองบรรณาธิการ

รมว.ต่างประเทศ สวมบทองครักษ์พิทักษ์แม้ว ใช้กระทรวงบัวแก้วแถลงถล่มพันธมิตรฯ ยับ หาใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ฉุดรั้งประชาธิปไตย-ความเจริญ ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ


ขู่รัฐบาลจะไม่ยอมให้เอาประเทศเป็นตัวประกันเด็ดขาด  ป้ายสีพรรคการเมืองใหญ่  โยง "สมเกียรติ" หนุนหลังม็อบ พันธมิตรฯ โต้  "นพดล" เป็นรัฐมนตรีหรือทนายแก้ต่างทักษิณ ยันที่ผ่านมาชุมนุมอย่างสันติแม้แต่นิตยสารไทม์ก็ยังยกย่อง "ประชาธิปัตย์" รุมตบปากถามกลับ "นปก." ชุมนุมทำลายภาพลักษณ์ประเทศหรือไม่

นายนพดล  ปัทมะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ  ถึงภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศว่า ขณะนี้ภารกิจคือฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศ   ซึ่งนายธฤต  จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ก็ทำงานหนักมาเป็นปีในช่วงของการยึดอำนาจ  ท่านงานหนักมาก เพราะท่านต้องไปปกป้องในเรื่องของการยึดอำนาจให้เป็นเรื่องง่ายๆ  แต่เมื่อกลับมาเป็นประชาธิปไตย   ตนพร้อมด้วยนายธฤตและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศก็ออกไปปกป้องภาพลักษณ์ของเราว่าเราเป็นประชาธิปไตย   และเรายินดีต้อนรับทุกชาติที่จะมาลงทุนในเมืองไทย  โดยทุกชาติหมายถึงทั้งอียู สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น และหลายประเทศเขาชื่นชมที่เรามีความเป็นประชาธิปไตย  แต่น่าเสียดายที่เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมามีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้พูดคุยถึงเรื่องของการที่จะรวมตัวกันเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง

นายนพดลกล่าวว่า อยากจะเรียนว่าในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งและเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งในคณะรัฐมนตรี มีความรู้สึกเป็นห่วง ที่มันจะส่งสัญญาณออกไปยังต่างประเทศถึงปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองหรือปัญหาความไม่ลงรอยทางการเมืองในประเทศไทย  อันนี้น่าเป็นห่วง  จึงอยากจะย้ำว่าการดำเนินการใดๆ ในประเทศไม่ควรที่จะให้มันมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศออกไปข้างนอก  เราควรจะพูดคุยกัน  ไม่พอใจไม่ใช่บอกว่าจะเคลื่อนไหวจะเคลื่อนไหว แล้วก็ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง อันนี้จะเป็นปัญหาที่จะกระทบถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทย

"ผมอยากจะเรียนท่าน ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ ในขณะนี้ไม่มีที่สำหรับกฎหมู่อีกต่อไป ไม่มีที่สำหรับกฎหมู่อีกต่อไป รัฐบาลจะไม่ยอมให้ใครคนใดก็ตามใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย" นายนพดลกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่า รัฐบาลน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือบ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป ถ้าเราไม่มีขื่อมีแปเราแข่งขันกับประเทศอื่นไม่ได้ แล้วคนที่จะรับเคราะห์ก็คือประชาชนคนเดินถนนอย่างพวกเรา  ฉะนั้นรัฐบาลนี้จะไม่ยอมให้ใครมาฉุดรั้งประชาธิปไตย  มาฉุดรั้งความเจริญ เราไม่ยอมให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเอาประเทศเป็นตัวประกันเด็ดขาด นี่คือสิ่งที่อยากจะส่งสัญญาณไปให้กลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้

อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า ที่น่าแปลกของกลุ่มคือบางคนอยู่ในพรรคการเมืองใหญ่พรรคการเมืองหนึ่ง  ตนเลยไม่รู้ว่าเขาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างไร  ต้องขอเรียกร้องให้ทางแกนนำของพรรคที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจง เพราะตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งก็เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ไปลงสมัครเลือกตั้งกลับแล้วก็นึกว่าจะแยกกลุ่มจากกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังอยู่ เป็นทั้ง ส.ส.และแกนนำของกลุ่มพันธมิตรฯ ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่มประเทศไหนบ้างที่แสดงความกังวลต่อการออกมาของกลุ่มพันธมิตรฯ นายนพดลบอกว่า ไม่มี  นักการทูตท่านจะไม่ค่อยยุ่งกับกิจการภายใน แต่เขามีโต๊ะที่รายงานไปยังเมืองหลวงของเขา  ดังนั้นทุกคำพูดของกลุ่มใดในทางการเมือง  ไม่ว่าฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเป็นเรื่องที่เขาติดตามอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเขาก็ไปวิเคราะห์ของเขาเองได้

"ผมไม่อยากให้มีการดำเนินการที่ ในลักษณะที่ใช้การข่มขู่ว่าจะใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย อันนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัว  ต่างประเทศให้ความสำคัญใน 2 เรื่องก็คือประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม เพราะถ้าขาด 2 อันนี้คนจนจะไม่มีหลักประกันในชีวิต ไม่มีประเทศใดที่เคารพหลักประชาธิปไตยหรือสิทธิมนุษยชน หรือหลักนิติธรรมแล้วได้รับการพัฒนาที่ไม่ค่อยดี แต่ประเทศที่มีนิติธรรมจะพัฒนาค่อนข้างสูง"

เขากล่าวอีกว่า ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณว่าชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบอย่างเปิดเผย แต่การชุมนุมในลักษณะที่ข่มขู่ ส่งสัญญาณให้รัฐบาลรู้สึกหวาดกลัว หรืออาจจะใช้สถานการณ์ในลักษณะพูดจาต่อรองในบางประการตนคิดว่าไม่ถูกต้อง  จะชุมนุมก็ชุมนุมไปเราจะส่งรถสุขาไปดูแลด้วยซ้ำไป จัดสถานที่ให้ชุมนุม แต่ไม่ใช่ออกใช้ความรุนแรง เคยเห็นไหมที่ไปชุมนุมแล้วไปบุกรุกรัฐสภา เห็นหรือไม่

"ทุกคนที่ละเมิดกฎหมายก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายไม่ว่าระดับใด   คือไม่มีใครมีเอกสิทธิ์หรือสิทธิพิเศษที่จะปฏิบัตินอกเหนือกฎหมาย  คือเราต้องการส่งสัญญาณให้ต่างประเทศได้ทราบว่ารัฐบาลชุดนี้จะรักษาความเป็นประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน   และหลักนิติธรรมอย่างดีที่สุด  ซึ่งจำเป็นต้องส่ง เพราะว่านักลงทุนที่เขาจะมา ถ้าบ้านเรามีหลักนิติธรรมเขาก็มั่นใจ แต่ถ้าบ้านเราเอออะไรก็ได้ ใครที่อยู่เหนือกฎหมายสามารถทำอะไรก็ได้" นายนพดลกล่าว

เมื่อถามการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่หรือ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า   อ๋อชุมนุมได้ตามรัฐธรรมนูญ   แต่หมายถึงห้ามปฏิบัติละเมิดกฎหมายหรือนอกเหนือกฎหมาย  ทั้งนี้ การชุมนุมต้องสงบและปราศจากอาวุธ  แต่ถ้าทำอะไรที่เกินเลยกว่านั้นอย่างเช่นที่ผ่านมา   เช่น หมิ่นประมาทคนอื่น ด่าทอคนอื่น  และขณะเดียวกันที่มีการยึดอำนาจ  ก็ไปได้รับตำแหน่งจากการยึดอำนาจด้วยหลายคน และตอนนี้ก็มีอยู่ในวุฒิสภาด้วย

นายนพดลยังเปิดเผยว่า เมื่อวานตนได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ส่วนใหญ่คุยกันว่าท่านสบายดีหรือ คิดถึงท่าน  และเป็นเรื่องของเด็กที่โทร.หาผู้ใหญ่  ก็ผูกพัน  แต่ท่านก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร เพราะว่าท่านก็รู้ว่าตนงานยุ่งจนขณะนี้ตนจะมานอนที่กระทรวงแล้ว เพราะที่กระทรวงมีห้องน้ำ   ทั้งนี้ ท่านไม่ได้ถามเรื่องการเมือง ก็ยุ่งกับการคุยกับทีมทนายความของท่าน พบปะยากซึ่งไม่ได้เจอกันมา 10 กว่าเดือน ไปทานอาหารอะไรที่ท่านชอบ  แล้วก็พักผ่อนกับครอบครัว   เตรียมตัวขึ้นศาลในวันที่ 12 หลังจากนั้นก็คงจะขออนุญาตศาลแล้วแต่ดุลพินิจของศาลจะให้เดินทางหรือไม่

นายพิชิต  ชื่นบาน  ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ร่างคำให้การของ พ.ต.ท.ทักษินไว้พร้อมแล้ว ในการเดินทางไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดแรกเพื่อสอบคำให้การ  รับทราบคำฟ้อง  และต่อสู้คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก   มูลค่า   772  ล้านบาท ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน  ในวันพุธที่ 12 มีนาคมนี้ เวลา 09.30 น. สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางออกนอกประเทศ  ในวันที่  13  มีนาคม  จึงต้องมีการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเดินทาง  แต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับคำสั่งในเรื่องนี้แต่อย่างใด หากมีการสั่งมาก็ต้องดำเนินการไปตามเหตุผล และความจำเป็นที่จะเดินทางออกนอกประเทศ คงต้องรอการยืนยันจาก พ.ต.ท.ทักษินก่อน

ทางด้านนายสมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์  ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย   กล่าวถึงนายนพดล   ระบุว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ  ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหายว่าไม่เป็นความจริง    เพราะผู้ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายในสายตาโลก   คืออดีตผู้นำประเทศบางคนที่โกงชาติ และส่งผลให้ไทยติดอันดับอยู่ในกลุ่มการคอรัปชั่นสูงสุดในโลก ผู้นำประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยใช้กลไกของรัฐสังหารคนมากว่าถึง  4,000 ศพ ภายใต้การปราบปรามยาเสพติดและการแก้ปัญหา  3 จังหวัดชายแดนใต้ และผู้นำประเทศที่แทรกแซงสื่อโดยเปลี่ยนผังรายการ ซื้อกิจการและขายสมบัติให้ต่างชาติ   และที่สำคัญยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของชาติด้วย   แตกต่างจากกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารระดับโลกไทม์ ว่าเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวโดยสันติวิธี ไม่นิยมความรุนแรง

นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ส่วนที่ระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯ  บางคนเป็น ส.ส.ของพรรคการเมืองใหญ่  จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองดังกล่าวออกมาชี้แจงจุดยืนนั้น  ตนเคยเคลื่อนไหวในภาคประชาชนมาก่อนสังกัดพรรคการเมือง  และมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ยอมรับในความหลากหลาย  ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่เป็นทนายให้แก่ผู้นำชาติที่โกงบ้านเมืองมากที่สุด ตามข้อมูลของ คตส.

"นายนพดลทำงานภายใต้หมวก 2 ใบ คือรัฐมนตรีและเป็นทนายให้ผู้นำที่มีคดีการทุจริตคอรัปชั่นสูงสุด  ขณะที่ผมเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ และอีกหน้าที่คือในรัฐสภา ถามว่านายนพดลและนายสมเกียรติ  ใครมีคุณค่ามากกว่ากัน   อย่างไรก็ตาม ผมไม่อยากจะโต้เถียงกับนายนพดล เพราะไม่อยู่ในสายตา โดยเป้าหมายสำคัญคือการล้มระบอบทักษิณ"  นายสมเกียรติกล่าว และเปิดเผยว่า  สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มในปลายเดือนนี้  จะไม่มีการชุมนุม แต่จะเน้นเรื่องการให้ข้อมูลกับประชาชน   โดยในวันที่  12  มีนาคม แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง  5 คนจะร่วมประชุมรูปแบบการเคลื่อนไหวอีกครั้ง  กับองค์กรแนวร่วมต่างๆ ส่วนจะเป็นสถานที่ใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

แกนนำพันธมิตรฯ  ผู้นี้ยังกล่าวถึงการผลักดันเตรียมทหารรุ่น 10  (ตท.10) รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ  เข้ารับตำแหน่งสำคัญในกองทัพจำนวนมากว่าเป็นไปตามบันได  3  ขั้นของรัฐบาลหุ่นเชิด คือ 1.จัดการกระบวนการยุติธรรม  2.ควบคุมสื่อของรัฐ  3.จัดการกระชับอำนาจกองทัพให้ได้ เพราะระบอบทักษิณแพ้ระบอบของกองทัพ  ดังนั้นจึงเรียกร้องให้จับตามองว่า  รัฐบาลจะควบคุมกองทัพได้หรือไม่ หากได้ประเทศชาติจะเสียดุลให้แก่กลุ่มทุนสามานย์ และหากสถาบันทหารและกองทัพถูกแทรกแซง ประเทศชาติจะล่มสลายแน่นอน

นายสุริยะใส  กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า นายนพดลกำลังสับสนระหว่างบทบาททนายแก้ต่างระบอบทักษิณ   กับบทบาทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แกล้งลืมไปว่าวิกฤติเรื้อรังประเทศเกิดจากคนคนเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ และสังคมไทยติดหล่มและสูญเสียโอกาสมา  2-3 ปี เพราะคนคนเดียว อยากถามว่าใครกันแน่เป็นปัญหาประเทศ และวันนี้ผู้คนในสังคมก็เริ่มกังขากับบทบาทของรัฐบาลนอมินีที่กำลังใช้อำนาจเพื่อคนคนเดียว   โดยเฉพาะการโยกย้ายข้าราชการประจำและการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

"อยากฝากถึงคุณนพดลว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ   ที่ผ่านมาและในวันข้างหน้าเราจะยึดมั่นแนวทางสันติวิถี   อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด  ซึ่งที่ผ่านมาคุณนพดลก็รู้ดีว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ   ไม่เคยสร้างความรุนแรงหรือใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย  ต่างกับการเคลื่อนไหวของแนวร่วมต่อต้านเผด็จการ  หรือ  นปก. เร่งด่วนที่นายนพดล ที่ทำในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศต้องเอาใจใส่และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ   คือการสร้างความมั่นใจให้ประชาคมโลกเห็นว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของไทยไม่ใช่ทนายคอยแก้ต่างให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังถูกดำเนินคดี"

นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ  ระมัดระวังตลอดเรื่องการยั่วยุท้าทายจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย จะสังเกตเห็นว่าเราพยายามจะไม่ตอบโต้บรรดาลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจุดยืนของเราคือ พ.ต.ท.ทักษิณต้องขึ้นศาลพิสูจน์ความผิดในกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ถูกแทรกแซงเท่านั้น และเราจะคัดค้านทุกรูปแบบไม่ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอ้างประชาธิปไตยแต่เพียงรูปแบบ   แต่เนื้อหาเลวร้ายไม่ต่างจากเผด็จการ

นายเทพไท   เสนพงศ์  ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดลระบุว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  มี ส.ส.ของพรรคการเมืองใหญ่รวมอยู่ด้วย ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ  และเห็นว่าการเคลื่อนไหวที่อยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย แต่เป็นการที่รัฐบาลกระทำตัวเป็นหุ่นเชิด เป็นนอมินีมากกว่า

ส่วนการที่นายสมเกียรติเป็นหนึ่งในแกนนำของพันธมิตรฯ นั้น นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันเป็นการภายในแล้ว   ซึ่งนายสมเกียรติก็ระบุว่าเป็นการกระทำส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับการเป็น ส.ส.ของพรรค   และพรรคเห็นว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล   แต่ต้องแยกแยะบทบาทว่าเคลื่อนไหวในฐานะอะไร  อย่างไรก็ตาม อยากให้ รมว.การต่างประเทศได้กลับไปจัดการ  ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนให้เรียบร้อยก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่น   เพราะทราบว่าในพรรคยังมี ส.ส.ที่ตั้งตัวเป็นประธานชมรมคนรักทักษิณไม่เอาเผด็จการอยู่ หรือแม้แต่การแต่งตั้งให้อดีตแกนนำ นปก.มาเป็นรัฐมนตรี

นายอลงกรณ์  พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการใส่ร้ายอย่างตั้งใจ เพราะนายสมเกียรติมีความชัดเจนแล้วว่า การดำเนินการในส่วนของเขาที่เป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ  ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่เกี่ยวกับสถานะของ ส.ส.ในพรรค  แต่เป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ   ที่รักชาติ รักประชาธิปไตย  พรรคไม่มีนโยบายไปขัดขวาง  แต่ก็แยกบทบาทหน้าที่ชัดเจน  นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เคยพูดคุยกันแล้ว   ดังนั้นนายนพดลจะต้องมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ในฐานะที่เป็น รมว.การต่างประเทศ   ไม่ใช่มากล่าวใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น   และการต่อต้านเผด็จการทรราชของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เป็นสิทธิในระบอบประชาธิปไตย

"ผมขอชื่นชมนายสมเกียรติ  ที่ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็มุ่งมั่นในอุดมการณ์  การออกมากล่าวอย่างนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควร    ต้องทบทวนและอย่าลืมตัว  ต้องไม่ลืมตัวว่าเป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่กระบอกเสียงหรือทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ   ท่าทีอย่างนี้เป็นท่าทีที่ตรงข้ามกับคำพูดที่บอกว่าต้องการความสมานฉันท์ปรองดอง  ทั้งนี้ การเป็นปฏิปักษ์ต่อกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เป็นผลดีต่อเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคตของรัฐบาล   ผมอยากเตือนสติ  และหวังว่าจะไม่แสดงท่าทีในการใส่ร้ายบุคคลอื่นหรือพรรคประชาธิปัตย์ด้วย" นายอลงกรณ์กล่าว

นายวิทยา   แก้วภราดัย  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า นายนพดลคงจะหาคนมารับผิดชอบ  เห็นมีเรื่องทีไรก็โยนมาให้พรรคประชาธิปัตย์ทุกที   ทั้งๆ  ที่รู้อยู่แล้วว่านายสมเกียรติทำงานกับกลุ่มพันธมิตรฯ  มาตั้งนานแล้ว  ก่อนที่จะมาเป็น ส.ส.ของพรรค ซึ่งนายสมเกียรติก็ทำงานในกลุ่มพันธมิตรฯ  ทำงานของเขาเองด้วยความเชื่อมั่น พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ชี้นำหรือจะไปบังคับให้ใครทำอะไรก็ได้

นายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย  กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายนพดลอ้างว่ากลัวจะเสียภาพลักษณ์นั้น  ต้องทบทวนคำพูดเสียใหม่ ไม่ใช่บอกว่าคนที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลผิดไปหมด   แล้วสมัย นปก.ที่สนับสนุนอดีตพรรครักไทยรักไทยของนายนพดล  ก็จะกลายเป็นการกระทำที่ถูก เพราะสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ เหตุการณ์ครั้งนั้นมีความรุนแรงที่ไปล้อมบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ  ทำลายข้าวของ  เวลานั้นนายนพดลก็ไม่เห็นออกมาบอกว่าจะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ  แต่กลับมาปูนบำเหน็จให้กับกลุ่มคนเหล่านั้น ให้ได้ดิบได้ดี มีตำแหน่ง ได้ลงสมัคร ส.ส. ทั้งๆ ที่ค้านสายตาคนในพรรคตัวเอง

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้นายนพดลมีความระมัดระวังคำพูดมากกว่านี้  เพราะจากประสบการณ์ของตน การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ มีความเป็นอิสระสูง ไม่ได้ขึ้นตรงกับพรรคประชาธิปัตย์   นอกจากนั้นแล้วพันธมิตรฯ ยังออกจะมองว่าพรรคประชาธิปัตย์หน่อมแน้มเกินไป ไม่ต่อต้านระบอบทักษิณอย่างเข้มข้นเท่าที่ควรด้วย   ส่วนกรณีที่นายสมเกียรติไปร่วมแถลงการณ์ด้วยก็เป็นภารกิจที่เขาได้ทำมาก่อนที่จะเข้าพรรคประชาธิปัตย์

"นายนพดลต้องปรับท่าทีให้ดีกว่านี้ อย่าไปโทษว่าใครร่วมมือกับใครจะต่อต้านระบอบทักษิณ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีเวทีในสภาอยู่แล้ว    ส่วนการเคลื่อนไหวบนท้องถนน  ก็เป็นหน้าที่ของภาคประชาชนที่จะทำ  ซึ่งคนที่ร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ  ก็อาจจะมีทุกฝ่าย ทุกพรรค แต่ไม่ใช่ว่าพรรคจะสั่งการได้  ที่ผ่านมา นพ.เหวง  โตจิราการ ก็เคยร่วมกับพันธมิตรฯ แต่วันนี้ก็เปลี่ยนไป ดังนั้นจะบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง" นายไกรศักดิ์กล่าว.



http://www.thaipost.net/index.asp?bk=sunday&post_date=9/Mar/2551&news_id=155547&cat_id=110100





ถ้าคนหนึ่งพูดอะไร'ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว'ได้....
รัฐบาลต่างประเทศ รัฐมนตรีต่างประเทศ นักข่าวต่างประเทศ และชาวต่างประเทศ
จะให้ความเชื่อถือคนพรรค์นี้ได้เหรอ..... Question


อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า ที่น่าแปลกของกลุ่มคือบางคนอยู่ในพรรคการเมืองใหญ่พรรคการเมืองหนึ่ง  ตนเลยไม่รู้ว่าเขาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างไร  ต้องขอเรียกร้องให้ทางแกนนำของพรรคที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจง เพราะตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งก็เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ไปลงสมัครเลือกตั้งกลับแล้วก็นึกว่าจะแยกกลุ่มจากกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังอยู่ เป็นทั้ง ส.ส.และแกนนำของกลุ่มพันธมิตรฯ ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น
.....

คนสวมหัวโขนสองใบไม่เข้าใจว่า สส.สมเกียรติดำเนินกิจกรรมการเมืองอย่างไร....
แต่เข้าใจทักษิณ จำเลยคดีทุจริตต่างๆของศาลยุติธรรมนั้น ไม่เล่นการเมืองแล้ว.....




เมื่อถามการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่หรือ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า   อ๋อชุมนุมได้ตามรัฐธรรมนูญ   แต่หมายถึงห้ามปฏิบัติละเมิดกฎหมายหรือนอกเหนือกฎหมาย  ทั้งนี้ การชุมนุมต้องสงบและปราศจากอาวุธ  แต่ถ้าทำอะไรที่เกินเลยกว่านั้นอย่างเช่นที่ผ่านมา   เช่น หมิ่นประมาทคนอื่น ด่าทอคนอื่น  และขณะเดียวกันที่มีการยึดอำนาจ  ก็ไปได้รับตำแหน่งจากการยึดอำนาจด้วยหลายคน และตอนนี้ก็มีอยู่ในวุฒิสภาด้วย.....

คนสวมหัวโขนสองใบ คิดว่าการเคลื่อนไหวของม๊อบสนามหลวง กลุ่ม นปก. ที่ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก่อกวนความไม่สงบหน้าบ้านประธานองคมนตรี เป็นการชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ......



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10-03-2008, 02:17 »

มันไม่เข้าใจว่า พันธมิตร ก็ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

ต่างชาติที่เป็นประชาธิปไตยนั้น ผมว่าเค้าชื่นชมการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนมากกว่า

คงไม่เชื่อแค่ฟังรมต.ต่างประเทศเท่านั้น
บันทึกการเข้า

Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #2 เมื่อ: 10-03-2008, 05:11 »

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่มประเทศไหนบ้างที่แสดงความกังวลต่อการออกมาของกลุ่มพันธมิตรฯ นายนพดลบอกว่า ไม่มี

ผมชอบประโยคนี้จังเลย มันค้านกับคำอ้างของตัวเองยังไงไม่รู้

บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 10-03-2008, 05:57 »

รัฐมนตรีต่างประเทศ คือผู้รักษาภาพพจน์ของประเทศ

การแสดงออกซึ่งความเป็นประชาธิปไตยของประชาชนย่อมได้รับความชื่นชม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แต่หากรัฐมนตรีต่างประเทศ ไปให้ความเห็นเชิงเผด็จการย่อมส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของประเทศชาตืโดยรวม

อาจถูกยื่นถอดถอนหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจได้ง่ายๆ
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 10-03-2008, 09:16 »

รัฐมนตรีต่างประเทศ คือผู้รักษาภาพพจน์ของประเทศ

การแสดงออกซึ่งความเป็นประชาธิปไตยของประชาชนย่อมได้รับความชื่นชม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แต่หากรัฐมนตรีต่างประเทศ ไปให้ความเห็นเชิงเผด็จการย่อมส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของประเทศชาตืโดยรวม

อาจถูกยื่นถอดถอนหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจได้ง่ายๆ




ภาพพจน์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไทย คือ
'โฆษก/ประชาสัมพันธ์/ทนายแก้ต่าง'ของจำเลยคดีทุจริตต่าง ๆของศาลยุติธรรม
ก่อนหน้านี้เคยหนี'หมายจับ' ของศาลฯด้วย.....


ชาวต่างชาติที่เชื่อถือ
น่าจะเป็นพวกรับจ้างโฆษณาชวนเชื่อ ปากเสียงให้จำเลยฯมากกว่า....


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 10-03-2008, 09:31 »

นปก. เคลื่อนไหว ชุมนุมอย่างสงบ คมช.และรัฐบาลขิงแก่ ที่ได้ชื่อว่าเผด็จการปล่อยผ่าน

แต่พันธมิตรแค่ออกมาออกแถลงการณ์ ทำไมรัฐบาลประชาธิปไตยตื่นเต้นขนาดนั้น

นี่คือความแตกต่าง ระหว่างประชาธิปไตยแต่ปาก หรือประชาธิปไตยโดยจิตใจด้วยการปฏิบัติให้เห็น

ภาพแห่งความแตกต่างนี้ ประชาชนที่ตาไม่มืดบอด ย่อมมองเห็นได้ไม่ยาก

ตกลงใครกันแน่ที่เป็นเผด็จการ
บันทึกการเข้า

meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 10-03-2008, 11:50 »

มาถึง ณ นาทีนี้น่าจะรู้สึกรู้สากันได้แล้วน๊ะว่า...รัฐบาลหมักจะหน่อมแน้มหรือว่าสวมบทโหดแลกเลือดกันแน่!?!  บทเรียนก่อน19ก.ย.2549สอนว่า จงอย่าอ่อนข้อให้อันธพาลเด็ดขาด แต่พึงระลึกเสมอว่าเมื่ออันธพาลขยับ...ตีหัวกบาลทันที!!

จ๊ะพูดได้ดีอีกแล้ว 5555

ดีๆ ชอบๆ อย่าช้า
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 10-03-2008, 12:10 »

มาถึง ณ นาทีนี้น่าจะรู้สึกรู้สากันได้แล้วน๊ะว่า...รัฐบาลหมักจะหน่อมแน้มหรือว่าสวมบทโหดแลกเลือดกันแน่!?!  บทเรียนก่อน19ก.ย.2549สอนว่า จงอย่าอ่อนข้อให้อันธพาลเด็ดขาด แต่พึงระลึกเสมอว่าเมื่ออันธพาลขยับ...ตีหัวกบาลทันที!!

เหมือนตีหัว นปก. ที่ไปทำซ่าหน้บ้านป๋าเหรอ อิ อิ
บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 10-03-2008, 18:52 »

พวกต่างชาติที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว เขาเข้าใจถึงสิทธิในการชุมนุมโดยสงบดี
มีแต่คนป่าคนเถื่อนบางพวกในประเทศไทยนี่แหละที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ต้องทำใจเพราะการศึกษาของไทยยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าที่ควร
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #9 เมื่อ: 11-03-2008, 00:42 »

พวกต่างชาติที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว เขาเข้าใจถึงสิทธิในการชุมนุมโดยสงบดี
มีแต่คนป่าคนเถื่อนบางพวกในประเทศไทยนี่แหละที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ต้องทำใจเพราะการศึกษาของไทยยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าที่ควร


บางคนอวดอ้างว่าผ่านการศึกษาจากประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตย ยังไม่เข้าใจเลย
ยังถือว่าพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว พรรคการเมือง และกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้านการรับร่างรัฐธรรมนูญ
เป็นกลุ่มนิยมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข....

คัดค้านรัฐธรรมนูญ........
แต่ส่ง'ตัวแทนเชิด'ลงสมัครรับเลือกตั้ง
ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับที่คัดค้าน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 11-03-2008, 02:48 »

ป๋าเงียบไป เพราะองค์กรอิสระทำงานเต็มสตีม

ฝ่ายค้านเข้มแข็งที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรค

ทั้งยุทธ์ ตู้เย็น จะเข็นพรรคลงเขา

คตส.ใช้อำนาจปปช. ฟ้องยก ครม.

111 ศพยังหาทางฟื้นไม่ได้

แล้วยังงี้จะให้ป๋าออกมาเต้นก๋าๆ อีกทำไม


ที่ดีดดิ้นหาแผ่นดินไม่เจอ ยังไม่รู้อีกเหรอ...นั่นแหละ ตายทั้งเป็น

อ.อุกฤษ นะเหรอ โถ...เลียไข่แม้วไปวันๆ มาพูดเรื่องยุบพรรคก็เน่าไปคราวที่แล้ว
บันทึกการเข้า

ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 11-03-2008, 10:54 »

รัฐบาลลิ่วล้อสมควรโดนไล่ออกไปแล้วล่ะ 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 13-03-2008, 15:23 »

สิทธิเสรีภาพประชาชน
บทบรรณาธิการไทยรัฐ [13 มี.ค. 51 - 16:58]

นักประชาธิปไตยหรือนักสิทธิมนุษยชน บางคนอาจจะตกใจ เมื่อได้ฟังคำประกาศกร้าว ของ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ระบุว่าการเคลื่อนไหว ทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ในสายตาต่างประเทศ พร้อมทั้งขู่ว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้ใครใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และ ไม่ยอมให้เอาประเทศเป็นตัวประกัน

ที่ตกใจไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ แต่ ตกใจเพราะเห็นรัฐมนตรีผู้จบการศึกษากฎหมาย จากประเทศแม่บทประชาธิปไตย ผู้ประกาศว่าภารกิจของตนคือ การฟื้นฟูภาพ ลักษณ์ของ ประเทศ แต่กลับออกมาแสดงความคิดเห็นที่สวนทางกับหลักการประชาธิปไตย และบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ไม่ทราบว่าประเทศไหน กลุ่มสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือว่ากลุ่มประเทศ ประชาธิปไตยใด ที่รัฐมนตรีต่างประเทศเป็นห่วงว่า จะมองประเทศไทยในด้านเสียหาย ถ้าหากกลุ่มประชาชนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง จนกระทบถึงภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายในโลก ย่อมจะมองการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง

ตรงกันข้าม ถ้ารัฐบาลของประเทศใดห้ามประชาชน ไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง ห้ามชุมนุม ห้ามแสดงความคิดเห็น และข่มขู่ว่าถ้าเคลื่อนไหว จะจัดการขั้นเด็ดขาด ประเทศ ประชาธิปไตยจะรังเกียจรัฐบาลแบบนี้ องค์กรสิทธิมนุษยชนหรือประชาธิปไตยของโลก ก็จะลด อันดับด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศนั้น ภาพลักษณ์ของประเทศจึงเสียหาย ดังที่ไทย เคย โดนใน 5-6 ปีที่ผ่านมา

แต่ประเทศเผด็จการอาจจะชื่นชมยินดี ถ้ามีประเทศใดห้ามประชาชนเคลื่อนไหว ทางการเมือง เพราะได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์เพิ่มขึ้น บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ที่ว่าด้วยสิทธ ิและเสรีภาพของประชาชน ไม่ได้ เขียนไว้เพียงเพื่อความเท่ แต่มุ่งหวังให้เป็นจริงในภาคปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม การรวมตัวเป็นกลุ่ม หรือการมีส่วน ร่วมทางการเมือง

ประชาธิปไตยมิใช่แค่การเลือกตั้ง เมื่อประชาชนกาบัตรและหย่อนบัตรเลือกตั้ง เสร็จก็เป็นอันจบกัน จากนั้นก็มอบอำนาจสิทธิขาดให้ผู้ชนะ สามารถใช้อำนาจได้ตาม อำเภอใจ รวมทั้งอำนาจในการปิดปากชาวบ้าน หรือห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะเห็นว่าเป็นสิ่ง ที่เลวร้าย ดังที่ในอดีตผู้ยิ่งใหญ่ทาง การเมืองในปัจจุบันบางคนเคยตราหน้า การเคลื่อนไหว ของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เป็น "แก๊งข้างถนน"

หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง ผู้ชนะได้เป็นรัฐบาล ผู้แพ้กลายเป็นฝ่ายค้าน แต่ทุกฝ่ายก็ยัง ทำหน้าที่ของตนต่อไป รวมทั้งประชาชน รัฐธรรมนูญปัจจุบันเขียนไว้ชัดเจน ว่ารัฐต้องส่งเสริม ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รัฐต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และการรวมตัว กันในลักษณะเครือข่าย.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics01&content=82154
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: