ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2025, 04:40
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ทักษิณกลับบ้านการเมืองไทยก็เริ่ม'ผิดปกติ'อีกครั้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ทักษิณกลับบ้านการเมืองไทยก็เริ่ม'ผิดปกติ'อีกครั้ง  (อ่าน 1827 ครั้ง)
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« เมื่อ: 27-02-2008, 17:31 »

ทักษิณกลับบ้านการเมืองไทยก็เริ่ม'ผิดปกติ'อีกครั้ง

27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 00:00:00

คุณทักษิณ ชินวัตร บอกผ่านคนเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศนพดล ปัทมะ ที่ไปหาที่ปักกิ่งว่ากลับเมืองไทยแล้วจะไม่เกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด แต่ขอเป็นพลเมือง "หน่อมแน้ม" คนหนึ่งเท่านั้น

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นั่นเป็น "สาร" ที่อดีตนายกฯ คนนี้ต้องการจะส่งถึงคนไทย แต่คนไทยสักกี่คนจะเชื่อตามนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

วิเคราะห์ตามความเป็นจริงของการเมืองแบบไทยๆ แล้ว ทันทีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ก้าวลงจากเครื่องบินกลับเมืองไทยวันพรุ่งนี้ การเมืองไทยก็จะเข้าสู่ "ภาวะไม่ปกติ" อีกครั้งหนึ่ง เหตุเพราะความร้อนรนที่คุณทักษิณ จะแสดงตนว่าเป็นผู้สามารถกำหนดชะตากรรมการเมืองของประเทศได้

ความไม่ปกติทางการเมืองคือการที่จะมีรัฐบาลซึ่งมีนายกรัฐมนตรีชื่อสมัคร สุนทรเวช อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลด้านหนึ่ง และจะมีคนที่สังคมเชื่อว่ามี "บารมีเหนือรัฐธรรมนูญ" ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งสามารถสั่งการเหนือรัฐบาลได้อีกคนหนึ่ง

ทั้งสื่อ และวงการเมืองจะส่องสปอตไลท์ไปที่กิจกรรมของคุณทักษิณ จนจะทำให้นายกฯที่ชื่อคุณสมัคร โดนกลบความสำคัญไป

จะจริงหรือไม่ก็ตาม ผู้คนก็จะเชื่อว่ามติสำคัญๆ ของรัฐบาลชุดนี้จะต้องมีการขอความเห็นชอบจากคนที่อยู่เหนือนายกรัฐมนตรีอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งก็จะมีผลทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดในกติกาการเมืองของประเทศชาติไม่น้อยเลย

ในทางปฏิบัติจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ไม่ทราบ แต่จะมีการอ้างโดยนักการเมือง และคนที่ต้องการฉวยโอกาสแห่งความสับสนนี้ เพื่อประโยชน์แห่งตนด้วยการอ้างว่าคุณทักษิณ ต้องการหรือไม่ต้องการเห็นนโยบายอะไรบางอย่างที่อาจจะไม่ตรงกับที่คุณสมัคร อยากจะเห็น

การโยกย้ายเจ้าหน้าที่สำคัญๆ ทางทหาร ตำรวจและข้าราชการพลเรือนที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ก็จะถูกตีความอีกว่าทำเพื่อจะเอาใจคุณทักษิณ มากกว่าจะเป็นเพราะหัวหน้ารัฐบาลต้องการทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ผู้คนก็จะ "วิ่งเต้น" กับคุณทักษิณ เพราะในรูปแบบของการเมืองไทยนั้น แม้คุณทักษิณจะอยู่เฉยๆ อย่างที่กล่าวอ้าง คนรอบข้างก็จะวิ่งจะเต้นเพื่อประโยชน์แห่งตน

เหตุเพราะคุณทักษิณมาปรากฏตัวให้ใกล้ชิดกับเวทีการเมืองเองนั่นแหละ

เห็นหรือเปล่าว่ายังไม่ทันที่อดีตนายกฯทักษิณจะกลับถึงบ้าน ก็มีการโยกย้ายบางตำแหน่งที่ทำให้เกิดคำถามถึงเรื่องความโปร่งใสและชอบธรรมแล้ว เช่นกรณีการย้ายอธิบดีกรมสืบสวนพิเศษหรือ DSI ที่มีหน้าที่โดยตรงในการตรวจหลายคดีที่เกี่ยวกับคุณทักษิณ

นักการทูตและนักลงทุนต่างประเทศก็จะทำตัวไม่ถูกว่าการพบปะกับนายกรัฐมนตรีของไทยนั้นจะต้องไปขอ "ไฟเขียว" จากอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ได้ขอร้องให้คุณสมัครตั้งพรรคพลังประชาชน เพื่อเอาคนของไทยรักไทยไปด้วยหรือไม่

คนต่างชาติจะงุนงงกับการเมืองไทยไม่น้อยไปกว่าคนไทยกันเอง เพราะจะมีภาพ "เงาใหญ่" ของคุณทักษิณทาบอยู่ข้างหลังคุณสมัคร

แม้คุณทักษิณกับคุณสมัครจะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีบทบาททับซ้อนกันอย่างไร ความเชื่อของคนจำนวนมากในเรื่องนี้ก็มิอาจจะลบล้างไปได้ง่ายๆ

และนี่ก็คือปัญหาของการบริหารบ้านเมืองที่มีความเหลื่อมกันระหว่างฐานอำนาจเพราะเกิดปรากฏการณ์ "เจ้าของพรรค" กับ "หัวหน้าพรรค" เป็นคนละคน

ยิ่งคนเป็นเจ้าของพรรคมีปัญหาถูกฟ้องร้องหลายคดี และคนในรัฐบาลแสดงออกนอกหน้าว่าพยายามจะปกป้องช่วยเหลือเจือจานด้วยวิธีการต่างๆ ก็ยิ่งทำให้คนที่เป็นหัวหน้าพรรคที่ต้องทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลซึ่งจะต้องมี "ธรรมาภิบาล" และ "ความชอบธรรม" สูงด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกิดความสลับซับซ้อนแห่งอำนาจรัฐขึ้นมาอย่างที่กำลังจะเห็นชัดขึ้น

ความจริง คุณทักษิณควรจะกลับมาสู้คดีตามที่ถูกฟ้องร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราวก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็เลือกที่จะ "รอจังหวะ" ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ตนมากกว่าที่จะแสดงความชัดเจนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง

เดิมที่ประกาศผ่านหลายคนว่าจะกลับมาสู้คดีเดือนพฤษภาคม บัดนี้เร่งร้อนพิเศษที่จะกลับมาปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม จึงทำให้เกิดภาวะไม่ปกติทางการเมืองที่รังแต่จะสร้างความงุนงงให้กับบรรยากาศการเมืองของประเทศ

ความจริง หากคุณทักษิณใจเย็นกว่านี้ รอให้รัฐบาลคุณสมัครเริ่มทำงานที่เกี่ยวกับประชาชนสักระยะหนึ่ง พิสูจน์ความเป็นตัวของตัวเองในระดับหนึ่ง ก็จะดูมีความชอบธรรมกว่านี้

แต่เมื่ออดีตนายกฯ คนนี้ตัดสินใจ (จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม) เร่งวันคืนที่จะกลับมา ก็จะทำให้รัฐบาลนี้ตกอยู่ในฐานะลำบาก ก็ยังไม่ทันที่จะตั้งตัวแสดงฝีไม้ลายมือว่าจะทำเพื่อประเทศชาติอย่างไร ก็จะถูกกระแสของคุณทักษิณบังคับให้เกิดภาพว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้กำลังทำงานทั้งหมดเพื่อคนคนเดียวเท่านั้น...

การเมืองที่ควรจะกลับสู่ภาวะปกติหลังการเลือกตั้งก็จะย้อนกลับไปสู่ความไม่ปกติอีกครั้งแล้ว

---------------------------เอ้า ดูละครลิง  ละครเฮี้ย  กัน  ไม่ดูก็ไม่ได้  เจือกหน้าด้านเล่นกันกลางกรุง  ฮ่วย

 



บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 27-02-2008, 17:59 »

มีผู้วิเคราะห์กันว่า การที่ทักษิณต้องรีบบินด่วนกลับไทย เป็นเพราะการคุมอำนาจรัฐ ไม่สะดวกราบรื่นตามประสงค์ ซึ่งสำคัญมากกับการอยู่รอดของตนเอง จึงจำเป็นต้องเสี่ยงกลับมาคุมเกมส์เอง เนื่องจากนายกนอมินี ออกอาการไม่อยู่ในคำสั่ง

การกลับมานั้นเพื่อกดดันนายกนอมินี และจัดกระบวนทัพเองอย่างใกล้ชิด ซึ่งฟังแล้วก็ดูน่าแปลกใจมาก เพราะลิ่วล้อในพรรคที่อยู่ในโอวาทมีจำนวนมาก รัฐมนตรีเกือบทั้งหมดก็จัดตั้งตามบัญชาจากแดนไกล จะมีบางตำแหน่งที่โยกย้ายสับเปลี่ยนกันบ้าง แต่ก็ดูๆไปแล้วไม่เห็นจะน่ามีอะไร การรออีกสักระยะ เพื่อให้รัฐบาลอยู่ตัว จัดกลไกข้าราชการเรียบร้อย ไม่น่าจะมีปัญหา

ดังนั้นการรีบกลับมา แสดงให้เห็นว่า มันมีปัญหา

เงื่อนเวลานั้น สำคัญที่สุดในการดำเนินงานทางการเมือง ตัวอย่างที่ผ่านมาก็เห็นว่า ทักษิณใช้เงื่อนเวลาได้เก่งกาจ กะจังหวะโดยอาศัยเวลาได้ดีเยี่ยม แต่การกลับมาในคราวนี้ ผิดจังหวะ ผิดเงื่อนเวลา

มีผู้วิเคราะห์แผนการไว้ในสื่อมวลชนบางฉบับ ดังจะยกมาให้อ่านกันดังนี้

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=21528&catid=25

อ้างถึง
เบื้องลึก'แม้วคัมแบ๊ค' จองจำ'สมัคร' ปลดปล่อย'จำเลย คตส.'


...นอกจากการกลับเข้าประเทศเพื่อเคลียร์เรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นใน พปช.แล้ว 'ทักษิณ' ยังเตรียมแผนเคลียร์ตัวเองจากการตกเป็นผู้ต้องหา และผู้ถูกกล่าวหาในคดีต่างๆ....


สัญญาณในการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของ 'พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี แรงชัดขึ้นตามลำดับ เมื่อกระบอกเสียงเบอร์ 1 อย่างเว็บไซต์ ไฮ-ทักษิณ ออกมาระบุว่า 'ผู้นำพเนจร' จะกลับบ้านเกิดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังรอนแรมอยู่ต่างแดน 1 ปี 5 เดือน

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า คิวนี้เจอ 'โรคร่น' เข้ามาถึง 3 เดือน

เพราะตามตารางเดิม 'ทักษิณ' มีแผนเดินทางกลับเข้าประเทศในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2551 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่เขามองว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แล้ว

แม้ขณะนี้จะยังไม่มีใครออกมาให้นิยามคำว่า 'ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์' ในความหมายของ 'ทักษิณ' แต่ปรากฏการณ์ 'แม้วคัมแบ๊ค' ได้นำมาสู่คำถามถึง 'เบื้องลึก' ที่ทำให้อดีตนายกฯ กลับเข้าประเทศแบบปัจจุบันทันด่วน

ขณะเดียวกันคำยืนยันผ่านปาก 'นพดล ปัทมะ' รมว.ต่างประเทศ อดีตกุนซือกฎหมายคู่ใจ ที่ว่า 'ทักษิณ' จะยุติบทบาททางการเมือง ขอเป็นคน 'หน่อมแน้ม' กลับไร้น้ำหนักอย่างยิ่ง

เพราะในความเป็นจริง ทั้งคนใน-คนนอกพรรคพลังประชาชน (พปช.) ต่างรู้ดีว่ามีปัญหาใหญ่รอให้ 'ตัวจริง' มาสะสาง..?

ต้องยอมรับว่า 6 เดือน ของการทำหน้าที่หัวหน้า พปช. 'สมัคร สุนทรเวช' บริหารแบบไม่บริหาร

ปล่อยให้กลเกมทุกอย่างดำเนินไปตามกลไกที่กำหนดโดยคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทั้งที่ในสภาพความเป็นจริง บรรดาบุคคลที่อ้างตัวเป็นแกนนำ พปช. ล้วนอยู่ในสภาพ 'ตัวเท่ากันหมด' ต่างฝ่ายต่างพยายามเบ่งบารมีใส่กัน ไม่มีใครยอมใคร

จึงไม่แปลกอะไร หากจะปรากฏข่าวคน พปช. ซัดกันนัว เพื่อแย่งเก้าอี้ตัวสำคัญทั้งในรัฐบาลและรัฐสภา โดยที่ 'สมัคร' ได้แต่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ไม่ยอมใช้อำนาจในฐานะหัวหน้าพรรคเข้าควบคุม

ลูกพรรค พปช. บางคนเย้ยหยันว่า ความถนัดด้านเดียวของ 'สมัคร' ที่ถูกขุดขึ้นมาใช้หลังดำรงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 25 คือการพรรณนาโวหารเพื่อพร่ำบอกฝีมือในการปรุงอาหารของตน และการเดินตลาดเพื่อเลือกสรรของสดไปทำกับข้าว แทนที่จะออกเดินสายพบปะและขอบคุณประชาชนใน 'จังหวัด พปช.'

ไม่มีครั้งใดเลยที่ 'สมัคร' จะแสดงให้เห็นว่า เขากำลังทำเพื่อ 'ทักษิณ' ทั้งที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าการทำเพื่อ 'ทักษิณ' เท่ากับทำเพื่อ พปช. เพราะมี 'ทักษิณ' จึงมี พปช.

ตรงนี้ทำให้ 'หัวหน้าพรรคนอมินี' มิอาจครองใจสมาชิกพรรค พปช. ได้

มิหนำซ้ำ 'สมัคร' ซึ่งยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสรรพสิ่ง ยังหนีบเอา 'สหายเก่า' อย่าง 'ธีรพล นพรัมภา' เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ 'สหัส บัณฑิตกุล' รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาร่วมงานในรัฐบาล ว่ากันว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญของ 'สมัคร' จะต้องเอาคนหนึ่งคนใดมาเป็นคู่คิดด้วย

แต่ในขณะเดียวกัน 'คนในวงสมัคร' ได้ทำให้ระยะห่างระหว่างหัวหน้าพรรคกับลูกพรรค มีเพิ่มมากขึ้น

ในระยะหลังมานี้ ข้อครหาเรื่อง 'สมัครเป็นตัวของตัวเอง' น่าจะดังเข้าหูผู้ถูกนินทาอยู่บ้าง

'สมัคร' จึงพยายามดึงเอา 'คนพันธุ์เดียวกัน' มาเป็นพวก

ดังจะเห็นได้จากการที่เขาออกหน้าแทน 'ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง' รมว.มหาดไทย กรณีถูกสังคมวิจารณ์เรื่องการยัดชื่อ 'วัน อยู่บำรุง' เข้ามาไว้ในโผ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.สาธารณสุข

เนื่องจากทั้งคู่เป็นพวกหัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนกัน และยังมีลักษณะเฉพาะตัวเหมือนกัน

ประมาณว่า 'น้าหมัก' รักแมวอย่างไร 'น้าเหลิม' ก็รักลูกอย่างนั้น..?

แต่ท้ายที่สุดการที่ 'สมัคร' ตั้งการ์ดสูง-ไม่มุ่งทำงานเพื่อ 'พรรคทักษิณ' ได้ทำให้หลายปัญหาที่ควรจบในพรรค จบไม่ลง บ่อยครั้งที่เรื่องขี้ผงต้องปลิวไปสะกิดใจ 'ทักษิณ' ถึงฮ่องกง และก็หลายคราที่การแก้เกมจากนอกประเทศไม่ได้ผล เนื่องจากถูก 'สมัคร' แข็งขืน และใช้อำนาจโดยตำแหน่งย้อนศรเข้าไป

การเดินทางกลับเข้าประเทศของ 'ทักษิณ' เพื่อจัดการปัญหา พปช. ในระยะเฉพาะหน้า จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

สำหรับ 'ปฏิทินการเมือง' ที่ถูก 'มือที่มองไม่เห็น' กำหนดไว้คร่าวๆ มีดังนี้

เดือนสิงหาคม (6 เดือนหลังตั้งรัฐบาล) เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 อย่างเต็มสูบ โดยเน้นเฉือนมาตราสกัด 'เด็กนายใหญ่' และกีดกันการเติบโตของ 'พรรคทักษิณ'

เดือนตุลาคม (8 เดือนหลังตั้งรัฐบาล) เริ่มจัดโผ-ปรับ ครม. 'สมัคร 2' โดยเน้นเขี่ยรัฐมนตรีขี้เหร่ออกจากรัฐบาล แล้วดันคนหน้าตาดีกว่าเข้ามาเสียบแทน พร้อมกันนั้นจะถือโอกาสวัดใจ 'สมัคร' ด้วยว่าคิดและเริ่มผลิตงานเข้าคลังผลงาน พปช. หรือไม่อย่างไร

งานนี้หาก 'นอมินี' ยังทำตัวฝืด ก็มีโอกาสชะตาขาดรับปีใหม่ 2552 โดยประเดิมลงโทษด้วยการทวงเก้าอี้หัวหน้าพรรค 233 เสียงคืนจาก 'สมัคร' ก่อนหาคนที่ 'เถ้าแก่' พยักหน้ารับขึ้นไปเชิดแทน

อย่างไรก็ตาม นอกจากการกลับเข้าประเทศเพื่อเคลียร์เรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นใน พปช.แล้ว 'ทักษิณ' ยังเตรียมแผนเคลียร์ตัวเองจากการตกเป็นผู้ต้องหา และผู้ถูกกล่าวหาในคดีต่างๆ จากฝีมือสืบสวน-สอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)

ในระยะแรก 'จำเลยแม้ว' จะไม่ทำอะไร นอกจากเข้ามอบตัวสู้คดีแล้วขอประกันตัว พร้อมปล่อยให้ คตส.ทำหน้าที่ต่อไปจนสิ้นอายุขัยในเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าในช่วงนั้น คดีที่มีชื่อ 'ทักษิณ' ปรากฏในบัญชีจำเลย น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว

ในเดือนมิถุนายนอีกเช่นกัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ จะเริ่มทำหน้าที่ เนื่องจากมาตรา 300 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดให้มีการแต่งตั้งตุลาการฯ ชุดใหม่ภายใน 150 วันนับจากมีประธานสภา

นั่นหมายความว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญชุด 'พิฆาตไทยรักไทย' หมดสภาพลงแล้ว

'ทักษิณกับพวก' ก็จะอาศัยจังหวะ 'ฟ้าเปลี่ยนสี' ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ เพื่อขอให้ตีความประเด็นความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญของ คตส.

ซึ่งทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญประทับรับคำร้อง ศาลฎีกาก็จำต้องหยุดพิจารณาคดีความต่างๆ ทันที


ตรงนี้น่าจะเป็นที่มาของคำว่า 'ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์' ในความหมาย 'ทักษิณ'

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลเบื้องลึกที่นำมาสู่การตัดสินใจกลับเข้าประเทศของ 'พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร'!!!


เมื่ออ่านการวิเคราะห์แล้ว จะเห็นได้ว่ามันผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง การเอาตัวรอดของทักษิณ ขึ้นอยู่กับการรอ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ เพื่อจะส่งเรื่องตีความสภาพของ คตส. ซึ่งหวังว่า ตุลาการชุดใหม่จะไม่ใช่ชุด  'พิฆาตไทยรักไทย'  อย่างที่บทความกล่าว นี่เป็นหนทางรอดหนทางเดียวเท่านั้น

แต่.....

เมื่อผู้วิเคราะห์ข่าวทราบ ทำไมหรือคนอื่นจะไม่ทราบ การยื่นขอตีความสภาพของ คตส.นั้น จึงอยู่ในภาวะเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้ามีผู้ยื่นขอตีความก่อน โดยให้ตุลาการรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัญเป็นผู้ตีความ อะไรจะเกิดขึ้น  เสี่ยงอย่างมาก แผนการนี้หละหลวมเกินไป

อีกทั้งการจัดการกับนายกนอมินี ไม่ง่ายดังที่คิด เพราะหากมีการขัดแย้งกันจริง การจะนำนายกนอมินีลงจากเก้าอี้ จะทำได้อย่างไร  หากบีบคั้นกันถึงที่สุด ผลอาจจะออกมาด้วยการยุบสภา และเลือกตั้งกันใหม่โดยมีนายกนอมินีรักษาการ เงื่อนเวลานี้ บวกกับระยะเวลาก่อนแตกหัก อาจนานถึงครึ่งปี และไม่แน่ด้วยว่า ผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างที่ทักษิณคิด แผนการนี้หละหลวมเกินไป

ระยะเวลาหกเดือนจากนี้ หากคดีเดินหน้าไปเรื่อยๆ ก็อาจจะใกล้เวลาตัดสินแล้ว

ฝุ่นตลบทางการเมืองคราวนี้ การเมืองไทยผิดปกติแน่นอนค่ะ ผลจะออกมาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดก็ได้นะคะ รอดูกันต่อไป 
บันทึกการเข้า
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #2 เมื่อ: 27-02-2008, 18:15 »

อ่านแล้วล่ะ  ตรงที่ว่า

ในเดือนมิถุนายนอีกเช่นกัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ จะเริ่มทำหน้าที่ เนื่องจากมาตรา 300 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดให้มีการแต่งตั้งตุลาการฯ ชุดใหม่ภายใน 150 วันนับจากมีประธานสภา

นั่นหมายความว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญชุด 'พิฆาตไทยรักไทย' หมดสภาพลงแล้ว

'ทักษิณกับพวก' ก็จะอาศัยจังหวะ 'ฟ้าเปลี่ยนสี' ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ เพื่อขอให้ตีความประเด็นความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญของ คตส.

ซึ่งทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญประทับรับคำร้อง ศาลฎีกาก็จำต้องหยุดพิจารณาคดีความต่างๆ ทันที
-----------------------------------------

เหมือนฝีมือเนติบริกร หาช่องโหว่ ก.ม. แบบเดิม ๆๆ   เหมือนซุกหุ้นภาค ๑ 

หลักรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ปล่อยข่าวออกมา  คนวิจารณ์กันไป  แล้วก็ เอวังประทศไทย

ดีที่มี คำแถลงการร์ของคุณประเสริฐ นาสกุล  ปรากฏในราชกิจจา เลยหาอ่านกันได้  และเป็นแนวคิด หลักคิด ในเรื่อง
การเข้ามาเป้นนายก  ..... ประโยคสุดท้าย  ...  แล้ว เีฮี้ยแม้ว  ก็ต้องเดือดร้อน....

แต่มันก็ทำเอาประเทศไทย  กลายเป้น ลูกฟุตบอล ที่มันซื้อมา  คนไทย ลิ่วล้อ ก็เล่นไปกับมัน

น่ารังงเกียจ มาก คน ๆๆๆ นี้ ตระกูลนี้ ทำให้ทุกองคาพยพบิดเบี้ยวหมด ศาสนา สังคม การเมือง ก.ม. การศึกษา 
วิปริตหมด  เพื่อ มันจะได้พ้นผิด  เฮี้ยจริง ๆๆๆๆ

ดูละคร เฮี้ย กันไป
 

คราวนี้ก็หาจังหวะหยุดการพิจารณาคดี ด้วยการ ฟ้อง คตส
บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
หน้า: [1]
    กระโดดไป: