ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
10-04-2025, 12:21
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ชายคาพักใจ  |  เมืองไทยพร้อมหรือยังกับ พืช จีเอ็มโอ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
เมืองไทยพร้อมหรือยังกับ พืช จีเอ็มโอ  (อ่าน 11970 ครั้ง)
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 17-01-2008, 20:11 »


มาถึงตรงนี้ ไวรัสวิทยา นาสนใจไม่น้อย...

ไวรัส ไวลอย วัยร้อน ไวร์เลส..

มันผ่าเหล่าไปถึงไหนแล้ว..

ขอเชิญผู้รู้เล่าแจ้งหน่อยครับ อะไรผ่าเหล่าได้บ้าง..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #51 เมื่อ: 17-01-2008, 20:21 »


อ่านข่าวแล้วฟังหูไว้หูนะครับ http://www.thaiday.com/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9470000064323

เตือนภัย 7 ไวรัสสายพันธุ์นรก แค่ 10 ปี กลายพันธุ์เป็นร้อย
 
โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 8 ตุลาคม 2547 15:42 น.
 
 
       สาธารณสุขเผยวิกฤตหวัดนก คือ ส่วนหนึ่งของไวรัสกลายพันธุ์ ชี้มีไวรัสอันตรายอีกนับสิบที่พร้อมจะพัฒนาสายพันธุ์ไปถึงระดับที่ควบคุมโรคไม่ได้ ย้ำเอดส์คือหนึ่งตัวอย่างไวรัสกลายพันธุ์ ที่อีก 5 ปี จะดื้อยาเกินกว่าจะรักษาหายได้
       เมื่อความเจริญกลายเป็นพาหะของเชื้อโรค ที่สามารถถ่ายเทไปในทุกส่วนของโลกได้เพียงพริบตา 10 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อที่เกิดขึ้นใหม่ หรือที่นักวิชาการเรียกกันว่าเป็นกลุ่มโรคติดเชื้ออุบัติใหม่
       หรือโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ (Emer ging and Re-emerging Infectious Diseases) กำลังกลายเป็นภัยคุกคามพลโลกอย่างน่าสะพรึงกลัว
       
       ไวรัสกลายพันธุ์
       พัฒนาสู่ระดับวิกฤต
       การกลับมาระบาดของโรคไข้หวัดนก (Influenza H5N1) รอบสอง ที่แพร่กระจายเชื้อไปกว่า 17 จังหวัด 33 พื้นที่ จนเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับไข้หวัดนก พร้อมสั่งเอกซเรย์ทั้งประเทศ
       เกี่ยวกับเรื่องมหันตภัยไวรัสกลายพันธุ์นี้ น.พ."สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เลขาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ "เผยว่า นี่ไม่ใช่เป็นเสียงเตือนแรกของเชื้อโรค
       ความจริงในโลกนี้ยังมีเชื้อไวรัสกลายพันธุ์อีกมากมาย ที่กำลังพัฒนาสายพันธุ์ตัวเองเพื่อให้ตัวมันเข้มแข็งพอที่จะกวาดล้าง และครอบครองโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จ
       ซึ่งจากการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดของนักไวรัสวิทยา ทำให้ทราบว่าแนวโน้ม 7 ไวรัสที่กำลังจะกลายพันธุ์จนถึงขั้นมหันตภัยต่อมนุษย์โลก ได้แก่ 1.โรคเอดส์ 2.ไวรัสตับอักเสบบี 3.ไวรัสตับอักเสบซี 4. โรคมือเท้าปาก (Hand Foot Mouth, HFM) 5.ไข้เลือดออก (Denque hemorrhagic fever) 6.โรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS) และโรคไข้หวัดใหญ่สัตว์ปีก (Avian Influenza) หรือโรคไข้หวัดนก (Bird Flu) ที่กำลังคุกคามเมืองไทยอยู่ขณะนี้
       น.พ.สมศักดิ์ เผยต่อว่า อันตรายจากเชื้อไวรัสแต่ละตัวจะแตกต่างกันไป อย่าง โรคเอดส์ ซึ่งเป็นโรคที่สังคมรู้จักกันดี แต่ ณ วันนี้กลับมีแนวโน้มเชื้อดื้อยามากขึ้นอย่างน่าตกใจ
       และเป็นไปได้ว่า อีกประมาณ 2-5 ปีข้างหน้า "ยาหยุดการเจริญเติบโตเหล่านี้อาจใช้ไม่ได้กับผู้ป่วยต่อไป นั่นหมายความว่า ผู้ติดเชื้อจะไม่มีตัวยารักษา และจะต้องเผชิญกับเชื้อดังกล่าวอย่างสิ้นหวัง
       กรณีของโรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B Virus Pathogenesis) และไวรัสตับอักเสบซี นั้น ความน่ากลัวของไวรัสสองตัวนี้ อยู่ที่ภาวะการแทรกซ้อนที่จะตามมา
       จากการสังเกต และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดของ "นักไวรัสวิทยา ทำให้ทราบว่า นอกจากไวรัสตับอักเสบจะรุนแรงเพิ่มขึ้นแล้ว พวกเขายังพบโรคไวรัสตับอักเสบตัวใหม่ๆ อีกมากมาย
       จากเดิมที่พบแค่ไวรัสตับอักเสบเอ และบี วันนี้ มีไวรัสตับอักเสบเพิ่มขึ้นอีก 4 สายพันธุ์ คือซี ดี อี และ จี ซึ่งความจริงไม่มีใครตอบได้แน่นอนว่า มันเกิดจากการกลายพันธุ์หรือเปล่า
       แต่ที่ยืนยันได้แน่นอนว่า ทุกครั้งที่พบไวรัสตัวใหม่ๆ ย่อมเกิดความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์มหาศาล
       และปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี มากกว่า 350 ล้านคนทั่วโลก ในประเทศไทยคาดว่ามีประชากรการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง และเป็นสาเหตุสำคัญของตับแข็ง และมะเร็งตับสูงถึง 5%
       และปัญหาโรคไวรัสตับอักเสบซี ก็กำลังเป็นปัญหาหนักใจของกระทรวงสาธารณสุขที่สำคัญอีกโรคหนึ่ง เพราะปัจจุบันประชากรไทย พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 ล้านคน
       ส่วนความน่ากลัวของโรคมือเท้าปาก (Hand Foot Mouth, HFM) ที่เกิดจากเชื้อ Enterovirus 71 ซึ่งเป็นโรคที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นเคยนัก แต่จากการเฝ้าระวังโรคดังกล่าวอย่างใกล้ชิดทำให้ทราบว่า มีภาวะโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นอย่างกลัว
       ทั้งที่รหัสพันธุกรรมยังเป็นตัวเดิม แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าอะไรเป็นตัวทำให้เชื้อดังกล่าวดุขึ้น ส่วนโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากไวรัส Denque virus จากเดิมที่พบกลุ่มผู้ป่วยที่อาการรุนแรงเป็นเด็กเสียใหญ่ ปัจจุบันกลับพบว่า แม้ในตัวผู้ใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแรง ก็มีอาการรุนแรงขึ้นจากเดิมมาก
       
       ซาร์ส : มหันตภัยคร่าชีวิต
       แต่กรณีของมหันตภัยโรคซาร์สนั้น แม้นักวิทยา ศาสตร์จะพบความแตกต่างจากพันธุกรรมเดิม จนแยกแยะได้ และจัดอยู่ในกลุ่มโรคอุบัติใหม่ก็ตาม
       แต่ก็ไม่ยืนยันว่าซาร์สเป็นโรคที่กลายพันธุ์หรือไวรัสผ่าเหล่า ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของยีนส์ได้อย่างรวดเร็ว
       นอกจากนี้เลขาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ ยังกล่าวเสริมเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของนักไวรัสวิทยายืนยันว่า ในแต่ละปีจะมีไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดใหม่ๆ แพร่ระบาดจากภูมิภาคตะวันออกไกลไปยังยุโรป ในช่วงเดือนธันวาคมและมีนาคมของทุกปีอีกด้วย
       ขณะที่ ศ.นายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ด้านไวรัสวิทยา กล่าวสรุปผลการนำเชื้อไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1 จากประเทศไทยไปทดลองที่ประเทศฮอลแลนด์ กับแมวทั้ง 3 ตัว ณ ศูนย์อิมแพค เมืองทองธานี ว่า
       ผลจากการทดลองกับแมวตัวแรก ซึ่งเป็นการฉีดเข้าทางร่างกาย ตัวที่สองใช้เชื้อป้ายที่จมูก ตัวที่สามใส่กรงไว้ใกล้ๆ กับสองตัวแรก ภายในห้องเดียวกัน ปรากฏว่ามีการติดเชื้อหมดทั้ง 3 ตัว
       ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลกยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้ประเทศไทยยังปล่อยให้เชื้อไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1 อยู่ในธรรมชาตินานเกินไป ซึ่งถ้าหากเชื้อไปรวมเข้ากับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในคน คือ เอช 3 เอ็น 2 โอกาสที่จะมีการผสมพันธุ์และกลายพันธุ์มีสูงมาก ซึ่งทั่วโลกก็กำลังเฝ้าจับตาดูเรื่องนี้อยู่
       โดยเฉพาะไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ว่าจะเริ่มต้นระบาดจากตรงไหนก่อน แต่ยืนยันได้ว่าอีกไม่เกิน 5 ปีจะมีการระเบิดครั้งใหญ่แน่นอน และถ้าจะรอวัคซีนอาจจะไม่ทันกาล เพราะโดยปกติแล้ววัคซีนมักจะผลิตได้หลังการระบาดของโรคแล้วถึง 2 ปี
       ทั้งนี้ นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ รองผู้อำนวยการกลุ่มวิจัย และพัฒนาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติกล่าวว่า ในวงการการแพทย์ทั่วโลกต่างหวั่นกันว่าอนาคตอันใกล้นี้โรคระบาดบางอย่างจะเกิดขึ้น
       เช่น กรณีเชื้อนิปปาห์ไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคสมองอักเสบในหมูที่ประเทศมาเลเซีย ขณะนี้มีการพบในไทยที่จังหวัดราชบุรีแล้ว นั่นรวมถึงไวรัสเวสต์ไนน์ ที่มียุงเป็นพาหะ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะมาระบาดในทวีปเอเชีย
       ที่เป็นห่วงก็คือการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งต่างประเทศพยากรณ์ว่า จะทำให้คนเสียชีวิตจากการระบาดครั้งใหม่นี้ถึง 100 ล้านคนทั่วโลก
       และเชื้อที่ระบาดใหม่นี้จะเป็นเชื้อที่มีโครงสร้างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จะต้องมีการเตรียมพร้อมในด้านต่าง ๆ ไว้ให้ดี โดยเฉพาะเรื่องวัคซีน หากเกิดการระบาดใหญ่ทุกประเทศจะต้องมีการสั่งซื้อวัคซีน แต่บริษัทที่จะผลิตวัคซีนมีเพียงไม่กี่แห่ง
       
       สาเหตุของการผ่าเหล่า
       น.พ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เลขาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ เผยถึงสาเหตุของการผ่าเหล่าของไวรัสนรก ว่ามีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน เพราะมันเป็นคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว ที่ต้องการปรับตัวเองเพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ได้
       นอกจากนี้สภาวะแวดล้อม หรือสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรเปลี่ยนไป ก็มีผลทำให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ เ ช่นกัน ส่วนสารเคมี หรือยา ก็เป็นอีกสาเหตุที่กระตุ้นให้ไวรัสเพิ่มภูมิต้านทานให้กับตัวมันเองด้วย
       ซึ่งการวิจัยการให้ยาต้านไวรัสกลุ่มเดียวกับที่ให้กับผู้ติดเชื้อเอดส์กับคนไข้ซาร์ส พบว่ายาบางตัวได้ผลดี แต่สำหรับไข้หวัดนกแม้จะได้ผลแต่ก็มีอัตราการดื้อยาสูง ในญี่ปุ่นมีการให้ยาโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วยทุกราย กลับพบว่ายาที่ดีที่สุดขณะนี้มีเปอร์เซ็นต์การดื้อยาสูงถึง 27 เปอร์เซ็นต์
       ขณะที่นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ รองผู้อำนวยการกลุ่มวิจัย และพัฒนาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การกินพิสดารต่างๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เช่น ซาร์สแหล่งรังโรค ก็คือชะมด ซึ่งคนจีนชอบนำมากินเป็นยาโป๊ เป็นต้น
       
       แนวทางการแก้ไข
       นายแพทย์ คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พูดถึงแนวทางในการแก้ไขว่า มนุษย์คงทำได้แค่เพียงการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ควบคุม และจัดการกับโรคดังกล่าวได้อย่างทันท่วงทีเท่านั้น
       อย่างกรณีของไข้หวัดนกเราก็ต้องทำการตัดวงจรของโรคโดยเร็ว เช่นการฆ่าไก่ที่ติดเชื้อ และห้ามการเคลื่อนย้ายสัตว์ที่ติดเชื้อออกจากพื้นที่ ซึ่งเรื่องทางสำนักระบาดวิทยาโดยกระทรวงสาธารณสุขก็ทำการเฝ้าระวังเข้มงวดขึ้น
       และเป็นไปได้ว่าการระบาดครอบคลุม ทุกพื้นที่ในวันนี้เราอาจไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ ที่สุดแล้วเชื้อไข้หวัดนกอาจเป็นเชื้อประจำถิ่น ที่ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
       
       เผยรายชื่อ 7 ไวรัส
       โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเอดส์ HIV พบครั้งแรกที่ประเทศอเมริกา เมื่อปี 2524 พบเชื้อในประเทศไทย เมื่อปี 2527 ปัจจุบันมีผู้ป่วยในประเทศไทย335,105ราย เสียชีวิต 76,476 ราย
       ไวรัสตับอักเสบ B (Hepatitis B Virus Pathogenesis) ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี มากกว่า 350 ล้านคนทั่วโลก
       ไวรัสตับอักเสบซี ประเทศไทย มีจำนวนผู้ป่วยประมาณ 1.2 ล้านคน
       โรคมือเท้าปาก ปาก (Hand Foot Mouth, HFM) ที่เกิดจากเชื้อ Enterovirus พบการระบาดในประเทศไทย เมื่อปี 2544-2545 มีจำนวนผู้ป่วย5,036 ราย เสียชีวิต 2 ราย
       ไข้เลือดออก (Denque hemorrhagic fever) เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อ Denque virus
       โรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS) ต้นกำเนิดของโรคองค์การอนามัยโลกระบุว่า พบเชื้อที่เมืองกวางตุ้งของจีน ก่อนข้ามไปยังเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นที่ที่เหยื่อรายแรกได้ติดเชื้อก่อนเดินทางกลับไปเวียดนาม สิงคโปร์ แคนาดา และหลังจากนั้น ก็แพร่ระบาดไปทั่วโลก
       โรคไข้หวัดใหญ่สัตว์ปีก (Avian Influenza) หรือโรคไข้หวัดนก (Bird Flu) พบครั้งแรกที่ประเทศอิตาลีเมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว พบระบาดครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปลายปี 2546 จนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิต ทั้งหมด 11 ราย

 
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #52 เมื่อ: 17-01-2008, 20:24 »

อ่านข่าวแล้วฟังหูไว้หูนะครับ http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=6/Oct/2550&news_id=149212&cat_id=800


6 ตุลาคม 2550    กองบรรณาธิการ

วิจัยพบหวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ได้กลายพันธุ์แล้ว ทำให้ผู้คนติดเชื้อง่ายขึ้น แต่โชคดียังไม่ไปไกลถึงขั้นระบาดจากคนสู่คน


ดร.โยชิฮิโร   คาวาโอกะ  แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน  เผยว่า คณะนักวิจัยได้ตรวจพบการผ่าเหล่าของไวรัสสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1  ซึ่งทำให้เชื้อหวัดนกชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ในทางเดินหายใจส่วนบนของมนุษย์ นับเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าวิตก

เขาบอกว่า  ไวรัสสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ในแอฟริกาและยุโรปนั้นเป็นพวกที่มีแนวโน้มสูงที่สุดที่จะกลายเป็นไวรัสในคน  และว่าตัวอย่างไวรัสที่ได้จากนกในแอฟริกาและยุโรปล้วนมีการกลายพันธุ์  รายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร PLos Pathogens

ไวรัสหวัดนกสายพันธุ์  เอช 5 เอ็น 1 ซึ่งส่วนใหญ่แพร่ระบาดในนก ได้ทำให้ประชาชนติดเชื้อมาแล้ว  329  รายใน  12  ประเทศนับแต่ปี  2546  ในจำนวนนี้เสียชีวิต 201 ราย เชื้อชนิดนี้แทบไม่ได้แพร่จากคนสู่คน แต่หากมีการกลายพันธุ์จนสามารถแพร่ในหมู่มนุษย์ง่ายขึ้น ก็จะกลายเป็นโรคระบาดไปทั่วโลก

ไวรัสโรคหวัดทุกชนิดมีการวิวัฒนาการอย่างไม่หยุดนิ่ง  ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พอมีความเข้าใจอยู่บ้างเกี่ยวกับการผ่าเหล่าที่ทำให้เชื้อที่แพร่ในหมู่นกสามารถแพร่ในหมู่คนได้ง่ายขึ้น

ตามปกติ   นกมีอุณหภูมิร่างกายประมาณ   41  องศาเซลเซียส และคนเรามีอุณหภูมิ 37  องศาเซลเซียส ในส่วนจมูกและลำคอของคนเรา ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ร่างกายของไวรัสโรคหวัดนั้น มีอุณหภูมิประมาณ 33 องศาเซลเซียส

ดังนั้น   ตามปกติ เชื้อหวัดนกจะเจริญเติบโตไม่ดีนักในจมูกและลำคอของมนุษย์ แต่การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นได้ช่วยให้เชื้อเอช  5 เอ็น 1 อยู่อาศัยได้ดีในอุณหภูมิที่เย็นลงกว่าปกติในส่วนบนของทางเดินหายใจของมนุษย์

เอช  5 เอ็น 1 ได้ทำให้เกิดการตายครั้งใหญ่ครั้งแรกในฝูงนกน้ำที่ทะเลสาบชิงไห่ในภาคกลางของจีนเมื่อปี  2548  ทะเลสาบดังกล่าวเป็นแหล่งชุมนุมของนกอพยพนับล้านตัว ไวรัสสายพันธุ์นี้ได้ถูกพวกนกอพยพนำพาไปแพร่ทั่วเอเชีย   และไปไกลถึงแอฟริกาและยุโรป พวกนกรุ่นหลังเป็นพาหะของสายพันธุ์ที่เกิดการผ่าเหล่าแล้ว

คาวาโอกะบอกว่า  ไวรัสที่แพร่ในยุโรปและแอฟริกามีการกลายพันธุ์ที่ว่านี้  ดังนั้นจึงเป็นชนิดที่มีลักษณะคล้ายกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในคนมากยิ่งขึ้น  แต่โชคดีที่ยังไม่มีการกลายพันธุ์ไปมากกว่านี้ ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจำเป็นต้องกลายพันธุ์อีกเพียงไหนจึงจะสามารถกลายเป็นเชื้อโรคระบาดในคนได้
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 17-01-2008, 20:27 »

What is the name of the viriod responsible for cucumo virus?    
http://wiki.answers.com/Q/What_is_the_name_of_the_viriod_responsible_for_cucumo_virus 
   

Biology Experiments
Simplify your labs & empower your students with dynamic experiments
www.biopac.com
 
 

This Question Has Not Been Answered Yet
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 17-01-2008, 20:56 »



[PPT] Prion Disease & Viroid

http://www.ams.cmu.ac.th/depts/clinmcrb/CMBwebsite/Home%20page%20of%20CMB/All%20Microb%20lecture/CMB301/CMB301_Prion_48.ppt
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #55 เมื่อ: 17-01-2008, 21:03 »

virus virion คืออะไร

http://www.boonmeeherb.com/webboard/question.asp?QID=798
 
   
     


   
   ...   
   คำตอบที่ 1    เวลา 17:36:32   
     
   ไวรัส ( Virus ) เป็นสิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในอีกพวกหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่โพรทิส เพราะโครงสร้างยังไม่ครบถ้วนเป็นเซลล์
ลักษณะสำคัญ อนุภาคที่สมบูรณ์ของไวรัสเรียกว่า ไวริออน
( Virion ) ที่ประกอบด้วย
- โมเลกุลของกรดนิวคลีอิก ( DNA หรือ RNA ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น ) เป็นเเกนกลาง ( core ) ส่วนใหญ่เป็นกรดนิวคลีอิกโมเลกุล เดี่ยวที่เป็นเส้นเดี่ยวหรือเส้นคู่ก็ได้
- มีเปลือกหุ้มเป็นโปรตีน หรือ ไลโปโปรตีน หรือไกลโคโปรตีน เรียกว่า
เเคปซิด ( capsid ) ซึ่งประกอบด้วยหน่วยย่อยเรียกว่า เเคปโซเมอร์ ( envelope )
ขนาดเเละรูปร่างของไวรัส
- ไวรัสมีขนาดเล็กโดยทั่วไปมีขนาดเล็กกว่า 20 นาโนเมตร ไม่สามารถมองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรรมดา นอกจากใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่มีกำลังขยายสูงมาก
- รูปร่างมีหลายเเบบ เเต่อาจเเบ่งได้เป็นสามพวก ได้เเก่ พวกที่มีรูปร่างหลายเหลี่ยมด้านเท่า ( isometric )
พวกรูปเเท่งหรือยาว ( rod shaped or elongated ) พวกที่มีหัวหางคล้ายลูกอ๊อด ( tadpolelike ) เช่น ไวรัสเเบคเทอริโอฟาจบางชนิด ( bacteriophage )
- ไวรัสขนาดเล็กที่สุดคือ ไอโคซาดรอน ( icosahedrons ) ลักษณะเป็นเหลี่ยม 20 ด้าน ขนาดกว้างประมาณ 18 - 20 นาโนเมตร
- ไวรัสขนาดใหญ่ที่สุด เป็นรูปเเท่ง อาจยาวหลายไมโครเมตร เเต่กว้างไม่เกิน 100 นาโนเมตร ซึ่งก็ยังมองไม่เห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา
   
     


   
   ...   
   คำตอบที่ 2    เวลา 17:37:44   
     
   - โรคไวรัสในพืช เช่น โรคใบด่างของยาสูบเเละถั่วลิสง โรคดอกด่างในกล้วยไม้ โรคใบหงิกในพริก โรคเเคระเเกร็นในต้นข้าว
- โรคไวรัสในสัตว์ เช่น โรคนิวคาสเซิลในไก่ โรคไวรัส MBV
( Monodon Balculo Virus ) ในกุ้งกุลาดำ
- โรคไวรัสในคน ตัวอย่างเช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด คางทูม หัด อีสุกอีใส พิษสุนัขบ้า โปลิโอ ตับอักเสบ งูสวัด ฝีดาษ รวมทั้งโรคเอดส์หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เป็นปัญหาสาธารณาสุขที่ร้ายเเรงในปัจจุบัน
มีสาเหตุเกิดจากไวรัส HIV ( human immune deficiency virus )
   
     


   
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #56 เมื่อ: 17-01-2008, 21:09 »


ฟังหูไว้หูนะจ๊ะ http://www.boonmeeherb.com/webboard/hivgo.htm

ข่าวดีสำหรับมวลมนุษยชาติต้อนรับปี 2550 และถือว่าเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการแพทย์ นั่นก็คือการค้นพบตัวยารักษาโรคเอดส์ให้หายขายได้โดยสามารถค้นพบวิธีฆ่าไวรัสเอดส์หรือเชื้อ HIV ในร่างกายมนุษย์ให้หมดไปได้ โดยนักวิทยาศาสตร์ ชาวสหรัฐอเมริกา เป็นผู้คิดค้นตัวยาดังกล่าว

เป็นที่ทราบกันดีทุกคนว่า โรคเอดส์ คือโรคที่ร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน เพราะถ้าใครที่ได้รับเชื้อเข้าไปแล้วโอกาสที่จะรอดแทบจะเรียกว่ามืดมิด อีกทั้งยังเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคนี้จะต้องเข้ารักษาตัวอยู่ตลอดเวลา ต้องทานยา ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการบรรเทาหรือชะลอการแพร่เชื้อในร่างกายของผู้ป่วยเท่านั้น เพราะปัจจุบันยังไม่มียาตัวไหนที่สามารถจะฆ่าเจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้ลงได้

กล่าวกันว่า โรคเอดส์ หรือ เชื้อ HIV เป็นไวรัสที่เกิดมาจากการผสมข้ามเผ่าพันธุ์ระหว่างยีนส์ของมนุษย์กับลิง เป็นโรคที่มีอายุยาวนานมากว่า 30 ปี แท้จริงแล้วไม่ใช่ว่าทางการแพทย์จะไม่สามารถคิดค้นตัวยาเพื่อที่จะมายับยั้งเชื้อโรคตัวนี้ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าเจ้าเชือ้ HIV สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของตัวมันเองพัฒนาไปได้เรื่อยๆ

พอแพทย์คิดค้นตัวยาที่จะใช้ปราบเจ้าเชื้อตัวนี้สำเร็จ ก็สายไปเสียแล้ว เพราะมันได้กลายพันธุ์ไปเป็นแบบอื่นเข้าไปสู่ร่างกายของมนุษย์แล้ว ยาที่คิดได้จึงไม่มีประโยชน์และไม่สามารถใช้รักษาใครได้เพราะผู้ที่ป่วยด้วยเชื้อแบบเก่าก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว นี่คือความจริงที่ใครต่อใครต่างตั้งคำถามว่า ทำไมจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครคิดค้นหายาที่จะรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้?

แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของมนุษย์เพราะไม่นานมานี้นักวิจัยชาวสหรัฐฯ หนึ่งในทีมวิจัยจากสถาบัน NIAID (the National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ได้ค้นพบวิธีกำจัดเจ้าโรคร้ายขนิดนี้ได้แล้ว แม้ว่ามันจะกลายพันธุ์พัฒนารูปแบบไปเป็นอย่างไรก็ตามสุดท้ายเจ้าเชื้อโรคตัวนี้ก็มีจุดอ่อนที่สามารถกำจัดได้

เพราะจากผลการวิจัยพบว่า ที่ส่วนเล็กที่สุดของเชื้อ HIV ที่มีลักษณะคล้ายกับเดือยซึ่งเรียกเป็นภาษาฝรั่งว่า glycoprotein 120 หรือ (gp120) นั้นจะไม่เปลี่ยนสภาพตามไปด้วย คือมีลักษณะคงที่เป็นเป้านิ่ง จากนั้นได้ทำการจำลองรูปภาพผิวหน้าของ HIV Protein เมื่อทำปฏิกิริยากับสารแอนติบอดี้ ซึ่งโปรตีนชนิดนี้หรือที่เรียกกันว่า B 12 นั้นสามารถโจมตีเชื้อ HIV ได้

ดร. Kwong ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับเชื้อ HIV มากเท่าไร เราก็ยิ่งค้นพบว่าเชื้อไวรัสนี้สามารถต่อต้านการทำลายเชื้อโรคจากระบบภูมิคุ้มกันได้ในหลายๆ ระดับ”

เมื่อพบเป้านิ่งอย่างนี้แล้ว นักวิจัยนี้ก็พบต่อไปว่า มีสารแอนตี้บอดี้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า B12 สามารถจดจำและพุ่งเข้าเกาะบริเวณเดือยหรือ gp120 ของเชื้อ HIV ได้ และเมื่อเกาะแล้วก็จะระงับฤทธิ์เดชของเชื้อ HIV ไม่ให้เป็นอันตรายได้ คือทำให้เชื้อ HIV ไม่สามารถทำลายเนื้อเยื้อหรือเซลล์อื่น ๆ หรือโมเลกุลอื่น ๆ ของร่างกายได้ จึงสรุปผลได้ว่า สารแอนตี้บอดี้ B12 เป็นสารที่สามารถหยุดยั้งและทำลายไวรัสเอดส์หรือเชื้อ HIV ได้

Anthony S. Fauci ผู้อำนวยการสถาบัน NIAID กล่าวว่า “ผลงานชิ้นเยี่ยมของ ดร. Kwong และทีม คือรูปภาพที่เป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งเป็นการทำปฏิกิริยาระหว่าง gp120 หรือส่วนที่เล็กที่สุดของเชื้อ HIV กับสารแอนติบอดี้ชนิดนี้ การค้นพบครั้งนี้ก่อให้เกิดการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อ HIV ต่อไป”

นักวิจัยกล่าวต่อว่าสำหรับสารแอนตี้บอดี้ B12 นี้ สามารถพบได้ในเลือดของคนที่มีร่างกายสามารถต้านทานเชื้อ HIV ได้เป็นเวลานาน และต่อจากนี้ไปก็จะเป็นการวิจัยเกี่ยวกับโครงสร้างของเลือดที่มีลักษณะดังกล่าวเพื่อนำไปสังเคราะห์เป็นสารแอนตี้บอดี้ B12 หากการวิจัยที่กล่าวมาแล้วเสร็จเมื่อใด การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับการแพทย์อีกต่อไปแล้ว

ดร. Nabel ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเขียนงานวิจัยได้กล่าวว่า “หนึ่งในเป้าหมายหลักของเราก็คือการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อ HIV ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดต่อต้านสารแอนติบอดี้อย่างกว้างขวาง การค้นพบครั้งนี้เป็นหนึ่งในหนทางที่ดีที่สุดที่จะนำเราสู่การพัฒนาในปีต่อๆ ไป”

ในอนาคตเราคงจะต้องจารึกเจ้าโรคร้ายที่ชื่อว่า “เอดส์” ไว้ข้างๆ กับมหันตภัยที่ร้ายแรงในอดีตอย่าง อหิวาต์ หรือโรคร้ายอื่นๆที่ได้สูญพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้ตัวยาตัวนี้ได้ออกมารักษาผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ไวๆ และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะแสงสว่างอันสดใสกำลังรอพวกท่านอยู่ข้างหน้า. . .


 
   
     


 
     
  คำตอบที่ 1   
   ฝ่ายวิชการ          1 มี.ค. 50      เวลา 9:16:35
   
  ขอบคุณมากครับที่นำเรื่องดีๆ มาฝากพวกเรา ถ้าจะให้ดีผมอยากให้ช่วยบอกแหล่งที่มาของข้อมูลว่าได้มาจากไหน จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งนะครับ
   
     


 
     
  คำตอบที่ 2   
   HIV007          9 มี.ค. 50      เวลา 12:21:53
   
  วันนี้ได้อ่านข้อความทำให้ผมสบายใจมากขึ้นเหมือนได้ต่ออายุ
   
     


 
     
  คำตอบที่ 3   
   ฝ่ายวิชการ          20 มี.ค. 50      เวลา 15:22:27
   
  สอบถามไปที่ดร.เอมอร โสมนะพันธุ์ ท่านบอกว่าเป็นเรื่องจริง ที่นักวิจัยพบว่า ที่ส่วนเล็กที่สุดของเชื้อ HIV ที่มีลักษณะคล้ายกับเดือยซึ่งเรียกเป็นภาษาฝรั่งว่า glycoprotein 120 หรือ gp120ไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างหน้าตากลายพันธุ์ตามส่วนอื่นๆของตัวมันได้ หรือถ้าจะแปลให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ตรงอื่นเปลี่ยนรูปร่างได้แต่ตรง gp120ไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างหน้าตากลายพันธุ์ได้

และนักวิจัยนี้ก็พบต่อไปว่า มีสารแอนตี้บอดี้ที่ใช้ฆ่าเจ้า HIVชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าแอนตี้บอดี้ B12 สามารถจดจำและพุ่งเข้าเกาะทำลายบริเวณเดือยหรือ gp120 ของเชื้อ HIVและฆ่าเชื้อ HIV ให้ ตายได้

ลงในวารสาร Nature 
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 17-01-2008, 21:23 »



ขอเรื่องเอดส์ทั่วไปอีกนิด

http://www.boonmeeherb.com/51tqa9.htm

   
 

     

 

 

 
ความรู้ทั่วไป


โรคเอดส์คือโรคอะไร

เชื้อไวรัสเอดส์เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันอย่างไร

เชื้อไวรัสเอดส์แตกต่างจากไวรัสอื่น ๆ อย่างไร

ระบาดวิทยา


ทำไมจึงมีการระบาดรวดเร็วมากไปทั่วโลก

ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง (Risk groups) ต่อการติดโรคเอดส์

ใคร ๆ ก็มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ทุกคนใช่หรือไม่

การติดต่อ


เชื้อเอดส์ติดต่อกันได้กี่ทาง

ปริมาณของไวรัสจะอยู่ในส่วนไหนของร่างกายมากที่สุด

การติดต่อทางใดเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อมากที่สุด

น้ำลายติดต่อได้หรือไม่

ยุงเป็นตัวแพร่เชื้อเอดส์ได้หรือไม่

อาการของโรค


โรคเอดส์มีกี่ระยะ และในแต่ละระยะมีอาการอย่างไร

เมื่อปรากฏอาการของโรคเอดส์แล้ว จะกลับไปสู่ระยะที่ 1 ไม่มีอาการได้หรือไม่

คนที่ติดเอดส์ต้องกลาย “เป็นเอดส์” ทุกคนหรือไม่

การรักษา


โรคเอดส์สามารถรักษาได้หรือไม่

ยาที่ใช้รักษาและควบคุมโรคเอดส์มีกี่ประเภท

การควบคุมโรคต้องใช้ยาอะไรบ้าง

ยาต้านเชื้อไวรัส HIV มีกี่ชนิด

สมุนไพรช่วยผู้ติดเอดส์ได้อย่างไร

ยาแผนปัจจุบันกับยาสมุนไพร ควรเลือกใช้อย่างไหน

ทำไมผู้ติดเชื้อเอดส์ต้องกินยา และถ้าไม่กินยาได้หรือไม่

ผู้ติดเชื้อเอดส์ต้องกินยาไปตลอดชีวิตใช้หรือไม่

ในอนาคตจะมียาสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่

การใช้ชิวิตร่วม


ผู้ที่ติดเอดส์สามารถคบหาสมาคมกับเพื่อน และใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวได้หรือไม่

เมื่อร่างกายเปรอะเปื้อนเลือด น้ำเหลือง อาเจียน ปัสสาวะ สิ่งขับถ่ายอื่น ๆ ของผู้ติดเอดส์ควรทำอย่างไร

ผู้ที่ติดเอดส์สามารถใช้ ห้องน้ำ, ห้องส้วม ร่วมกับผู้อื่นได้หรือไม่

ผู้ที่ติดเอดส์สามารใช้ ถ้วยชาม, จาน, แก้วน้ำ ร่วมกับผู้อื่นได้หรือไม่

ผู้ที่ติดเอดส์สามารถใช้ แปรงสีฟัน, มีดโกน, มีดโกนไฟฟ้า, กรรไกรตัดเล็บ, ของมีคมร่วมกับคนอื่นได้หรือไม่

ผู้ที่ติดเอดส์เวลา ไอ หรือ จาม ควรทำอย่างไร

ผู้ที่ติดเอดส์ที่เป็นสตรี และมีครอบครัวจะมีบุตรได้หรือไม่

ผู้ที่ติดเอดส์จะไปเยี่ยมเยือนหรือเข้าใกล้ผู้ป่วยโรคอื่นได้หรือไม่

ผู้ที่ติดเอดส์จะเลี้ยงสัตว์และดูแลสัตว์ได้หรือไม่

ผู้ที่ติดเอดส์ที่ติดยาเสพติด ควรทำอย่างไร

ผู้ที่ติดเอดส์จะปฏิบัติตัวประจำวันอย่างไร

การใช้เสื้อผ้า, ผ้าห่ม, ผ้าปูที่นอน ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ได้หรือไม่

กรณีมีการเปรอะเปื้อนน้ำหลั่งต่าง ๆ ตามที่ต่าง ๆ ควรทำอย่างไร

การสังคมกับผู้ติดเอดส์มีข้อห้ามอะไรบ้าง

ถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ควรทำอย่างไร


 
 

[ Home ] [ บทนำ ] [ ยาต้านเอดส์] [ ถาม-ตอบ ปัญหาเอดส์ ]  [ 3 ขั้นตอนยับยั้งเอดส์ ] [ สารบัญ ] [ สั่งซื้อสมุนไพร ]




 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #58 เมื่อ: 17-01-2008, 21:46 »


บทที่ 20 : Prion and Viroid

http://www.ams.cmu.ac.th/depts/clinmcrb/cmbwebsite/CMB508301/virushtml/19prion.htm

บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 17-01-2008, 21:49 »



virus
From: The Columbia Encyclopedia, Sixth Edition  |  Date: 2007

http://www.encyclopedia.com/doc/1E1-virus.html

viroidFrom: The Columbia Encyclopedia, Sixth Edition  |  Date: 2007

http://www.encyclopedia.com/doc/1E1-viroid.html
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #60 เมื่อ: 17-01-2008, 21:53 »


virus
From: The Columbia Encyclopedia, Sixth Edition  |  Date: 2007

http://www.encyclopedia.com/doc/1E1-virus.html

viroidFrom: The Columbia Encyclopedia, Sixth Edition  |  Date: 2007

http://www.encyclopedia.com/doc/1E1-viroid.html


All Search Results viroid    539 Results

http://www.springerlink.com/content/?k=viroid
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: 17-01-2008, 22:10 »



virion  http://www.encyclopedia.com/doc/1O8-virion.html
From: A Dictionary of Zoology  |  Date: 1999  |  Author: MICHAEL ALLABY
 Print Digg del.icio.us
virion An individual virus particle.


© A Dictionary of Zoology 1999, originally published by Oxford University Press 1999.


virion 
3,509 Results  http://www.springerlink.com/content/?k=virion
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 17-01-2008, 22:19 »

มาถึงตรงนี้ ไวรัสวิทยา นาสนใจไม่น้อย...

ไวรัส ไวลอย วัยร้อน ไวร์เลส..

มันผ่าเหล่าไปถึงไหนแล้ว..

ขอเชิญผู้รู้เล่าแจ้งหน่อยครับ อะไรผ่าเหล่าได้บ้าง..


จะเห็นว่ากระทู้เริ่มผ่าเหล่า รอเจ้าของกระทู้มาสรุปดีกว่า 
ว่าใช้เทคนิคอะไรในการตัดต่อพันธุกรรม...
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #63 เมื่อ: 18-01-2008, 09:12 »

พืช GMO นั้น หน้าตาก็ออกจะเหมือนกันพืชปกติ ผู้ที่ได้ทดลองรับประทานเข้าไปแล้ว ก็บอกว่าไม่รู้เลยว่ามันเป็น GMO ที่ตรงไหน  ผู้ที่นำไปปลูก ก็เอ่ยปากว่ามันดี เพราะบ้างก็โตกว่าพืชพันธ์ดั้งเดิม บ้างก็ทนต่อศัตรูพืช

แน่นอน พืช GMO ถูกสร้างสรรขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่นศัตรูพืช ความแห้งแล้ง สภาพอากาศ  และแน่นอน เมื่อมันสร้างได้ ก็ย่อมกำหนดคุณสมบัติพิเศษได้อีกหลายอย่าง  เช่น ต้องใช้ปุ๋ยชนิดพิเศษ ที่มีลิขสิทธิ์ ต้องใช้ฮอร์โมนชนิดพิเศษ ที่มีลิขสิทธิ์ และตัวของมันเอง ก็มีลิขสิทธิ์

ปัญหาที่มีผู้ต่อต้านพืช GMO นั้น เป็นเหมือนความปัญญาอ่อน ทำไมเราจึงจะปฎิเสธพืชที่มีคุณสมบัติในฝัน เลี้ยงง่าย โตไว ทนทาน แสนจะดีสารพัด

ปัญหาอย่างหนึ่งที่รัฐบาลควรจะเปิดเผยออกว่าผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดอันไหนบ้างที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตที่ได้จากการตัดต่อทางพันธุกรรม เพราะอย่างที่คุณพรรณชมพูว่าเราไม่สามารถแยกแยะพืชไหนเป็นจีเอ็มพืชไหนไม่เป็นด้วยตาเปล่า จริงๆๆการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในสิ่งมีชีวตมันเกิดขึ้นเองในธรรมชาติ อย่างที่เราเห็นสิ่งมีชีวติชนิดใหม่ๆที่เกิดขึ้นมาให้เราได้วุ่นวายในการให้ชื่อใหม่กับมัน พวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็น สิ่งมีชีวิต ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมาจาก สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งและได้รับการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายนอกส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านฟีโนไทร์แล้วอาจจะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงระดับโมเลกุล กระบวนเหล่านี้มันเกิดขึ้นเองในธรรมชาติอยู่แล้วเพียงแต่ว่ามันใช้เวลานานมากเท่านั้น แต่นั้นแระค่ะการเอายีนจากสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างทางด้านพันธุกรรมมารวมกันมันทำให้เรามองว่ามันเอเลี่ยนชัดๆ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนธรรมชาติที่ควรจะเป็น เรารอไมได้หรอกค่ะในเมื่อโลกมันก้าวไปเร็วขนาดนี้ แต่งานทางด้านพันธุวิศวกรรมจะเร่งงานพวกนี้ให้มันเกิดขึ้นเร็ว จนอาจจะเรียกได้ว่ามันไม่ใช่ธรรมชาติ สำหรับอนาคิดว่า ในเมื่อสิ่งมีชีวิตเช่นไวรัส แบคทีเรียเอาชนะมนุษย์โดยการแปลี่ยนแปลงพันธ์ของมันชนิดใหม่ๆ ให้มนุษย์ได้มีโรคภัยไข้เจ็บมากกมายจนไม่มีทางรักษา พวกเรามนุษย์ก็ควรขะเอาชนะเหล่ามารพวกนี้ด้วยเทคโนโลยีทางด้านนี้แระค่ะ แต่นั่นแระความต้องการของมนุษย์มันสูงขึ้น การปรับปรุงพันธ์พืชในวิธีปกติค่อนข้างใช้เวลานานมาก แต่การเจริญเติบโตของมนุษย์กับสูงขึ้นมากกว่าการเจริญทางด้านเทคโนโลยีเกษตร 

แต่ถ้ามองถึงเหตุผลของความห่วงใยนั้น และอยากจะเข้าใจ ต้องทอดสายตาออกไปให้ยาวไกล

การผลิตยาสักตัวหนึ่ง ออกมาให้มนุษย์ใช้ ต้องได้รับการทดลองว่า ยานั้นปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง หรือถ้ามี ผลที่ได้จะต้องคุ้มกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น การทดสอบยานั้น ลำบากยากเย็น ต้องทดสอบกับสัตว์ทดลอง ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ทดลองกับมนุษย์ แต่ถึงกระนั้น มียามากมายที่ส่งผลร้ายให้กับมนุษย์ และถูกสั่งห้ามผลิตต่อไป

พืช GMO นั้น เป็นเทคโนโลยีทางชีวภาพ เป็นการตัดต่อพันธุกรรม ให้เกิดคุณสมบัติที่ไม่มีในธรรมชาติ และคงจะกล่าวไม่เกินไปว่า มันผิดธรรมชาติ พัฒนาการที่ก้าวกระโดด ไม่เป็นไปตามกลไกของวิวัฒนาการ ไปไปพร้อมกับวิวัฒนาการโดยรวมของโลก เสมือนพืชพันธ์ที่มาจากต่างโลกต่างดาว ผลของมันต่อผู้บริโภค ไม่มีการทดสอบ นอกจากจะสรุปเอาเองว่า ก็กินแล้วไม่ตาย

พิษหลายอย่างในธรรมชาติ ที่ส่งผลต่อสัตว์ต่างๆ มีไม่เหมือนกัน ม้าไม่อาจดื่มน้ำกร่อยได้ แม้น้ำนั้นมนุษย์จะดื่มได้อย่างสบาย ช็อกโกแล็ตอันแสนอร่อยของมนุษย์ อาจทำให้สุนัขตายได้ถ้ามันกินเข้าไปมาก ยาฆ่าแมลงที่ฉีดในบ้าน เราเพียงแต่เหม็นและได้รับพิษของมันเข้าไปสะสมในร่างกาย แต่ปลิดชีวิตยุง แมลงวัน แมลงสาบได้ในทันใจ การเรียนรู้เรื่องพิษ ธรรมชาติสอนให้ทั้งมนุษย์และสัตว์เรียนรู้ไปตามกลไกธรรมชาติ สัตว์หลายชนิดรู้ว่า อะไรเป็นพิษสำหรับมัน อะไรที่มันกินได้กินไม่ได้ สัญชาติญานเหล่านี้ ถ่ายทอดทางพันธุกรรมมานานหลายล้านปี

แต่เมื่อมีการก้าวกระโดดของวิวัฒนาการ พืชชนิดใหม่ ที่ไม่ได้เดินตามสายการวิวัฒนาการโดยปกติ อันตรายของมันยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ผลร้ายของมันจะมีหรือไม่ยังไม่มีใครทราบ แต่ถ้ามี และมันใช้เวลานานกว่าจะส่งผล ก็อาจสายเกินแก้แล้ว

การผ่าเหล่าในพืชและสัตว์ ที่ได้รับผลจากกัมมันตภาพรังสี เป้นที่รู้จักกันดีในวงการวิทยาศาสตร์  ความผิดปกติของยีน โครโมโซมจากสารเคมี อันเป็นต้นวิชาการของ GMO ก็เป็นที่รู้จักกันดี

หากมีพืช GMO ชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่มนุษย์นำมาบริโภค ส่งผลต่อความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งจะถ่ายทอดต่อไปยังคนรุ่นหลัง อะไรจะเกิดขึ้น ฟังแล้วเหมือนเรื่องบ้าๆบอๆ ก็ของมันเอาใส่เข้าไปในปากแล้วกลืนลงไปได้ สามวันแล้วคนกินก็ยังไม่ตาย คงไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไรกระมัง

กว่าจะรู้ตัวว่ ามะเขือเทศของบริษัทนี้ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมแบบหนึ่ง ส้มของอีกบริษัทหนึ่งส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมอีกแบบหนึ่ง ถึงวันนั้น มนุษย์อาจจะมีสองหัว หรือมีหางโผล่ออกมาแล้ว คงสวยดีไม่หยอก

ข้อมูลนี้คือสิ่งที่นักวิชาการยังไม่สามรถตอบได้ชัดเจน เพราะมันยังไม่เกิดขึ้นได้เหรืออาจจะเกิดขึ้นแต่พวกเราไม่รู้ ไม่ใช่เพียงแต่ใบโอเทคโนโลยีหรอกนะค่ะ ที่ทำให้มนุษย์ของเราได้รับผลทางความก้าวหน้าทางด้านนี้ สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากการพัฒนาของประเทศ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นตังกระตุ้นให้มนุษย์อ่อนแอ่ในภูมิต้านทานและง่ายแต่พวกเชื้อโรคต่างๆจะไปเกาะกิน  รวมไปถึงการพัฒนาสายพันธ์ของเชื้อโรค ซึ่งบางคนก็บอกว่ามันเกิดมาจากยาที่เรากินเข้าไปแล้วทำให้เชื้อโรคเกิดการดื้อยา หรือสร้างพันธ์ใหม่ของมันขึ้นมา ในเมื่อมนุษย์ปรับตัวให้ตัวเองมีชีวิตรอด ทำไมสิ่งมีชีวิตอื่นๆๆจะทำไมได้ล่ะ รู้ไหมว่าทุกวันนี้เราไมได้มีศัตรูเป็นผู้ก่อการร้ายหรอกค่ะ แต่เรามีศัตรูเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเล็กๆๆที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มันก็พร้อมจะขย้ำคุณทุกเมื่อที่คุณอ่อนแอ  เรายืนยันหรือบอกไม่ได้หรอกว่าสามาเหตุแท้จริงแล้วมันมาจากอะไรกันแน่ เพราะคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น อะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ โรคบางโรคหายไปจากโลกนี้ บางโรคเกิดขึ้นมาใหม่ เราจะเอาอะไรไปต่อสู้กับพวกนี้ล่ะค่ะ ถ้าไม่ใช่งานทางด้านการพัฒนาทางด้านนี้ ถ้ามนุษยสุขภาพแข็งแรงดี เราก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งต่อสู้กับเชื้อโรคอันชาญฉลาดพวกนี้หรอกค่ะ แต่ทุกวันนี้อะไรเปลี่ยนแปลงไป ไม่รู้ว่าจะมีโรคชนิดไหนเกิดขึ้นมาอีก เราอาจจะก้าวไปช้ากว่าเชื้อโรคพวกนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะค่ะ

ความห่วงใยเกี่ยวกับพืช GMO ก็เช่นเดียวกับการต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

วัวหายแล้วจึงล้อมคอก

ง่า อย่าเอาจีเอ็มหนู ไปปนกับนิวเคลียร์ ลุงคิวจิค่ะ  จีเอ็มหนูมีประโยชน์กินได้ค่า

ขอบคุณคุณพรรณชมพูมากค่ะ กับข้อมูลอีกด้าน

 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #64 เมื่อ: 18-01-2008, 09:24 »

จะเห็นว่ากระทู้เริ่มผ่าเหล่า รอเจ้าของกระทู้มาสรุปดีกว่า 
ว่าใช้เทคนิคอะไรในการตัดต่อพันธุกรรม...


จะชวนหนูคุยเรื่องไวรัสเหรอ

รู้แต่ ไวรัสไม่ใช่เชล์ เป็นอนุภาค เพราะมันไม่มีเยื่อหุ้มเซล เป็นอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุด น้ำหนักโมเลกุลหนักกว่าอะตอมของไฮโดรเจนด้วยซ้ำ อุนุภาคที่สมบูรณ์เรียกว่า ไวร่อน อ่ะเปล่าหว่า อยู่เดี่ยวๆๆไม่ได้ เพราะเป็นอนุภาคขี้เหงา ถ้าอยู่เดียวๆจะออกอาการเชื่องซึม ไม่ขี้เล่น อยู่เฉยๆไม่แผลงฤทธิ์เดชอะไร แต่หากว่าได้เพื่อนบ้านเหรออยู่รวมอาศัยกับใครก็จะแผลฤทธิ์ทันที ซึ่งเจ้าของบ้านที่มันพักอาศํย อาจจะรักมันจนโงหัวไม่ขึ้นกว่าจะรู้ตัว ตัวเองก็โดนมันเกาะกิน(ดิเอ็นเอ/อาร์เอ็นเอ)แบบไม่รู้ตัว
 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #65 เมื่อ: 18-01-2008, 14:51 »

จะชวนหนูคุยเรื่องไวรัสเหรอ

รู้แต่ ไวรัสไม่ใช่เชล์ เป็นอนุภาค เพราะมันไม่มีเยื่อหุ้มเซล เป็นอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุด น้ำหนักโมเลกุลหนักกว่าอะตอมของไฮโดรเจนด้วยซ้ำ อุนุภาคที่สมบูรณ์เรียกว่า ไวร่อน อ่ะเปล่าหว่า อยู่เดี่ยวๆๆไม่ได้ เพราะเป็นอนุภาคขี้เหงา ถ้าอยู่เดียวๆจะออกอาการเชื่องซึม ไม่ขี้เล่น อยู่เฉยๆไม่แผลงฤทธิ์เดชอะไร แต่หากว่าได้เพื่อนบ้านเหรออยู่รวมอาศัยกับใครก็จะแผลฤทธิ์ทันที ซึ่งเจ้าของบ้านที่มันพักอาศํย อาจจะรักมันจนโงหัวไม่ขึ้นกว่าจะรู้ตัว ตัวเองก็โดนมันเกาะกิน(ดิเอ็นเอ/อาร์เอ็นเอ)แบบไม่รู้ตัว
 

ลิงค์ที่เอามาแปะ อย่าลืมไปอ่าน แล้วมาอธิบาย ว่าเขาตัดต่อกันด้วยวิธีเช่นไร? ขยายพันธุ์ที่ตัดต่อแล้วได้หรือไม่?

แล้วมันแข็งแรง จนกลายเป็นศัตรูพืชอื่นๆหรือไม่? 
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #66 เมื่อ: 18-01-2008, 18:11 »



นักวิจัยมะกันประสบความสำเร็จโคลนนิ่งตัวอ่อนมนุษย์http://www.manager.co.th/Lite/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007418
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2551 15:42 น.
 
 
       สำนักข่าวซินหัวรายงานวันนี้ (18 ม.ค.) อ้างข้อมูลในวารสารสเต็มเซลล์ ว่า ความสำเร็จในการโคลนตัวอ่อนมนุษย์เป็นครั้งแรก เป็นผลงานของคณะนักวิทยาศาสตร์บริษัทสเตมมาเจน ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนขนาดเล็กในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า "โซมาติก เซลล์ นิวเคลียร์ทรานสเฟอร์" (เอสซีเอ็นที) ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับการโคลนแกะดอลลี่ โดยการเจาะเซลล์ไข่สตรีที่ได้รับบริจาค และฉีดนิวเคลียสของเซลล์ผิวหนังผู้ชายลงไป
        นพ.ซามูเอล วูด หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ชุดนี้เปิดเผยว่า ตัวอ่อนที่ได้จากโคลนนิ่งแลดูแข็งแรง แม้จะไม่มีผู้ใดทราบว่า ตัวอ่อนที่ได้จากการโคลนนิ่งจะแข็งแรงพอจนสามารถเติบโตเป็นทารกต่อไปได้หรือไม่
        อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกยังคงเคลือบแคลงต่อประกาศความสำเร็จดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ คณะนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติในกรุงโซลของเกาหลีใต้ เคยประกาศความสำเร็จในการโคลนตัวอ่อนมนุษย์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2547 แต่ลงท้ายกลายเป็นเรื่องที่ปราศจากมูลความจริง
 
 
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #67 เมื่อ: 18-01-2008, 20:38 »

โอ๊ะโอ..พี่ไม่อยู่แค่ 3 วัน กลับมาเห็นกระทู้นี้ของหนูอนา บอกได้ว่า "ถูกใจมาก"   

เพราะครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า "Genetic Engineering" จากอาจารย์ประจำของคณะ ก็รู้สึก "กิ๊ก" เอ๊ยย "คลิก" ทันทีเลยค่ะ 

>>> ไม่ว่าคุณจะยอมรับมันหรือไม่ แต่คุณก็มิอาจหลุดรอดจากการรับประทานพืชจีเอ็มโอไปได้ หนียังไงก็หนีไม่พ้น ตอนนี้คงทานเข้าไปบ้างแล้วล่ะค่ะ โดยเฉพาะคนชอบทานส้มตำ 

ไว้ถ้ามีโอกาส จะลองคุยกับเพื่อนในแวดวงนี้ดู ไม่ทราบเหมือนกันว่า ในแง่วิชาการก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว นอกจากข้อมูลที่หนูอนาเก็บมาฝาก (เพียบ) และข่าวอื้อฉาวจากข้อมูลของคุณคิว เพราะเห็นข่าวการโกงข้อมูลการวิจัยเรื่องโคลนนิ่งจากนักวิทยาศาสตร์อาวุโสชาวเกาหลีใต้เมื่อช่วงประมาณกลางปีที่แล้วที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกเหมือนกันค่ะ






บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #68 เมื่อ: 19-01-2008, 09:57 »

โอ๊ะโอ..พี่ไม่อยู่แค่ 3 วัน กลับมาเห็นกระทู้นี้ของหนูอนา บอกได้ว่า "ถูกใจมาก"   

เพราะครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า "Genetic Engineering" จากอาจารย์ประจำของคณะ ก็รู้สึก "กิ๊ก" เอ๊ยย "คลิก" ทันทีเลยค่ะ 

>>> ไม่ว่าคุณจะยอมรับมันหรือไม่ แต่คุณก็มิอาจหลุดรอดจากการรับประทานพืชจีเอ็มโอไปได้ หนียังไงก็หนีไม่พ้น ตอนนี้คงทานเข้าไปบ้างแล้วล่ะค่ะ โดยเฉพาะคนชอบทานส้มตำ 

ไว้ถ้ามีโอกาส จะลองคุยกับเพื่อนในแวดวงนี้ดู ไม่ทราบเหมือนกันว่า ในแง่วิชาการก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว นอกจากข้อมูลที่หนูอนาเก็บมาฝาก (เพียบ) และข่าวอื้อฉาวจากข้อมูลของคุณคิว เพราะเห็นข่าวการโกงข้อมูลการวิจัยเรื่องโคลนนิ่งจากนักวิทยาศาสตร์อาวุโสชาวเกาหลีใต้เมื่อช่วงประมาณกลางปีที่แล้วที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกเหมือนกันค่ะ



ง่า.....ส้มตำของโปรด อิอิ พี่เม่ยหายไปไหนหลายวันเลย  ใช่ค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ยังไงมันก็กระจายไปทั่ว ตอนนี้แต่ละประเทศเขาเคร่งครัดระเบียบการนำพืชจากต่างประเทศเข้าประเทศมากขึ้น ครั้งที่แล้ว จะเอาตัวอย่างจากฟิลิปปินส์ โอยุ่งมากมาก กว่าเอกสารอะไรจะเสร็จ กว่าจะตรวจผ่านด่าน อนานึกในใจ สาหร่ายทะเล ไม่มีพืช จีเอ็มโอ แน่นอนค่า 555555555

สู้ตายน้องแขกดำ อิอิ
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #69 เมื่อ: 20-01-2008, 15:55 »

ง่า.....ส้มตำของโปรด อิอิ พี่เม่ยหายไปไหนหลายวันเลย  ใช่ค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ยังไงมันก็กระจายไปทั่ว ตอนนี้แต่ละประเทศเขาเคร่งครัดระเบียบการนำพืชจากต่างประเทศเข้าประเทศมากขึ้น ครั้งที่แล้ว จะเอาตัวอย่างจากฟิลิปปินส์ โอยุ่งมากมาก กว่าเอกสารอะไรจะเสร็จ กว่าจะตรวจผ่านด่าน อนานึกในใจ สาหร่ายทะเล ไม่มีพืช จีเอ็มโอ แน่นอนค่า 555555555

สู้ตายน้องแขกดำ อิอิ


ไปเข้าป่าชาร์จแบตมาค่ะ 

ว่าด้วยเรื่อง เด็กหลอดแก้ว การผสมเทียมนอกมดลูก ธนาคารสเปิร์ม ฯลฯ ทั้งในคนหรือในสัตว์ ยาวมาถึงเรื่องโคลนนิ่ง เรายังหนีไม่พ้นเลย แม้จถูกคัดค้านจากหลายฝ่าย ในพืชยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยนะคะ และในแวดวงวิชาการ จะมีเหตุผลที่(ดูเหมือน) ดีสนับสนุน และจะยากปฏิเสธอยู่แล้วว่า มันเป็นวิธีการว่าด้วยการปรับปรุงพันธุ์พืช plant breeding

ก็คงตามแก้ปัญหาต่อไป Mr. Green  เพราะมักจะเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เมื่อเรื่องหนึ่งดูเหมือนสำเร็จ ก็มักจะก่อให้เกิดใช่ว่ามีแต่ผลดี แต่จะมีผลเสียตามมาเสมอ ทั้งในเชิงของระบบนิเวศวิทยา สิ่งแวดล้อม และ ฯลฯ

ปล. ว่าแต่สาหร่ายทะเลที่นำมาผลิตและจำหน่ายเป็นอาหารเสริม หนูอนาพอจะแนะนำได้ไหมคะว่า ทานแล้วปลอดภัย หรือควรจะทานสายพันธุไหนบ้าง มีสรรพคุณอย่างที่โฆษณา (ชวนเชื่อ) จริงอ๊ะป่าว -- พี่ว่าอาหารเสริมน่ากลัวนะ  Mr. Green แต่ดูเหมือนจะขายดิบขายดีมั้ง  Surprised



บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #70 เมื่อ: 20-01-2008, 18:34 »

สาหร่ายทะเล ไม่มีที่เป็นอาหารเสริมนะค่ะ เท่าที่เจอ นอกจากสาหร่ายน้ำจืดแบบ สาหร่ายเกรียวทอง Spilurina ที่มีพวกเบต้าเคโรทีนอยู่เยอะ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือต้านมะเร็งประมาณนี้ อิอิ  เป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินอ่าค่ะ ตอนไปประชุมที่เชียงใหม่ ได้ไปดูฟาร์มสาหร่ายตัวนี้ เห็นแล้วเป็นอุตสาหกรรรมที่ไร้คู่แข่งดีค่ะ

ส่วนสาหร่ายทะเล ส่วนมากประโยชน์ใช้ในด้านอุตสาหกรรมค่ะ ของไทยเรายังไม่สามารถพัฒนาไปถึง commercial scale ได้เลยค่ะ ยังนำเข้าจากญี่ปุ่นและจีนเป็นส่วนใหญ่ คาดว่าอนากลับไปอาจจะทำได้ ฮี่ๆๆๆ 

บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #71 เมื่อ: 20-01-2008, 19:02 »

ง่า.....ส้มตำของโปรด อิอิ พี่เม่ยหายไปไหนหลายวันเลย  ใช่ค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ยังไงมันก็กระจายไปทั่ว ตอนนี้แต่ละประเทศเขาเคร่งครัดระเบียบการนำพืชจากต่างประเทศเข้าประเทศมากขึ้น ครั้งที่แล้ว จะเอาตัวอย่างจากฟิลิปปินส์ โอยุ่งมากมาก กว่าเอกสารอะไรจะเสร็จ กว่าจะตรวจผ่านด่าน อนานึกในใจ สาหร่ายทะเล ไม่มีพืช จีเอ็มโอ แน่นอนค่า 555555555

สู้ตายน้องแขกดำ อิอิ


พูดถึงมะละกอ GMO อันนี้เป็นอย่างหนึ่งที่ขอสนับสนุนนะคะ เผื่อมันจะปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของชนบางกลุ่มได้ ช่วยตัต่อพันธุกรรม ไม่ขายเสียง ใส่เข้าไปด้วยนะคะ ถ้าตัดใส่ใน มะละกอ ไม่ได้ ลองทำกับปลาร้าก็ได้ค่ะ เผื่อจะได้ผล 
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #72 เมื่อ: 21-01-2008, 08:22 »

พูดถึงมะละกอ GMO อันนี้เป็นอย่างหนึ่งที่ขอสนับสนุนนะคะ เผื่อมันจะปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของชนบางกลุ่มได้ ช่วยตัต่อพันธุกรรม ไม่ขายเสียง ใส่เข้าไปด้วยนะคะ ถ้าตัดใส่ใน มะละกอ ไม่ได้ ลองทำกับปลาร้าก็ได้ค่ะ เผื่อจะได้ผล 

เป็นไอเดียที่แจ่มมากเลยค่ะ เพราะศูนย์การของน้องแขกดำอยู่ขอนแก่นพอดี  แต่อยากแทรกยีน.........ขยัน............งขันแข็งมากกว่าค่ะ ไม่ใช่เพื่อคนอีสาน แต่เพื่อคนไทยประเทศ   
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: