บุรีรัมย์เถื่อน! บุกอุ้ม 2 พยานหายล่องหน - หลังนำเงินร้อง“พลังแม้ว”ซื้อเสียง

[ปุถุชน]

บุรีรัมย์เถื่อน! บุกอุ้ม 2 พยานหายล่องหน - หลังนำเงินร้อง“พลังแม้ว”ซื้อเสียง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2551 22:08 น.
 
 
 


 
นายเปียง โสมวิเศษ (กลาง) ชาว ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ที่ลูกชายพร้อมเพื่อน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มหายไป หลังนำเงินซื้อเสียงของผู้สมัคร ส.ส. พปช. เขต 2 แจ้งกกต. บุรีรัมย์ 

 
        ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บุรีรัมย์เมืองเถื่อน เผยชาวบ้าน อ.พลับพลาชัย ซึ่งเป็นพยานนำเงินที่หัวคะแนนผู้สมัคร ส.ส.พรรค"พลังแม้ว" เขต 2 แจกซื้อเสียงมามอบให้ กกต. ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มหายไป 2 ราย ญาติแจ้ง ตร.นานกว่า 9 วันยังไม่กลับบ้านและไม่ทราบชะตากรรม ด้านชุดสืบสวน กกต.บุรีรัมย์เร่งเรียกพยานสอบเพิ่มพร้อมประสานตำรวจตามหาตัวพยานที่ถูกอุ้มและไล่ล่าจับกุมผู้ก่อเหตุเป็นการด่วน
       
       ช่วงบ่ายวันนี้ (1 ม.ค.51) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ.โคกโพธิ์ ม.11 ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับการร้องทุกข์ว่ามีชาวบ้านถูกอุ้มหายไป 2 คน เพราะไปแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าได้รับเงินจากหัวคะแนนผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.)
       
       โดยได้พบกับนายเปียง โสมวิเศษ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.11 ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย ซึ่งเล่ารายละเอียดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา เมื่อผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน (พปช.) คือ นายรังสิกร ฑิมาตฤ กะ หมายเลข 1 นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ หมายเลข 2 และนายทรงศักดิ์ ทองศรี หมายเลข 3 ได้มาเปิดปราศรัยที่หน้าที่ว่าการ อ. พลับพลาชัย มีการเกณฑ์ชาวบ้าน ม.11 ต.สะเดา กว่า 100 คน ไปฟังปราศรัย
       
       จากนั้น เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2550 ได้มีหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส. นำเงินมาแจกคนที่ไปฟังปราศรัยหัวละ 100 บาท และ รับปากจะให้อีก 300 บาท หลังได้รับเลือกตั้ง ซึ่งลูกชายตน คือนายสมปอง โสมวิเศษ อายุ 23 ปี กับเพื่อนคือ นายบุญหอม ลัทธิวาจา อายุ 23 ปี , นายแสงไทย เกิดประโคน อายุ 25 ปี และ นายไพโรจน์ ดุจจานุทัศน์ อายุ 32 ปี เป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้รับเงินคนละ 100 บาท ได้มาบอกตนเพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมาย ตนจึงได้นำทั้ง 4 คนไปแจ้ง กกต.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2550 โดยแจ้งกับ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล กกต.จังหวัดฝ่ายสืบสวนสอบสวน พร้อมนำเงินที่ได้รับมอบให้
       
       นายเปียง เล่าต่อว่า หลังกลับมาบ้านและเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชาชน คือ หมายเลข 1,2 และ 3 ได้รับเลือกตั้งมีคะแนนมาเป็น 3 อันดับแรกยกทีม จนกระทั่งเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 24 ธ.ค. 2550 มีชายฉกรรจ์หลายคนขับรถกระบะสีขาวไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อมาควบคุมตัวนายแสงไทย เกิดประโคน และ นายไพโรจน์ ดุจจานุรักษ์ ขณะนั่งดื่มสุรากับพวกอยู่ในหมู่บ้านขึ้นรถหายไป
       
       ต่อมา เมื่อเวลา 23.30 น. วันเดียวกัน ( 24 ธ.ค.) ตนจึงได้พากันไปแจ้งความที่ สภ.พลับพลาชัย และรุ่งเช้า (25 ธ.ค.) ได้นำสำเนาการแจ้งความไปยื่นกับ กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ไว้เป็นหลักฐาน เชื่อว่าเป็นการอุ้มตัวไปเพราะ นำเงินแจกซื้อเสียงไปแจ้งกับ กกต. ซึ่งขณะนี้ตนและญาติเกรงกลัวเป็นอย่างมากว่าพยานอีก 2 คน คือ ลูกชาย และเพื่อนจะถูกอุ้มไปอีก
       
        ด้านนายขจรธน จุดโต ผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 บุรีรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.) ซึ่งสอบตกได้เดินทางมาสอบถามชาวบ้าน และรับฟังเรื่องราวรวมทั้งได้ประสานไปถึง พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ ให้ช่วยเร่งติดตามนำตัว 2 พยานที่ถูกอุ้มไปเกรงจะเป็นอันตรายกลับมา เพราะเวลาผ่านไป 9 วันแล้วยังไม่กลับมาและไม่ทราบชะตากรรม พร้อมขอให้ กกต.จังหวัดรีบตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียน จนพยานถูกอุ้มว่าควรเร่งรีบเพราะเป็นการคุกคามโดยอาศัยอิทธิพลข่มขู่
       
       ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (1 ม.ค.) ว่าที่ ร.ต.ทวี ชุนเกาะ รักษาการ ผอ.กกต.จ.บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ นายสมคิด สินไธสง หัวหน้าพรรคการเมือง กกต.ปฏิบัติหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ สืบสวนหาข่าวเรียกพยานที่เหลือและผู้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบข้อมูลเพิ่มเติมเป็นการด่วน และประสานไปที่ตำรวจเร่งขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุ เร่งติดตามพยานที่ถูกอุ้มไปโดยเร็ว

 
 http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000155719
 
 
 
 เรื่องอย่างนี้คนรักทักษิณ คนรักพรรคพลังประชาชน ไม่สนใจหรอก
และคิดเป็นการกุข่าวมากกว่า........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

"สุเมธ"ตอกหน้า"หมัก"-อย่าพูดบิดเบือนสังคม 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2551 21:45 น.
 
 
 
       “สุเมธ” ออกโรงป้อง “ชัยยะ” ไม่เกี่ยวแจกแดงพปช. ตอกหน้า “สมัคร” อย่าพูดบิดเบือนสังคม เตรียมพิจารณาประกาศรับรองผลล็อตแรกชี้ชัดซีดีมีราคาถือเป็นแจกทรัพย์สินผิดกม.คดีเพชรบูรณ์ฝ่ายสืบสวนยังไม่ตั้งแท่นปีใหม่กกต.ยังไม่แจกแดง-เหลืองเพิ่ม“ประสพ” ยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
       
      นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงการตั้ง พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผบช.ส. เป็นประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตว่า พล.ต.ต.ชัยยะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาแจกใบแดง ใบเหลือง ให้ว่าที่ส.ส.พลังประชาชน ทั้งนี้หากพรรคพลังประชาชน สงสัยการทำหน้าที่ของ พล.ต.ต.ชัยยะ ในคดีใดตรงไหนก็ให้บอก แต่ถ้า พล.ต.ต.ชัยยะ มีเจตนาดีคิดช่วยประเทศชาติจะให้เขาออกได้อย่างไร ในขณะนี้ กกต.ก็ไม่เห็นว่ามีใครจะเสนอหน้ามาช่วยกกต.ทำงานเหมือนอย่างนี้ ฝ่ายสืบสวนกกต. มีอยู่ 2-3 คน จะทำอะไรไหว อีกทั้งคดีใบแดงที่ จ.บุรีรัมย์ ประธานกกต.จังหวัด เป็นคนชงและเดินมาให้กับมือถึงห้องประชุม ส่วนที่จ.นครราชสีมา เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่จับกุมเอง หลักฐานก็มี พล.ต.ต.ชัยยะ ไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยได้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่ที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. เป็นผู้ขอไปเพราะโดนข่มขู่ ไม่อยากให้เข้าใจผิด
       
        เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวหาว่ากกต.มีมือที่มองไม่เห็นอยู่เบื้องหลังกกต.ส่งตำรวจสันติบาลเข้ามาแจกใบแดงพรรคพลังประชาชนหลายสำนวนนายสุเมธ กล่าวว่า ฝากบอกนายสมัคร และอีกหลายคนในพรรคที่ออกมาพูดขณะนี้ด้วยว่า อย่าพูดอย่างนี้ อย่าพยายามบิดเบือนสังคม ไม่มีใครมากดดันการทำงานของกกต.ทุกคนได้ และการลงมติใดๆ ในการออกใบเหลืองหรือแดง กกต.ได้หลักฐานพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
       
       นายสุเมธ กล่าวว่า ที่ประชุมใหญ่กกต.วันที่ 2 ม.ค.นี้ จะพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส. เพื่อเตรียมประกาศรอบแรกในวันที่ 3 ม.ค. เฉพาะกลุ่มที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน และว่าที่ส.ส. ที่กกต.ยกคำร้องไปแล้ว ส่วนผู้ที่ถูกร้องเรียนนั้น ความเห็นส่วนตัวจะเสนอที่ประชุมให้เร่งพิจารณาสำนวน และลงมติให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17-18 ม.ค. จากนั้นผู้ที่กกต.พิจารณายกคำร้อง ก็จะทยอยประกาศ จนถึงวันที่ 22 ม.ค.เป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะทันต่อการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก 25 ม.ค. และส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรจะประกาศรายชื่อผู้ที่ถูกร้องไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลังเหมือนที่นายประพันธ์ เคยให้ความเห็นไว้
       
        นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีที่กกต.มีมติว่าการแจกซีดี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความผิด โดยมีว่าที่ส.ส.หลายคนถูกร้องเรียนในเรื่องนี้ ว่า ถ้าเป็นความผิดส่วนบุคคล กกต.ชี้ขาดได้เต็มที่ทั้งเรื่องซื้อเสียงหรือแจกซีดี ซึ่งเรื่องแจกซีดีเนื้อหาเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือเป็นคนนอกไม่เกี่ยวกับพรรค แล้วเอามาแจกทำไม ทั้งยังมีราคาชัดเจน 99 บาท เป็นการทำผิดกฎหมายคือ การให้ทรัพย์เพื่อจูงใจ อย่างไรก็ตามต้องสอบสวนด้วยว่าพรรคการเมืองรู้เห็นและเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ สำหรับกรณีที่มีหลักฐาน นายยงยุทธ ติยะไพรัช เรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องซื้อเสียงในพื้นที่ภาคเหนือจนอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองนั้น นายสุเมธ กล่าวว่า หากจะเอาผิดถึงขั้นยุบพรรค ตามกฎหมายกกต.ไม่มีอำนาจตัดสินได้ ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด กกต.ทำได้แค่ชี้มูลว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ แต่สำนวนเรื่องนี้ต้องรอให้นายยงยุทธ เข้าชี้แจงในวันที่ 8 ม.ค.ก่อน
       
       นายสุเมธ กล่าวว่า ขณะนี้มีปัญหาเรื่องการพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านหลายสำนวน ที่กกต.ได้สั่งให้สอบสวนเพิ่มและส่งกลับมาใน 7 วัน เช่น กรณีการจับหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเงินสด 1.3 ล้านบาท จ.เพชรบูรณ์ จากเดิมที่ฝ่ายสืบสวนจะต้องสรุปสำนวนส่งเข้าที่ประชุมในวันนี้ ก็ยังไม่เสร็จ กกต.จึงต้องประสานให้ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผบช.สน. ฐานะประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของตำรวจสันติบาล ลงพื้นที่ไปสอบสวนเอง แต่ยังไม่ทราบว่าจะเสร็จเมื่อใด
       
       จากนั้นเมื่อเวลา 17.00 น. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมกกต.วันนี้ไม่มีการพิจารณาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือ สั่งเลือกตั้งใหม่กับรายใด และไม่มีพิจารณายกคำร้อง โดยได้มีการพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านนายประสพ บุษราคัม ว่าที่ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน เข้าชี้แจงกรณี 2 ข้อกล่าวหา คือ แจกเงินเพื่อให้ไปฟังปราศรัย และแจกซีดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 1 ปีที่หายไป ซึ่งนายประสพ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และกรณีที่ถูกกล่าวหาปราศรัยใส่ร้ายพรรคการเมืองใหม่ว่ารับเงินจากคมช. ซึ่งทั้งหมดมีการบันทึกซีดีจำนวน 19 แผ่น โดยนายประสพ ชี้แจงว่าจำไม่ได้ ทางกกต.จึงสำเนาซีดีให้ไปดู และให้ชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 7 ม.ค.นี้  อย่างไรก็ตามที่ประชุมเข้าครบองค์ประชุม และบรรยากาศก็เป็นไปด้วยดี สำหรับผลการวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิว่าที่ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 ของพรรคพลังประชาชน นั้น ในวันที่ 2 ม.ค. กกต.จะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา
       
        ด้านนายประสพ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในการชี้แจงต่อกกต.ตนได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องซื้อเสียงและแจกซีดี โดยกกต.ได้มอบซีดีไปให้ตนดูรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนการปราศรัยนั้นยอมรับว่าได้พูดว่ามีการพรรคการเมืองใหม่จริง แต่ไม่ได้ระบุชื่อพรรค ซึ่งในพื้นที่ของตนมีพรรคการเมืองเก่าเพียง 2 พรรค คือพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคชาติไทย แต่มีพรรคการเมืองใหม่อยู่หลายสิบพรรค โดยในวันที่ 7 ม.ค.นั้นตนจะชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000155712
 
 
นักการเมืองพรรค์นี้ เป็นประเภท'ปากกล้า ขาสั่น'
ไม่กล้าทำ กล้ารับอย่างลูกผู้ชาย...

ถ้าจะยอมรับผิด เพราะจำนนหลักฐานเท่านั้น......

[น้องแบ๊งค์เองครับ]

ต่อให้ศาลตัดสินมันยังบอกว่าโดนแกล้งเลย

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

รอฟังรายละเอียดจากชมรม"เสี่ยวอิสาน"อยู่ครับ

[ริวเซย์]

ใช้อำนาจมืดอิทธิพลเถื่อนอีกละ ไหนบอกว่ากำจัดผู้มีอิทธิพลไปหมดแล้วไง

ทำไมไม่กำจัดพรรคพวกตัวเองด้วยวะไอ้เหลี่ยม ปล่อยให้ลิ่วล้อไปอุ้มชาวบ้านได้ไง

หรือว่าเป็นคำสั่งของเมิงตามเคย แบบตอนอุ้มทนายสมชาย

[Can ไทเมือง]

ปล่อยให้มันโวยไปเถอะ พวกชอบใส่ความคนอื่น

ผมได้กลิ่นคาวเลือดโชยมาแล้ว เที่ยวนี้ทหารคงไม่ยุ่ง

เราต้องช่วยตัวเองแล้วครับ ลองดูว่าถ้าประชาชนลุกฮือ พวกนักประชาธิปไตยหัวเหลี่ยมมันจะได้เชื่อซะที

ว่าถ้าผู้ปกครองปากไม่ดี มีโอกาสนองเลือดสูง

ล้างกันซักทีก็ดีเหมือนกันครับ

[Can ไทเมือง]

ศึกยังไม่จบ คอยดูตอนเลือกตั้งซ่อม ผมเก็งว่าจะมี "วิชามารก๊อกสอง" ตามมา

เพื่อลดความน่าเชื่อถือของ กกต. โดยอาศัย TITV นั่นแหละ

รอฟังกกต. ประกาศรับรอง สส. พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ถ้าไม่ครบ 90 % ก็เปิดสภาไม่ได้

[ปุถุชน]

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. บริเวณหน้าสำนักงาน กกต.จ.บุรีรัมย์ มีชาวบ้านกว่า 300 คน จาก 9 อำเภอของเขตเลือกตั้งที่ 1 มาชุมนุมถือป้ายให้กำลังใจกับ กกต. ในกรณีแจกใบแดง 3 ว่าที่ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชาชน โดยนายสมจิตร ภาษี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ กกต.ทำหน้าที่ต่อไป เพราะเชื่อได้ว่ากกต.เป็นกลาง และมีหลักฐานการกระทำผิดกฎหมายในกรณีการแจกเงิน...
ว่าที่ ร.ต.กวี ชุนเกาะ ผอ.กกต.บุรีรัมย์ กล่าวภายหลังพบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่มาให้กำลังใจว่า เป็นสิทธิการแสดงออกของประชาชน ในส่วนการพิจารณาของ กกต.กลางนั้น ต้องมีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้นขอให้ประชาชนสบายใจได้ในการทำงานของ กกต.  



จาตุรนต์” จวก 4 กกต.ไม่น่าเชื่อถือ

ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กกต.แจกใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 พรรคพลังประชาชนว่า วันนี้ได้เห็นแนวโน้มจะเกิดความไม่เป็นธรรม และว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะถูกใบแดงเพิ่มมากขึ้น โดยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้สมัครเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ขัดต่อหลักกระบวนการยุติธรรม และก่อนหน้านี้ขณะที่ยังรักษาการหัวหน้าพรรค ไทยรักไทยได้รับทราบมาตลอด กรณีที่มีอดีต ส.ส.มาขอลาออกโดยแจ้งว่าถ้าใครยังอยู่พรรคนี้จะถูกใบแดงใบเหลือง สอดรับกับท่าทีของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดจาสอดคล้องกันว่า พรรคพลังประชาชนจะไม่มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล เมื่อเร็วๆนี้ พล.อ.สนธิพูดตอกย้ำว่าเป็นคนตั้ง กกต.ชุดนี้มากับมือ วันนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า กกต. 4 คน ไม่มีความน่าเชื่อถือในความเป็นกลาง เพราะทำตามความประสงค์ของอดีตผู้นำ คมช.  

จาตุรนต์ เชื่อ 'สามหนา ห้าห่วง' มากกว่า คณะ กกต. 4 คน
คงให้ความเชื่อถือ กกต. อีกคนเท่ากับ 'สามหนา ห้าห่วง'........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



แนะส่งศาลฎีกาชี้ขาดใบแดง-เหลือง

นายจาตุรนต์กล่าวว่า หากปล่อย กกต.ให้ใบแดงว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนตามอำเภอใจอย่างนี้ จะทำให้การตั้งรัฐบาลเปลี่ยนขั้วได้ เท่ากับคนที่ยึดอำนาจมากำลังกำหนดว่าจะให้ใครเป็นรัฐบาล หรือเป็นนายกรัฐมนตรี โดยคน 4 คนที่มาจากอำนาจของผู้ที่ยึดอำนาจ ดังนั้น ขอฝากให้สังคมช่วยติดตามการทำงานของ กกต.ทั้ง 4 คนนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ให้สร้างความหายนะแก่ประเทศ ทำอะไรตามอำเภอใจอันเป็นการหักล้างมติมหาชน ที่คิดจะสืบทอดอำนาจต่อไป กกต.ไม่ควรทำหน้าที่ให้ใบเหลืองใบแดงอีกแล้ว ควรส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสิน จะทำให้ กกต.พ้นข้อครหาว่าฝักใฝ่ฝ่ายที่ยึดอำนาจด้วย หากยังขืนให้ใบแดงเฉพาะแค่พรรคพลังประชาชน จะทำให้สังคมเกิดความแตกแยก เกิดความอาฆาต กลายเป็นปัญหาใหญ่หลวงของประเทศ นอกจากนี้ ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนขั้วเป็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ จะถือว่าขาดความชอบธรรมอย่างรุนแรง รัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ ขาดความน่าเชื่อถือ ในที่สุดก็จะล้ม แล้วต้องจัดเลือกตั้งใหม่โดยการควบคุมของ กกต.ชุดนี้อีก จะวนอยู่อย่างนี้ไปอีก 7 ปี

จาตุรนต์เคยแนะนำให้ 'สามหนา ห้าห่วง' ส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยหรือไม่
การที่คณะ กกต. 5 คน จะส่งเรื่องใบแดงให้คณะกรรมการกฤษฏีกาพิจารณา ยังไม่เป็นที่พอใจ เชื่อถือของ จาตุรนต์ คนรักประชาธิปไตยร่วมกับ'หมัก เมถุน'....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 
http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=73663

[lekapuk]

เมื่อวานเพิ่งพูดไปว่าระวังพยานโดนอุ้ม

ที่ไหนได้วันนี้โดนเลย

งานนี้จะรอดไหมเนี่ย

[ABCAB]

ตอนนี้น้ำผึ้งหลุดออกจากขวด กำลังจะหยดลงพื้นแล้วล่ะครับ
หยดลงเมื่อไหร่ คงต้องมีเลื่อดหัวสาดกันบ้าง
ผมบอกกับเพื่อนที่บูชาเอี้ยแม้วตลอดว่า...วันไหนแบ่งพวกกันชัดเจน
ไม่มันก็ผมคงต้องตายกันไปข้างนึง
ในสมองไอ้เลวพวกนี้มันไม่มีความเป็นตรรกะ..บ้ากันไปหมดแล้ว
พ่อแม่มันชิบหายเพราะเอี้ยแม้วถล่มค่าเงินบาท..มันยังหลงบูชา
สงสารพ่อแม่มันจริงๆ

[RiDKuN]

ให้ใบแดงเฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ถ้าเป็นไปตามพยานหลักฐาน
จะผิดปกติก็เฉพาะในมุมมองของคนปัญญาบกพร่อง คิดว่าตัวเองเลวแล้วคนอื่นต้องเลวด้วย

[Şiłąncē Mőbiuş]

ให้ใบแดงเฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ถ้าเป็นไปตามพยานหลักฐาน
จะผิดปกติก็เฉพาะในมุมมองของคนปัญญาบกพร่อง คิดว่าตัวเองเลวแล้วคนอื่นต้องเลวด้วย

มันเป็นเรื่องปรกติของพวกชอบเสพเมถุนในที่สาธารณะ 

[เล่าปี๋]

เมื่อวานเพิ่งพูดไปว่าระวังพยานโดนอุ้ม

ที่ไหนได้วันนี้โดนเลย

งานนี้จะรอดไหมเนี่ย

    ไม่ทราบเหมือนกันครับ

    ระวังที่อื่นอาจจะมีการอุ้มอีกแล้วกัน