snowflake
|
|
« เมื่อ: 17-11-2007, 20:00 » |
|
ชีวิตที่(ไม่)พลิกผัน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ จาก คณะรัฐประหารสู่ พปช.พล.อ.เรืองโรจน์ย้อนอดีตเล่าความหลังก่อนเกิดเหตุการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ว่า แม้จะเกิดข่าวลือล่วงหน้าหลายเดือน แต่ไม่คิดว่าจะมีการปฏิวัติ เพราะเป็นสิ่งที่ ล้าสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จึงเดินทางไปนอกประเทศ เพราะคิด ว่าทหารจะไม่ทำปฏิวัติ จึงประมาทไปหน่อย ถ้าอยู่ในประเทศไทยคงปฏิวัติลำบาก เพราะมีแบ๊คอัพ มีเพื่อนเยอะ พล.อ.เรืองโรจน์เชื่อว่าหากคืนวันนั้นหากเขาตัดสินใจสู้ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะ เอาชนะฝ่ายรัฐประหารได้ไม่ยาก "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่ทุกคนไม่มีบ้านอยู่ จะถูกเนรเทศกันหมด ผม ใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้แป๊บเดียว ตอนนั้นต้องทำเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของบ้านเมือง เลยยอมให้ ไม่อยากให้มีการนองเลือดในไทย ผมยอมให้นะ อย่าใช้ คำว่า ยอมแพ้"มติชน วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10843http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0104171150&day=2007-11-17§ionid=0101
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 17-11-2007, 20:02 » |
|
อือ เยี่ยมครับ หัดรักตัวกลัวตายซ่ะบ้าง รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gamobank
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 17-11-2007, 20:16 » |
|
พูดออกมาไม่อายปากที่ไม่กล้าเพราะประเมินแล้วว่าซวยแน่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเกตุ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 17-11-2007, 20:26 » |
|
เอาอารายมาสู้กับเขาละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 17-11-2007, 20:28 » |
|
ลงการเมือง พูดเรื่องเก่า ไม่มีใครอยากขัดคอ
แต่บอกตรงๆ ถ้าสู้กัน ทหารก็ฆ่ากันเองเพราะนักการเมืองหนีหมายจับ
การตัดสินใจยอมจึงถูกต้องแล้ว ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไร?
แต่หากยังพูดแบบนี้จะกลายเป็นดึงทหารไปแบ็คอัพนักการเมืองไม่ใช่แบ็คอัพประเทศ ซึ่งไม่ถูก
รู้สถานการณ์ดีแล้วแต่ไม่น่าพูดแบบนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 17-11-2007, 20:33 » |
|
ชีวิตที่(ไม่)พลิกผัน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ จาก คณะรัฐประหารสู่ พปช.พล.อ.เรืองโรจน์ย้อนอดีตเล่าความหลังก่อนเกิดเหตุการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ว่า แม้จะเกิดข่าวลือล่วงหน้าหลายเดือน แต่ไม่คิดว่าจะมีการปฏิวัติ เพราะเป็นสิ่งที่ ล้าสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จึงเดินทางไปนอกประเทศ เพราะคิด ว่าทหารจะไม่ทำปฏิวัติ จึงประมาทไปหน่อย ถ้าอยู่ในประเทศไทยคงปฏิวัติลำบาก เพราะมีแบ๊คอัพ มีเพื่อนเยอะ พล.อ.เรืองโรจน์เชื่อว่าหากคืนวันนั้นหากเขาตัดสินใจสู้ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะ เอาชนะฝ่ายรัฐประหารได้ไม่ยาก " ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่ทุกคนไม่มีบ้านอยู่ จะถูกเนรเทศกันหมด ผม ใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้แป๊บเดียว ตอนนั้นต้องทำเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของบ้านเมือง เลยยอมให้ ไม่อยากให้มีการนองเลือดในไทย ผมยอมให้นะ อย่าใช้ คำว่า ยอมแพ้"มติชน วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10843http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0104171150&day=2007-11-17§ionid=0101 ผมไม่เชื่อถือคำพูดที่อ้างอิงอย่างนี้.... เรื่องใหญ่อย่างนี้ เป็นฝ่ายชนะ จะยอมกันง่าย ๆ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 17-11-2007, 21:26 » |
|
มาพูดตอนนี้ใครก็พูดได้ครับ เหมือนกับม็อบพันธมิตรก็พูดได้เหมือนกัน ว่าถ้าทหารไม่ออกมาก่อน ป่านนี้ทักษิณเสร็จเรียบร้อยคามือไปแล้ว ลองคิดง่ายๆ ถ้าฝ่าย คมช. ไม่มั่นใจ จะกล้ายึดอำนาจทักษิณหรือ และในความเป็นจริงฝ่ายรัฐบาลโดนบล็อกในกรุงเทพไปหมดแล้ว ถ้า พล.อ.เรืองโรจน์ จะสู้ก็ต้องไปตั้งฐานสู้อยู่ที่ต่างจังหวัดเท่านั้น ..เหตุผลจริงๆ คงไม่อยากเปลืองตัว "สู้เพื่อแม้ว" มากกว่า..ทั้งหมดที่ออกมาพูดตอนนี้น่าจะแค่แก้ตัวที่ไปเข้าร่วมกับ คมช. มา เำพื่อหาคะแนนเสียงให้กับตัวเองในการลงเลือกตั้งครั้งนี้เท่านั้น ถึงขั้นนี้ก็ "ยอมให้" พล.อ.เรืองโรจน์ด้วยแล้วกันว่า "ไม่ได้ยอมแพ้"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 17-11-2007, 21:30 » |
|
จะให้ชัดก็ต้อง ผู้ถูกชนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 17-11-2007, 21:50 » |
|
อืม .. วันที่พวกลิ่วล้อยกพวกไปต้องการให้มีการนองเลือดที่บ้านพลเอกเปรม ทำไมพลเอกเรืองโรจน์ไม่ไปห้าม ขอเชิญเจ้าของกระทู้ช่วยอธิบายด้วย ...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2007, 21:52 โดย สมชายสายชม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 17-11-2007, 22:02 » |
|
... (ไม่มีอะไรมาตัดแปะ แค่อยากบอกว่าอ่านแล้ว แต่ไม่อยากโพสต์อะไร เนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
so what?
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 17-11-2007, 22:09 » |
|
แล้วถ้าสู้กันจริง ป้าเฟคว่าใครจะชนะครับ ลุงเรืองโรจน์หรือลุงสนธิ ???
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Suraphan07
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 17-11-2007, 22:18 » |
|
คล้ายๆกับชาวบ้าน "ติดหวย" ที่เที่ยวขูด "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ... พอหวยออกแล้ว ก็พร่ำบอกว่า "ตรูเห็น จะ จะ" ... ทั้งๆที่ "ตรูเพิ่งถูก แดร็ก" ไป ... ขอเอาใหม่งวดนีแล้วกัน... ว่าแต่ว่ามั่นใจหรือเปล่าว่า หวยออกเลข "พปช"...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jrr.
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 18-11-2007, 00:47 » |
|
เอ้า....ยอมเชื่อ......... ยอมเชื่อน่ะ....อย่าคิดว่าเชื่อจริงๆ !!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ScaRECroW
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 18-11-2007, 00:59 » |
|
His story แปลว่า เรื่องของเขา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
ล้างโคตรทักษิณ
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 18-11-2007, 14:55 » |
|
ซํกแต่ว่ามีปากพล่ามก็พล่ามไป เช่นเดียวกับ คุรตัวเช่าไอ้แม้ว ที่สักแต่มีมือ ก็กดแป้นตัดแปะข้อความไร้สาระลำเอียงเอนเป้นประโยชน์ต่อทูนหัวค้างคืนไปวันๆ แบบบไร้ความรับผิดชอบ
ไม่มีอะไรหรอก แกพึ่งได้รับโพยมาจากดคตรพ่อ ก็เลยเริ่มงานไม่มีอะไรมาก
ปล.จะชนะเรอะ เออ อยากรู้ สารวัตรทหาร กับ กองทหารรักษาการณ์ที่ บก.สูงสุด มีแค่กี่คนวะ? ถึงกล้าพล่าม ว่าจะชนะ อีกฝั่ง เกือบๆ 2 หมื่นคนได้
ยังจำได้ป่าวหว่า? เสียงตอกกลับโทรศัพท์ว่า"ถ้าม-รึงจะสู้กับ gu guก็พร้อมจะถล่มกับม-รึง" แล้วอดีต ผบ.สส ก็หน้าซีดเมื่อลูกขู่ล้มเหลว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 18-11-2007, 15:29 » |
|
เขียนให้มันดูสวย ๆ ไปงั้นแหละครับ......
ไม่จริงหรอกครับ ไอ้ ที่มาอ้าง.....ถ้า รู้ว่าชนะ คงไม่มีทางยอมหรอกครับ
ลองนึกดูสิ....ขนาดแพ้ไปแล้ว ยังก่อกวนไม่หยุด แล้ว ถ้ารู้ว่าชนะตอนนั้น
จะยอมเหรอครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 19-11-2007, 07:21 » |
|
ในอดีตสมัย 2475 กองกำลังของคณะราษฎร์ก็มีไม่มากนัก แต่ใช้ทีเผลอและกลลวง (ถ้าเป็นสมัยนี้คงเรียกพวกไม่มีจริยธรรม) ของพระประศาสน์พิทยายุทธ ควบคุมตัว เจ้าที่คุมกองกำลังในพระนคร ในขณะที่รัชกาลที่ 7 ทรงกอล์ฟอยู่ที่หัวหิน นักประวัติ ศาสตร์หลายฝ่ายประเมินดูแล้ว กำลังของฝ่ายเจ้ามีมากกว่า และสามารถจะสู้รบกับ พวกคณะราษฎร์ได้ ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือประชาชนยังยึดถือในระบอบกษัตริย์ แม้ ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำจากสงครามโลก ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเชื่อในระบอบนี้
แต่การที่รัชกาลที่ 7 ทรงเสด็จกลับพระนคร เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง อย่างไม่เสียเลือดเนื้อ ก็เป็นการพิสูจน์ว่า การเตรียมการยึดอำนาจโดยไม่ได้เตรียม การบริหารประเทศนั้น คือ การพาประเทศไปย่อยยับในอีกมิติ แม้ว่าจะโจมตีว่ากลุ่มเจ้า ปกครองไม่ดี แต่คณะราษฎร์เองก็ไม่สามารถทำได้ดีกว่า มีการยึดอำนาจกันเองมาตลอด และไม่สามารถกำจัดกลุ่มเจ้าให้หมดสิ้นไปได้ เนื่องจากประชาชนยังยึดติดกันความเชื่อ แบบดั้งเดิม ประชาธิปไตยจอมปลอมของคณะราษฎร์ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
แม้กระทั่งผู้ก่อการระดับนายปรีดี ที่เป็นฝ่ายพลเรือน ดูมีแนวคิดประชาธิปไตยมากกว่า กลุ่มทหารยึดอำนาจในสมัยนั้นก็เหอะ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นนิสัยใช้กำลังมายึดอำนาจใน ปี 2492 แต่ไม่สำเร็จจนต้องกลายเป็นกบฏวังหลวง และไม่สามารถกลับประเทศได้ในที่ สุด ซึ่งอาจจะเป็นบริบทในสมัยนั้นที่ใช้อ้างประชาธิปไตยควบคู่กับการใช้กำลังยัดเยียด
มาถึงสมัยปัจจุบันหลังการปฏิวัติโดยพวกนรกวันที่ 19 แล้ว สิ่งที่ประวัติศาสตร์เหมือนเดิม และไม่เหมือนเดิมก็คือ การไม่สู้รบให้เสียเลือดเนื้อ เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าการยึดอำนาจ โดยใช้อคติและไม่ได้เตรียมการบริหารประเทศ จะไปได้แค่ไหน และจะไม่มีผู้ใดได้ชื่อ ว่าเป็นกบฏจากความพ่ายแพ้(ตัวมันชนะก็ไม่ยอมให้เรียกว่ากบฏ) ส่วนที่ไม่เหมือนเดิม คือ ฝ่ายที่ประกาศตัวว่าเป็นประชาธิปไตยก็ไม่ทำตามอดีตแบบนายปรีดีทำ คือ เข้าหา กองกำลังมาต่อสู้ยึดอำนาจ เป็นการต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองแท้ๆ แม้ว่าฝ่ายที่ มีอำนาจในปัจจุบัน จะใช้อำนาจได้หลายมาตรฐานเอื้อประโยชน์ที่กลุ่มตนเองปั้นไว้อย่าง ทุเรศ รวมทั้งพยายามมอมเมาชวนเชื่อประชาชนยิ่งกว่าสมัยใดๆ ในอดีต
ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาสู่ระบอบคณะราษฎร์ โดยไม่เสียเลือดเนื้อ แม้จะได้ชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าตามกระแสโลกหนึ่ง ระดับ แต่ประชาชนก็ไม่ได้รับการปกครองที่ดีขึ้นกว่าระบอบเดิมๆ ซ้ำก่อวงจรอุบาทว์ ยึด อำนาจกันไม่เลิกมาตลอดเจ็ดแปดสิบปีนี้ จนกระทั่งมีประชาธิปไตยที่เรียกว่าใกล้เคียง จริงที่สุด แม้มีการแทรกแซงในกติกาเล็กๆ น้อยในบางหน่วยงานบ้าง แต่ก็ไม่หลุดออก จากกติกา การเปลี่ยนแปลงโดยใช้กำลังครั้งนี้ ผ่านมา 1 ปี ก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่าง ของผลงานบริหารประเทศ เหมือนในสมัย 75 ปีก่อน ห่วยพอกัน ทะเลาะกันเองเหมือนกัน จะมียึดอำนาจกันเองแถมเป็นระยะๆ
ถ้าเวลาผ่านไปจนถึงเลือกตั้ง ไม่มีการใช้กองกำลังจากฝ่ายทักษิณหรืออำนาจเก่า ย่อม แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอีกขั้นหนึ่ง ของฝ่ายถูกกระทำ ที่อดทนได้ เพราะคิดว่าอย่างไรเสีย ประชาชนพัฒนามาอีกระดับแล้วคงเข้าใจและตาสว่างได้ไม่ยาก อาจต้องใช้เวลาหน่อย ฝ่ายทักษิณเองฉลาดออกอย่างงี้ผลงานก็มาก คงไม่อยากเหมือน นายปรีดี ที่นิยมใช้กำลังตัดสินปัญหาในช่วงปลายการเมืองของท่าน เหตุการณ์บางอย่าง มันก็คล้ายเมื่อ 75 ปีก่อน เพียงแต่กลับข้างกันเท่านั้นเอง ที่เจ้าอยู่ได้เพราะประชาชนยัง ไม่เปลี่ยนความศรัทธา คณะราษฎร์ก็ต้องขอขมารัชกาลที่ 7 อยู่ดี เพื่อประนีประนอม ไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบไม่มีกษัตริย์เลยได้ ที่ทักษิณอยู่ได้แม้จะพยายาม ตีให้ดูเลวด้วยสื่อสมัยใหม่ ก็เพราะประชาชนส่วนหนึ่งศรัทธาและบ้านเมืองพัฒนามาอีกขั้น แล้ว สุดท้ายถ้าไม่ประนีประนอมก็ร่วมด้วยช่วยกันเจ๊งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รู้ไว้ซะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 19-11-2007, 07:26 » |
|
... (ไม่มีอะไรมาตัดแปะ แค่อยากบอกว่าอ่านแล้ว แต่ไม่อยากโพสต์อะไร เนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น)
มาช่วย จขกท ให้ความเห็นแล้ว อย่าให้พวกสติต่ำมาทะลึ่งลบแล้วกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 19-11-2007, 11:55 » |
|
มาช่วย จขกท ให้ความเห็นแล้ว อย่าให้พวกสติต่ำมาทะลึ่งลบแล้วกัน ห้ามใช้กำลังทหาร แต่ใช้วัยรุ่นรุมกระทึบคนแก่ได้ใช่ป่ะ ต้องใช้วินรถตู้ไปข่มขู่จะข่มขืนผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง ก๊ากๆๆ ถุยประชาธิปควาย ยังมีหน้ามาบอกว่าฉลาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
WATERMAN
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 19-11-2007, 12:12 » |
|
จขกท.เอาข่าวนี้มาลง เพื่อที่จะโชว์ความโง่ของ พล.อ.เรืองโรจน์ ละซี ช่างไม่รู้ตัวเองเลยจริงๆ ว่า ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ.ใครมีอำนาจมากกว่ากัน คงหลงนึกว่าตัวเองมีอำนาจมากกว่ามั้ง ยศเหนือกว่าจริง แต่ไม่สามารถสั่งกองกำลังได้ มันจะมีความหมายอะไร ขืนไม่ร่วมด้วยซิ ป่านนี้คงตายไปแล้ว ดีนะที่ยังยอมร่วมกับ คมช. ถึงมีชีวิตรอดมาได้จนทุกวันนี้ แหมขี้โม้ไม่แพ้ทักษิณเลยจริงๆ มิน่าถึงเข้าร่วมกับ พรรคพลังประชาชน ก็ขี้โม้ขี้คุยอย่างนี้เอง มันถึงไปรวมกันได้อย่างสนิทใจ 555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|