ฎีกาตัดสินยืนตามอุทธรณ์ จำคุก 'กำนันเป๊าะ' 5 ปี 4 เดือน

วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้พิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมพวกรวม 5 คน เป็นจำเลยในความผิดกรณีการจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 140 ไร่ มูลค่ากว่า 93 ล้านบาท โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายสมชาย เป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาของศาลจังหวัดชลบุรีในวันนี้ เป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย หลังจากที่ได้มีการเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษามาแล้ว 3 ครั้ง เนื่องจากนายสมชาย ไม่ยอมเดินทางไปฟังคำพิพากษาตามนัด และคาดว่ากำนันคนดัง ได้หลบหนีเดินทางออกนอกประะเทศไปแล้ว
สำหรับความเป็นมาของคดีนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2537 นายสมชาย ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.แสนสุข ได้ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผบช.ภ.2 จับกุมพร้อมพวกรวม 13 คน ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินจำนวน 140 ไร่ ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขายให้กับเมืองพัทยาวงเงิน 93,520,000 บาท เพื่อใช้เป็นบ่อทิ้งขยะ
คดีนี้มีการต่อสู้ยืดเยื้อยาวนาน โดยแนวทางการสืบสวน พบว่านายสมชายวางแผนให้คนสวนซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจากบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางละมุงในราคาไร่ละ 5 หมื่นบาท จากนั้นนำไปขายให้กับเมืองพัทยาสูงถึงไร่ละ 668,000 บาท ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกนายสมชาย จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน จำคุกนายวินัย สมทรัพย์ จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน จำคุกนายวิริยะ บุญกูล จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 3 ปี ส่วนที่เหลือศาลยกฟ้อง 9 คน เสียชีวิตระหว่างคดี 1 คน
ต่อมา นายสมชายและพวกยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดี ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นายสมชายจึงยื่นเรื่องสู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกา ต่อมาในวันที่ 24 ก.พ. 2549 ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา แต่นายสมชายอ้างเหตุจำเป็นไม่สามารถไปฟังคำพิพากษาได้ ศาลจึงเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 23 มี.ค. ปรากฏว่านายสมชายให้ทนายยื่นคำร้องขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้ง อ้างว่าป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ไม่สามารถเดินทางไปศาลได้ พร้อมกับแสดงเอกสารเป็นใบรับรองแพทย์ ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 7 เม.ย. โดยกำชับว่าหากไม่มาถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนีและจะออกหมายจับรวมทั้งริบเงินประกัน 1 ล้านบาท แต่เมื่อถึงวันนัดอ่านคำพิพากษานายสมชายกลับไม่ยอมไปตามนัด ศาลจึงออกหมายจับพร้อมสั่งริบเงินประกันดังกล่าว
(ข่าวจากไทยรัฐ-ภาพจาก ผจก)