วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ชาวชุมชนวังสอง ซอยรามคำแหง 60 แขวงและเขตบางกะปิกว่า 100 คน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งประหลาดลักษณะทรงกระบอก มีเนื้อวุ้นใสรอบนอก ด้านในแข็งเป็นไตสีขาวขุ่น ขยายตัวได้ขณะอยู่ในน้ำและจะหดตัวเมื่อถูกสัมผัสด้วยมือมนุษย์หรืออากาศภายนอก
ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า จากที่ใช้ฝ่ามือสัมผัสจะมีความรู้สึกนิ่มคล้ายเยลลี่ โดยไม่มีความระคายเคือง คาดว่าสามารถนำมาคลี่ออกได้
ด้านน.ส.ดวงฤดี พิมพ์พิทักษ์ กล่าวว่า ได้พบเห็นสิ่งประหลาดนี้เมื่อเช้าวันนี้ ขณะกำลังซักผ้า แต่หาคำตอบไม่ได้กับสิ่งที่พบเห็น ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะตกลงมาพร้อมฝนเมื่อคืนที่ผ่านมา (12 พ.ค.)และอาจเป็นสิ่งประหลาดชนิดเดียวกับที่พบที่จังหวัดอุทัยธานี อย่างไรก็ตาม จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปตรวจหาที่มาที่ไปของสิ่งประหลาดนี้โดยเร็ว
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000062822

ฮือฮาตัวประหลาดตกจากฟากฟ้าขณะพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง เรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นตุ๊บลงข้าง บ้าน ตื่นเช้ามาพบเคลื่อนที่จากจุดที่ตกมาอยู่หน้า บันไดบ้าน ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายหนอน ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ สีขาวขุ่นมีแกนคล้ายน้ำแข็งอยู่ภายใน สุดประหลาดพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้น เจ้าของเชื่อให้โชคลาภจุดธูปบูชา ขณะที่ชาวบ้านแห่ดูพูดเป็นเสียงเดียวกันเกิดมาเพิ่งจะเคยเห็น
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 พ.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบวัตถุลึกลับคล้ายเป็นสิ่งมีชีวิตตกลงมาจากฟ้า ที่บ้านเลขที่ 131/1 หมู่ 3 บ้านชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากพากันมามุงดูวัตถุประหลาดดังกล่าว ซึ่งนางกฤษณา มะโนมั่น อายุ 39 ปี เจ้าของบ้าน นำมาใส่ไว้ในโหลแล้วนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชา โดยชาวบ้านที่มาดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน และต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา
นางกฤษณา ซึ่งมีอาชีพค้าขายเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนพัดตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ขณะนั้นนายถวิล จันจินดา อายุ 56 ปี พี่ชาย และนางตะเคียน ทวีเขตกิจ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้าน ที่มานอนเป็นเพื่อนเนื่องจากไฟฟ้าดับ เห็นมีวัตถุ ลึกลับมีลักษณะเป็นแสงคล้ายผีพุ่งไต้ ตกลงมาจากฟ้า โดยผ่านมาทางเทือกเขาปลาร้าที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. มาตกที่ข้างบ้านเสียงดังตุ๊บ แต่ทั้งสองคนไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นลูกเห็บ
กระทั่งรุ่งเช้าตนตื่นขึ้นมาเก็บกวาดบ้าน ก็พบวัตถุประหลาดดังกล่าวตรงบันไดหน้าบ้าน ห่างจากจุดที่ตกประมาณ 5 เมตร โดยมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่น คล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหู มีขนาดเท่าฝ่ามือ ตนจึงนำมาใส่ไว้ในขวดโหลพร้อมกับเติมน้ำเข้าไป
จากการสังเกตดูวัตถุประหลาดที่คล้ายสิ่งมีชีวิตนี้ พบว่าหากจับไว้ในมือลำตัวจะหดลง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ในขวดโหล ลำตัวก็จะพองโตออกมากกว่าเดิม และบางครั้งมองดูคล้ายมีสีรุ้ง ตนไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร เพราะตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งจะเคยเห็น อย่างไรก็ตามตนจะเก็บไว้บูชา เพราะเชื่อว่าจะให้โชคลาภและหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังข่าวพบตัวประหลาดนี้แพร่สะพัดออกไป ได้มีชาวบ้านหลั่งไหลกันมาขอดูแทบไม่ขาดสาย ซึ่งจะได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบต่อไปว่าตัวประหลาดนี้คืออะไรกันแน่.
ตะลึงวัตถุประหลาดวุ้นสีขาวโผล่กลางกรุงอีก พบโผล่ในอ้างซักผ้าของชาวบ้านสุเหร่าหัวหมากน้อย หลังฝนตกหนักทั้งคืน เผยลักษณะเหมือนที่พบอุทัยธานี แถมแช่น้ำขยายตัวเหมือนกัน ด้าน ผอ.กองวิจัยธรรมชาติวิทยา เชื่อเป็นที่ทำความสะอาดบนเครื่องบิน เหตุหลังตรวจสอบไม่พบสิ่งใดบ่งบอกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกลายเป็นข่าวฮือฮาที่ทุกคนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง หลังชาวบ้านใน จ.อุทัยธานี พบก้อนวุ้นแกนสีขาวยาวประมาณ 13 ซม. มีลักษณะคล้ายสิ่งมีชีวิตสามารถพองตัวและหดตัวได้เมื่อนำไปแช่น้ำ โดยชาวบ้านเชื่อว่าก้อนวุ้นดังกล่าวอาจเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ตกลงจากท้องฟ้า ล่าสุดขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หาที่มาที่ไปของก้อนวุ้นประหลาดนั้น ปรากฏว่า ชาวบ้านในกรุงเทพมหานครพบก้อนวุ้นประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกับที่พบที่ จ.อุทัยธานี โดยอ้างว่า ก้อนวุ้นดังกล่าวตกหลังจากฝนตกหนักช่วงกลางดึกวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนวังโสม ซ.สุเหร่าหัวหมากน้อย แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ว่า พบวัตถุประหลาดคล้ายวุ้นมีลักษณะคล้ายแมงกะพรุน ลำตัวนิ่มอยู่ในกะละมังซักผ้าในบ้านเลขที่ 278/1 ซึ่งขณะนี้ผู้พบเห็นนำวัตถุประหลาดดังกล่าวใส่ในน้ำที่บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดเล็กในบ้านเลขที่ 223 ซึ่งเป็นบ้านของนายอรุณ เสมโชะ คณะกรรมการหมู่บ้านเขตดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพบชาวบ้านกว่า 100 คน มุงดูวัตถุประหลาด โดยต่างฝ่ายจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่พบเห็น เนื่องจากไม่เคยมีใครเห็นวัตถุประหลาดลักษณะนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามจากการสังเกตพบว่า วัตถุประหลาดดังกล่าวคล้ายกับสิ่งมีชีวิต มีลักษณะด้านในเป็นแกนสีขาว ส่วนด้านนอกมีลักษณะเป็นวุ้นนิ่มมาก ลำตัวยาวประมาณ 13 ซม. ความหนาประมาณ 4 ซม. ส่วนแกนด้านในสีขาวมีขนาดความกว้างประมาณ 1.5 ซม. นอกจากนี้ยังพบว่า หากนำวัตถุประหลาดดังกล่าววางไว้ที่พื้นจะยุบตัวจากความยาวประมาณ 13 ซม. เหลือประมาณ 2.5 ซม.ทันที
นางดวงฤดี พิมพิทักษ์ อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานหั่นชิ้นส่วนไก่บริษัทซีพี ย่านการไฟฟ้ามีนบุรี ผู้พบเห็นวัตถุประหลาด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม แช่ผ้าไว้ตอนกลางคืนด้านหลังบ้านที่มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ จากนั้นช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม ออกมาซักเสื้อผ้าที่แช่ไว้ ทั้งนี้ระหว่างซักเสื้อผ้าประมาณ 6 ตัวสังเกตเห็นก้อนวุ้นขาวๆ ยาวกว่า 10 ซม.อยู่ในกะละมังจึงจับดูและแทบช็อกเมื่อพบว่าวุ้นดังกล่าวมีลักษณะคล้ายสิ่งมีชีวิต
"ฉันตกใจจึงโยนทิ้งลงกับพื้น แต่พบว่าวุ้นที่ยาวประมาณขวดกระทิงแดงกลับหดตัวลงรวดเร็ว ตอนนั้นตกใจมากเรียกลูกหลานในบ้านออกมาดู จากนั้นนำไปให้ญาติดู ก่อนจะใส่ในขวดโหล ฉันไม่เคยพบมาก่อนจึงไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร แต่เคยเห็นในข่าวโทรทัศน์เมื่อคืน 12 พฤษภาคม ไม่รู้ว่าไปอยู่ในกะละมังเมื่อไร แต่คิดว่าน่าจะอยู่เมื่อคืนตอนทุ่มหนึ่งมีฝนตกลงมา พอสองทุ่มฝนหยุดตก จนกระทั่งมาพบตอนเช้า" นางดวงฤดี กล่าว
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นได้ส่งวัตถุประหลาดดังกล่าวให้คณะกรรมการหมู่บ้าน ซึ่งคณะกรรมการจะส่งให้นายวรากร บุญมาเลิศ ส.ข.เขตบางกะปิ ดำเนินการต่อไป โดยเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องปรึกษากับแฟนว่าจะทำอย่างไรตอ่ไป
ด.ช.นที บู่ทอง อายุ 11 ปี หลานของนางดวงฤดี กล่าวว่า ไม่รู้ว่าตัวประหลาดเป็นสิ่งใด เพราะตอนพบครั้งแรกลองจับดูและรู้สึกว่ามีลักษณะนิ่มเหมือนตัวทาก ทั้งนี้ช่วงดึกวันที่ 12 พฤษภาคม มีฝนตกอย่างหนัก ซึ่งขณะนั้นได้ยินเหมือนเสียงตกบนสังกะสี จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวประหลาดตกลงมาพร้อมกับสายฝน ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นอุจจาระของมนุษย์ต่างดาว
ด้านนางอาสา มั่นคง อายุ 38 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แปลกที่มีคนพบวัตถุประหลาดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำชับลูกหลานไม่ให้จับ เพราะไม่รู้ว่าจะให้โทษหรือคุณ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ตกใจมาก เพราะวัตถุประหลาดตัวเล็กนิดเดียว แต่กลัวว่าอาจเป็นสัตว์มีพิษ ดังนั้นอยากให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบเพื่อหาความเป็นมาของวุ้นประหลาดชิ้นนี้
นายสันชัย เมฆลอย อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ อปพร.เขตมีนบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งประหลาดที่เกิดในชุมชน ซึ่งมองว่าวัตถุประหลาดที่พบอาจเป็นสิ่งเตือนให้ประชาชนระวังตัวว่า จะเกิดภัยพิบัติของปรากฏการณ์ของธรรมชาติในภายภาคหน้า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นวัตถุประหลาดที่มีลักษณะคล้ายวุ้นมาก่อน จึงไม่ทราบว่าเป็นสิ่งใด
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดร.จารุจินต์ นภีตะภัฏ ผู้อำนวยการกองวิจัยธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลง แสดงความคิดเห็นว่าจากการคาดการณ์เบื้องต้นด้วยสายตาคาดว่า ก้อนวุ้นที่ตกลงมาจากท้องฟ้าที่ จ.อุทัยธานี และกรุงเทพฯ น่าจะเป็นวุ้นที่ใช้ทำความสะอาดบนเครื่องบินมากกว่าเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะที่ จ.อุทัยธานี เป็นเส้นทางบินผ่านไปยุโรปอยู่แล้ว
"เท่าที่ทราบพบว่าวุ้นสีขาวไม่ได้เคลื่อนไหว หรือมีอวัยวะใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเลย ทั้งนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองและไม่กินอาหารด้วย" ดร.จารุจินต์
ดร.จารุจินต์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่วุ้นสีขาวอยู่ในน้ำจะพองตัว แต่เมื่อนำมาวางที่พื้นจะหดตัวนั้นเชื่อว่า คงเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของวุ้น โดยเมื่ออยู่ในน้ำวุ้นจะดูดซับน้ำทำให้พองใหญ่ขึ้น แต่เมื่อนำออกมาก็จะหดลง ทั้งนี้มีการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พบว่า ก้อนวุ้นมีเส้นใย ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เส้นใยดังกล่าวคืออะไร เป็นใยผ้าหรือใยอาหาร นอกจากนี้ยังต้องตรวจดูว่า ก้อนวุ้นมีเซลล์หรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอย่างแน่นอน
ปล มติชนลงหน้าหนึ่งมีรูปด้วย ล่อความอยากรู้อยากเห็นได้ดีมาก มันคืออะไรลองทายกันหน่อยเน้อ
ปล2 เฮ่ย มติชนลงข่าวพรรณนี้ด้วยแฮะ อิอิ นึกว่ามีแต่ไทยรัฐ