กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีปัญหามากอยู่แล้ว Lese majeste law still problematic
The Nation วันที่ 11 ต.ค.2550โดย ธงชัย วินิจจะกูล
ผู้แปล: พงศ์เลิศ พงศ์วนานต์การเสนอแก้ไขกฎหมายหมิ่นฯ นี้เลอะเทอะและไม่ฉลาดเอาเสียเลย กฎหมายเท่าที่
เป็นอยู่ก็มีปัญหาในหลายแง่มุมมากพออยู่แล้ว
โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายข้อนี้ขัดแย้งกับหลักการในรัฐธรรมนูญที่ว่า ประชาชนทุกคน
มีความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย แต่ประเทศไทยยอมให้ความขัดแย้งนี้ดำรงอยู่
ตลอดมาด้วยกลไกและบรรทัดฐานทางกฎหมายที่น่ากังขา
ยิ่งกว่านั้น ปัญหาที่น่าหนักใจก็คือ การฉ้อฉลใช้กฎหมายนี้เพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง
เพราะกฎหมาย
อนุญาตให้ใครก็ได้กล่าวหาใครก็ได้ว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ต่างจาก
กฎหมายหมิ่นประมาท ที่เฉพาะผู้เสียหายเท่านั้นที่จะดำเนินการฟ้องร้องได้ กฎหมาย
หมิ่นฯ จึง
กลายเป็นอาวุธทางการเมืองที่ฉวยใช้ง่ายเหลือเกิน
ผู้ถูกกล่าวหาโดยคดีหมิ่นฯ ได้รับความเสียหายไปแล้ว ไม่ว่ากระบวนการหรือผลทาง
กฎหมายจะออกมาเป็นอย่างไร และทั้งๆ ที่กรณีส่วนใหญ่ถูกยกฟ้องหรือไปไม่ถึงศาล
ข้อหาหมิ่นฯ จึงถูกใช้อย่างไม่ต้องคิดหรือเป็นการเมืองสามานย์ แทนที่จะได้รับการ
จัดการอย่างระมัดระวังรอบคอบมากที่สุด
การเสนอแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ละเมิดหลักการทางกฎหมายและขนบธรรมเนียมในหลาย
แง่ และอาจจะยิ่ง
ทำให้มีการใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างหนักข้อมาก
ขึ้นไปอีกประการแรก การแก้ไขครั้งนี้จะเป็นการยกสถานะคนกลุ่มเล็กๆ (รวมถึงคนที่ไม่ใช่เจ้า)
ขึ้น
เหนือประชาชนทั่วไป ซึ่งจะสร้างแบบอย่างที่อันตราย เนื่องจากอาจจะมีการออก
กฎหมายที่จะ
สร้างชนชั้นอภิสิทธิ์หรือพวก firsts among the equals
เพิ่มขึ้นมาอีก
การแบ่งชนชั้นในสังคมอย่างเป็นทางการโดยมีกฎหมายรองรับกลับมากและหนักยิ่งขึ้น
ไปกว่าที่เป็นอยู่อีก แทนที่จะเป็นไปในทางที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ประการที่สอง การแก้ไขครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คนกลุ่มเล็กๆ มีสถานะสูงกว่าประชาชน
ทั่วไปอย่างถูกกฎหมาย แต่ยังเป็นการ
ยกบุคคลบางคนให้มีอภิสิทธิ์และฐานะใกล้เคียง
เจ้าอีกด้วย นี่เป็นการไม่สมควรทั้งต่อสถาบันกษัตริย์ ขนบประเพณี และเป็นการลบหลู่
หยามหลักประชาธิปไตยของสังคมสมัยใหม่ทุกประการ
การเสนอแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้อาจจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเสียเองด้วยซ้ำประการที่สาม ในโลกสมัยนี้ ที่
ทุกคนบนโลกล้วนมีผลประโยชน์ทางวัตถุ ทั้งในเชิง
การเมืองและเศรษฐกิจ
ความโปร่งใส (transparency) และการสามารถตรวจสอบ
ได้ (accountability) เป็นสิ่งจำเป็นมากยิ่งกว่าเดิม การเสนอแก้ไขครั้งนี้กลับเดินไป
ในทิศทางที่ตรงกันข้าม คือทำให้บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งและความรับผิดชอบสูงอยู่
ในความเร้นลับและไม่สามารถตรวจสอบได้
ลองนึกดูว่า
หากบุคคลดังว่านี้ทำอะไรที่สร้างความเสียหายแก่สถาบันกษัตริย์ เขาก็
จะได้รับการปกป้องด้วยกฎหมายตามที่แก้ไขครั้งนี้ เพราะตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์
ไม่ได้ หมายความว่า เขาจะไม่ถูกลงโทษจากการสร้างความระคายเคืองต่อสถาบัน
กษัตริย์
ประการที่สี่ การใช้กฎหมายหมิ่นฯ เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของอภิสิทธิ์ชนและ
พวกพ้องก็จะได้รับการปกป้องโดยกฎหมายตามที่แก้ไขครั้งนี้ ผลกระทบที่จะเกิดแก่
สถาบันกษัตริย์นั้นอาจใหญ่โตและอันตรายเกินกว่าจะคิดได้ในขณะนี้
ประการที่ห้า ทำไมถึงจะต้องห้ามสื่อมวลชนเสนอข่าวกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ?
เพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ หรือว่าเพื่อข่มขู่สื่อไม่ให้นำเสนอข่าวการใช้กฎหมายหมิ่นฯ
ในทางฉ้อฉลกันแน่? สมาชิก สนช. สายสื่อมวลชนที่สนับสนุนการเสนอแก้ไขนี้ควรจะ
มีความละอายที่ได้ทรยศเพื่อนร่วมวิชาชีพและประชาชน
สุดท้าย เจตนาในการแก้ไขกฎหมายหมิ่นฯ ในครั้งนี้ โดยตัวของมันเองก็เป็นการใช้
กฎหมายหมิ่นฯ ในทางฉ้อฉล นั่นคือเป็นการให้การคุ้มครองคนบางคนที่อยู่ในความ
ขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน นี่เป็นการแก้ไขกฎหมายที่ผิดตั้งแต่ต้นแล้ว
หากมีการแก้ไขกฎหมายหมิ่นฯ ได้จริงๆ การกล่าวหาและคดีหมิ่นฯ ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้น
อย่างแน่นอน ยิ่งมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลมากขึ้นเท่าใด ความสนใจก็จะยิ่งพุ่งไปที่
สถาบันกษัตริย์มากขึ้นเท่านั้น แต่จะสร้างอภิสิทธิ์ให้คนบางคน (รวมถึงคนที่ไม่ใช่เจ้า)
ทั้งๆ ที่พวกเขากระทำการที่ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณชนและไม่สมควรจะ
ได้รับการคุ้มครองพิเศษเหนือกฎหมายแล้วก็ไม่สามารถลงโทษพวกเขาเหล่านั้นได้
แม้กระทั่งหากพวกเขาสร้างความเสื่อมเสียแก่สถาบันกษัตริย์ก็ตาม
บทเรียนจากทั่วโลกแสดงให้เห็นว่าการมีอภิสิทธิ์มากเกินไปอย่างนี้ ในที่สุดจะนำไป
สู่ความไม่พอใจของสาธารณชนและความปั่นป่วนในสังคม
กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เป็นอยู่ก่อผลเสียต่อสถาบันกษัตริย์ มากกว่าที่จะ
เป็นผลดี การแก้ไขคราวนี้จะยิ่งก่อผลเสียมากขึ้นไปอีก
การเสนอแก้ไขครั้งนี้ทำกันอย่างไร้ความยั้งคิด
ถึงจะยอมถอนร่างแก้ไขออกไป ความ
คิดและความพยายามผลักดันเรื่องนี้ก็ยังสมควรต้องถูกประณามอยู่ดีเราจะต้องไม่ยอมให้มันหวนกลับมาอีก
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9886&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai