ดูงบประมาณปี 2548 ระหว่างตำรวจระบอบทักษิณกับหทาร 3 เหล่าทัพ

[ปรมาจารย์เจได]

ดูงบตำรวจระบอบทักษิณที่ไม่มีปืนใหญ่ รถถัง ได้เงินเหนาะๆจากรัฐบาล สี่หมื่นสี่พันกว่าล้าน
แล้วไปไล่กระทืบคนแก่ที่เซ็นทรัลเวิร์ลโชว์แสนยานุภาพอีก



งบกระทรวงกลาโหมที่ต้องไปแบ่ง ซึ่งมี กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาหารทหารสูงสุด
หารกันอยู่ 4-5 หน่วยงาน ไหนจะต้องใช้ในกระทรวงกลาโหมเองอีก
โถ เห็นแล้วอนาถใจ อย่าว่าแต่เอาเงินงบประมาณไปซ่อมยุทธภัณฑ์เลย
เอาเงินเดือนไปจ่ายทหารในสังกัดยังแทบจะไม่พอ
กองทัพต้องมีเงินสนับสนุนลงไปสามจังหวัดด้วย
เบี้ยฝึก เบี้ยสร้างทหาร เบี้ยเสี่ยงภัย เบี้ยลาดตระเวน เบี้ยฝึกอบรบชาวบ้าน เบี้ยหน่วยข่าวกรอง เบี้ยในการดำเนินการต่างๆ


ยกมาให้ดูเฉยๆหรอก เห็นมีคนโจมตีเรื่องงบทหารเยอะ ไม่ได้เข้าข้างทหาร แต่ดูงบเมื่อเทียบกับตำรวจแล้ว ugly สุดๆ

[ScaRECroW]

ผมว่าเอามาเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไร ต้องเอาของตำรวจเป็นรายปี มาเรียงเทียบด้วย

[ปรมาจารย์เจได]

ผมว่าเอามาเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไร ต้องเอาของตำรวจเป็นรายปี มาเรียงเทียบด้วย

ปี 49 ตำรวจได้ ห้าหมื่นล้านครับ

ส่วนการเปรียบเทียบที่ผมยกมา
ยังไงกองทัพบกก็ได้น้อยกว่าตำรวจเยอะครับ

ตำรวจเอกก็ไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือสงครามแพงๆที่ต้องซ่อมด้วย

ไม่แปลกใจเหรอครับ อุปกรณ์ของกองทัพเสื่อมโทรมลงทุกวัน
พร้อมเงินที่ได้น้อยลงทุกวัน

[ScaRECroW]

ผมถึงบอกงัยว่ามันต้องเอาปีเก่า ๆ มาดูย้อนด้วยว่าเป็นอย่างไร คือถ้า 10 ปีที่ผ่านมา มันเป็นอย่างนี้มาตลอด มันก็จะมีคำตอบในตัวเองว่า มันมีสาเหตุ มีเหตุผลอยู่ในตัวมัน ช่วยหาข้อมูลของตำรวจปี 37 ไล่มาถึงปี 48 มาให้ดูหน่อยสิครับ  ผมว่ามันจะเห็นได้ว่าแท้จริงมันเป็นอย่างไร

ส่วนเรื่องของเก่าเสื่อมสภาพหรืออะไร เงินน้อยไม่ใช่คำตอบทั้งหมด การบริหารจัดการ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ การพิจารณาจัดซื้อจัดหาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการเสื่อมสภาพ ผมเคยได้ยินว่ามีกองทัพหนึ่ง ส่งอะไหล่ยุทโธปกรณ์ไปซ่อมที่ต่างประเทศ แล้วทำเรื่องซื้ออะไรชิ้นเดียวกันนั้นกลับเข้ามา การทุจริตคอรัปชั่น ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้กองทัพอ่อนแอ แล้วจริง ๆ มันก็เป็นปัญหาของทุกกระทรวงทบวงกรมอีกเหมือนกัน

ได้เงินน้อย ทำให้อาวุธเสื่อมสภาพ มันยังไม่มีน้ำหนักพอ

อย่าลืมนะครับ ระบบ QC เกิดที่อเมริกา โตที่ญี่ปุ่น แล้วมาตายที่เมืองไทย เรื่องนี้คงบอกอะไรได้บ้างนะครับ

[jerasak]

ผมสงสัยตามที่คุณ ScaRECroW ตั้งคำถาม ก็เลยลองไปค้นใน ราชกิจจาฯ ย้อนหนังไปดูนะครับ
และพร้อมกันนี้ผมก็ตั้งสมมุติฐานเพิ่มเติมว่าเกี่ยวกับการตั้งเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือเปล่า

พระราชกฤษฎีกา  โอนกรมตำรวจ  กระทรวงมหาดไทยไปจัดตั้งเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 115  ตอนที่ 73  วันที่  16  ตุลาคม 2541

แต่การจัดทำงบประมาณปี 2542 น่าจะแล้วเสร็จไปก่อนหน้านั้นก็เลยยังเรียกว่า "กรมตำรวจ" อยู่
ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการตั้งเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ แต่ก็เป็นปีแรกที่ "งบตำรวจ" มากกว่า
"งบกองทัพบก" และสังเกตว่างบปี 2542 ของแต่ละหน่วยงานถูกปรับลดกันแทบทั้งหมดเนื่องจาก
วิกฤติเศรษฐกิจ 2541 นั่นเองครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
งบประมาณกรมตำรวจจนถึงปีที่เปลี่ยนเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

                                        2536          2537          2538           2539            2540          2541         2542
กรมตำรวจ                     24,875.09  28,109.39  30,535.94    36,701.80    40,129.47  41,782.91  38,111.82

กองทัพบก                      37,700.39  40,278.21  43,197.16   47,434.16    50,855.00  45,338.74  35,096.74
กองทัพเรือ                     16,013.52  17,620.06  18,760.35   20,674.59     22,109.9   19,811.10  15,343.42
กองทัพอากาศ                15,682.73  17,507.89   18,849.97  20,702.54     22,236.85  19,950.55  15,286.80

สำนักงานปลัดกระทรวง       1,644.23    1,808.40    1,801.73      1,982.08     2,275.95    2,982.63    3,725.79
กรมราชองครักษ์                         0.00           0.00        89.92        102.47        181.20       201.00       126.63
กองบัญชาการทหารสูงสุด    7,584.44    8,209.33    8,939.61     9,707.18    10,914.60    9,482.31    7,487.53

กระทรวงกลาโหม             78,625.34  85,423.91  91,638.76  100,603.03  108,573.60  97,766.34  77,066.93

[jerasak]

หลังจากปี 2542 งบประมาณกองทัพบก ก็น้อยกว่า งบประมาณตำรวจเรื่อยมานะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังเปลี่ยนเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนถึงการยึดอำนาจ 19 กันยายน พ.ศ. 2549

                                           2543         2544           2545          2546          2547         2548          2549
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   42,822.33  42,554.49   40,447.61  41,457.41  44,201.53  44,018.42  51,843.28

กองทัพบก                       36,785.53  36,735.33  37,301.52  38,251.49  37,566.86  39,162.32   41,981.98
กองทัพเรือ                      15,471.41  15,439.37  15,683.78  15,821.10  15,392.45  15,323.63   16,489.88
กองทัพอากาศ                  15,267.88  15,261.41  15,383.4   15,540.88  15,406.07  15,348.36   15,938.01

สำนักงานปลัดกระทรวง        2,054.23    2,129.62   2,318.03    2,567.25    2,667.17    3,714.55    3,950.02
กรมราชองครักษ์                      137.51       170.52      180.06      229.96       244.77       263.89      314.52
กองบัญชาการทหารสูงสุด    7,478.29    7,474.28   7,717.36   7,512.58    7,276.98     7,428.60    7,261.68

กระทรวงกลาโหม              77,194.87  77,210.55  78,584.18  79,923.27  78,551.32  81,541.38  85,936.11

[jerasak]

ถ้าดูในรอบ 14 ปี คือตั้งแต่ปี 2536 ถึง 2549 จะเห็นว่างบประมาณกองทัพแทบไม่ได้ขยับเลย
แต่งบประมาณตำรวจเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 เท่าตัว ก็เห็นภาพได้นะครับที่ทหารเขาว่าโดนบอนไซ

ยิ่งในส่วนกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ที่เขาว่าไม่มีเงินเติมน้ำมันเครื่องบินก็คงจริงของเขา
เพิ่งจะมางบประมาณ 2550 หลังยึดอำนาจนี่เองที่ค่อยได้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ งบกองทัพบก ก็ยังได้น้อยกว่า งบตำรวจ อยู่นิดๆ นะครับ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังการยึดอำนาจ 19 กันยายน พ.ศ. 2549

                                          2550       
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ    58,668.13 

กองทัพบก                       56,847.88
กองทัพเรือ                      22,254.66
กองทัพอากาศ                  21,443.08

สำนักงานปลัดกระทรวง        4,311.71
กรมราชองครักษ์                     424.19
กองบัญชาการทหารสูงสุด     9,742.47

กระทรวงกลาโหม            115,024.01

[login not found]

เห็นงบแบบนี้ก็รู้แล้วว่าทำไมถึงมีข่าวว่าทหารใต้ถึงไม่มีกระสุนไว้สู้กับพวกโจร

[jerasak]

เห็นงบแบบนี้ก็รู้แล้วว่าทำไมถึงมีข่าวว่าทหารใต้ถึงไม่มีกระสุนไว้สู้กับพวกโจร

ทีนี้ปกติเขาก็ประมาณกันว่าสัดส่วนงบประมาณทางทหารต่อ GDP น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2%
แต่ของไทยเราสัดส่วนนี้ลดลงไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ปี 48 เหลือ 1.14

สำหรับปี 49 ลดเหลือแค่ 1.09% (ไม่มีในตารางข้างล่าง) 

[Şiłąncē Mőbiuş]

เห็นแล้วอนาจ กองทัพไทย 

[ปรมาจารย์เจได]

ผมขอยกเอาความเห็นต่างๆ ที่เคยไปโพสต์แย้งกับกองเชียร์ประมุขแม้วมาให้ดูกันนะครับ

ยังไงซะเครื่องบินขับไล่ F-5 ของไทยทั้งหมด 95 ลำ ที่รุ่นแรกมาประจำการเมื่อปี 2509
บทมันจะต้องซื้อใหม่ มันก็ต้องซื้อใหม่แหละ
อีกทั้ง L-39 ที่โบราณสุดๆ เป็นเครื่องซ้อมซะมากกว่า อีก 34 ลำ ซึ่งไอ้สิงคโปร์มันเก็บเข้ากรุไปไว้โชว์แล้วครับ
Alpha Jet เป็นเครื่องซ้อมซะมากกว่า 25 ลำ ติดแต่อาวุธเบา ปืนกล

JAS-39 Gripen มีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการที่ต่ำกว่าเครื่องบินแบบอื่น ๆ รวมถึงสามารถใช้อาวุธได้หลากหลาย มีความเร็วสูงสุด 1.4 มัคที่ระดับน้ำทะเล และ 2 มัคที่ความสูงที่สูงกว่า

ที่สำคัญ รุ่นนี้เหมาะกับสไตล์พี่ไทยเราอย่างแท้จริง อุดแล้วโยน

ระบบอาวุธ

Gripen ติดอาวุธได้ทั้งค่ายยุโรปและสหรัฐประกอบด้วย
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ AIM-9L
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ IRIS-T
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยปานกลาง AIM-120C
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยปานกลาง Meteor
-ขีปนาวุธอากาศสู่พื้น AGM-65 Maverick
-ขีปนาวุธอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือรบ RBS-15F
-ระเบิดธรรมดา ระเบิด Cluster bomb และระเบิดนำวิธีด้วยเลเซอร์
(Gripen สามารถติดอาวุธทั้งหมดที่มีใช้อยู่ในกองทัพอากาศไทยได้)

ระบบเรด้าห์และเครื่องยนต์

Gripen ใช้เรด้าห์พิสัยไกลของ Ericsson รุ่น PS-05/A ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับเป้าหมายได้ทั้งอากาศและพื้น ใช้เครื่องยนต์ Volvo RM12 ซึ่งปรับปรุงมาจากเครื่องยนต์ General Electric F-404-400 ที่ติดตั้งใน F/A-18 ของสหรัฐ

ระบบ Data Link

สวีเดนซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื่องบินในฝูงเป็นเครือข่าย โดยก่อนบินนักบินสามารถใส่โปรแกรมการบิน ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนกับทั้งเครื่องบินด้วยกันเองและภาคพื้น ในระหว่างปฏิบัติภารกิจเป็นหมู่ Gripen สามารถเปิดเรด้าห์เพียงเครื่องเดียวเพื่อลดการตรวจจับแต่สามารถส่งข้อมูลของเป้าหมายให้เครื่องบินอื่น ๆ ในหมู่บินได้ ดังนั้นเครื่องบินที่ไม่ได้เปิดเรด้าห์จึงสามารถเข้าโจมตีได้โดยที่ถูกตรวจจับได้ยากและข้าศึกไม่รู้ตัว ซึ่งระบบนี้สวีเดนเป็นชาติแรกที่พัฒนาซึ่งคล้ายกับระบบที่ติดตั้งในเครื่องบิน F-22 ของสหรัฐ

นอกจากข้อดีที่กล่าวมาแล้วก่อนหน้า Gripen เสนอข้อเสนอที่ดูแล้ว "น่าซื้อ" ที่สุดในบรรดาเครื่องบิน 3 แบบดังนี้
-สวีเดนเสนอJAS 39 จำนวน 12เครื่องคิดเป็นเงิน โดยประมาณ 34,680 ล้านบาท และมีของแถมอีกมากมาย
คือเครื่องบินแบบให้ฟรีๆ 3 ลำรวมมูลค่า 4.648.14ล้าบาท ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ ท.บและท.ร.ต้องการให้ท.อ.ต้องการมีไว้ประจำการ เป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่สมารถจัดหาได้เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงมาก คือ เครื่อง ERIEYE ซึ่งเป็นเครื่องบินใช้สำหรับ ค้นหา/สอดแนม ลาดตะเวนหาข่าว ตรวจจับเรือดำน้ำ ถ่ายภาพทางอากาศ โดยทางสวีเดนเสนอเครื่อง ERIEYE จำนวน2เครื่อง แต่เนื่องเครื่องลำนี้สร้างโดยเทคโนโลยีชั้นสูง จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทางสวีเดนเห็นความจำเป็น ในการฝึก จึงแถมเครื่องบิน SAAB 340 ให้อีก1เครื่อง ไว้สำหรับฝึกโดยไม่จำเป็นต้องนำเครื่อง ERIEYEมาฝึกจริง นอกจากนี้จะให้ระบบสถานนีภาคพื้นดิน รับสัญญาณถ่ายทอดจากเครื่อง ERIEYE อีก 3 สถานี (GROUND BASED STATION) รวมมูลค่า 504ล้านบาท
- สวีเดนเสนอช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์ แบบฟรีๆรวมมูลค่า 5.857.74 ล้านบาท ให้จรวดต่อต้านผิวน้ำ RBS จำนวน12นัด รวมมูลค่า 504 ล้านบาท โดยยุทโธปกรณ์ แบบให้เปล่าทั้ง3รายการ
คือ1.เครื่อง ERIEYE 2 ลำ,เครื่องบิน SAAB 1ลำ รวมเป็น3ลำ GROUND BASED STATION อีก3สถานนี
2.จรวดต่อต้านผิวน้ำ RBS จำนวน12นัด
3. ช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์ รวมมูลค่าทั้งสิ้นหลายหมื่นล้านบาท
-ให้ความช่วยเหลือพิเศษอีก3รายการทียังไม่สามารถประเมินราคาได้ อีก3รายการคือ
1.การฝึกนักบินและช่างเทคนิกของการซ่อมบำรุงโดยยินดีให้นักบินและช่างเทคนิคเข้าถึงฐานขอมูลทั้งหมดของเครื่องJAS39 ทั้งหมดโดยสวีเดนไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
2.ทุนฝึกอบรมสำหรับเครื่อง JAS39 จำนวน 100 คนในระยะเวลาอบรมที่สวีเดน 1ปี
3.ทุนการศึกษาปริญญาโทในสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน200 ทุนในระยะเวลา 5ปี ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนนายเรืออากาศไทยที่จบการศึกษาแล้วไปศึกษาที่มหาวิทยาลัย ของสวีเดนได้ถึง200คน
-ขอเสนอทั้งหมดนี้สวีเดนแจ้งว่า เป็นขอเสนอพิเศษสำหรับวโรกาสพิเศษที่ราชวงศ์และรัฐบาลสวีเดนมอบให้เฉพาะไทย ในวโรกาสที่ในหลวง ครองราชย์มา 60 ปี ในปีพ.ศ.2549 อันจะเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ใกล้ชิดรา ชวงศ์ไทยและสวีเดนยิ่งขึ้น และทั้งหมดเป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐไม่มีนายหน้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

กองทัพอากาศนำข้อเสนอนี้มาปัดฝุ่นพิจารณาใหม่ หลังจากบางคนไม่มีแผ่นดินอยู่แล้ว

ส่วนสาวกประมุขแม้วบางคนบอกได้แสดงภูมิความรู้กับผมว่า ทำไม กองทัพไทย ถึงไปซื้อฮัมวี่ ทำไมไม่ให้ไทยรุ่ง ทำให้
ซึ่งผมเองก็ได้ถามมันเหมือนกันว่า รถ shuttle bus ในสนามบิน น่ะ ทำไมประมุขแม้ว ไม่ให้อู่เชิดชัยทำ ทำง่ายกว่าเยอะ

ส่วนกองทัพไทย ก็ได้เคยเอา โตโยต้า ไฮลักซ์ มาทำเป็นรถลาดตระเวนใช้ที่ภาคใต้เหมือนกัน
ไม่ทราบว่า ถ้าเลือกได้ ท่านๆ จะนั่งคันไหนครับ

Toyota Hilux


Humvee


ส่วนนี่ ความเหลื่อมล้ำของกองทัพอากาศไทย และสิงคโปร์ ลำหน้าของเรา ลำหลังของมัน