ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2025, 20:28
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ชายคาพักใจ  |  เกี่ยวกับแต่งๆ หย่าๆ ผัวน้อยเมียหลวง การมีเพศสัมพันธ์ บุคคลสาธารณและชีวิตปัจเจก 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เกี่ยวกับแต่งๆ หย่าๆ ผัวน้อยเมียหลวง การมีเพศสัมพันธ์ บุคคลสาธารณและชีวิตปัจเจก  (อ่าน 6127 ครั้ง)
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« เมื่อ: 13-09-2007, 12:24 »


เกี่ยวกับแต่งๆ หย่าๆ ผัวน้อยเมียหลวง การมีเพศสัมพันธ์  บุคคลสาธารณและชีวิตปัจเจก


ไหนๆเว็บบอร์ดการเมือง ก็รวบรวม วิญญูชน ปุถุชน ทรชน ไว้ครบถ้วน..เพราะเปิดรับสมาชิกใหม่ๆได้

ดังนั้นมาคุยกันสบายๆเรื่องบรรทัดฐาน คงจะได้ประโยชน์ หรือมุมมองที่แตกต่างกันได้บ้าง ถ้าจะมีครับ..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 13-09-2007, 12:33 »

 

ผู้ชายยอมรับ ใช้ภรรยาร่วมกับชายอื่นหรือไม่ครับ..?

หากไม่ยอมรับทำไม?
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 13-09-2007, 12:36 »



สิ่งต่างๆในสังคมยุคปัจจุบัน หลายคนว่าดี หลายคนว่าไม่ดี ท่านใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานของตนเอง..?

บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 13-09-2007, 12:44 »

 


ทั้งสามีและภรรยา ใช้เหตุผลที่ดีอะไรในการตัดสินใจหย่า?
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 13-09-2007, 12:55 »

ผมอ่านข้อเขียนเรื่องทัศนะครอบครัวยุคใหม่ของนิธิ

บอกตัวเองได้ว่านิธิใช้หลักปรัชญาและสภาพแวดล้อมในการคิด


นิธิไม่ใช่บรรทัดฐาน ดังนั้นชีวิตของเขาไม่มีผลต่อวิจารณญาณของผมแต่ประการใด

ส่วนคนที่ชอบอ้างบทความของนิธิ รู้หรือเปล่าว่านิธิเชื่ออะไร ไม่เชื่ออะไร? แล้วทำไมจึงชอบนำมาอ้าง ?


คิดเองไม่ออก หรือ เชื่อความคิดของนิธิเข้าไปเต็มเปาครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2007, 12:59 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 13-09-2007, 13:11 »



ท่านที่ถกเถียงกันอยู่ขอเชิญมาร่วมคุยในกระทู้นี้บ้างก็ดีครับ..

คุยกันข้ามปีก็ได้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหาข้อสรุปโดยเร็วสำหรับแต่ละคน..

ขณะที่ยังไม่มีข้อสรุปให้กับตัวเอง ก็ขอให้รอบคอบในการใช้ชิวิตและมีเพศสัมพันธ์ครับ

อย่างน้อยก็ต้องระมัดระวังโรคเอดส์ อย่างที่เพื่อนบางท่านเคยกล่าวถึง

โรคนี้เป็นได้ทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่ตายครับ เพราะเมื่อออกอาการแล้วรักษายากมากๆ

บันทึกการเข้า

Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #6 เมื่อ: 13-09-2007, 13:11 »

พูดเรื่องนี้แล้วนึกถึง แอ๊ด คาราบาว
แต่งเพลงเมดอินไทยแลนด์
แต่สูบมาร์โบโร่ ขี่ฮาร์เลย์
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 13-09-2007, 13:14 »

พูดเรื่องนี้แล้วนึกถึง แอ๊ด คาราบาว
แต่งเพลงเมดอินไทยแลนด์
แต่สูบมาร์โบโร่ ขี่ฮาร์เลย์

แอ๊ดไก่ชน คินนกแก้ว เหมาะกับเหนาะแปดตันครับ..
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #8 เมื่อ: 13-09-2007, 13:16 »

ขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานของแต่ละสังคมมั้งคะ

เท่าที่เม่ยพอทราบ ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตในการลงสมัครชิงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีนั้น ชีวิตครอบครัวและประวัติส่วนตัวเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะถูกนำมาพิจารณาและตรวจสอบว่า เขาผู้นั้นจะได้รับการยอมรับหรือไม่ เพราะถ้าไม่สามารถทำหน้าที่ของ family man ที่ดีได้ ก็ชี้ให้เห็นว่า เมื่อยังบริหารครอบครัวของตัวเองยังไม่ได้ จะมาบริหารประเทศ และรับผิดชอบชีวิตของผู้คนในประเทศได้อย่างไร

การมีกิ๊ก การมีความประพฤติผิดทางเพศ ก็ชี้ให้เห็นเช่นเดียวกันว่า ไม่สามารถควบคุมกิเลสของตัวเองได้ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะกระทำการฉ้อราษฎร์บังหลวง และกระทำผิดเรื่องอื่น ๆ เมื่อมีผู้ต้องการผลประโยชน์ใช้จุดอ่อนเรื่องนี้มาเป็นเหยื่อล่อ ความโลภไม่ได้มองแค่เรื่องโลภทรัพย์สินเงินทองเท่านั้น ยังรวมไปถึงชื่อเสียง ตำแหน่ง เพศ ฯลฯ

ถ้าเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เป็นผู้นำ ผู้บริหาร หรือไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะ อย่างมากก็คงตกเป็นแค่ขี้ปากของคนรอบข้าง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบถึงครอบครัวตนเองด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีคำว่า เด็กบ้านแตก ครอบครัวแตกแยก ฯลฯ

เพราะบางสถานะ บางบทบาท เรื่องบางเรื่องย่อมมีความสำคัญมากกว่าคนธรรมดาทั่ว ๆ ไปค่ะ

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 13-09-2007, 13:25 »

ขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานของแต่ละสังคมมั้งคะ

เท่าที่เม่ยพอทราบ ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตในการลงสมัครชิงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีนั้น ชีวิตครอบครัวและประวัติส่วนตัวเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะถูกนำมาพิจารณาและตรวจสอบว่า เขาผู้นั้นจะได้รับการยอมรับหรือไม่ เพราะถ้าไม่สามารถทำหน้าที่ของ family man ที่ดีได้ ก็ชี้ให้เห็นว่า เมื่อยังบริหารครอบครัวของตัวเองยังไม่ได้ จะมาบริหารประเทศ และรับผิดชอบชีวิตของผู้คนในประเทศได้อย่างไร

การมีกิ๊ก การมีความประพฤติผิดทางเพศ ก็ชี้ให้เห็นเช่นเดียวกันว่า ไม่สามารถควบคุมกิเลสของตัวเองได้ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะกระทำการฉ้อราษฎร์บังหลวง และกระทำผิดเรื่องอื่น ๆ เมื่อมีผู้ต้องการผลประโยชน์ใช้จุดอ่อนเรื่องนี้มาเป็นเหยื่อล่อ ความโลภไม่ได้มองแค่เรื่องโลภทรัพย์สินเงินทองเท่านั้น ยังรวมไปถึงชื่อเสียง ตำแหน่ง เพศ ฯลฯ

ถ้าเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เป็นผู้นำ ผู้บริหาร หรือไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะ อย่างมากก็คงตกเป็นแค่ขี้ปากของคนรอบข้าง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบถึงครอบครัวตนเองด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีคำว่า เด็กบ้านแตก ครอบครัวแตกแยก ฯลฯ

เพราะบางสถานะ บางบทบาท เรื่องบางเรื่องย่อมมีความสำคัญมากกว่าคนธรรมดาทั่ว ๆ ไปค่ะ



อเมริกันมองนักการเมืองเป็นปุถุชนคนหนึ่งครับ..ดังนั้นเรื่องแบบสูบซิการ์ในทำเนียบขาวจึงรอดไปได้..(คือประมาณว่าหมิ่นเหม่เท่านั้น)

เรื่องเพศสัมพันธ์และอารมรณ์เพศ มากน้อย ในมุมมองนำเสนอของผมคงเหมือนการรับประทานอาหาร

ไม่ใช่เรื่องสกปรกน่ารังเกียจโดยตัวของมันเองครับ..
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #10 เมื่อ: 13-09-2007, 13:36 »

ที่ว่า "หมิ่นเหม่" นั้น เป็น ข้ออ้างมากกว่าค่ะ  Mr. Green

ครือ ๆ กับผลตัดสิน "คดีซุกหุ้นภาคหนึ่ง" ที่ได้คะแนนสอบผ่านฉิวเฉียด 8 ต่อ 7 

ข่าวว่าท่านภริยาในฐานะคริสตชน ต้องสวดมนต์อธิษฐาน วางใจในพระเจ้า จึงได้ผ่านพ้นห้วงเวลาแห่งความทุกข์ยากนี้มาได้  Very Happy

ไม่ทราบว่า ทั้งสองท่านต้องเข้าโปรแกรมฟื้นฟูชีวิตสมรสกับโบสถ์อีกครั้งเหมือนคู่สมรสทั่ว ๆ ไปด้วยหรือป่าว  Undecided
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 13-09-2007, 13:41 »

ที่ว่า "หมิ่นเหม่" นั้น เป็น ข้ออ้างมากกว่าค่ะ  Mr. Green

ครือ ๆ กับผลตัดสิน "คดีซุกหุ้นภาคหนึ่ง" ที่ได้คะแนนสอบผ่านฉิวเฉียด 8 ต่อ 7 

ข่าวว่าท่านภริยาในฐานะคริสตชน ต้องสวดมนต์อธิษฐาน วางใจในพระเจ้า จึงได้ผ่านพ้นห้วงเวลาแห่งความทุกข์ยากนี้มาได้  Very Happy

ไม่ทราบว่า ทั้งสองท่านต้องเข้าโปรแกรมฟื้นฟูชีวิตสมรสกับโบสถ์อีกครั้งเหมือนคู่สมรสทั่ว ๆ ไปด้วยหรือป่าว  Undecided

เป็นธรรมดาที่ภรรยาต้องรักใคร่สามีครับ..ถือเป็นบรรทัดฐานอย่างหนึ่ง อ้างได้ครับ..

จะก้าวไปถึงว่าผิดหรือไม่นั้น ในศาลเขาถามกันละเอียด มีการเอาคราบอสุจิไปตรวจดีเอ็นเอด้วย..
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #12 เมื่อ: 13-09-2007, 13:50 »

ก็บอก เป็นโสดดีที่สุด ไม่ต้องมาห่วงเรื่องทำนองนี้ ชีวิตอิสระ จะควงใครจะเตะใครออกจากชีวิตก็ได้

บางทีภรรยาไม่จำเป้นต้องรักสามีหรอกค่ะ ในกรณีที่อยากมีสามีเพราะต้องการลูกนะ
 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 13-09-2007, 13:58 »

ก็บอก เป็นโสดดีที่สุด ไม่ต้องมาห่วงเรื่องทำนองนี้ ชีวิตอิสระ จะควงใครจะเตะใครออกจากชีวิตก็ได้

บางทีภรรยาไม่จำเป้นต้องรักสามีหรอกค่ะ ในกรณีที่อยากมีสามีเพราะต้องการลูกนะ
 

 

จริงหรือเปล่าครับ ที่เขาว่าบ่อยครั้งปากของผู้หญิงไม่สัมพันธ์กับใจ..?

อาจจะจริงนะครับ เป็นคำถามได้อีกคำถามหนึ่งที่ลองคิดเปรียบเทียบได้...

ผู้หญิงเลือกสละชีวิตสามีหรือลูก ผู้ชายเลือกสละชีวิตภรรยาหรือลูก ในกรณ๊ที่โอกาสช่วยชีวิตจากอันตรายถึงชีวิตเท่ากันพอดี และต้องเลือกเพียงหนึ่ง??
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #14 เมื่อ: 13-09-2007, 14:11 »

เจ้าค่ะ ทางโลกมีมารตฐานวัดกันละเอียดยิบ แต่ทางธรรม หรือในพระคัมภีร์ก็ตีความเป็นอีกเรืองหรือป่าวคะ 

ฤาบางคนจะบอกว่า เป็นแค่ชู้ทางใจไม่ผิด หรือแค่นี้ แค่นี้ ก็ยังไม่ผิด ยังได้อีกคืบ ยังได้อีกศอก 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2007, 14:14 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 13-09-2007, 14:14 »

เจ้าค่ะ ทางโลกวัดกันละเอียดยิบ แต่ทางธรรม หรือในพระคัมภีร์ก็ตีความเป็นอีกเรืองหรือป่าวคะ 

ฤาบางคนจะบอกว่า เป็นแค่ชู้ทางใจไม่ผิด 

เอาคำสอนของศาสดาต่างๆมาจับดูก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #16 เมื่อ: 13-09-2007, 14:29 »

สำหรับบางคน กฎมีไว้ให้ละเมิดค่ะ  Mr. Green

ขออนุญาตพาดพิงถึงนะคะ

ในพระคัมภีร์เดิม คิงซาโลมอนมีนางสนมเป็นหมื่น  Shocked สุดท้ายบัลลังก์ล่มสลาย แม้ว่าพระองค์จะทรงเปรื่องปราดฉลาดล้ำเลิศ หรือความสัมพันธ์ระหว่างคิงดาวิดกับนางบัทเชบา ก็ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม  Cry

ท่านสอนว่า นี่เป็นอุทาหรณ์ชี้ให้เห็นว่า ครอบครัวเดี่ยวแบบ monogamy ดีที่สุด ถ้าอยากจะเป็น polygamy ก็พึงระวังไว้

ส่วนอาจารย์เปาโลบอกไว้หลายตอนในพระคัมภีร์ใหม่ว่า ชีวิตโสดดีที่สุด (มั้งคะ)  Very Happy

พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษ...ตอนนั้นพระองค์คงจะรู้สึกขัดพระราชหฤทัยเป็นยิ่งนัก เมื่อถูกปฏิเสธเรื่องที่พระองค์ทรงต้องการหย่า  จะอภิเษกใหม่ก็ไม่ได้ จึงสั่งประหารมเหสีองค์แล้วองค์เล่า สุดท้ายยังตั้งนิกายขึ้นใหม่อีกต่างหาก  Shocked



บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 13-09-2007, 14:33 »

สำหรับบางคน กฎมีไว้ให้ละเมิดค่ะ  Mr. Green

ขออนุญาตพาดพิงถึงนะคะ

ในพระคัมภีร์เดิม คิงซาโลมอนมีนางสนมเป็นหมื่น  Shocked สุดท้ายบัลลังก์ล่มสลาย แม้ว่าพระองค์จะทรงเปรื่องปราดฉลาดล้ำเลิศ หรือความสัมพันธ์ระหว่างคิงดาวิดกับนางบัทเชบา ก็ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม  Cry

ท่านสอนว่า นี่เป็นอุทาหรณ์ชี้ให้เห็นว่า ครอบครัวเดี่ยวแบบ monogamy ดีที่สุด ถ้าอยากจะเป็น polygamy ก็พึงระวังไว้

ส่วนอาจารย์เปาโลบอกไว้หลายตอนในพระคัมภีร์ใหม่ว่า ชีวิตโสดดีที่สุด (มั้งคะ)  Very Happy

พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษ...ตอนนั้นพระองค์คงจะรู้สึกขัดพระราชหฤทัยเป็นยิ่งนัก เมื่อถูกปฏิเสธเรื่องที่พระองค์ทรงต้องการหย่า  จะอภิเษกใหม่ก็ไม่ได้ จึงสั่งประหารมเหสีองค์แล้วองค์เล่า สุดท้ายยังตั้งนิกายขึ้นใหม่อีกต่างหาก  Shocked





ต้องเข้าใจกฎครับจึงจะปฏิบัติได้ถูกต้อง คำสอนสำหรับมนุษย์ ก็ต้องทั้งหมดครับ..
บันทึกการเข้า

Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #18 เมื่อ: 13-09-2007, 14:43 »



ผู้ชายยอมรับ ใช้ภรรยาร่วมกับชายอื่นหรือไม่ครับ..?

หากไม่ยอมรับทำไม?


ขึ้นกับสภาพแวดล้อมน่ะครับ ผมเคยตื่นมาตอนตีสี่กว่าๆเจอรายการในเคเบิลทีวี เกี่ยวกับชนเผ่าแห่งหนึ่ง ผู้หญิงสามารถมีผู้ชายในครอบครองได้หลายคน ผู้ชายที่เข้ามาในลำดับหลังๆต้องมาคอยรับใช้สามีลำดับแรกๆอะครับ
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 13-09-2007, 14:47 »


ขึ้นกับสภาพแวดล้อมน่ะครับ ผมเคยตื่นมาตอนตีสี่กว่าๆเจอรายการในเคเบิลทีวี เกี่ยวกับชนเผ่าแห่งหนึ่ง ผู้หญิงสามารถมีผู้ชายในครอบครองได้หลายคน ผู้ชายที่เข้ามาในลำดับหลังๆต้องมาคอยรับใช้สามีลำดับแรกๆอะครับ

สภาพแวดล้อมเพียงอย่างเดียวคงไม่พอครับ..

บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 13-09-2007, 14:58 »

 

การใช้จิตใจควบคุมอารมณ์เพศ และการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์กระทำได้มากเพียงใด..

ทำไมการพิสูจน์การข่มขืนจึงเป็นเรื่องยาก ? และผู้ชายถูกยั่วยวนและขืนใจได้หรือไม่?
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #21 เมื่อ: 13-09-2007, 15:00 »

เอาเป็นวิชาการ มันละเอียดยิบค่ะ เพราะปัจจุบันอะไรๆมันเปลี่ยนไปเยอะ ผุ้หญิงที่เขาสามารถเพิ่งพาตัวเองได้ ก็ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับผู้ชายในปัจจุบัน

การแต่งงานอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดหรับใครบางคน แต่สำหรับใครบางคนการได้อยุ่กับคนที่รักรักก็น่าจะพอมั่งค่ะ หนูก็ไม่รู้ซิเพราะยังไม่เจอคนที่อยากจะแต่งงานหรือเจอคนที่เราคิดว่าฝากชีวิตหรือจะดูแลเราได้ ผู้ชายบางคนคิดว่าเอาใจใส่เธอดูแลเธอ ปกป้องเธอ แค่นี้ก็คงพอแล้ว แต่สำหรับผู้หญิงบางคนที่ปกป้องตังเองได้ ดูแลตัวเองได้นั้นไม่จำเป็น แต่มันไปจำเป็นที่ความสามารถ ความคิด ความฉลาดมากกว่าค่ะ ผู้ชายอาจะบอกว่าผู้หญิงเก่งกว่าไม่สำคัญเขารับได้ แต่ตอนนี้รับได้ แต่เมื่อเข้าสู่สังคมจริงๆๆรับไมได้หรอกค่ะ จะให้ผู้หญิงแกล้งโง่ แล้วผู้ชายฉลาดพอใหมที่จะรุ้ว่าเราแกล้งโง่ จะในบางสถานะการณ์หรือสถานการณ์ไหนก็ช่าง

บางทีอนาก็พูดเล่นๆอย่าได้จริงจังนัก ชีวิตในปัจจุบันนอกจากจะแข่งขันกันสูง เราต้องแข่งขันตัวเองด้วย ไปรักใครชอบใครก้ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะเราไม่รุ้ว่า รักไปแล้วอะไรมันจะเปลี่ยนไปยอมรับว่ากลัว วแต่มันก็ยังไม่ใครที่ดีพอที่จะให้เราทิ้งความกลัวไปขณะนี้ เทานั้นค่ะ


ยิ่งเราโต ความมีเหตุผลเรายิ่งสูง แต่ก่อนอาจจะรักใครเพราะความรู้สึก ตามอารมณ์ใจ ตอนนี้จะรักใครเหตุผลกับมาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ รักเพราะเหตผลมากกว่าอารมณ์ความรุ้สึก ไม่รู้เรียกว่ารักไหม เพราะเราอยู่ในสังคม มีหน้าที่การงาน ตำแหน่งที่ต้องรักษา สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหรอที่บังคับเราให้เดิน ให้ทำอะไรงุบงิบไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกต่อสาธารณะ แม้ว่าจะไปรัก เมีย สามีชาวบ้าน  

หนูอยากประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า หนูรัก แบรด พิท สามีของโจลีขนาดไหนก็ไม่กล้า เพราะกลัวไปผิดศีลธรรม  [/color]
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 13-09-2007, 15:09 »

เอาเป็นวิชาการ มันละเอียดยิบค่ะ เพราะปัจจุบันอะไรๆมันเปลี่ยนไปเยอะ ผุ้หญิงที่เขาสามารถเพิ่งพาตัวเองได้ ก็ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับผู้ชายในปัจจุบัน

การแต่งงานอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดหรับใครบางคน แต่สำหรับใครบางคนการได้อยุ่กับคนที่รักรักก็น่าจะพอมั่งค่ะ หนูก็ไม่รู้ซิเพราะยังไม่เจอคนที่อยากจะแต่งงานหรือเจอคนที่เราคิดว่าฝากชีวิตหรือจะดูแลเราได้ ผู้ชายบางคนคิดว่าเอาใจใส่เธอดูแลเธอ ปกป้องเธอ แค่นี้ก็คงพอแล้ว แต่สำหรับผู้หญิงบางคนที่ปกป้องตังเองได้ ดูแลตัวเองได้นั้นไม่จำเป็น แต่มันไปจำเป็นที่ความสามารถ ความคิด ความฉลาดมากกว่าค่ะ ผู้ชายอาจะบอกว่าผู้หญิงเก่งกว่าไม่สำคัญเขารับได้ แต่ตอนนี้รับได้ แต่เมื่อเข้าสู่สังคมจริงๆๆรับไมได้หรอกค่ะ จะให้ผู้หญิงแกล้งโง่ แล้วผู้ชายฉลาดพอใหมที่จะรุ้ว่าเราแกล้งโง่ จะในบางสถานะการณ์หรือสถานการณ์ไหนก็ช่าง

บางทีอนาก็พูดเล่นๆอย่าได้จริงจังนัก ชีวิตในปัจจุบันนอกจากจะแข่งขันกันสูง เราต้องแข่งขันตัวเองด้วย ไปรักใครชอบใครก้ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะเราไม่รุ้ว่า รักไปแล้วอะไรมันจะเปลี่ยนไปยอมรับว่ากลัว วแต่มันก็ยังไม่ใครที่ดีพอที่จะให้เราทิ้งความกลัวไปขณะนี้ เทานั้นค่ะ


ยิ่งเราโต ความมีเหตุผลเรายิ่งสูง แต่ก่อนอาจจะรักใครเพราะความรู้สึก ตามอารมณ์ใจ ตอนนี้จะรักใครเหตุผลกับมาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ รักเพราะเหตผลมากกว่าอารมณ์ความรุ้สึก ไม่รู้เรียกว่ารักไหม เพราะเราอยู่ในสังคม มีหน้าที่การงาน ตำแหน่งที่ต้องรักษา สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหรอที่บังคับเราให้เดิน ให้ทำอะไรงุบงิบไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกต่อสาธารณะ แม้ว่าจะไปรัก เมีย สามีชาวบ้าน  

หนูอยากประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า หนูรัก แบรด พิท สามีของโจลีขนาดไหนก็ไม่กล้า เพราะกลัวไปผิดศีลธรรม  [/color]


ของชาวบ้านเราอยากได้ยึดเอามาก็ผิดสิครับ เพราะไม่ใช่ของเรา..

ส่วนเหตุผล มาหลังจากรูปแบบชีวิตที่เราเลือกว่าเหมาะกับเราครับ อิสรภาพกับชีวิตคู่มันไม่ได้สวนทางกันเสียทีเดียว มันคือบทเรียนที่สำคัญ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2007, 15:16 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #23 เมื่อ: 13-09-2007, 15:12 »

^
^ พอจะสรุปจากที่หนูอนาว่ามาว่า ความรักกับการแต่งงาน หลายครั้งมันเป็นเส้นขนานกันนะเอ้อ   ใช่ว่ารักกันแล้ว จะมามีชีวิตคู่อยู่กันไปตลอดรอดฝั่งได้ ความรักไม่มีขีดคั่น แต่การแต่งงานเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กับบางคน บางครอบครัว บางสังคม.. ไฮโซ

สำหรับกับการแต่งงาน ความเหมาะสมต้องมาก่อน  (คุ้น ๆ เนอะ)  Mr. Green Frown Mr. Green

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 13-09-2007, 15:13 »

 


ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา เช่น การขายบริการทางเพศ ความสำส่อนทางเพศ..?ในเชิงบรรทัดฐานของสังคมต่างๆและสังคมสากลที่พึงประสงค์สำหรับคนไทยครับ..
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #25 เมื่อ: 13-09-2007, 15:20 »

มันค่อนข้างสับสนนะพี่เม่ย ตัวอนาเองก็เถอะ เพราะจริงๆๆแล้วเรื่องความเหมาะสมทางสังคมเป็นสิ่งที่ต้องเอามาคิดอันดับแรกเลย อย่าที่พี่เม่ยว่า

อย่างทักษินกับเมียนั้น เราก็เห็นๆๆ สามีมั่วขนาดไหน ภรรยาก็เอาบ้างแต่ก็ไม่ส่ำส่อนอย่างสามี แต่แปลกพวกเขากลับไม่อย่ากันเลย เพราะต่างคนต่างเพิ่งพากันแระกัน แล้วอย่างงี้คนที่ไม่เคยแต่งงานไม่เคยสำผัสชีวิตแบบนี้ มาเจอรูปแบบนี้ก็ท้อไปหมดล่ะค่ะ ทั้งๆๆทีจะว่าไป ทักษินกับภรรยาก็เป็นคู่ชีวิตที่ต่อสู้ผ่านความยากลำบากมาด้วยกันขนาดไหน ก็ไม่น่าจะกลายเป็นครอบครัวขนาดนี้เลย ดูอย่างลูกชายคนโต ไม่รุเพราะพ่อแม่มัวแต่หาเงินไหม ลูกชายถึงไม่เอาอ่าวขนาดนั้น จะให้รวยล้นฟ้า แต่มีครอบครัวแบบนี้ ถามว่าจะเอาไหมล่ะค่ะ 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 13-09-2007, 15:21 »

^
^ พอจะสรุปจากที่หนูอนาว่ามาว่า ความรักกับการแต่งงาน หลายครั้งมันเป็นเส้นขนานกันนะเอ้อ   ใช่ว่ารักกันแล้ว จะมามีชีวิตคู่อยู่กันไปตลอดรอดฝั่งได้ ความรักไม่มีขีดคั่น แต่การแต่งงานเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กับบางคน บางครอบครัว บางสังคม.. ไฮโซ

สำหรับกับการแต่งงาน ความเหมาะสมต้องมาก่อน  (คุ้น ๆ เนอะ)  Mr. Green Frown Mr. Green



เดี๋ยวนี้อยู่กันแบบไม่ จดทะเบียนก็เยอะ คิดว่าเป็นแนวโน้มในอนาคตสำหรับคนโสดและกึ่งโสดด้วย..

แบบเดียวกับแนวโน้มทางภาษาคำว่ากี๊ก มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ห้ามแสดงอาการหึงหวง..

การเลือกคู่ครองเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมองให้ครบด้านมากที่สุด ส่วนการตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเองกับญาติและหรือผู้ปกครอง เพื่อน ฯลฯ
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #27 เมื่อ: 13-09-2007, 15:24 »




ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา เช่น การขายบริการทางเพศ ความสำส่อนทางเพศ..?ในเชิงบรรทัดฐานของสังคมต่างๆและสังคมสากลที่พึงประสงค์สำหรับคนไทยครับ..

การขายบริการ กับความส่ำส่อนทางเพศต่างกันนะค่ะลุงคิว ขายบริการอาจจะไม่อยากขาย แต่เพราะสถานะทางสังคมที่ทำให้พวกเขาต้องทำแบบนี้

แต่ความสำส่อนมันเกิดจากกิเลสในสันดานของคนคนหนึ่งค่ะ  แล้วจะเอาบรรทัดฐานแบบไหนอ่ะค่ะลุงคิว
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #28 เมื่อ: 13-09-2007, 15:28 »

การขายบริการ กับความส่ำส่อนทางเพศต่างกันนะค่ะลุงคิว ขายบริการอาจจะไม่อยากขาย แต่เพราะสถานะทางสังคมที่ทำให้พวกเขาต้องทำแบบนี้

แต่ความสำส่อนมันเกิดจากกิเลสในสันดานของคนคนหนึ่งค่ะ  แล้วจะเอาบรรทัดฐานแบบไหนอ่ะค่ะลุงคิว

ผิดหรือไม่ สังคมจะยอมรับได้ในระดับใด.

ขายบริการผิดกฎหมาย..? สำส่อนวัดกันอย่างไร?
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #29 เมื่อ: 13-09-2007, 15:32 »

ผิดหรือไม่ สังคมจะยอมรับได้ในระดับใด.

ขายบริการผิดกฎหมาย..? สำส่อนวัดกันอย่างไร?


ใช้ไมโครชิพที่สามารถวัดพลังงานเสียงและพลังความร้อนในร่างกาย ฝังไปในตัวอย่างที่เราศึกษา จากนั้นก็ติดตามบันทึกผล 

ที่นี้เราจะได้มากกว่าความส่ำส่อนลุงคิว อาจจะได้เวลาไหนที่ มีกิจกรรมนั้นมากสุด คนแต่ละคนใช้เวลานานเท่าไร ลักษณะการสำส่อนเป็นยังไง คนนั้นชอบหญิงเหรอชาย อิอิ โอ...... เป็นไง ไอเดียอยาแจ่มโครตๆๆ[/color]
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #30 เมื่อ: 13-09-2007, 15:34 »

เป็นผมคิดว่าความที่การหย่าร้างมีสูงนั้น

มันทำให้เป็นปัญหาสังคมที่ค่อนข้างร้ายแรงทีเดียว

เพราะการหย่าร้างแสดงถึงอะไรบางอย่างในสังคมนะครับ

ผมคนโสดเพราะงั้นเลยไม่อยากจะอะไรมาก
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 13-09-2007, 15:37 »


ใช้ไมโครชิพที่สามารถวัดพลังงานเสียงและพลังความร้อนในร่างกาย ฝังไปในตัวอย่างที่เราศึกษา จากนั้นก็ติดตามบันทึกผล 

ที่นี้เราจะได้มากกว่าความส่ำส่อนลุงคิว อาจจะได้เวลาไหนที่ มีกิจกรรมนั้นมากสุด คนแต่ละคนใช้เวลานานเท่าไร ลักษณะการสำส่อนเป็นยังไง คนนั้นชอบหญิงเหรอชาย อิอิ โอ...... เป็นไง ไอเดียอยาแจ่มโครตๆๆ


ทุกปัญหามีคำตอบครับ เพียงแต่ว่าบางเรื่องถึงแม้ให้ใช้เครื่องมือก็สรุปยาก

อย่างข่มขืนใจวัดอย่างไร ในผู้ที่รู้กฎหมายดี..? เขาจะอำพรางพฤติการณ์ได้มากแค่ไหนจากความรู้ของเขา จึงจะไม่เรียกว่าข่มขืน?
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 13-09-2007, 15:43 »

เป็นผมคิดว่าความที่การหย่าร้างมีสูงนั้น

มันทำให้เป็นปัญหาสังคมที่ค่อนข้างร้ายแรงทีเดียว

เพราะการหย่าร้างแสดงถึงอะไรบางอย่างในสังคมนะครับ

ผมคนโสดเพราะงั้นเลยไม่อยากจะอะไรมาก

การหย่าร้างเป็นสัญญาณที่อาจจะนำไปสู่การล่มสลายของสถาบันครอบครัวอย่างมีนัยสำคัญ..

สังคมที่เปลี่ยนไป ไมได้หมายความว่าถูกต้องทุกอย่าง มีสัญญาณให้เห็นปัญหามากมายในทุกด้าน..

ศาสตราจารย์ทางสังคม เชื่อว่า การเลี้ยงลูกคนเดียว ครอบครัวที่เด็กมีพ่อแม่คนเดียวเป็นแนวโน้มของสังคมที่ยอมรับได้..??

เขาใช้อะไรเป็นบรรทัดฐาน..?
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #33 เมื่อ: 13-09-2007, 15:45 »

ทุกปัญหามีคำตอบครับ เพียงแต่ว่าบางเรื่องถึงแม้ให้ใช้เครื่องมือก็สรุปยาก

อย่างข่มขืนใจวัดอย่างไร ในผู้ที่รู้กฎหมายดี..? เขาจะอำพรางพฤติการณ์ได้มากแค่ไหนจากความรู้ของเขา จึงจะไม่เรียกว่าข่มขืน?


วัดจากน้ำตาของหญิงสาว หลังจากทำภารกิจเสร็จ   ร้องให้มากไอ้นี้ไร้ฝีมือ ร้องให้พอดีๆ โดนแต่พองาม ร้องน้อยๆๆ ทำไม่เสร็จตำรวจมาก่อน ร้องจิ๊ดเด๋ว ขออีกรอบนะค่ะ  

พี่ชายเคยเล่าให้ฟัง เพราะเขาเจอคดีแบบนี้มาเยอะ เขาบอกว่าไม่มีการข่มขืนในโลกนี้ แต่มีการขืนใจในระยะแรกเท่านั้น ประมาณนี้นะค่ะ
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 13-09-2007, 15:51 »


การนำคำสอนของศาสดาต่างๆในอดีตเท่าที่มีอยู่มาพิจจารณาอย่างรอบคอบ ช่วยได้ครับ..

อัตตาหรือตัวตนของมนุษย์เป็นสิ่งที่ต้องไม่ประมาทในการตัดสินใจ

กฎหมายต่างๆมีรากฐานมาจากความเชื่อดั้งเดิมทั้งสิ้น..เมื่อความเชื่อไม่มีบรรทัดฐานอีกต่อไป..

กฎหมายก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างลองผิดลองถูกได้..ถือว่าเสี่ยงอย่างไม่สมควรสำหรับชีวิตของคนรู่นใหม่ในสังคมช่วงเร็วนี้ครับ..

                                                                                                                                   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2007, 18:15 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 13-09-2007, 15:57 »


วัดจากน้ำตาของหญิงสาว หลังจากทำภารกิจเสร็จ   ร้องให้มากไอ้นี้ไร้ฝีมือ ร้องให้พอดีๆ โดนแต่พองาม ร้องน้อยๆๆ ทำไม่เสร็จตำรวจมาก่อน ร้องจิ๊ดเด๋ว ขออีกรอบนะค่ะ  

พี่ชายเคยเล่าให้ฟัง เพราะเขาเจอคดีแบบนี้มาเยอะ เขาบอกว่าไม่มีการข่มขืนในโลกนี้ แต่มีการขืนใจในระยะแรกเท่านั้น ประมาณนี้นะค่ะ


โพสต์กันไว้แล้วจะมาคุยต่อครับ..

แสดงว่าถ้าลังเล ไม่นับว่าขืนใจนะครับ?? แต่อาจจะเข้าข่ายหลอกลวง เฮ้อ..
 
บันทึกการเข้า

ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258



« ตอบ #36 เมื่อ: 13-09-2007, 16:28 »

ท่านท้าวอยากบอกว่า กรณีคดีข่มขืนในสังคมไทยนั้น มันเป็นเวรเป็นกรรมของสตรีเพศจริงๆ ที่คนออกกฏหมายดันเป็นผู้ชาย

และไม่ได้เข้าใจในความทุกข์ของสตรีเพศเลยจริงๆว่า การข่มขืนนั้นมันสร้างความเจ็บปวดไปกี่ปีกี่ชาติกัน ยิ่งเป็นการข่มขืนโดยคนใกล้ชิดด้วยแล้ว ยิ่งสาหัส

ประเด็นที่ว่าเป็นการข่มขืนหรือไม่นั้น เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล บรรดาทนายของฝ่ายจำเลย มักจะยกเอาคำอ้างเรื่องการมีอารมณ์ร่วมของฝ่ายหญิงมาใช้ต่อสู้เสมอ

เช่น คุณรู้สึกยังไงขณะถูกกระทำ มีอารมณ์แบบนี้ไม๊ หรือก้าวล่วงฝ่ายโจทก์ไปไกลกว่านั้น จนฝ่ายโจทก์อับอาย และให้การใดๆต่อศาลไม่ได้

แม้ว่าคดีข่มขืนจะเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้ แต่ถ้าโจทก์ให้การต่อไม่ได้แล้ว ก็เป็นอันจบเกมส์ จำเลยหลุดคดี ทนายได้ตัง

นี่คือความยุติธรรมต่อคดีข่มขืนในสังคมไทยหรือ?

คำว่าการมีอารม์ณ์ร่วมถือเป็นการสมยอมนั้น ไม่ควรมีอีกต่อไป หากผู้ใดเพียงแค่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญหรือประทุษร้าย ข่มขู่

ให้ฝ่ายหนึ่งมาสำเร็จความใคร่แก่ตนด้วยวิธีการใดๆ นั่นก็ควรจะเรียกว่าเป็นการข่มขืนได้แล้ว
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #37 เมื่อ: 13-09-2007, 17:03 »

อ่านความเห็นของคุณท้าวอภิมหาฯ แล้ว นึกถึงหนังดังคลาสสิกทีสร้างชื่อ ให้กับโจดี้ ฟอสเตอร์ เรื่องอะไรน้า จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ ที่ชี้ให้เห็นการต่อสู้ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูก "ข่มขืน" แต่ถูกกลับกล่าวหาว่า "สมยอม"

มาทราบตอนเธอกลับมาโด่งดังอีกครั้งจากเรื่อง Silence of the Lamb แล้วอ่านประวัติการแสดงของเธอ ตอนหลังได้ดูหนังเรื่องนี้บางช่วง ก็เลยเข้าใจ

เคยฟังอาจารย์ในชั้นเรียนอธิบายให้ทราบว่า ผู้หญิงเคราะห์ร้ายที่ถูกข่มขืนนั้น จะถูกซักละเอียดถี่ยิบอย่างไร ตั้งแต่ที่สถานีตำรวจ มาจนถึงในชั้นศาล จึงสมควรแล้วที่หลายคนบอกว่า ต้องจับผู้ชายที่สร้างเวรสร้างกรรมนี้มาลงทัณฑ์ทรมานให้โหดสาสมบ้าง  Yell
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #38 เมื่อ: 13-09-2007, 18:28 »

ท่านท้าวอยากบอกว่า กรณีคดีข่มขืนในสังคมไทยนั้น มันเป็นเวรเป็นกรรมของสตรีเพศจริงๆ ที่คนออกกฏหมายดันเป็นผู้ชาย

และไม่ได้เข้าใจในความทุกข์ของสตรีเพศเลยจริงๆว่า การข่มขืนนั้นมันสร้างความเจ็บปวดไปกี่ปีกี่ชาติกัน ยิ่งเป็นการข่มขืนโดยคนใกล้ชิดด้วยแล้ว ยิ่งสาหัส

ประเด็นที่ว่าเป็นการข่มขืนหรือไม่นั้น เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล บรรดาทนายของฝ่ายจำเลย มักจะยกเอาคำอ้างเรื่องการมีอารมณ์ร่วมของฝ่ายหญิงมาใช้ต่อสู้เสมอ

เช่น คุณรู้สึกยังไงขณะถูกกระทำ มีอารมณ์แบบนี้ไม๊ หรือก้าวล่วงฝ่ายโจทก์ไปไกลกว่านั้น จนฝ่ายโจทก์อับอาย และให้การใดๆต่อศาลไม่ได้

แม้ว่าคดีข่มขืนจะเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้ แต่ถ้าโจทก์ให้การต่อไม่ได้แล้ว ก็เป็นอันจบเกมส์ จำเลยหลุดคดี ทนายได้ตัง

นี่คือความยุติธรรมต่อคดีข่มขืนในสังคมไทยหรือ?

คำว่าการมีอารม์ณ์ร่วมถือเป็นการสมยอมนั้น ไม่ควรมีอีกต่อไป หากผู้ใดเพียงแค่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญหรือประทุษร้าย ข่มขู่

ให้ฝ่ายหนึ่งมาสำเร็จความใคร่แก่ตนด้วยวิธีการใดๆ นั่นก็ควรจะเรียกว่าเป็นการข่มขืนได้แล้ว


หากใช้คำนิยามเช่นนั้นโดยไม่นำข้อเท็จจริงแวดล้อมทั้งหมดขึ้นตาชั่ง เราจะทราบได้อย่างไรว่าใครข่มชืนใครล่ะครับ การร่วมเพศต้องมีสองฝ่าย

การไม่ใช้กำลังมากนักก็อาจะเป็นการขืนใจก็ได้ การสำเร็จความใคร่แบบสมยอมก็มี ฝ่ายชายไม่สำเร็จกิจ ฝ่ายหญิงสำเร็จกิจ ถือว่าหญิงข่มขืนใจชายได้หรือไม่?

มุมมองของกฎหมายคือความยุติธรรม ความเห็นอกเห็นใจก็เป็นอีกทางหนึ่ง ใช้อคติไม่ได้ครับ..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 13-09-2007, 18:35 »

อ่านความเห็นของคุณท้าวอภิมหาฯ แล้ว นึกถึงหนังดังคลาสสิกทีสร้างชื่อ ให้กับโจดี้ ฟอสเตอร์ เรื่องอะไรน้า จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ ที่ชี้ให้เห็นการต่อสู้ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูก "ข่มขืน" แต่ถูกกลับกล่าวหาว่า "สมยอม"

มาทราบตอนเธอกลับมาโด่งดังอีกครั้งจากเรื่อง Silence of the Lamb แล้วอ่านประวัติการแสดงของเธอ ตอนหลังได้ดูหนังเรื่องนี้บางช่วง ก็เลยเข้าใจ

เคยฟังอาจารย์ในชั้นเรียนอธิบายให้ทราบว่า ผู้หญิงเคราะห์ร้ายที่ถูกข่มขืนนั้น จะถูกซักละเอียดถี่ยิบอย่างไร ตั้งแต่ที่สถานีตำรวจ มาจนถึงในชั้นศาล จึงสมควรแล้วที่หลายคนบอกว่า ต้องจับผู้ชายที่สร้างเวรสร้างกรรมนี้มาลงทัณฑ์ทรมานให้โหดสาสมบ้าง  Yell


เคยชมภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เลือนๆว่าจะอยู่แถวโต๊ะพินบอลล์ครับ 

การซักละเอียดพอ จำเป็น แต่ท่าที่การซักผมว่าต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่าย เพื่อหาข้อเท็จจริง

การใช้อารมณ์มักเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ก็ต้องยุติธรรมครับ
บันทึกการเข้า

อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #40 เมื่อ: 13-09-2007, 21:55 »


บางคู่หากอยู่ด้วยกันก็เหมือนตกนรกทั้งคู่ ก็สมควรหย่าค่ะ  เพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่า สมัยก่อนผู้หญิงต้องอาศัยผู้ชายเป็นฝ่ายเลี้ยงดูจะหย่าก็หมายถึงชีวิตที่ขาดผู้อุปถัมภ์ต้องทนจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง แต่สมัยนี้ผู้หญิงเลี้ยงตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องทนถึงขนาดนั้น
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #41 เมื่อ: 13-09-2007, 22:48 »

แฉมีเมียน้อยอาจผิด กม.ครอบครัว [13 ก.ย. 50 - 04:23]
 
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดเสวนา “การบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550” นายสุวิทย์ ขันธาโรจน์ ผอ.สค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมความสูญเสียจากการกระทำความรุนแรง ทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทั้งหมด เฉลี่ยปีละ 36,000 ล้านบาท พบว่าสาเหตุความรุนแรงมาจากการหึงหวง สุรา ยาเสพติดความยากจน และจากศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาลกว่า 100 แห่ง พบผู้ถูกกระทำความรุนแรง ปี 50 เพิ่มเป็น 14,642 ราย ดังนั้น พ.ร.บ.นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 12 พ.ย.ศกนี้ ทาง สค.ได้ให้คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยกร่างกฎหมายลูก เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยจะมีการทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 13 ก.ย. โดยเฉพาะมาตรา 9 ห้ามมิให้ผู้ใดลงพิมพ์โฆษณา หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยวิธีใดๆ ซึ่งภาพ เรื่องราวหรือข้อมูลใด อันน่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้กระทำ หรือผู้ถูกกระทำตาม พ.ร.บ.นี้ ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกฎหมายลูกจะต้องกำหนดแนวทางการเสนอข่าวความรุนแรงให้สื่อมวลชน ว่าสามารถเสนอภาพหรือเรื่องราวอย่างไรจะไม่ให้ผิดกฎหมาย   

พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบ.สำนักงานกฎหมายและสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัวตามกฎหมายนี้คือ การกระทำที่มุ่งประสงค์ให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ ซึ่งอันตรายต่อร่างกาย สุขภาพ สามารถมองเห็นได้ แต่ด้านจิตใจ เช่น สามีมีเมียน้อย หรือการพูดจาทำร้ายจิตใจ การไม่ให้เงินภรรยาใช้ ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายนี้ อย่างไรก็ตาม การเสนอข่าวความรุนแรงในครอบครัวจากนี้ สื่อมวลชนต้องระมัดระวังต้องใช้ชื่อหรือครอบครัวสมมติ เพื่อช่วยปกป้องเหยื่อ. 

http://thairath.co.th/news.php?section=education&content=60909

นอกจากศาสนาแล้ว รัฐยังต้องนำกฏหมายมาควบคุมเลยนะคะ 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #42 เมื่อ: 13-09-2007, 22:55 »

เคยชมภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เลือนๆว่าจะอยู่แถวโต๊ะพินบอลล์ครับ 

การซักละเอียดพอ จำเป็น แต่ท่าที่การซักผมว่าต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่าย เพื่อหาข้อเท็จจริง

การใช้อารมณ์มักเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ก็ต้องยุติธรรมครับ


ทราบแล้วค่ะ คือเรื่อง The Accused (1988)ซึ่งส่งให้โจดี้ ฟอสเตอร์ได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

http://movies.msn.com/movies/movie.aspx?m=86949

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2007, 23:00 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 14-09-2007, 01:05 »

บางคู่หากอยู่ด้วยกันก็เหมือนตกนรกทั้งคู่ ก็สมควรหย่าค่ะ  เพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่า สมัยก่อนผู้หญิงต้องอาศัยผู้ชายเป็นฝ่ายเลี้ยงดูจะหย่าก็หมายถึงชีวิตที่ขาดผู้อุปถัมภ์ต้องทนจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง แต่สมัยนี้ผู้หญิงเลี้ยงตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องทนถึงขนาดนั้น

ผมตอบอบ่างนี้ครับ

หย่าแล้วหมายถึงแยกกันอยู่เด็ดขาดจริงๆ ก็คงทำอะไรไม่ได้

แต่ถ้ายังไม่ได้หย่า ก็อย่าคิดหรือพูดกันเรื่องหย่าต่อกันเลยครับ..กว่าจะแต่งกันได้บางคู่สัญญิงสัญญากันไว้เยอะ นั่นเป็นความหมายของชีวิตคู่ครับ..

ไม่ว่าจะแต่งหรือหย่าชีวิตเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาครับ การอดทนอย่างมีสติก็คือความรักต่อกัน..ทุกอย่างต้องใช้สติปัญญาครับ..

ต้องเตือนใจกันว่า ไม่มีใครย้อนเวลากลับได้..ดังนั้นในครอบครัวโบราณ(ความเชื่อเดิม)สอนมาให้ประคับประคอง ถูกต้องแล้วครับ
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 14-09-2007, 01:34 »

แฉมีเมียน้อยอาจผิด กม.ครอบครัว [13 ก.ย. 50 - 04:23]
 
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดเสวนา “การบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550” นายสุวิทย์ ขันธาโรจน์ ผอ.สค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมความสูญเสียจากการกระทำความรุนแรง ทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทั้งหมด เฉลี่ยปีละ 36,000 ล้านบาท พบว่าสาเหตุความรุนแรงมาจากการหึงหวง สุรา ยาเสพติดความยากจน และจากศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาลกว่า 100 แห่ง พบผู้ถูกกระทำความรุนแรง ปี 50 เพิ่มเป็น 14,642 ราย ดังนั้น พ.ร.บ.นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 12 พ.ย.ศกนี้ ทาง สค.ได้ให้คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยกร่างกฎหมายลูก เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยจะมีการทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 13 ก.ย. โดยเฉพาะมาตรา 9 ห้ามมิให้ผู้ใดลงพิมพ์โฆษณา หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยวิธีใดๆ ซึ่งภาพ เรื่องราวหรือข้อมูลใด อันน่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้กระทำ หรือผู้ถูกกระทำตาม พ.ร.บ.นี้ ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกฎหมายลูกจะต้องกำหนดแนวทางการเสนอข่าวความรุนแรงให้สื่อมวลชน ว่าสามารถเสนอภาพหรือเรื่องราวอย่างไรจะไม่ให้ผิดกฎหมาย   

พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบ.สำนักงานกฎหมายและสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัวตามกฎหมายนี้คือ การกระทำที่มุ่งประสงค์ให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ ซึ่งอันตรายต่อร่างกาย สุขภาพ สามารถมองเห็นได้ แต่ด้านจิตใจ เช่น สามีมีเมียน้อย หรือการพูดจาทำร้ายจิตใจ การไม่ให้เงินภรรยาใช้ ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายนี้ อย่างไรก็ตาม การเสนอข่าวความรุนแรงในครอบครัวจากนี้ สื่อมวลชนต้องระมัดระวังต้องใช้ชื่อหรือครอบครัวสมมติ เพื่อช่วยปกป้องเหยื่อ. 

http://thairath.co.th/news.php?section=education&content=60909

นอกจากศาสนาแล้ว รัฐยังต้องนำกฏหมายมาควบคุมเลยนะคะ 



การนำคำสอนของศาสดาต่างๆในอดีตเท่าที่มีอยู่มาพิจารณาอย่างรอบคอบ ช่วยได้ครับ..

อัตตาหรือตัวตนของมนุษย์เป็นสิ่งที่ต้องไม่ประมาทในการตัดสินใจ

กฎหมายต่างๆมีรากฐานมาจากความเชื่อดั้งเดิมทั้งสิ้น..เมื่อความเชื่อไม่มีบรรทัดฐานอีกต่อไป..

กฎหมายก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างลองผิดลองถูกได้..ถือว่าเสี่ยงอย่างไม่สมควรสำหรับชีวิตของคนรู่นใหม่ในสังคมช่วงเร็วนี้ครับ
..

                                                                                                                                   

ตอบแบบแนะนนำบุรุษ สตรี และนักกฎหมายก็คือ เรื่องของภายในครอบครัวกฎหมายไม่ใช่หนทางแก้ไข..บางทีอาจจะทำให้หย่ากันง่ายขึ้น

และการอยู่กันอย่างไม่จดทะเบียนสมรสเป็นแนวโน้มที่ล่วงหน้ากฎหมายไปก่อนแล้ว เหมือนเป็นการย้อนยุคเพราะอดีตดั้งเดิม การแต่งงานก็ไม่มีการจดทะเบียนมาก่อน

ส่วนเรื่องเมียน้อย คนมาทีหลังคือเมียน้อย ซี่งบางคนก็ถือทะเบียนสมรส กลายเป็นเมียหลวงไป..


ส่วนเรื่องจะใช้กฎหมายยุคใหม่เป็นบรรทัดฐานนั้น เข้าใจว่าปัญหาสังคมจะมากกว่าเดิม แก้ไขไม่ได้ โดยที่สังคมก็ไม่ทราบว่าทำไม?

ลองดูปัญหาสังคมอื่นๆ เช่นอินเดีย ฟิลิปปิน ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์เป็นตัวอย่างได้ครับ  สังคมชีวิตคู่ของคนไทย จะเจอปัญหาแบบการเมืองไทย


การเปลี่ยนบรรทัดฐานนั้น ต้องไม่ขัดแย้งกับสภาพปัญหาที่เกิดจริง ซึ่งหลักเบื้องต้นที่ดีที่สุดคือคำสอนของศาสดา

การตีความกฎหมายที่ขัดแย้งกับปัญหา จะยิ่งทำให้สังคมมีปัญหา การเข้าไปผลักดันนอกจากไม่เกิดประโยชน์ ผมเชื่อว่าสร้างปัญหาให้กับสังคมและระบบยุติธรรมโดยไม่รู้ตัวครับ


ลองย้อนมาดูเรื่องปัญหาโสเภณี  หากแก้ไขตรงนี้ได้ ก็มีแนวโน้มแก้ไขปัญหาอื่นๆได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2007, 02:44 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: 14-09-2007, 01:48 »


เรื่องการมีภรรยากี่คน แนะนำว่า สังคมไทยยุคใหม่ ต้องไม่เอากฎหมายไปบีบรัดบรรทัดฐานโดยเฉพาะของชาวมุสลิมครับ..

ส่วนเรื่องความรุนแรงนั้น แก้ไขได้ถ้าไม่เพิ่มความเครียด ความขัดแย้งอะไรเข้าไปภายในครอบครัวอีก...


สังคมไทยต้องหันกลับมาสำรวจดูว่าอะไรเป็นปัญหาของสังคมไทยเอง

บอกได้เลยครับ ปัญหาค่านิยมและความเชื่อทีผิดกับความจริง..

เช่น การทรงเจ้าเข้าผี การติดการพนัน การดื่มสุรามากเกินพอดี การขายบริการทางเพศ ปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศ

ระบบอุปถัมป์พวกมากลากไป โรคเอดส์และยาเสพติด ซึ่งมาจากการเสพย์อย่างขาดความระมัดระวังฯลฯ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2007, 01:53 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #46 เมื่อ: 14-09-2007, 02:10 »




สำหรับชีวิตคู่ และครอบครัว

หากถามผมว่าเป็นห่วงชายหรือหญิงในสังคมไทยมากกว่ากัน..

ตอบได้ว่าเป็นห่วงเท่ากันเพราะจะต้องอยู่ในปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นแบบวัวพันหลักทั้งสองเพศ


ผมชี้นำว่าต้องเอาหลักคำสอนของศาสดา มาจับให้ถูกต้องครับ สังคมยุคใหม่กำลังขาดหางเสือและเริ่มหลงทาง




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2007, 02:13 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 14-09-2007, 02:35 »

 


ขอให้ทางเว็บบอร์ด เก็บกระทู้นี้ไว้ตรวจสอบได้เท่าอายุของบอร์ดเลยครับ..

ส่วนเรื่องพูดคุยในกระทู้นี้ ก็ยังมีได้ต่อไปเรื่อยๆ หากผมได้อ่านก็จะมาตอบ และแสดงความเห็นเท่าที่คิดว่าเหมาะสม

และสามารถนำความเห็นไปตรวจสอบในทุกแง่มุมครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2007, 02:49 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 14-09-2007, 22:52 »

 

เซ็กส์วิตถารมีมานานเท่าไร ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่คาดว่านานก่อนยุคประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ

อันใดเรียกว่าวิตถารในความคิดของคนทั่วไปครับ?  ผมเรียกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่เปิดเผยได้และสมควรพูดถึงบ้างก็แล้วกัน..



สมัยพุทธกาล ก่อนมีศีล227ข้อ  ก็ได้อ่านข้อความบันทึกต่อๆกันมาว่า มีการร่วมเพศกับศพ หรือแม้แต่ชิ้นเนื้อ..ถือว่าวิตถารครับ

ท่านที่ต้องการมีบรรทัดฐาน ก็สามารถนำไปอ้างอิงได้ ส่วนจะอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วถือว่าไม่วิตถาร ถือว่าไม่ถูกต้องนะครับ

ไม่อย่างนั้นคงไม่มีอะไรวิตถารเลย เพราะแต่ละคนมีรสนิยมเฉพาะตัวแปลกๆได้
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: