ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
03-02-2025, 21:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เบรก จนท.รัฐ-สื่อหยุดละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้ชุมนุม 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เบรก จนท.รัฐ-สื่อหยุดละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้ชุมนุม  (อ่าน 1425 ครั้ง)
ธาตุน้ำ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 301


ตอแหลทั้งเพ!!!


« เมื่อ: 28-07-2007, 07:38 »

แถลงการณ์

หยุดละเมิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน

 

ความรุนแรงอันเนื่องมาจากการปะทะกันระหว่างประชาชนที่ร่วมชุมนุมและเจ้าหน้าที่ของรัฐในคืนวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายรวมแล้วกว่า 270 คน ผลที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยต้องการเห็นแน่นอน

 

กรณีการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) จากสนามหลวงไปยังบ้านพักทางราชการของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บริเวณแยกสี่เสาเทเวศร์ เพื่อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี โดยกล่าวอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประการ 19 กันยา นั้น อาจนับเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าประการหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้มาตรการรุนแรงสกัดกั้นผู้ชุมนุม ทั้งการใช้รั้วลวดหนามและรถยนต์กีดขวางผู้ชุมนุม การใช้แก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย และกระบองเป็นอาวุธ เข้าสลายการชุมนุม รวมถึงการพยายามเข้าควบคุมตัวแกนนำนั้น ยิ่งเป็นปัจจัยที่ยั่วยุให้ผู้ร่วมชุมนุมใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้

 

จากกรณีข้างต้น คปส. ตระหนักว่า ในระบอบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมในอันที่จะแสดงออกถึงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างหลากหลาย แม้กระทั่งความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากรัฐ ฉะนั้นการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้มาตรการที่รุนแรงในการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมจึงนับเป็นวิธีการที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะคาดหมายได้ว่าจะกลายเป็นปัจจัยส่งเสริมและยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด ยังยืนยันที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ร่วมชุมนุมต่อไปหากยังคงมีการเคลื่อนขบวนออกจากสนามหลวง จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งโดยเฉพาะในภาวการณ์เช่นนี้ ด้วยที่การชุมนุมถือเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าควบคุมการชุมนุมจึงจำเป็นต้องตระหนักต่อสิทธิเสรีภาพดังกล่าวเป็นสำคัญ และไม่ควรนำประเด็นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐมาเป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเช่นที่ผ่านมา

 

ประกอบกับการรายงานข่าวและความเคลื่อนไหวของสื่อสารมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งที่เป็นสื่อของรัฐและเอกชน ได้มุ่งประเด็นการนำเสนอเนื้อหาไปที่การประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยมิได้แสดงให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงที่อยู่บนฐานของความเคารพในสิทธิอันชอบธรรมในการชุมนุมของประชาชน อีกทั้งการที่รัฐใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือเผยแพร่เหตุการณ์ดังกล่าวให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจว่าประชาชนที่ชุมนุมเป็นผู้ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่คืนวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นมานั้น ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมที่ไม่มีช่องทางในการสื่อสารทำความเข้าใจกับสาธารณชน

 

คปส. จึงมีความวิตกกังวลว่า สิทธิในการชุมนุมของประชาชนจะไม่ได้รับการรับรองและพร้อมจะถูกละเมิดจากรัฐในทุกขณะ ด้วยการใช้เหตุการณ์ที่ปรากฏว่ามีความรุนแรงขึ้นนี้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจให้สังคมเห็นพ้องกับรัฐในการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดและรุนแรงในการสลายการชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันชอบธรรมในการละเมิดสิทธิเสรีภาพต่อการชุมนุมของประชาชนอีกคำรบหนึ่ง

 

คปส. จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้

ให้เจ้าหน้าที่ยุติการใช้มาตรการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยวิธีการที่อาจส่งเสริมหรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรงสืบเนื่อง หรือขยายวงกว้างออกไป
ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนดำรงความเป็นอิสระในการรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเคารพสิทธิในการชุมนุมของประชาชน และการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างจากรัฐ นำเสนอข่าวสารตรงตามข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลรอบด้าน สมดุล และเป็นธรรม ไม่ชักนำสู่ความเกลียดชังหรือกระตุ้นให้คนในสังคมเกิดการแบ่งฝักฝ่ายมากยิ่งขึ้น
ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้สิทธิเรียกร้องหรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย โดยให้ระมัดระวังวิธีการในการชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงหรือความเสียหายขึ้น
ในสภาวะที่สังคมมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างชัดเจนเช่นนี้ ขอให้สาธารณชนยึดมั่นและให้ความเคารพต่อวิถีทางของประชาธิปไตย อดทนและอดกลั้นต่อความคิดเห็นที่แตกต่าง
 

คปส.  คาดหวังว่า  สาธารณชนและรัฐควรตระหนักรู้และเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่พึงมีพึงได้ตามระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งรัฐต้องเป็นผู้ที่ทำให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้บนความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันด้วยวิถีทางที่ไม่นำไปสู่ความรุนแรง

 

 

 

 

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ

27 กรกฎาคม 2550
บันทึกการเข้า

ต้านวิกฤตเผด็จการ...จริงเหรอ เว็บเนี่ย?
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #1 เมื่อ: 28-07-2007, 08:18 »


ก็ดีแล้วที่ คปส. ต้องมีแถลงการณ์อะไรออกมา "บ้าง"
ไม่เช่นนั้นก็จะเข้าข่าย "กูจะฟาดกับทักษิณท่าเดียว"
อันนี้เข้าใจ  ไม่ว่ากัน

สำหรับท่านอืน ๆ
โปรดอ่าน "เนื้อความ" ในแถลงการณ์ดี ๆ ก็แแล้วกัน
ในเนื้อความนั้น 
ไม่มีส่วนใดระบุว่ามิให้กระทำการสลายการชุมนุมในลักษณะอันผิด กม.

 
บันทึกการเข้า

ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 28-07-2007, 09:34 »

แถลงการณ์ ฉบับที่ 10 / 2550

ขอประนามความป่าเถื่อนบ้าคลั่ง รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด



เช้าตรู่วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2550 ที่สวนลุมพินี มีประชาชนจำนวนหลายหมื่นคน ร่วมกันทำบุญตักบาตรและทำพิธีทางศาสนาอย่างสงบ เพื่อเรียกร้องสันติสุข และความสงบ กลับคืนสู่แผ่นดิน ภาพที่เห็นมีแต่รอยยิ้ม ไมตรีจิตและความปรารถนาดีต่อแผ่นดิน

แต่แล้ว บ่ายถึงดึก ของวันเดียวกัน บนท้องถนน ย่านสี่เสาเทเวศร์ ปรากฎภาพของกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่ง บุกฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่อย่างดุดัน ตามมาด้วยภาพเหตุการณ์ที่สร้างความสลดใจ และน่าสังเวช อาทิเช่น การเข้าทุบตีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีแต่โล่ห์และหมวกนิรภัยของมวลชนที่บ้าคลั่ง การผลัก ต่อย เตะ ทำร้ายร่างกายคนขับรถขยะ กทม. การทำลายข้าวของขว้างปาอย่างป่าเถื่อน การขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่และถีบเตะเจ้าหน้าที่จากรถหกล้อ แม้กระทั่งมีข่าวว่า เกิดการขว้างขวดน้ำมันและเสียงยุให้จุดไฟเผาเจ้าหน้าที่ เป็นต้น

ความป่าเถื่อนรุนแรงของฝูงชนเหล่านี้ ยังปะทุขึ้นด้วยคำพูดยุยงที่ฟังได้ชัดเจนของแกนนำบนรถกระจายเสียง ส่งผลให้ความบ้าคลั่งรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ แทนที่จะพยายามระงับเหตุให้ความรุนแรงลดน้อยลง

ด้วยเหตุนี้ สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด จึงมีความเห็นและข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. เราขอประนาม แกนนำ 8 คนและกลุ่มบุคคลของเหล่าพวก นปก. ที่ก่อการกระทำยั่วยุเจ้าหน้าที่ ยั่วยุฝูงชน ให้ก่อความรุนแรงอย่างบ้าคลั่งป่าเถื่อนเป็นที่สุด สร้างให้ภาพของมวลชนคนอื่นๆในฝูงชนที่ไม่ต้องการความรุนแรงต้องตกกระไดพลอยโจน เป็นผู้สร้างความนรุนแรงไปด้วย เป็นความบ้าคลั่งอันสะท้อนความต้องการของเจ้าของเงินคือ พตท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้รับจ้างในนาม นปก.<

2. ความเลวร้ายที่สุดของแกนนำเหล่านี้คือ กระทำการโดยเอาประเทศชาติเป็นเดิมพัน และทำร้ายประเทศชาติด้วยการโพนทะนาความเท็จให้ต่างชาติเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและการกลับมามีอำนาจดังเดิมของ บุคคลคนเดียว คือ พตท.ทักษิณ ชินวัตร ราวกับว่า แผ่นดินนี้ไม่เคยให้ที่กินที่อยู่หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขามาก่อนเลย เป็นความอกตัญญู อย่างร้ายแรงยิ่งสำหรับพื้นฐานทางศิลธรรมของสังคม

3. เราขอให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 300 นาย และ ขอให้เจ้าหน้าที่ที่รับบาดเจ็บสาหัสจากการกระทำของสมุนทรราชที่บ้าคลั่ง อาทิเช่น ขาหัก สมองบวมช้ำ ฯลฯ หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว

4. เราขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา และให้ถึงที่สุดตามหลักฐานที่ปรากฎ

5. เราขอเรียกร้องพี่น้องสมัชชาประชาชนฯ ทั้งหลาย จงช่วยกันประณามความบ้าคลั่ง ป่าเถื่อน เลวร้ายของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ และ สามัคคีกันตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ แจ้งข่าว กดดัน และเคลื่อนไหวป้องปราม สมุนของระบอบทักษิณ หรือเครือข่ายพวก นปก. ที่พยายามสนับสนุนการชุมนุมที่ป่าเถื่อนนั้น

6. เราขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่มี อาจารย์เสน่ห์ จามริก เป็นประธาน ได้โปรดพิจารณาการกระทำของ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ที่ใส่เสื้อคลุมกรรมการสิทธิมนุษยชน แต่ไปร่วมบัญชาการให้ฝูงชนบ้าคลั่งก่อการทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำลายทรัพย์สินของส่วนรวม

7. นายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และ ประธาน คมช. พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ต้องออกมาแถลงท่าทีของท่าน ให้ชัดเจนว่า รัฐบาลจะเอาอย่างไรกันแน่ การไปพบและขออภัยประธานองคมนตรีเพียงประการเดียวนั้น ไม่ได้ช่วยให้เหตุการณ์บ้านเมืองดีขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ ท่านต้องมีปฏิบัติการให้เห็นได้ชัดว่า ท่านต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข จริงๆ และนั่นคือ การขออภัยต่อ ประธานองคมนตรีอย่างแท้จริง


รัฐบาลปล่อยปละละเลย ครั้งแล้วครั้งเล่า เฉื่อยชาเมินเฉย มองข้ามต่อการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชนอย่างเอาการเอางาน จนทำให้เหตุการณ์ปะทุอย่างต่อเนื่อง และนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ เช่น ในบ่ายยันดึกของวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2550

ตอนเช้ามีเหตุการณ์อันเป็นมงคลและน่ายินดี ต่อประเทศและสังคม แต่พอบ่ายกลับมีเหตุการณ์น่าเศร้าหมองและเป็นอัปมงคล ดังนั้นขอให้ประชาชนทั่วประเทศที่ต้องการเห็นแผ่นดินสงบสันติ

จงช่วยกันประนามความป่าเถื่อนโหดร้ายและบ้าคลั่ง

จงช่วยกันป้องกันคนอกตัญญูต่อประเทศ และ จับมือกันสร้างสันติสุขให้แก่แผ่นดินด้วยวิธีต่างๆ ให้จงได้

สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด
24 กรกฎาคม พ.ศ.2550


http://www.truethaksin.org/
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #3 เมื่อ: 28-07-2007, 09:58 »

ต่างฝ่ายต่างก็มีความเห็น และความเห็นก็แตกแยกออกเป็นหลายอย่าง ก็ว่ากันไป

คราวหน้าถ้าม็อบจะเคลื่อนขบวนอีกจริงๆ ก็คงถูกยับยั้งไว้ก่อนถึงเป้าหมายไกลพอสมควร และจำนวนแกนนำที่ต้องเข้าคุกคงมีมากขึ้น อีกทั้งแกนนำเก่าก็คงไม่ได้ออกจากคุก เพราะมีข้อพิสูจน์แล้วว่า ม็อบนั้นเคลื่อนขบวนครั้งไร ก็ทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชนทุกครั้ง

อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกหมายเรียกหรือหมายจับ กับผู้เข้าร่วมชุมนุม ที่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่าจับแต่เพียงแกนนำ เอาลิ่วล้อมาลงโทษด้วยค่ะ 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: